ล่องเรือฝ่าสายลมหนาว Ttukseom Resort
หลังจากไปทานมื้อเที่ยงกับเพื่อน Papa มาแล้วกลับมาหลับไปงีบหนึ่งเปิดคู่มือท่องเที่ยวเกาหลีวันนี้อากาศเป็นใจ ฝนไม่ตก จะได้ไปล่องเรือซะทีเพราะวันก่อนก็ตั้งใจจะไป แต่ฝนดันตกซะนี่ก่อนออกไปเรารู้สึกเหมือนจะไม่สบายหนาว ๆ ยังไงไม่รู้แต่ Papa ตั้งใจมาก ๆ ที่จะพาไปล่องเรือไม่อยากให้เสียความตั้งใจนั่งรถไฟสาย 7 ไปหลายสถานีเหมือนกันไปหยุดที่สถานี Ttukseom Resortมีว่าวบนท้องฟ้าเป็นสวนสาธารณะติดแม่น้ำฮันมีจักรยานให้เช่าผู้คนมาปูเสื่อนั่งคุยกัน ปิคนิคกันเดินไปอีกหน่อย ก็จะถึงท่าเรือง่า...ทำไมวันนี้หนาวกว่าทุกวันซื้อตั๋วตรง GS25ค่าตั๋วคนละ 14600 วอน (แพงนะเคอะ)ได้ตั๋วเวลา 19.40 น.ระหว่างนั่ง ร.เรืออิชั้นหนาวมาก แล้วก็หิว(อีกแล้ว)ก็เลยไปหาซื้อของกินเล่นใน GS25 มานั่งกินรองท้องระหว่างที่รอก็เก็บรูปเพลิน ๆ รูปนี้เป็นชั้นบนมองไปอีกฝั่งของแม่น้ำฮันเย็นย่ำเรือมาแล้ววววววววล้อหมุน อุ๊ยไม่ใช่เรือเริ่มเคลื่อนตัวออกจากท่าเที่ยบสวยดีนะคะงามมากกกกกกก แต่อิชั้นหนาวจนปอดสั่นใช้เวลาอยู่บนเรือประมาณ 1.30 ชม.คนเยอะเหมือนกัน ข้างในเรือ ที่มีกระจกกั้น ไม่ให้โดนลมนั้นจะมีเป็นโต๊ะ และเก้าอี้ให้นั่งด้วยความที่เราไปครั้งแรก เลยไม่ได้ร้อนรนรีบไปจองที่นั่งจึงเต็มไปเรียบร้อยแล้วเราจึงได้ที่นั่งด้านนอก ด้านข้างลำเรือซึ่งไม่ได้โดนลมมากแต่อย่างใดและเห็นทัศนียภาพชัดกว่านั่งด้านในเพราะไม่มีใครบังแต่ดิชั้นก็ซีดโทรมจนไม่อยากถ่ายรูปจน Papa แปลกใจ ว่าเที่ยวนี้มาแปลกปกติ ไม่ครบ 400 รูป ไม่ยอมกลับบ้านเห็นคุณแม่ชาวเกาหลีแบกลูกตัวเล็ก ๆ มานั่งเรือเราเห็นแล้วหนาวแทนขนาดเรานุ่งยีนส์ เสื้อโปโล + เสื้อแขนยาวด้านนอกเรายังหนาวเลย แล้วเด็กน้อยสวมเสื้อผ้าธรรมดาใส่ถุงเท้า ไม่หนาวแย่รึเด็กเกาหลีน่ารักอ่ะ หน้าตาจิ้มลิ้มมากเราบอก Papa ว่า ชอบเด็กเกาหลีจังPapa บอกว่า เสียใจด้วยนะ ฉันไม่มีปัญหาหาเด็กเกาหลีให้เธอแต่ถ้าเป็นแบบหลานเค้าอ่ะ พอได้ คนนี้หลานชายหลานสาว กลัวแต่ว่า ถ้าถึงวันนั้นแล้ว baby จะขี้เหร่เหมือนอิชั้นหน่ะซิคะ
ไกด์หนุ่ม พาชมเมืองในมุมสูง และเปิบอาหารเกาหลี
