[CR] Diary & Review ใครกันล่ะจะอยากเป็นยัยหน้าสิว (Part III สกินแคร์)
ตอนนี้เป็นเรื่องของสกินแคร์แล้วนะคะ แต่พอดีเมเมยังไม่มีเวลาเขียนให้ เนื่องจากช่วงนี้มีตารางต้องทำหลายอย่าง เมเมขอโทษทีค่ะ เลยขออัพเป็นคลิปไปให้แทนแล้วกันค่ะ มีคำถามหรืออยากรู้จักเมเมมากขึ้น ติดตามได้ช่องทางดังนี้ค่ะ FB //facebook.com/memehme คลิปอื่นๆ https://www.youtube.com/user/me0memeh?feature=mhee บล๊อก //meismeme.bloggang.com เมเมใน Spokedark //meismeme.spokedark.tv/ [CR] Diary & Review ใครกันล่ะจะอยากเป็นยัยหน้าสิว ( Part II)
ในขณะที่สิวยังไม่ยุบ เวลาที่ต้องออกไปธุระหรือไปพบเจอผู้คนข้างนอกจริงๆทำยังไง ? เมเมใช้วิธีการแต่งหน้าค่ะ แต่ถ้าถามว่าการแต่งหน้าปกปิดได้หมดหรือเปล่า ตอบได้เลยว่าไม่ได้ค่ะ แต่เมื่อจำเป็นก็แต่งแบบ พอประมาณ ให้คนมองไกลๆ ไม่นึกว่าเราเป็นอีสุกอีใสก็พอ นั่นคือ นวัตกรรมการโบกหน้าให้งาม 500 เมตร งามผงะหงายหลังกันเลยทีเดียว แต่งหนาแค่ไหนไม่เป็นไรแต่ที่สำคัญคือต้องล้างให้สะอาดทุกรูขุมขนจริงๆ ถ้าหากจำเป็นต้องแต่งหน้า สิ่งสำคัญคือ รองพื้นที่ปกปิดดี และ ไม่แพ้ แป้งผสมรองพื้น คอนซีลเลอร์ บรัชออน ลิปสติก และที่สำคัญ เมคอัพรีมูฟเวอร์ดีๆ ซึ่งตอนนั้นเมเมยังไม่รู้จัก Bioderma เลยใช้ La Prairie Cellular Cleansing water eyes & face ซึ่งเป็นรีมูฟเวอร์ชนิดน้ำ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอม และ ไม่แพ้ สถานะการโบกให้ดูไม่เหมือนเป็นอีสุกอีใสและทุเรศมากเกินไปนักในตอนเป็นสิว เมเมโบกฉาบขนาดนี้เลย ทั้งๆที่จริงๆไม่ดีนะ ยิ่งเสี่ยงต่อการแพ้และอุดตัน แต่มันไม่ไหวอ่ะ ทนเห็นหนังหน้าตัวเองไม่ได้ ก่อนปรับสิ่งที่บำรุงจากภายนอก ควรปรับภายในร่างกายก่อน เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรม หากอยู่ดีๆ เกิดเป็นสิวทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นหมายความว่าร่างกายเรากำลังบอกอะไรเราบางอย่าง ต้องมีอะไรในพฤติกรรมของเราที่ไม่เหมาะกับภายในร่างกายของเรา เราต้องหันกลับมาสำรวจตัวเองก่อน ทำไมเมเมไม่ไปหาหมอรักษาสิว จริง ๆ เมเมเป็นคนที่หาหมอรักษาสิวที่คลินิกมาตั้งแต่อายุ 14 จนกระทั่งอายุ20 เรียกได้ว่าก็ดูแลมาตลอด ก็เลยไม่เคยเป็นสิว ไปหาหมอที่เป็นคลินิกที่มีสาขาทั่วประเทศเยอะๆ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นสิวอะไรเลย หลักๆที่หมอจะให้มาทาก็คือ ยาทาก่อนล้างหน้า เจลล้างหน้า น้ำที่เป็นลักษณะเหลวๆคล้ายๆคลินด้าเอ็ม