No One Knows...เตรียมตัวให้พร้อม รับมือแผ่นดินไหว (ตามคำสอนของครูญี่ปุ่น) ช่วงนี้เริ่มมีข่าวแผ่นดินไหวอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น ที่พม่า ที่ลาว และล่าสุดที่ไทยเองก็เริ่มรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน แม้ว่าจะไม่มาก แต่เราเชื่อว่า สัญญาณเตือนจากธรรมชาติครั้งนี้ เป็นแค่การเริ่มต้น... หลายคนคงทราบดีว่า เกาะญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีแผ่นดินไหวบ่อย และรุนแรง ในช่วงที่เราอยู่ที่ญี่ปุ่นก็เจอกับแผ่นดินไหวอยู่บ้าง แรงที่สุดที่เคยเจอประมาณ 6 ริกเตอร์กว่าๆ ด้วยความที่เป็นนักเรียนต่างชาติ เจอกับแผ่นดินไหวแรงขนาดนี้ก็ตกใจเป็นธรรมดา อาจารย์ที่ดูแลเราอยู่จึงได้สอนวิธีปฎิบัติตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว และการเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เด็กๆชาวญี่ปุ่น จะถูกฝึกอบรมในเรื่องนี้กันตั้งแต่เล็กๆ รวมทั้งวิชาการอ่านแผนที่ เราจึงไม่แปลกใจเลย เวลาที่เกิดอะไรขึ้น เพื่อนๆชาวญี่ปุ่นจะพร้อมรับมืออยู่ตลอด ไปเที่ยวไหนกัน ก็อ่านแผ่นที่กันเก่งมากๆ แค่มองฟ้าก็รู้ทิศไหนคือทิศไหน เก่งจริงๆ Let's Prepare รับมือ...ก่อนเกิดแผ่นดินไหว หรือเหตุร้าย เตรียมเป้ หรือกระเป๋า 1 ใบ วางไว้ที่หยิบสะดวก ภายในจัดเตรียมสิ่งของเหล่านี้ 1. เอกสารสำคัญ...ก๊อปปี้สำเนาไว้ และเย็บเป็นชุดๆ ใส่ในถุงที่สามารถกันน้ำได้ 2. ไฟฉาย... สิ่งนี้จำเป็นและสำคัญมาก เพราะในสภาวะฉุกเฉิน แสงไฟเป็นสิ่งจำเป็น 3. น้ำและอาหารแห้ง... อาหารแห้งที่สามารถเปิดทานได้เลย และอย่าลืมตรวจดูวันหมดอายุอยู่เสมอ 4. เงิน หรือเศษเหรียญ...เอาไว้ใช้โทรศัพท์สาธารณะ 5. ชุดปฐมพยาบาลเล็กๆ เอาไว้ยามฉุกเฉิน 6. วิทยุเครื่องเล็กๆ เพื่อไว้ใช้รับฟังข่าวสาร นอกจากอุปกรณ์ฉุกเฉินเหล่านี้แล้ว คนญี่ปุ่นจะมีการนัดแนะกับสมาชิกในครอบครัวว่า หากเกิดอะไรขึ้น เราจะไปเจอกันที่ไหน Do and Don't ...เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ต้องทำอย่างไร 1. เมื่อเกิดแผ่นดินไหว หากอยู่ในบ้านหรืออาหาร สิ่งแรกคือกวาดของหนักจากที่สูงลงมาที่พื้นให้หมด หลังจากนั้นให้มองหาเสาหลักที่แข็งแรง รองรับน้ำหนักอาคาร และหาที่กำบัง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ (เอาของหนักๆออกจากโต๊ะก่อนนะคะ) อยู่ให้ห่างกระจก ประตู เนื่องจากอาจได้รับอันตรายได้ 2. ห้ามใช้ลิฟท์เด็ดขาด เพราะอัตราการค้างของลิฟท์สูงมาก (หากรู้ตัวว่าวิ่งลงไม่ไหว อยู่ในอาคารจะปลอดภัยมากกว่าค่ะ) 3. ปิดแก๊สทันทีเมื่อรู้สึกว่าแผ่นดินไหว ไหวมากหรือน้อยให้ปิดทันที ห้ามใช้ไฟแช๊ก หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เกิดประกายไฟเนื่องจากอาจจะมีการรั่วของแก๊สได้ 