สาย ๆ ของวันก่อนมีโทรศัพท์โทรเข้ามาขณะที่เรานั่งเล่นเน็ตคุณแฟนหลับอยู่เราจึงเดินไปรับสาย พร้อมคิดในใจว่าใครหนอโทรมาโทรศัพท์ก็เพิ่งจะซื้อนี่นาคนโทรมาพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีขอพูดกับแฟนเรา (เห็นว่าเป็นผู้ชายหรอกนะ ถึงยอมให้พูดโดยดีหน่ะ)คุยกันสักแป๊บ ได้ยินแฟนเราบอกว่า ขอคุยกะเราก่อน แล้วจะโทรไปบอกแฟนเราบอกว่า สามีของเพื่อน(Head teacher) ที่ทำงานโทรมาชวนไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันและจะมีเดินขึ้นเขาด้วย เป็นภูเขาเล็ก ๆ ถามว่าเราอยากไปรึเปล่า (มีรึ ที่เราจะปฏิเสธ)วันรุ่งขึ้นก็มายืนรอ สามีเพื่อน Papa มารับรอสักห้านาที เห็นจะได้Papa ก็บอกว่า ยืนรอแป๊บนะเดี๋ยวจะไปซื้อน้ำระหว่างที่ยืนรอคนเดียว ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดมีผู้ชายคนหนึ่งเดินลงมาแล้วก็ทักเราว่าใช่ แฟน Mister Morgan teacher รึเปล่า( คนที่นี่ รวมทั้งนักเรียน เรียก Papa ว่า Mister Morgan teacher)เราก็บอกว่าใช่พร้อมทั้งพูด ฮันย้งฮาเซโย เค้าก็แนะนำตัวพร้อมทั้งถามชื่อเราPapa กลับมา แนะนำให้เราให้สามีเพื่อนรู้จักอีกรอบแล้วก็นั่งรถไปรับภรรยาและลูก ๆ ของเค้า(วันที่ 5 พฤษภาคม เป็นวันเด็กของที่นี่)ขับรถไปไม่ไกลเท่าไหร่ ก็ถึงตีนเขามีคนเดินขึ้นเดินลงพอสมควรคนสูงวัยต่าง ๆ มาเดินออกกำลังกายกันพ่อแม่พาลูก ๆ มาเดินเล่นก็เยอะวันนี้อากาศดีมาก ๆ ลมพัดมาเย็น ๆ สดชื่นมาก ๆ มาดูหน้าไกด์ของเรากันน่ารัก น่าหยิกมาก เดินไปไม่เท่าไหร่ไกด์ต้องขึ้นไปอยู่บ่นไหล่โอป่ะ ซะแล้วอีกซักรูปมองลงไปจากบนเขาครอบครัวเพื่อน Papaสามีเพื่อน Papa เป็น Family man มากตอนที่ Papa แนะนำเรากับเพื่อนเค้าบอกเราว่า นอกจากเป็นเพื่อนแล้ว ยังเป็น boss อีกด้วยสามีเค้าก็บอกว่า She is my boss too.ไปทางซ้าย หรือทางขวาดีคะ?ภาพเมืองอีกสักภาพประเทศเกาหลีนี่มีภูเขาเยอะเนอะตรงนี้เป็นจุดสูงสุดแล้วจ้าเห็นตึกอยู่เบื้องล่าง ทางเดินลงเดินลงมาใกล้ ๆ กับตีนเขาจะมีจุดสำหรับนั่งรับประทานอาหาร ทำอาหารทานกันได้หิวแล้วววววววววที่รักคะ ไปทานข้าวกันเถอะหิวจัด ไม่ได้ถ่ายรูปร้านมานี่คือถ้วยสำหรับน้ำดื่ม แจกผ้าเย็นคนละผืนให้เช็ดมือไกด์ของเราท่าจะหิวน้ำจัดระหว่างรออาหารแอบถ่ายเมนูจากข้างฝาแล้วจานแรกก็ถูกยกมาสำหรับเราแล้วหน้าตาและรสชาติคล้าย ๆ ทอดมัน เวลาทาน ต้องจิ้มกะนี่ เผ็ด ๆ เค็ม ๆ ต่อมาก็เป็นจำพวกข้าวและถั่ว หุงรวมกันหวานมัน กรุบ กรอบแล้วก็จะมีผักสด ผักดองมาหลาย ๆ จาน นี่เป็นแตงกวาแล้วก็จะมีเป็นคล้าย ๆ ซุปอ่ะ (ง่า