ยาทาลดรอยสิว ยาทาปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กันแดด และก็มีการจ่ายยาโรแอคคิวเท็นให้ทานบ้างบางช่วงที่รู้สึกผิวจะมันมากและเริ่มมีสิวอุดตันเม็ดเล็กมากกว่าปกติ ซึ่งปกติก็จะไปหาหมอ 2-3 สัปดาห์ครั้ง ค่าใช้จ่ายโดยประมาณก็เฉลี่ย 500 บาทต่อครั้ง ด้วยความที่หาหมอมาตลอด เลยทำให้การเป็นสิวมากๆครั้งนี้ ก็เลยตัดสินใจไม่ไปหา เพราะว่าเคยไปหาแล้วมักเสนอให้ทำคอร์สโน่นนี่ ทั้งๆที่เราก็แอบคิดว่า หน้าแหกขนาดนี้จะไปทำคอร์สบ้าอะไรได้เล่าสิวยังไม่หายเลย เลยเริ่มที่จะสนใจที่จะใส่ใจตัวเองมากขึ้น สิ่งที่เมเมสำรวจหลังจากที่ปรับมุมมองของตัวเองใหม่แล้วก็คือ การรักษาความสะอาดและสิ่งของที่ต้องสัมผัสใบหน้ารวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ที่นอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา ซักและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ปลอกหมอนหากเปลี่ยนได้อาทิตย์ละครั้งยิ่งดี ส่วนตุ๊กตา บางคนอาจจะแพ้ฝุ่นที่อยู่ในตุ๊กตาค่ะ นอกจากการซักและผึ่งแดดแล้ว แนะนำให้ส่งซักอบความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคบางชนิดที่หมักหมมไว้ในนั้น สำรวจที่นอนว่าเป็นแหล่งที่อยู่ของไรฝุ่นหรือเปล่า หากใช่ควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ สำรวจว่าห้องนอนชื้นไปหรือเปล่า เพราะหากห้องนอนชื้นมากไปก็อาจจะเป็นที่เพาะเชื้อโรคชั้นดี นอกจากผ้าปูที่นอนแล้ว ยังต้องลองสังเกตตัวเองดูว่าเราแพ้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือใม่ โดยลองซักปลอกหมอนไม่ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มดูสัก 1 เดือน แล้วสังเกตุความเปลี่ยนแปลงดูค่ะ ผ้าเช็ดตัว กับ ผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดผม ควรแยกกัน ผ้าที่ใช้เช็ดหน้าควรมีหลายๆผืน ใช้แยกกับการเช็ดตัวและเช็ดผมค่ะ มีหลายคนที่เมเมรู้จัก ใช้ผ้าเช็ดหน้ากับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกัน พอลองแยกใช้ให้เป็นส่วนๆ กลับพบว่าสิวลดลงก็มีนะ ถ้าชอบบีบสิว กรุณาตัดเล็บให้สั้นและห้ามเอามือไปถูกหน้าหรือจับสิวเด็ดขาด จริงๆช่วงเป็นสิวไม่แต่งหน้าได้จะดีมาก เพราะการแต่งหน้าเป็นการเสี่ยงต่อการแพ้เครื่องสำอางและแพ้สิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น หากจำเป็นต้องแต่ง ก็ต้องเลือกเครื่องสำอางที่ไม่อุดตันรูขุมขน ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์และควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดทุกครั้ง