OP "MAYA" จะหวาน หรือ จะเฉี่ยวดีล่ะเนี่ย... เมื่อวันก่อนตอนพักเที่ยงเดินผ่านบูธ Oriental Princess เห็นเค้าจัดบูธคอเล็คชั่นใหม่ที่ชื่อว่า MAYA จัดเป็นเซ็ทได้น่ารักดี พรีเซ็นเตอร์สวยมากกก ไอ้เราก็เหมือนโดนมนต์สะกดดูดเข้าไปในร้านอย่างบอกไม่ถูก ฮ่าๆ มีแววเสียทรัพย์อีกแล้วงานนี้... แต่ละเซ็ทมีพวกเมคอัพต่างๆแบ่งตามโทนสี มีขนตาปลอมด้วย แล้วก็มีน้ำหอมอีก โฉบไปโฉบมาก็เริ่มหวั่นไหวให้กับ 2 คอเลคชั่นนี้ล่ะ... Maya Orchid Heaven ซึ่งเน้นโทนสีชมพูหวานใส ให้อารมณ์สาวหวานสุดๆ บลัชสีหวานมากกกก ปัดแล้วชมพูอ่อนๆ สวยดี ส่วนอีกรุ่นที่กรี๊ดๆอยู่ก็เป็นรุ่น Maya Moonlight Cactus สีโทนเทาอมเขียวเข้มๆ ทำสโมคกี้อายน่าจะสวยน่าดูล่ะ ลองสีดูแล้วก็เบลนกันได้สวย เอาล่ะสิ ลุคไหนดีล่ะเนี่ย... หวาน หรือ เฉี่ยวดี แต่จะถึงเวลาเข้างานแล้ว เลยบอกบีเอไปว่า “เดี๋ยวแวะมาใหม่นะคะ” บีเอก็น่ารักค่ะ หยิบโปรชัวร์ให้มาดูทั้ง 5 สีเลย ในแผ่นพับก็ดีนะ ด้านหลังแผ่นมีสอนวิธีแต่งหน้าด้วย กลับบ้านมาก็เลยลองเสิร์ชดูพวกฮาวทูกับรีวิวต่างๆ ก็สวยทั้งคู่ สวยคนละแบบ ตัดสินใจไม่ได้อีกแล้ว... เข้าไปดูในเวบของ OP มาเหมือนกัน ในเวบนี่แบบว่า เริ่ดดดสุดๆเลยอ่ะ เพิ่งจะเคยเห็นเว็บไทยทำได้เจ๋งขนาดนี้ สวยและมีประโยชน์มาก มีสอนแต่งหน้าจากเฉดสีต่างๆ สอนบุคลิกภาพ แต่ที่เราชอบสุดก็คงเป็นการสอนวิธีใช้กลิ่น แปลกดี ไม่เคยรู้ทริคแบบนี้มาก่อน อย่างการฉีดน้ำหอม ปกติเราก็ฉีดตามซอกคอ ข้อแขน แต่นี่มีอีกหลายทริคที่เราไม่เคยทำ เช่น การฉีดน้ำหอม 3 จุด แล้วให้เดินผ่าน กลิ่นที่ได้จะบางๆ แต่กระจายทั่วตัว เอ่อ...อีกอย่างนึง ครูสอนสวยม๊ากกกก ดูเพลินเลย ลองจิ้มเข้าไปดูได้ค่ะ เวบเค้าทำได้น่าสนุกดี เหมือนเข้าคอร์สเรียน Make Over เลย www.orientalprincess.com/mayaacademia ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเอาชุดไหนดี ใครเชียร์คอเลคชั่นไหนแวะมาบอกได้นะคะ ขอเวลาคิดอีกแป้ป (หวังว่าของจะไม่หมดไปก่อนนะ Limited ด้วยสิ) แล้วจะมาฮาวทูให้ชมกันนะจ๊ะ บะบาย... หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 27 เมษายน 2553     Last Update : 30 เมษายน 2553 14:02:25 น. Counter : 1509 Pageviews.   17 comment Share Tweet