เรียกไม่ถูก)ประกอบด้วย ถั่ว เต้าหู้ ปรุงรสให้ออกเผ็ด ๆ นิดหน่อย (นิดเดียวจริง ๆ)ถ้วยนี้จะเป็นเต้าหู้แล้วก็ตักเครื่องเคียง ผักต่าง ๆ ลงไปในจานข้าวถ้าอยากเผ็ดเพิ่มอีกหน่อย ก็มีซอสคล้าย ๆ ซอสพริกแดง ๆ บีบเพิ่มลงไปได้ราดด้วยซูปเต้าหู้ถั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นก็เริ่มงานได้เลยคร่า....ไกด์ของเราอร่อยจนวางช้อนไม่ลงเลยทีเดียวมาดูสาวน้อยทานกันบ้างนะแฟนเราตั้งใจจะจ่ายมื้อนี้เนื่องจากเพื่อนคนนี้พา Papa ไปทานมาแล้วสองรอบ ไม่เคยยอมให้ Papa จ่ายเลยแต่แล้วก็ไม่ทันอีกเช่นเคยเพื่อน Papa แย่งไปจ่ายอีกแล้วPapa บอกว่า ก่อนที่เราจะกลับเมืองไทยจะขอเลี้ยงข้าวเย็นสักมื้อสามีเพื่อนค่อนข้างอารมร์ขันบอกว่าได้เลย ทุกเย็นเลยยิ่งดีอิ่มแล้วเดินออกมาโห ไม่น่าเชื่อว่ามีคนรอคิวยาวเลยทีเดียวมีคนคอยเรียกคิว ยังกับ MK บ้านเรายังไงอย่างนั้นเลยช้าไปแค่สิบนาที อาจจะต้องรอนานที่เดียวแล้วเพื่อน Papa ก็ขับรถมาส่งที่อพาร์ทเม้นระหว่างนั่งบนรถ ติดไฟแดงข้าง ๆ รถเมล์เห็นภาพโฆษณาที่รถเมล์น่ารักกกกกกเลยถ่ายมาด้วยน่ารักป่าวค๊า ครอบครัวเพื่อน Papa ทำให้เรามองว่าเกาหลีน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยเค้ามีน้ำใจ เป็นมิตร และอารมณ์ดีมาก ๆ เลย
คุณนายจ่ายตลาด
เย็นย่ำไปเดินตลาดกันไหน ๆ ดูซิ มีไรขายบ้ายขนมอะไรไม่รู้แฟนเราเรียกว่า rice cake (มันเค๊ก ตรงไหนเนี่ย)ผลไม้ สีสดงามตามะเขือเทศลูกใหญ่ ๆใหญ่กว่าแอปเปิ้ลอีกมั้งแล้วก็มีมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ คล้าย ๆ มะเขือเทศราชินีบ้านเรา แต่ลูกจะกลม ๆ เราซื้อมากินบ่อย ล้างน้ำ แช่เย็น อร่อยดีขายกันเป็นตะกร้า ๆ นี่เป็นพวกผักต่าง ๆ ส้มและสตรอเบอรี่ส่วนสีเหลือง ๆ นั่นไม่รู้จักไม่เคยซื้อมาทานสักที่น้ำส้มและพวกเครื่องดื่มกระป๋องต่าง ๆ (ถ่ายด่ะ เพราะอยู่โซนเดียวกัน)เค็มพอรึยังคะ?ถ้ายังไม่เค็ม รับเกลือสักหน่อยมั้ยคะ?มองการณ์ไกลไปข้างหน้าซักหน่อยตลาดก็จะแบ่งเป็นซอย เช่นนี้แหละแวะร้านหม้อกันสักหน่อยแฟนอยากได้หม้อใบใหม่ไม่ต้องใหญ่มากไว้สำหรับหุงข้าวจ๊ะพวกเห็ดต่าง ๆ ใช่หัวไชเท้ารึเปล่าหัวเท่าบ้านใหญ่มาก ๆ พวกน้ำยาซักผ้า สระผมเรียกว่ามาที่เดียว มีครบทุกอย่างแดง ๆ นั่นมะเขือเทศ (อีกสักรูป)แล้วก็เดินกลับห้องกัน ประมาณ 700 เมตรได้มั้งมาจ่ายตลาดทีก็หมดตังค์ไปประมาณ 20000 