4. หากอยู่นอกอาคาร หรือตามถนน ให้วิ่งไปยังที่โล่งแจ้ง อย่าอยู่ใกล้อาคาร เพราะกระจกอาจแตกลงมาได้ อย่าอยู่ใกล้เสาไฟ เพราะคักโค่นได้ง่าย 5. หากอยู่ใกล้ชายฝั่งให้รีบออกจากที่นั่นโดยเร็ว เพราะอาจจะมีทซึนามิตามมา (หลายคนจะบอกว่า หากเกิดแผ่นดินไหว ให้อยู่ในรถ รอจนหยุด แต่เราว่า หากอยู่ใกล้ชายฝั่ง เหยียบหนีน่าจะปลอดภัยกว่านะ) สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราควรรู้เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติที่เริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน ปกติที่เคยเจอแผ่นดินไหว มันจะไหวไม่นานมากค่ะ 3-5 นาที แต่มาเป็นระยะๆ ถ้าไหวตอนกลางวันก็ไม่เท่าไหร่ สติอยู่กับตัว แต่ถ้ามาไหวกลางดึกนี่ เราเป็นคนรู้สึกตัวยากมากกก มีครั้งนึง ไหวแรงจนคนในหอพักตื่นและมารวมตัวกันที่ชั้นล่างหมด พอเช็คๆชื่อ เห้ยยยย แป้งจังไม่อยู่ สรุปคือเหลือเราคนเดียวที่นอนหลับสบายอยู่ที่ห้อง (- -") อายจัง ก่อนจบ ฝากไว้ซักนิด... การจัดห้องก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เพิ่มความปลอดภัยนะคะ ของหนัก...ให้ไว้ล่าง ของเบา...วางบนชั้นได้ การเลือกชั้นพักอาศัย... เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหลายคนคิดว่าอาคารสูงน่ากลัวกว่าอาคารเตี้ย...คิดผิดค่ะ อาคารสูงมีฐานที่มั่นคงแข็งแรงกว่า จึงมีโอกาสพังได้น้อยกว่าอาคารเตี้ย และมีกฎหมายรองรับในเรื่องความปลอดภัยมากกว่า กระเช้าช่วยชีวิตเมื่อเกิดเพลิงไหม้จะสูงได้แค่ประมาณ 10 ชั้นเท่านั้น และอย่าลืมว่า หากอาคารหรือคอนโดอยู่ในซอยแคบๆ รถดับเพลิงจะเข้าถึงได้ยาก บางซอย รถใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ต้องใช้รถดับเพลิงเล็กๆก็มีค่ะ หากอยู่ชั้นสูง เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ให้เอาผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปาก คลานต่ำๆออกมานะคะ (กรณีนี้เราคิดหนักอยู่นาน เพราะตอนแรกจะซื้อคอนโดชั้นสูงๆ วิวดีกว่า ลมโกรกกว่า แต่ที่บ้านคัดค้าน สุดท้ายจึงตัดสินใจอยู่ที่ชั้น 13 Lucky Number) อาคารสูงเกิน 15 เมตร สร้างหลังปี 50 ตามกฎหมายต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ประมาณ 5 ริกเตอร์ แต่...อาคารแบบสำเร็จรูป ใช้ผนังรับน้ำหนัก แทนเสาคาน น่าเป็นห่วงจริงๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือนั้นคือ "สติ" เข้าใจว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น สติก็กระเจิงเหมือนกันแหละ แต่ต้องพยามค่ะ สติมาปัญญาเกิด...แล้วเราจะทำทุกอย่าง ได้อย่างที่เตรียมพร้อมไว้ค่ะ Good Luck! by Pang Kirari   Create Date : 29 มีนาคม 2554     Last Update : 29 มีนาคม 2554 16:25:24 น. Counter : 1128 Pageviews.   8 comment Share Tweet

