ประสบการณ์สิวมาสิบกว่าปี แนะนำไว้ ณ ที่นี้ไว้นะครัช
 
 

ทำไมด่างในสบู่จึงไม่เหมาะกับผิว







ข้อเสียของด่างในสบู่กับผิว


ภาพที่ 1 ทฤษฎีหมึกกรอบช่วยอธิบายว่าทำไมสบู่ด่างจึงไม่ดีกับผิว


ภาพที่ 2 อธิบายการพองตัวของหมึกกรอบช่วยอธิบายว่าทำไมสบู่ด่างจึงไม่ดีกับผิว รูปด้านซ้ายผิวปกติ (ผิวสุขภาพดี) รูปด้านขวาผิวที่พองตัวจากความเป็นด่างของสบู่

💡💡💡ทฤษฎีปลาหมึกกรอบช่วยอธิบายเรื่องของสบู่ 😅😅

#เหตุผลจากงานวิจัยประกอบว่าสบู่มีวิธีทำร้ายผิวได้อย่างไรบ้าง


เนื่องจากค่าพีเอชที่สูง ผิวจะพองตัวได้มากขึ้น สังเกตุหมึกแห้งที่่แช่ด่างและสบู่ทำให้หมึกแห้งธรรมดาพองตัวขึ้นได้ และในภาพวาดผิวที่ใช้สบู่จะทำให้ผิวพองตัวมากขึ้น(เพราะสบู่ทำให้โปรตีนที่ผิวเกิดประจุลบจึงเกิดการผลักกันเองและเกิดช่องว่างที่มากขึ้น) ดังในการทดลองกับปลาหมึกแห้งที่แช่ในด่าง และแช่ในน้ำสบู่ทำให้โปรตีนพองตัวได้และดูดน้ำมาอยู่ในโครงสร้างของผิวมากขึ้น เช่นเดียวกับผิวหน้าที่ล้างด้วยสบู่อย่างต่อเนื่องสบู่ด่างจะทำให้ผิวพองตัวขึ้นทำให้มีช่องว่างให้ด่างเข้าไปละลายโครงสร้างผิว เกราะป้องกันผิว ไขมันดี และความชุ่มชื้นในผิวจะถูกละลายออกมาในช่วงที่ใช้สบู่ที่เป็นด่าง และเกิดผลเสียกับผิวในด้านต่างๆ ดังนี้🚩


1. ควรหลีกเลี่ยงสบู่ด่างเพื่อไม่ให้ผิวแห้ง ขาดน้ำซึ่งเป็นสาเหตุให้คันและอาการต่างๆได้ งานวิจัยพบว่าถ้าใช้สบู่ด่างนาน 5 สัปดาห์ จะทำให้ผิวไวต่อสารก่อการระคายเคือง(SLS) ได้ง่าย


2. ค่าพีเอช 8 ส่งผลให้ผิวสูญเสียน้ำมากขึ้น เพราะผิวดูดน้ำเพิ่มขึ้น(pH มากกว่า isoelectric point ของโปรตีน) สารด่าง(KOH,NaOH)ในสบู่และสาร SLS ในสบู่เข้าไปทำลายไขมันและโปรตีนที่เป็นโครงสร้างของเกราะป้องกันผิว นี่เป็นสาเหตุหนึ่งของสารทำความสะอาดที่รุนแรงเกินไปก่อการระคายเคืองให้ผิวเพราะการทำความสะอาดที่มากเกินความจำเป็นจนเป็นการรบกวนผิวเกินไป


3. ด่างจากสบู่ทำให้ไขมันเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างใหม่ทำให้หน้าที่ของเกราะป้องกันผิวเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ (เพราะด่างเพิ่มอุณหภูมิของจุดหลอมเหลวของไขมันที่ผิวจึงจาก lamellar bilayers กลายเป็นรูปร่างที่ยึดเกาะกันมากขึ้น) #เกราะป้องกันผิวจะทำงานได้ดีที่พีเอชเป็นกรดอ่อนๆ(pH 5.5) ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผิวจากมลภาวะ
#ด่างทำให้การทำงานของเอนไซม์ที่ทำงานของเกราะป้องกันผิวจะลดลงทำให้หน้าที่ของเกราะป้องกันผิวบกพร่องไป


4. คนเป็นโรค rosacea (ผื่นแดงที่ผิวหน้าบริเวณแก้มและจมูกเมื่อถูกกระตุ้นด้วย แดด เหงื่อ ความร้อน และมลภาวะ) ไม่ควรใช้สบู่เพราะมีฤทธิ์เป็นด่าง เพราะจะทำลายเกราะป้องกันผิว และผิวขาดน้ำ จะทำให้อาการรุนแรง ควรเลือกสารทำความสะอาดที่มีค่าพีเอชใกล้เคียงกับผิวคือเป็นกรดอ่อนๆ(พีเอช 5.5)


5. มีงานวิจัยกับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งที่ฉายแสงเมื่อให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีค่าพีเอช 5.5 ทำให้ผิวผู้ป่วยมีสุขภาพผิวดีขึ้น


#krebslabs #สบู่ด่าง #สบู่ผิวแห้ง #สบู่ทำร้ายผิว คุยกันที่ https://www.facebook.com/krebslabs/










 

Create Date : 18 ธันวาคม 2560   
Last Update : 2 มกราคม 2561 18:04:21 น.   
Counter : 1697 Pageviews.  


เคลียร์เรื่องสบู่ด้วยการทดลองวัดความเป็นด่างของสบู่ 6 ยี่ห้อ ว่าจะดีต่อผิวสมคำโฆษณาไหม???



การทดลองวัดความเป็นด่างของสบู่ 6 ยี่ห้อ

การวัดค่าด่างในสบู่

Smileyหลายคนคงสงสัยว่าก็แค่สบู่ทำไมต้องให้ความสำคัญอะไรมากมายอยากบอกว่าสำคัญมากเพราะการที่จะมีสุขภาพผิวที่ดีได้นั้นต้องดูแลตั้งแต่การเช็ดล้าง โทน บำรุง รวมถึงปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ที่ต้องพูดเรื่องสบู่เพราะเห็นเห็นรีวิวสบู่กันเยอะว่าดีต่างๆนาๆอันนี้จะเสนออีกมุมมองหนึ่งซึ่งอิงข้อมูลทางวิชาการ เพื่ออยากให้วิเคราะห์เหตุผลหรือหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจเชื่อไม่ให้ให้คำโฆษณา คำรีวิวจากสิ่งต่างๆ ดูดเงินออกจากกระเป๋าเราออกไปง่าย เราจึงอดไม่ได้ที่จะบอกความจริงที่จริงยิ่งกว่าเพราะเราเห็นว่าใครๆก็จะขายสบู่กันทั่วเน็ตและก็โม้สุดฤทธิ์ว่า“สบู่..ดีอย่างงั้นดีอย่างงี้”ทั้งๆที่มันเป็นด่างเว่อร์ซึ่งทำร้ายผิวเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องเราซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์เห็นแล้วจึงอยากแบ่งปันข้อมูลที่ศึกษามาจะเอามาเล่าสู่คนที่อยากดูแลผิวฟังโดยมีการทำการทดลองเล็กๆเพื่อเป็นหลักฐานมาเล่าบอกรวมทั้งจากการค้นงานวิจัยเพิ่มเติมว่าทำไมมันถึงทำร้ายผิว จะได้กระจ่างกันซักทีถ้าสนใจก็ติดตามกันได้เลยจร้า

Smileyสบู่ 6 ยี่ห้อที่เราเอามาทดลองนั้นส่วนใหญ่หาซื้อได้ตามท้องตลาดซึ่งสิ่งที่จะมาเล่าวันนี้คือความเป็นด่างของสบู่ (วัดจากค่าพีเอช) และทดลองเพื่ออธิบายว่าสบู่ที่เป็นด่างไม่ดีกับผิวอย่างไร สบู่ที่ใช้ทดสอบคือ

1. สบู่ยี่ห้อเบ...สีส้ม (มีวิตามินซีและอี @45 ฿)             ค่าพีเอช = 9.36 (เฉลี่ยจากการวัดซ้ำ)