อาหารการกินก็มีส่วนสำคัญ การทานของหมักดอง ของแช่อิ่ม ของทอด น้ำอัดลมเป็นสาเหตุให้เกิดสิวทั้งนั้น ควรทานผักและผลไม้เพิ่มแทนของจำพวกนี้ รวมทั้งการทานอาหารให้ตรงเวลาด้วยค่ะ เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย ระบบขับถ่าย สังเกตระบบขับถ่ายของตัวเอง หากพบว่าท้องผูกบ่อยก็ต้องหาวิธีการทำให้ขับถ่ายทุกวันอย่างเป็นกิจวัตร เช่น การดื่มน้ำเพิ่มขึ้น ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ทานผลไม้ การนับรอบประจำเดือน ลองนับรอบประจำเดือนของตัวเองดูค่ะว่ามาโดยเฉลี่ยตรงกันทุกรอบหรือเปล่า หากประจำเดือนมาขาดๆหายๆ นั่นก็เป็นอีกสาเหตุนึงของการเกิดสิว ซึ่งกรณีนี้ต้องปรึกษาแพทย์ค่ะ น้ำหนัก น้ำหนักมากมีผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกายและประจำเดือนค่ะ รวมถึงน้ำหนักที่น้อยไปด้วยเช่นกัน การออกกำลังกาย หากได้ออกกำลังกายนั่นหมายความว่าร่างกายเราได้ระบายของเสียออกทางเหงื่อด้วย ควรออกกำลังกายบ้างสัปดาห์ละ 2-3ครั้งก็ยังดีค่ะ ใครที่อ้างว่าแพ้เหงื่อ เมเมว่าไม่ใช่ข้ออ้าง หากคุณแพ้เหงื่อตัวเองก็ต้องพยายามอดทนกับภาวะนั้นเพราะตลอดชีวิตคุณจะห้ามไม่ให้เหงื่อออกเลยคงเป็นไปได้ยาก แต่ให้หาผ้าเช็ดหน้านิ่มๆสะอาดๆติดไว้ เมื่อมีเหงื่อออกมาบนใบหน้าก็ให้เอาผ้าเช็ดหน้านิ่มๆซับเหงื่อออกเบาๆ อีกสิ่งที่สำคัญอย่างที่บอก คือ ปรับนาฬิกาชีวิตใหม่ เมเมได้มีโอกาสได้รับหนังสือจากคนรู้จัก ชื่อหนังสือ นาฬิกาชีวิต เล่ม 1 (เค้ามีหลายเล่มนะคะ เมเมไปตามซื้อครบทุกเล่มเลย) ในหนังสือเล่มนี้มีหลักการคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
การแพทย์ตะวันออกถือว่ากลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออกโดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น ภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกายซึ่งประกอบด้วยอวัยวะตัน และ อวัยวะกลวง ช่วง 13.00 15.00 น.เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก ควรงดการกินอาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงานลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี บีโปรตีนเพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอสร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือนผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุตเพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชายเมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1ซี่