“What’s in my bag” มีอะไรในกระเป๋าของ Kirari ได้รับแท่กมาจากน้องๆทั้งแม้ว และนุ๊ก วันนี้มาส่งการบ้านแล้วนะจ้ะ “What’s in my bag” มีอะไรในกระเป๋าของ Kirari วันนี้ใช้น้อง COACH ใบกำลังดี สีสวยแมทช์ง่าย ได้เวลาเปิด กระเป๋า แต่นแต้นนน... มีแค่ 2 สิ่งใหญ่ๆ นั่นคือ Bag in Bag และกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสตางค์เราซื้อของ Jacob มาค่ะ ใบนี้ถ้าจำไม่ผิด 5,XXX บาท เมื่อ 3 ปีก่อน สุดแสนจะทน ชอบที่สีสันแดงสะใจ แถมช่องเก็บบัตรก็เพียบ (แต่หารู้ไม่การใส่บัตรเยอะๆ มันทำให้กระเป๋าเราอ้วนขนาดนี้) บัตรเราเยอะแยะไปหมด ส่วนมากพวกบัตรเมมเบอร์ บัตรส่วนลดร้านอาหาร เคยซื้อเป็นกระเป๋าบัตร แต่ก็มักลืมหยิบตลอด เลยใส่ไว้ในเป๋าตังค์นี่แหละ มาดูที่ Bag in Bag กันบ้าง ด้วยความที่เราเป็นคนเปลี่ยนกระเป๋าบ่อย Bag in Bag จึงเป็นของที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ ในนี้จะจัดของได้เป็นระเบียบ หยิบหาง่าย และยังทำให้กระเป๋าเราอยู่ทรงด้วย What’s in my Bag in Bag? ของจุกจิกมากมาย มีอะไรกันบ้าง ไปดูกัน ช่องตาข่ายด้านหน้า เราจะใส่ เจลล้างมือ, ลิปมัน, พิมเสนน้ำ (เอาไว้ดมและทาแก้แมลงกัด) และก็ครีมกันแดดแบ่งใส่ขวด ช่องข้างๆ ก็ใส่ iphone (หน้าจอน่ารักมั้ย เข้ากับเคสเหลืองของเราเลย) ส่วนช่องเสียบบัตรอื่นๆ ก็ใส่พวกคูปองเมมเบอร์ร้านอาหารซะส่วนใหญ่ พลิกมาดูอีกด้าน จะเป็นช่องเปิดปิด เราใส่พวกหูฟัง และสาย USB ของไอโฟน และช่องข้างๆก็มี USB drive ติดตัวเอาไว้ ช่องซิปด้านนอก ใส่สมุดโน้ืทและปากกา คัตเตอร์ และนามบัตร มาถึงช่องด้านใน (ช่องมันเยอะมากๆ) มีหวี กับกระจก, ทิชชู่ ส่วนกระเป๋าเครื่องสำอาง คิดว่าหลายคนคงตกใจ ใบแค่นี้แหละ มีแค่กระดาษซับมัน ลิปสติก และลิปกลอสแค่นั้นค่ะ อีกช่องที่ไม่ค่อยได้หยิบใช้ แต่มีไว้อุ่นใจ คือช่องยาฉุกเฉิน เราจะพกยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้คลื่นไส้ พลาสเตอร์ เอาไว้ เผื่อเกิดฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องหาซื้อ หมดแระในกระเป๋าใบเล็กๆ แต่จุใช่มั้ยล่า....   Create Date : 15 มีนาคม 2554     Last Update : 15 มีนาคม 2554 20:30:12 น. Counter : 4719 Pageviews.   25 comment Share Tweet

New!!! Blog URL จำง่ายๆ เข้่าง่ายๆ ที่ KirariBlog.com แป้งเพิ่งจดโดเมนเนมเมื่อวานนี้สดๆร้อนๆเลยจ้า จะได้จำง่ายขึ้น สั้นๆ //www.KirariBlog.com หรือพิมพ์สั้นๆ KirariBlog.com ก็สามารถเข้าได้เหมือนกันจ้า   Create Date : 10 มีนาคม 2554     Last Update : 10 มีนาคม 2554 17:42:26 น. Counter : 1474 Pageviews.   4 comment Share Tweet

