ที่มาของ "ใบไม้กำนั้น" ชื่อใบไม้กำนั้น มาจากเรื่องหนึ่งในพุทธประวัติที่ผมประทับใจมากๆ พระพุทธเจ้าท่านทรงกำใบไม้ขึ้นมาหนึ่งกำ อธิบายให้ลูกศิษย์เข้าใจได้ง่ายๆว่า จะเป็นใบไม้ทั้งป่า มันก็คือใบไม้ หากเรามุ่งศึกษาในใบไม้ที่อยู่ในกำมือนี้ได้จนเข้าใจ เราก็เข้าใจใบไม้ทั้งป่าได้ ซึ่งรายละเอียดที่ใกล้เคียงกันกับคำสอนนี้ ผมได้พูดถึงเอาไว้ในหัวข้อ พุทธ กับ วิทยาศาสตร์นะครับ ว่าหากคนเราอยากประสบความสำเร็จในศาสตร์แห่งพุทธ ต้องเริ่มจากการรู้จักมองหาเป้าหมายเสียก่อน ไม่ใช่ศึกษาโดยไม่คิด ไม่พิจารณา ตามๆเค้าไปเนี่ย ผิดวิสัยที่ถูกต้องของชาวพุทธ และมีโอกาสน้อยมาก ที่จะลุถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพุทธได้ อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะกล่าวไปถึง คือเรื่องของเหตุและผลสำหรับความยากง่าย ในเรื่องของการนิพพานครับ เนื่องด้วยส่วนตัวของผมแล้ว ผมชอบเรื่องต่างๆ ที่มีเหตุผลมารองรับได้ ดังนั้นผมเลยไม่ชอบเรื่องของการสั่งสมบุญร้อยกัปป์ร้อยกัลป์ เพื่อจะนิพพานได้ในที่สุด เพราะผมว่านั่นมันเป็นข้ออ้าง ในเรื่องของการผลัดวันประกันพรุ่งแท้ๆเชียว ซึ่งหากเจอพระที่ไหนสอนเช่นนี้ ผมล่ะไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วย เพราะมั่นใจได้ว่า พระรูปนั้นล่ะ ต้นธารแห่งความผลัดวันประกันพรุ่ง และพระรูปนั้นน่ะ มีโอกาสจะนิพพานได้น้อยกว่าฆารวาสเสียอีก (อยู่ใกล้แก้วที่สุดแท้ๆ) และสุดท้ายนั้น ก็เรื่องความยากง่ายในการนิพพานนี่ เราสรุปว่าเป็นอย่างไร ผมอยากจะยกคำกล่าวจากพุทธประวัติ ของอาจารย์ใหญ่ ของเรามาประกอบนะครับว่า... พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้ "หากมีความตั้งใจจริง ไม่ต่ำกว่าเจ็ดวัน และ ไม่เกินเจ็ดปี ก็จะลุถึงนิพพานได้" ดังนั้นก็น่าจะลองเก็บเป็นข้อคิดของชาวพุทธอย่างพวกเรากันดู ว่าการศึกษาสู่ทางนิพพานเนี่ย มันยากเกิดวิสัยของพวกเรา หรือพวกเราหาข้ออ้างให้กับตัวเองที่จะไม่พยายามกันแน่นะ หากตั้งใจจริง ทุกอย่างเริ่ม และจบได้ "ไม่เกินเจ็ดปี" โดยเริ่มต้นจากการศึกษาจาก ใบไม้กำนั้นของพระพุทธองค์ อย่างตั้งใจจริง และเป็นเหตุเป็นผล ถ้าจะบอกว่าข้อความที่ดูน่าประท้ับใจจากพุทธประวัติทั้งหมดนั้น จะเป็นที่มาของชื่อ ใบไม้กำนั้น.... ก็อยากจะให้ใช่อยู่อ่ะครับ แต่กลายเป็นว่าเหตุผลหลักนี่ เกรงว่ามาจาก เว็บPantipนี่ คนเข้ามาเล่นเยอะ (ไม่ใช่เยอะธรรมดา แต่เป็นเยอะอิ๊อ๋าย) แถมยังชอบสมัครชื่อทิ้งขว้างกันเยอะๆ ผมจะหาชื่อตั้งกี่ชื่อๆ ก็ซ้ำๆๆๆๆๆกันหมด จนคีย์ชื่อ ใบไม้กำนั้น แล้วผ่าน ก็เลยมีบุญได้ใช้ชื่อนี้ล่ะครับ อ้างท้าวความมาตั้งเยอะแยะ สุดท้ายท่านก็เลยได้เห็นฟามลับของใบไม้เลย แหะแหะ ตามนั้นแลครับ (เขินเล็กน้อยถึงปานกลางนะเนี่ย) ยังไงผมก็ว่าเป็นชื่อที่น่าร๊ากดีนะครับ   Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2551     0 comment Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 18:43:39 น.     Counter : 247 Pageviews.   Share Tweet