คราวหน้าเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องสกินแคร์ การเลือกใช้ และ อะไรที่เมเมใช้แล้วเวิร์ค
อ่านต่อ (Part III นะคะ) Radarat Meme Rattanaruangwirote | Create your badge
[CR] Diary & Review ใครกันล่ะจะอยากเป็นยัยหน้าสิว ( Part I)
มีใครที่ไหนกันจะอยากเป็นสิว เมเมว่าคงไม่มีหรอก แต่หากวันนึงโชคชะตาเล่นตลกฮอร์โมนกลับ ดันให้เกิดสิวระเบิดไปทั่วทั้งหนังหน้า จะทำยังไงกับชีวิตหน้าเฟะๆดี เมเมเขียนรีวิวกึ่งไดอารี่นี้ไว้เป็นแนวทางของผู้ที่เป็นสิวแบบไม่คาดฝัน ( ต้องอ่านและใช้สตินะคะ ผิวเมเมกับผิวคุณไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นบางสิ่งที่เมเมใช้แล้วดี คุณอาจจะแพ้ก็ได้ )
จริงๆเมเมเป็นสิวมาตั้งแต่ประมาณปี 2010 ค่ะแต่มาเป็นหนักๆมากๆจริงก็ปลายปี 2010 ต้นปี 2011 ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เมเมไม่เคยเป็นสิวเลย พออยู่ดีๆชีวิตต้องมาเป็นสิวระเบิดแบบนี้ก็เกิดอาการจิตตกค่ะ รับไม่ได้ ไม่อยากส่องกระจก หงุดหงิด ไม่อยากพบเจอผู้คน ไม่อยากเข้าสังคม อยากเก็บตัวเงียบๆไม่ต้องมีใครมาเจอแล้วมาทักทายเราด้วยประโยคที่ว่า เมเมหน้าไปทำอะไรมา ? ช่วงที่เมเมเริ่มเป็นสิวประมาณ ปี 2010 ค่ะ แต่ว่าตอนแรกเป็นไม่มากก็เลยยังคงใช้สกินแคร์ตัวเดิม ซึ่งก็คือ BHA ป้าพอลล่าโดยข้อมูลที่ทราบมาว่า มันจะผลักสิวออกมาจนกว่าจะหมด ในขณะที่ก่อนจะมาใช้ป้าพอลล่าตัวนี้เมเมไม่ได้มีสิวอักเสบ แต่แค่รู้สึกว่าหน้ามีสิวอุดตันเล็กน้อย และสิวเสี้ยนนั่นแหล่ะ เลยดั้นด้นหามาลองใช้ 2เดือนแรกใช้ก็หน้าใสกิ๊งเลย แต่พอหลังจากนั้น เข้าเดือนที่ 3 4 5 6 7 8 9 ไม่ไหวแล้วค่ะ ตัดสินใจหยุดใช้เพราะสิวมีทีท่าว่าจะระเบิดไม่จบสิ้นรวมทั้งรู้สึกแสบหน้าทั้งๆที่ทากันแดดตลอดทุกครั้งที่ต้องออกไปโดนแดดซึ่งเมเมไม่ค่อยได้โดนแดดเท่าไหร่ แต่ผิวก็ยังแสบมากมายอยู่ดี (ซึ่งอาการแพ้ขึ้นอยู่กับบุคคลแต่ละบุคคลนะคะ ) สภาพช่วงที่สิวระเบิดค่ะ ภาพที่เห็นอาจจะไม่ใช่ตอนที่เป็นสิวเยอะที่สุดเพราะตอนเป็นเยอะกว่านี้บอกตรงๆค่ะว่าร้องไห้จิตตก ไม่อยากพบใคร ไม่กล้าเจอใคร และ ไม่ถ่ายรูป เพราะทำใจไม่ได้ (นี่เป็นรูปที่ถ่ายตอนพอทำใจได้บ้างแล้ว)