2. สบู่ยี่ห้อเบ...สีขาว (มีอาร์บูตินและเมล็ดองุ่น @55 ฿) ค่าพีเอช = 9.29

3. สบู่ยี่ห้อซิ....สีเหลือง(มีสมุนไพรพม่า @48฿)           ค่าพีเอช = 9.70

4. สบู่ยี่ห้อเด...... (องุ่นจากสวิตฯ,สาหร่าย @390 ฿)     ค่าพีเอช = 8.99

5. สบู่ยี่ห้อพา...(มีสารสกัดเยอะมาก @490฿)             ค่าพีเอช  = 9.63

6. สบู่ยี่ห้อเวล..(เจ้าของเป็นเภสัช @320฿)                ค่าพีเอช  = 9.07


ค่าพีเอช (pH) หรือค่าความเป็นกรดด่างของสบู่ส่วนใหญ่จะเป็นด่างสูง(มากกว่า 9) ซึ่งแรงเกินไปกับผิวหน้า(ผิวหน้ามีพีเอชเฉลี่ย5.5) เพราะสบู่ทำความสะอาดที่มากเกินความจำเป็นจะล้างเอาน้ำหล่อเลี้ยงผิวและน้ำมันดีๆบางส่วนที่มีประโยชน์กับผิวออกไปหมด  การทำความสะอาดผิวหน้าที่ถูกต้องแค่ล้างเอาสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกินออกไปก็เพียงพอแล้ว  หน้าคนเราไม่ได้สกปรกถึงขั้นต้องใช้สบู่ด่างที่รุนแรงกับผิวเลยสงสารผิวที่จะต้องถูกทำลายจากาการเชื่อคำโฆษณาเกินจริง ลองคิดตามนะ!! สบู่ล้างหน้าที่รุนแรงมากเกินไปมันจะไปดึงเอาน้ำและน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวออก    คนผิวมันหลังใช้สบู่จะรู้สึกหน้าสะอาดดีไม่มัน แต่หน้าจะมันยิ่งกว่าเก่าหลังล้างหน้าไปได้ไม่นาน  เพราะผิวขาดสมดุลจึงต้องปรับตัวเองโดยการผลิตน้ำมันมาแทนที่เสียไป คนผิวแห้งจะยิ่งทำให้หน้าแห้งตึงแต่จะไม่มีน้ำมันมาเคลือบหน้าเพราะผิวผลิตน้ำมันได้ไม่ดีอยู่แล้ว ราคาสบู่ที่ต่างกันนั้นก็จะขึ้นอยู่กับหลายๆอย่าง เช่น เติมสารอะไรให้มันดูแพง อย่าง คาเวียร์ น้ำลายผึ้ง แพคเกจที่เลือกใช้ ค่าจ้างดารามาโฆษณา คิดค้นโดยเภสัชกร ฯลฯ เค้าก็บวกหมด ราคามันก็จะแพงตามถ้าอ่านมาถึงตรงนี้คงคิดในใจว่าแล้วจะใช้อะไรล้างหน้าดีละ เดี๋ยวจะพูดถึงตอนท้าย

สำหรับคนที่กำลังตกเป็นเหยื่อของโฆษณาสบู่ที่อ้างว่าสบู่หรือครีมล้างหน้าเพื่อผิวขาวใส ไร้สิว อยากให้นึกถึงหลักความเป็นจริงว่าเราใช้เวลาล้างหน้ากี่นาที สบู่โดนหน้าไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำแล้วเราก็ล้างออก การที่สารต่างๆจะซึมเข้าผิวเพื่อบำรุงผิวนั้นต้องทิ้งระยะเวลาให้มันดูดซึมสักพัก(สำหรับคนที่มีความคิดว่างั้นต้องล้างหน้านานๆทิ้งให้ดูดซึมก่อน อันนี้ไม่ควรเลยเพราะหน้าที่ของสารทำความสะอาดก็มีหน้าที่ทำความสะอาดไม่ใช่บำรุงถ้าทิ้งไว้นานก็อาจส่งผลเสียต่อผิวและทำให้ผิวเสียสมดุลได้) อีกอย่างการทำสบู่ต้องมีการใช้ความร้อนทำให้สารต่างๆที่เค้าอ้างประโยน์ว่ามีในสบู่มักจะเสื่อมระหว่างโดนความร้อนและก็สูญเสียไปกับค่าความเป็นด่างในสบู่เพราะสารสกัดจากธรรมชาติ วิตามิน ต่างๆมันต้องอยู่ในค่าพีเอชกลาง(พีเอช 7) ถึงกรดเล็กน้อยเราคิดว่าเอาเงินที่ลงทุนกับสบู่ที่อ้างว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ไปลงทุนกับสกินแคร์ดีๆสักตัวสองตัวน่าจะคุ้มกว่าเพราะทาทิ้งไว้บนผิวเลย ผิวมีเวลาที่ดูดซึมพอเนื่องจากผิวหน้าของเราจะมีค่าพีเอชเฉลี่ยคือ 5.5 ถ้าผิวหน้าของเรามีค่าพีเอชที่เปลี่ยนแปลงจะส่งผลเสียต่อผิว แล้วจะเลือกอะไรล้างหน้าที่ดีที่สุด 

ข้อเสียของด่างในสบู่ต่อผิวคลิก https://goo.gl/d92npa




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2560   
Last Update : 24 มกราคม 2561 18:24:30 น.   
Counter : 882 Pageviews.  


หลักในการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว



การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า

นอกจากสบู่ด่างแล้ว(ถ้ายังไม่ได้อ่านคลิก https://goo.gl/LEcTDdhttps://goo.gl/d92npa)ยังมีสารทำความสะอาดอีกชื่อ/ตระกูลที่ควรหลีกเลี่ยงคือSLS และ SLES


อีกตระกูลหนี่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ “ซัลเฟต” มี 2 ตัวคือ sodiumlauryl sulfate (SLS) และ sodium laureth sulfate (SLES) สังเกตคำว่า “sulfate”เพราะซัลเฟตมีความแรงสูงในการทำความสะอาดด้วยราคาถูกและสร้างฟองได้ดี ผลิตภัณฑ์หลายชนิดใช้ในกลุ่มทำความสะอาด เช่นน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ครีมหรือเจลล้างหน้าหลายยี่ห้อ ยาสีฟันบางยี่ห้อ แต่มีผลเสียกับผิวหน้าดังนี้


1. SLS ทำให้ผิวระคายเคืองได้เนื่องจากบางส่วนตกค้างที่ผิวระหว่างล้างหน้า (งานวิจัยส่วนใหญ่จึงใช้SLS เป็นสารก่อการระคายเคืองในผิวหนังเพื่อดูค่าการสูญเสียน้ำเป็นค่าที่วัดการระคายผิว)


2. SLS ทำให้ผิวอ่อนแอโดยรบกวนโครงสร้างของไขมันและเยื่อหุ้มเซลล์ของผิว(โดยยับยั้งการเปลี่ยนสถานะไขมันจาก liquid crystalline เป็น solidcrystalline)


3. SLS ทำให้ผิวเสียน้ำหล่อเลี้ยงและความชุ่มชื้นได้เพราะ SLS จะล้างสารให้ความชุ่มชื้น(NMF) ออกจากผิว เนื่องจากเป็นสารซักฟอกที่รุนแรงเกินไป (เพราะ SLS จะเพิ่มการสร้างพันธะกับน้ำและทำให้เกราะป้องกันผิวบกพร่องไม่กลับสู่สภาพเดิมการเสียน้ำของผิว(TEWL)จะสูงขึ้นหลังล้างหน้าด้วย SLS ซึ่งบอกได้ว่าผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้จากSLS)


4. SLS หลังล้างหน้าจึงทิ้งความรู้สึกแห้งตึงไว้เมื่อใช้เป็นประจำจะทำให้เกราะป้องกันผิวบกพร่อง


5. ผิวที่แพ้ง่ายอ่อนไหวง่าย ระคายเคือง ไม่แข็งแรง ผิวจะมีความไวต่อสาร SLS มากกว่าผิวปกติเพราะเป็นสารก่อระคายเคืองรบกวนการทำงานของเกราะป้องกันผิว


6.ลองสังเกตุหลังแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ีใส่SLS มามาก จะรู้สึกว่าในช่องปากจะมีความตึงๆหรือมีความรู้สึกแปลกๆ ถ้าเทียบกับยาสีฟันที่ไม่มีสาร SLS


เกราะป้องกันผิวมีความสำคัญมาก เพราะ เปรียบเสมือนรั้วของผิวซึ่งเป็นโครงสร้างของไขมันที่ป้องกันการสูญเสียน้ำจากภายในผิวทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นและยังช่วยปกป้องผิวหรือลดความรุนแรงจากมลภาวะจากภายนอกที่ทำร้ายผิวได้อีกด้วยเพราะฉะนั้นเราควรดูแลเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงตั้งแต่การเลือกสารทำความสะอาดผิวที่ไม่ใช่สบู่สาร SLS อ่านข้างฉลากสักนิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อความคุ้มค่าและเพื่อผิวที่ดี เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวทุกๆ วันมีความสำคัญกับเกราะป้องกันผิวและความสมดุลของผิว อีกทั้งควรเลี่ยงสกินแคร์ที่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอมในสกินแคร์ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีแบบของเราเอง 


ที่มา: https://www.facebook.com/Krebslabs/






 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2560   
Last Update : 20 มกราคม 2561 17:53:13 น.   
Counter : 282 Pageviews.  



ผู้ชายสำอาง
 
Location :
อุตรดิตถ์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นสิวมานานมากๆๆๆ หาหมอแล้วไม่ดีขึ้น จนมาศึกษาอย่างจริงจังกับตัวเองและคนเป็นสิวรอบๆตัว คนที่ทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดดีขึ้นแน่นอน ถ้าคุณเป็นเหมือนเราคือลองทาทุกยี่ห้อหาหมอมาทุกคลีนิคแล้วไม่หาย ลองมาคุยกะเราได้ ถ้าสนใจที่จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดทักมาคุยกะเราได้เลย
[Add ผู้ชายสำอาง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com