วอนเพราะส่วนใหญ่ราคาของจะเริ่มต้นที่ 1000 และ 2000 วอนบางอย่างก็หลักหมื่นอย่างมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ นั่นก็ตะกร้าละ 1000 ก็มี บางร้านก็ 2000 ปริมาณอาจจะต่างกันเล็กน้อยต้องเดินดู รอบ ๆ เราจะชอบมาเดินตลาดนี้มากเพราะในตลาดจะมีร้านรองเท้าสวยดี เราชอบไปดูแต่คู่ละประมาณ 20000 เรายังไม่ได้ซื้อหรอก แต่ก็ชอบ ไปดู อยากได้รองเท้า
ออกจากวังมานาน...กลับวังกันเถอะ
ตื่นสาย....ตื่นมาก็หาอะไรร้องท้องก่อนไม่งั้นกองทัพอาจจะแตกได้แล้วก็จูงมือกันไปพระราชวังมาถึงก็เจอป้ายนี้ เล่นเอาเข้าใจผิดว่าไม่ต้องจ่ายค่าเข้าชมที่ไหนได้ คนละส่วนกัน ดูซิ ว่าวันนี้คนมาเที่ยวกันเยอะแค่ไหนแดดร้อน ๆ อากาศก็ไม่ค่อยจะหนาว ซื้อตั๋ว คิวยาวเหยียดระหว่าง Papa เข้าคิวซื้อตั๋วร้อน ๆ ไม่ไหว เราไปหาน้ำเย็น ๆ ก่อนน๊าแล้วก็ได้ตั๋วมาคนละ 3000 วอนเป็นตั๋วคู่ ก็มาเป็นคู่นี่เนอะแน่ะ เกี้ยวพร้อมแล้ว องค์หญิงก็พร้อมองค์รักษ์อยู่ไหนเปิดประตูสู่พระราชวังนั่นไง พระราชวังของเรา ท่าน ๆ ไปบอกเสร็จแม่ซิ ว่าหญิงกลับมาแล้วมาชมวังใกล้ ๆ กันนะนี่เป็นตำหนักหลังบ้าน ต้องเดินไปทางปู้นนนนนน แน่ะหญิงเริ่มเมื่อยแล้วค่ะ อยากพักลงสักครู่(หาใช่คนจรจัด)แต่หญิงก็มีดอกไม้งามมาฝากท่านผู้ชมนะคะเจอกันทริปหน้านะคะเดี๋ยวจะพาเที่ยวอีก
กล่องข้าวน้อยฆ่าแฟน ในเกาหลี
ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อหล่ะว่าความหิวจะทำให้ผู้หญิงเช่นเราเปลี่ยนจากนางฟ้าบึกบึนเป็นนางมารน้อย ๆ ได้ในอึดใจก็วันนี้ทั้งวันเราทานไปแค่บะหมี่ซึ่งห่อใจหนึ่งก็ไม่อยากกินเยอะ ตั้งใจจะลด ๆ พุงด้วยอีกในหนึ่งก็รอไว้ทานตอนเย็น คุณแฟนบอกจะพาไปเดินเล่น COEX Mallแล้วก็ทานข้าวที่นั่นด้วยกว่าแฟนเราจะเลิกงานก็ทุ่มกว่า ๆ ถึงบ้านประมาณทุ่มครึ่งอาบน้ำแต่งตัว ลั้นลา ออกจากบ้านกันมุ่งหน้าไปยัง subwayคราวนี้เราใช้ T-money ได้แบบไม่มีพลาดหน้าตามันเป็นเยี่ยงนี้ ใช้ได้กับรถเมล์ รถไฟใต้ดิน จ่ายค่าที่จอดรถ ค่าทางด่วนรวมถึงค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว สามารถเติมเงินได้หาซื้อได้ที่ร้าน GS25 ซึ่งเจอได้ทั่วไปคล้าย ๆ 7-11 บ้านเรา7-11 ที่นี่ก็มี แต่ไม่เยอะเท่า GS25 (รึเปล่า...