ช่วงที่เป็นสิวเป็นช่วงเวลาที่หดหู่และทรมานใจอย่างที่สุดจริงๆ เพราะทำให้เราไม่อยากออกไปเจอหน้าใครที่เราเดาคำทักทายของเค้าได้เลยว่า ไปทำอะไรมา ทำไมเป็นสิวเยอะแบบนี้ หรือ ใช้เครื่องสำอางเยอะเกิน หรือ อื่น ๆ รวมทั้งคำแนะนำให้ใช้ครีมโน้น สบู่นี้ กินยาสมุนไพรอันนั้น อยากจะกรี้ด กรีดร้องในใจ หนูก็อยากลองแต่กลัวลองแล้วหนักไปกว่านี้ ใครจะรับประกันหน้าหนูได้เล่า เมเมเลยตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลโรคผิวหนัง ซึ่งก็ดูๆแล้วก็บอกว่าเมเมน่าจะเป็นสิวฮอร์โมน แล้วก็จ่ายยามาตามที่เคยได้ๆมา คือเบนแซค ดิฟฟารีนเจล แล้วก็ครีมอะไรอีกอย่างนี่แหล่ะ เมเมทาเบนแซคมาก่อนที่จะมาหาหมออยู่แล้ว ดิฟฟารีนเจลก็ใช้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็ไม่เห็นผลอะไรเลย เลยสรุปว่าได้ยามาก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เคยทา หลังจากนั้น เมเมเกิดอาการแพ้เบนแซคทั้งๆที่ไม่ได้ทาทิ้งไว้นาน และ ก็ใช้แค่ 2.5% เท่านั้น แต่แสบหน้าและหน้าแดงตลอด เลยหยุดใช้ยาทั้งหมดดีกว่า ตัดสินใจเอง เออเอง ว่าจะหยุดทายา ทาไปก็ไม่หาย จะทาทำไม ? หลังจากหยุดทายาทุกอย่าง ใช้แค่น้ำเปล่าล้างหน้า กันแดดก็ไม่ทา ไม่ทาอะไรทั้งสิ้น ในระหว่างนั้นก็หาข้อมูลว่าจะใช้ครีมอะไรดี เพราะจะให้ไม่ทาครีมเลย มัน เห้ย!!! ไม่ไหวนะ มีน้องคนนึงแนะนำให้ลองใช้เซรั่มของออริจิ้น Origins™ Mega-Mushroom Skin ReliefAdvanced Face Serum เมเมเรียกเซรั่มเห็ดเน่า ด้วยเพราะเหตุที่ว่า ก็มันเหม็นเหมือนกลิ่นเห็ดหมักจนเน่าจริงๆอ่ะ แต่เพื่อความงามถึงจะมีกลิ่นเห็ดเน่าอยู่บนหน้าก็ย๊อมมม
ในระหว่างที่รักษาสิว เมเมไม่เคยหยุดแต่งหน้า ด้วยเหตุที่ว่า ออกไปเจอชาวบ้านเค้าไม่ได้ แต่งแล้วก็ดีขึ้นนิดนึงแต่ก็ปิดรอยระเบิดสิวไม่ไหวหรอกค่ะ นั่นแหล่ะ สิวระเบิดทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งหน้า รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการบ้าซื้อรองพื้นทุกยี่ห้อที่คิดว่าปกปิดดี ตั้งแต่ราคา ไม่กี่ร้อย ถึง พันต้นๆ สองพันกว่า สามพันกว่า หนักข้อสุด ห้าพันกว่า เพื่อหวังให้ทุกสิ่งอย่างดูดีขึ้นและออกไปเจอโลกภายนอกได้บ้าง เมื่อแต่งหน้า ทุกอย่างดูโอเคขึ้นนิด กล้ามองตัวเองขึ้นอีกหน่อย แต่หลังจากล้างหน้าก่อนจะนอนตอนกลางคืน นั่นแหล่ะ น้ำตาร่วงหยดเหมะๆ ทุกวันไป หน้าที่เป็นสิวมันอาจจะเป็นเรื่องที่แย่สำหรับชีวิต แต่สิ่งที่แย่กว่าคือสภาพใจที่มันรับตัวเองไม่ได้ต่างหาก นั่นแหล่ะคือสิ่งที่แย่ที่สุดของชิวิต ผิวไม่มีทางดีขึ้นแน่ๆ ถ้าใจเราไม่มองตัวเองในแง่ดีกว่านี้ ก่อนจะรักษาสิว รักษาใจก่อน เพราะทุกสิ่งอย่างมันจะต้องเกี่ยวข้องกัน นอกจากใจและทัศนคติที่ดีที่ควรมีกับตัวเองแล้ว