[Tips] เคล็ดลับการแก้อาการแพ้น้ำจนสิวบุก ง่าย..และได้ผลจริง เราเป็นคนนึงที่เคยหน้าใส แต่ตอนไปเรียนที่ญี่ปุ่น เกิดอาการแพ้น้ำ แพ้เกษรขั้นรุนแรงจนสิวเต็มหน้า หลังจากนั้นก็กลายเป็นคนที่หน้าแพ้ง่ายมากๆ ไม่ว่าจะไปต่างจังหวัด เที่ยวต่างประเทศ ก็มักจะเกิดอาการแพ้น้ำ จนสิวบุกทุกครั้ง ยิ่งไปตามต่างจังหวัดที่ไม่มีประปา มีแต่น้ำบาดาลใช้นี่ล่ะตัวดี แพ้ตลอด... จนล่าสุด ต้นปีก่อน ย้ายมาอยู่คอนโด ต้องใช้น้ำทุกวัน เราย้ายมาตอนที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี ระบบประปาต่างๆก็คงยังไม่สะอาด ช่วงนั้นสิวเห่อมากๆ ไม่รู้จะทำไง ลองมาหลายวิธี จนในที่สุด เจอวิธีที่ได้ผล แถมง่ายแสนง่าย เวลาล้างหน้าเราก็ใช้น้ำปกตินี่แหละ แต่น้ำสุดท้ายที่ใช้ล้างหน้า จะใช้น้ำดื่ม หรือน้ำกรองเพื่อดื่มมาล้าง สุดท้ายก็เช็ดหน้าให้สะอาด และหลังจากนั้นก็ใช้น้ำเกลือ (ที่คุณหมอใช้ล้างแผล หรือล้างพวกเลนส์นี่แหละ) ขวดนึงไม่กี่บาท เราจะซื้อขวดใหญ่ไว้ที่บ้าน และขวดเล็กเก็บไว้วันที่ต้องเดินทาง หยดใส่สำลี แล้วเช็ดให้สะอาดทั่วใบหน้า หลังจากนั้นก็บำรุงหน้าตามปกติค่ะ ง่ายมั้ยล่ะ...แต่ทำแล้วอาการเราดีขึ้นมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าใช้วิธีนี้แล้วสิวจะไม่ขึ้นนะคะ ถ้าหน้าสกปรก หรือแพ้เครื่องสำอาง สิวก็บุกอยู่ดีแหละ พูดถึงยาแต้มสิวบ้าง มีหลายคนถามเข้ามา เราใช้มาหมดแล้วล่ะ แทบจะทุกคลินิคดังๆ แต่ไม่ชอบที่ต้องไปพบหมอแว้บนึง เพื่อขอยา (เสียค่าหมอฟรีๆ) และอีกอย่างเราเจอประสบการณ์ไม่ดีกับคลินิคดังที่นึง จ่ายยามีเสตียรอยด์โดยที่ ไม่บอกเราเลย มิน่าล่ะ ใช้สองวันสิวยุบไปเลย พอลองเอายี่ห้อไปเสิรช์ ก็เพิ่งจะตาสว่างว่ามันทำให้หน้าเราติดยา ก็เลยหยุดใช้ไปเลย ตอนนี้ใช้วิธีรักษาด้วยตัวเอง ยาแต้มสิวที่เราชอบ ก็มี 2 ยี่ห้อ อันแรกคือ MARIO BADESCU Buffering lotion ตัวนี้ก็ดีในแง่ที่ดันสิวอุดตันออกมาได้ แต่ทำให้หน้าลอกเป็นขุย ฝากเพื่อนหิ้วมาให้ จำได้คุ้นๆว่าจ่ายไป 700 บาท (ในเวบเห็นขายกัน 800 -1000) อีกตัว ตอนนี้เป็นลูกรักที่สุด คือ Peach miki White Plan S.O.S. ตัวนี้เคยรีวิวเมื่อนานมาแล้วล่ะ เราก็ยังใช้ต่อเนื่อง มันหายช้ากว่ายี่ห้ออื่น แต่เราชอบที่ไม่ทำให้หน้าเราลอก ไม่กัดผิวเรา แต่สิวค่อยๆยุบ ราคาก็ไม่แพง 290 บาท แต่หาซื้อยากหน่อย เพราะต้องซื้อจากเวบค่ะ (เสิร์ชจาก Google เอาเองนะคะ หาไม่ยากค่ะ) รีวิวอันเก่าดูได้ที่นี่ค่ะ [Skin Care] Review : Peach Miki white plan Treatment gel and S.O.S. gel อันนี้เป็นการแก้ปัญหาจากปลายเหตุ (ซึ่งการแพ้น้ำก็เป็นเหตุสุดวิสัยอ่ะนะ) แต่สาเหตุหลักของการเกิดสิว เราว่าเกิดจากความสกปรกนี่แหละ ยิ่งถ้าแต่งหน้าเยอะๆ หรือแม้แต่ทากันแดด แล้วไม่ล้างหน้าดีดีเนี่ย ก็สามารถอุดตันจนเกิดสิวได้ หากไม่อยากให้สิวแวะเวียนมาหา ก็ดูแลผิวหน้ากันให้ดีนะจ้ะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2554     Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2554 18:07:28 น. Counter : 31691 Pageviews.   21 comment Share Tweet