เราเพิ่งมาเห็นว่า GS25 เยอะนี่)แล้วก็ซื้อได้ที่ 7-11 แฟมมิลี่มาร์ท แล้วก็ตรง subway นั่นแหละเราไม่เคยซื้อหรอก เคยแต่ยืนดูแฟนเติมเงินแค่วางบัตรลง (ไม่ใช้สอด) กดจำนวนเงินที่จะเติม แล้วป้อนแบงค์เข้าไป เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี เริ่มต้นที่สาย 7 แต่จะไป COEX ต้องนั่งสายสีเขียว สาย 2นั่งไปหลายสถานีเหมือนกันหนุ่มสาวเกาหลีนี่เค้าจะมีพวกเครื่องเล่น mp หรือมือถือ TV กันแทบทุกคนนั่งบนรถ หรือเดินสวนนี่เห็นมีกันแทบทุกคนเลยนั่งรถไฟฟ้า บ้านเรา กับนั่งรถไฟที่นี่ ต่างกันมากเลยที่เกาหลี เค้าจะคุยกันเสียงดัง คุยกันทุกที่แฟนเราก็ไม่เคยไป COEX Mall เหมือนกัน ก็เปิดคู่มือท่องเที่ยวเกาหลีดูเป็นคู่มือที่ดีมาก ๆ สำหรับเรา อธิบายเข้าใจง่ายดีแนะนำว่าใครจะมาเกาหลี ควรพกมาด้วยเราฝากเพื่อนสาวคนสวยไปขอมาจาก อสท. เกาหลีที่เอสพลานาด โดยต้องบริจาคเล่มละ 20 บาทเป็นขึ้นต่ำเกี่ยวกับคู่มือนี่ก็ต้องยกความดีให้ //www.wutkate.com เช่นเคยเราก็พกมาทั้งสอง version ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษตามคำแนะนำเป๊ะ ๆ มาถึง COEX Mall ก็ประมาณสามทุ่มได้มั้งร้านอาหารก็ปิดไปเยอะแล้วเดินไปเดินมาหาร้านอาหารกันหลายรอบมากประมาณว่ามีสองจุดที่เป็นโซนอาหารแล้วก็อยู่ห่างกันคนละทุ่งเราก็เดินมองข้าวของที่นี่ไปเห็นราคาที่ไร ก็จับมาหารเป็นเงินไทยดูบางอย่างเราว่าพอ ๆ กับซื้อที่เมืองไทยเลยเช่นที่คาดผมธรรมดา อันละ 1000 วอน ก็ตกประมาณ 30 บาทถ้าซื้อที่เมืองไทย ก็พอ ๆ กับที่ขายแถวอนุสาวรีย์ อันละ 10 บาทมั้งเดินไปเดินมาจนเราหิวตาลาย เห็นของที่วางขายยิ่งอยากได้ แต่เสียดายตังค์ พาลโมโหหิวไปกันใหญ่จากยิ้มแย้ม กลายเป็นฝืนยิ้มจนแฟนถามว่าจะกินอะไร เราบอกกินได้ทุกอย่างเค้าก็เดินหาร้านที่อยากทานต่อจนเราเริ่มหน้าบึ้ง เค้าถามว่าอยากกินอะไรมาถามเราหน้าร้าน Pizza hut เราก็บอก กิน Pizzaก็เลยเดินเข้าร้าน Pizza hut กัน(เรายิ่งอารมณ์เสียใหญ่ ใจนึกอยากกินอาหารเกาหลี)แต่พอได้กินอารมณ์ก็ดีขึ้นแฟนก็เลยรอดชีวิตในบัดดลและคงไม่กล้าปล่อยให้เราหิวไปอีกนาน ไก่ซึ่งเราว่าหร่อยสู้ที่ทานที่เมืองไทยไม่ได้เลย ชิสสสสสส์พอทานเสร็จ ก็ดึกมากโขอยู่ถึงเวลากลับบ้านนอนก่อนนอนก็ออกมาเก็บภาพรอบ ๆ ซะนิดหนึ่ง อย่าให้เสียเที่ยวมาแถมด้วยรูปหนุ่มจากป้ายโฆษณาใน Subway
On this planet, in this lifetime, there are so many people we know, but how many of those...will love us and be our friend?