อีกสิ่งที่ต้องมีคือ นาฬิกาชีวิตของเรา เราคงต้องมาจัดระเบียบชีวิตและเวลาที่ใช้ในชีวิตกันใหม่ สกินแคร์ที่ใช้ในช่วงนั้นคือ เซรั่มเห็ดออริจิ้น อย่างเดียว ทั้งเช้า และ ก่อนนอน ไม่ทากันแดด เพราะไม่ยอมออกแดด (แต่ถ้าต้องโดนแดดต้องทานะคะ) โฟมล้างหน้า ใช้ OriginsChecks & Balances™ Cleanser (แน่ะเริ่มหลงไปกับออริจิ้นทีละอย่างสองอย่าง)
นอกจากนั้นเราต้องจัดระเบียบชีวิตใหม่ค่ะ จัดยังไง เคยนอนดึกหรือเปล่า ต่อจากนี้ต้องนอนไม่เกินเที่ยงคืน เพราะปกตินอนเช้า T^T ตอนแรกๆก็ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยว แต่อยากจะบอกว่าในระยะยาว มันส่งผลแน่นอนค่ะ หลังจากค่อยๆปรับเวลานอนแล้ว เวลาที่ดีที่สุดของเมเม (ย้ำนะคะว่าเฉพาะของชีวิตเมเม) คือ 5 ทุ่ม แล้วตื่นนอน 7-8 โมงเช้า
สังเกตมั้ยคะ ว่าพอเป็นสิวมาก ปากจะแห้งลอก แตก และ เจ็บมาก นั่นมาจากการดื่มน้ำน้อยค่ะ เลยกลายเป็นสิ่งที่ต้องปรับอีก 1อย่างในชีวิตค่ะ คือดื่มน้ำวันละมากๆ มากที่สุดเท่าที่จะกระดกลงไปได้ อย่างน้อยตื่นมาดื่มน้ำก่อนเลย 1-2 แก้วค่ะ *** ถึงตรงนี้ สิ่งที่ต้องปรับมีกี่อย่างแล้วล่ะ *** ใจ ปรับใจให้มองเห็นตัวเองในด้านบวก หากใจหดหู่ หรือเป็นลบกับตัวเอง ย่อมส่งผลต่อร่างการและการหลั่งฮอร์โมนต่างๆ เปลี่ยนเวลานอน เปลี่ยนนาฬิกาชีวิตของตัวเอง ยิ่งนอนดึกเท่าไหร่ยิ่งเป็นสิวได้ง่าย ดื่มน้ำมากๆ ตื่นเช้ามาดื่มน้ำเลยฝึกให้ชิน ( อ่านต่อ Part II ) Radarat Meme Rattanaruangwirote | Create your badge
[CR] Diary & Review ใครกันล่ะจะอยากเป็นยัยหน้าสิว
จริงๆ ใครกันจะอยากเป็นสิวไปทั้งหน้า เมเมว่าคงไม่มีหรอก แต่อยู่ดีๆวันนึงผิวเล่นตลกกับเรา จากคนที่หน้าไร้สิวกลับกลายเป็นสิวระเบิดทั้งหน้า จะทำยังไงดี ? เป็นไดอารี่เรื่องเล่าชีวิตสิวๆของเมเม ซึ่งมีหลายตอน ความเป็นสิวนี่แหล่ะ เป็นที่มาของการหัดแต่งหน้าจากผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าเลยสักนิด เขียนให้อ่านกันเป็นการแลกเปลี่ยนวิถีชีวิตและประสบการณ์นะคะ เมเมไม่ได้มีความรู้ด้านสกินแคร์เท่าไหร่ ตั้งแต่เป็นสิวจนถึงปัจจุบันเมเมยังไม่เคยได้ทำการไปคลินิกเพื่อรักษาใดๆทั้งสิ้น ผลที่ได้ คือ ผลจากการทาครีมและปรับพฤติกรรมชีวิตเท่านั้นค่ะ ติดตามอ่านได้ที่บล๊อกของเมเมนี้นะคะ ส่วนใครที่อยากถาม หรือ อยากรู้จักกันมากขึ้นก็แอดเฟสบุ๊กได้เลยค่ะ |
meismeme
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] "คุณเสียอะไรที่คุณไม่เคยมีไม่ได้"
Friends Blog
Link |