น้องถุงทอง...หมาน้อยขี้อ้อน เมื่อพูดถึงเรื่องหมา..หมาำ... จริงๆแล้วเราเป็นคนชอบหมามากๆเลยนะ อยากเลี้ยงมากๆด้วย แต่ว่าที่บ้านเราหลายคนเป็นภูมิแพ้ เลยอดไปตามระเบียบ นอกจากหญิงดอลล่าห์แห่งเกาะเสม็ด ที่แค่เห็นหน้าก็อารมณ์ดีแล้ว ก็มีน้องถุงทอง หมาน้อย(ที่อายุไม่น้อย) แสนขี้อ้อนและอารมณ์ดีตัวนี้แหละ ที่เราร๊ากรัก... ถุงทอง...เป็นลูกครึ่งพุดเดิ้ลกับเทอร์เรียค่ะ หน้าตาหวาน ตากลมโต ถ้านับอายุแล้วก็เป็นคุณยายแล้วล่ะ แต่ก็มักจะลืมตัวเวลาเจอกันบ่อยๆ ถุงเป็นหมาของคุณน้าที่สนิทกับบ้านเรามากๆ น้องถุงเลยได้แวะเวียนมาบ้านเราบ่อยๆ บางทีที่บ้านนั้นไปตจว. ก็จะมาฝากเราเลี้ยงบ้าง น้องถุงจะเป็นหมาที่ขี้กลัว โดยเฉพาะเสียงดังๆ ยิ่งถ้าวันไหนฝนจะตกเนี่ย ไม่ต้องกลัวจะเก็บผ้าที่ตากไว้ไม่ทันหรอก ถุงจะวิ่งมาหาตัวสั่นเลย แม่นยิ่งกว่าพยากรณ์อากาศ ตอนที่มานอนบ้านเรา ก็จะจัดที่นอนให้นอนด้านนอก แต่ถุงคงไม่ชินมั้ง ตกดึกจะได้ยินเสียงครืดๆๆๆ ตอนแรกนี่เราแอบหลอนอ่ะ เสียงไรฟระ... แล้วก็นึกออกว่าถุงอยู่นินา เปิดออกไปเลยเห็นนั่งตาแป๋ว อ้อนขอเข้าห้องด้วย สุดท้ายก็ใจอ่อน พาเข้าห้องมานอนด้วยทุกที (แต่เคยเผลอนอนทับมันด้วยอ่ะ) ถ้าพูดถึงเรื่องของกิน ถุงทองจะกระดี๊กระด๊าเวลาได้กลิ่นไก่ทอด ขี้อ้อนขออาหารตลอด นิสัยไม่ดี...แต่ก็อดให้ไม่ได้ทุกที (นั่นแหละ ต้นเหตุของความนิสัยไม่ดี) เรื่องวีรกรรมขำๆที่ได้ฟังจากน้ามา มีเยอะแยะ แต่ที่เราชอบสุดก็คงเป็น ตอนที่แอบแปลงตัวเป็นตุ๊กตาบนที่นอน... เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ที่บ้านน้าอ่ะ เค้าห้ามถุงเข้าไปนอนที่ห้อง บนเตียง แต่ด้วยความซนหรืออย่างไร น้องถุงเราก็แอบไปนอนบนเตียง รุ่งเช้าน้าก็เรียกหาใหญ่ ถุงหายไปไหนๆๆๆ แล้วก็เปิดห้องไปดู ตอนแรกก็หาไม่เจอ จนมองกวาดตาไปอีกรอบ ฮั่นแน่ะ...ออกมาซะดีดีนะ เห็นนะนังถุง! แอบไปเนียนอยู่ในมุมตุ๊กตาหัวเตียง หุหุ และแล้วน้องถุงก็ย่องลงจากเตียงอย่างเงียบๆ ^ ^ ความขี้อ้อนของถุงมักจะนำเรื่องเจ็บตัวมาให้ถุงเสมอ... เวลาจะนั่ง จะนอน ถุงมักเอาส่วนหนึ่งของร่างกาย แตะตัวเราเสมอ (ส่วนมากจะเป็นก้น) บางทีเรานั่งไม่ได้มองไง เลื่อนเก้าอี้ไปโดนบ้าง เกือบเหยียบบ้าง แต่เป็นนิสัยของถุงล่ะ เป็นสาวขี้อ้อน แล้วก็ยังเป็นสาวขี้เหงาด้วย ตอนนี้เลี้ยงหมาไม่ได้ ก็แอบรักหมา ชาวบ้านไปก่อน อิอิ   Create Date : 30 มกราคม 2554     Last Update : 30 มกราคม 2554 13:28:03 น. Counter : 1570 Pageviews.   6 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com