สาวสวยบุกห้อง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีพี่สาวแสนสวยแวะมาเยือนถึงห้อง แต่ก่อนจะมาเยี่ยมที่ห้อง พี่แกเล่นช้อปมาราธอนรอบกรุง นับถือเลยจริงๆ จาก CTW ไปแพลตตินั่ม แล้วก็มาสีลมมาเจอกับเรา หลังจากนั้นก็นั่งใต้ดิน ไปกินข้าวแกงกะหรี่ที่ร้าน RICE สาขาลุมพินี Life center ออกทางออกที่ 2 เส้นสาทร เดินเข้าไปร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ จากที่ไม่ได้ไปกินมาปีกว่าๆ เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย แต่ก่อนเราจะไปรักษาสิวที่คลินิคตรงตึกนี้เดือนละ 2 ครั้ง ก็จะได้กินทุกเดืือนเลย แต่ก่อนเนี่ย แกงกะหรี่จานนึงจะไม่ได้ใหญ่มาก ใส่ในจานที่เค้าใส่กราแตง หรือพวกโดเรีย อบมาร้อนๆ เมนูที่เราเคยสั่งเหมือนจะหายไป ทุกทีจะชอบสั่งแกงกะหรี่อบชีส แต่ไปคราวนี้ไม่มีละ จำได้ว่าแต่ก่อนจะมีซุปมาให้ด้วย แต่ตอนนี้ไม่มี กลายเป็นข้าวแกงกะหรี่ไซส์ XL แทน ส่วนตัวเราชอบแบบเก่านะ รู้สึกว่ากำลังดี อันนี้มันมากไปหน่อย ขนาดเราที่ว่ากินเยอะๆแล้วเนี่ย ยังเหลืออยู่ 2 คำเลย ไม่ไหวจริงๆพุงป่องหมด รอบนี้ที่สั่งไปเป็น แกงกะหรี่ Ebi koroke ก็โอเคค่ะ อร่อยแต่ว่าเหมือนแบบเดิม ที่เคยกินมันอร่อยกว่า แกงก็ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ โคโรเกะก็ไม่ค่อยร้อนแค่อุ่นๆ ยำสาหร่ายก็อร่อยดีค่ะ ถ้วยเล็กไปนิด ก็สมราคา 80 บาทล่ะมั้ง ส่วนสลัดมันฝรั่ง เฉยๆอ่ะ โดยรวมเราชอบ RICE เวอร์ชั่นเมื่อปีก่อนมากกว่า แต่ถ้าเทียบเรื่องรสชาต เราว่าก็ใช้ได้เลยล่ะ อร่อยกว่าหลายๆร้านที่เคยกินมา แต่น่าเสียดายที่สุด ที่นี่ไม่มีพุดดิ้งงงง ต้องไปสาขาสยามเท่านั้น อด หลังจากอิ่มกันแล้วก็ลงใต้ดินมุ่งสู่ห้องของเรา (ที่ยังไม่เสร็จดี 55) นั่งเม้าท์ๆกันพักนึง พี่โบว์ก็รีเควสพุ้ดดิ้ง แต่...พุ้ดดิ้งน่ะ ทำไว้เมื่อวันอาทิตย์ แช่เย็นเอาไว้คิดว่าไม่เป็นไร ที่ไหนได้แข็งเป๊ก เป็นไอติมไปเลย หน้าแตกกกกก 555+ พี่โบว์ยังทักว่า "เห้ย ไม่เห็นเหมือนในรูปเลยอ่ะแป้ง " แหม๊....เอาใหม่ครั้งหน้านะคะ จะทำให้สดๆเลย พี่โบว์ซื้อกางเกงบอลลูนลายโบว์สีชมพูมาฝากด้วย น่ารักมากๆ เดี๋ยวมาแปะรูปเพิ่ม ปิดท้ายก็ถ่ายรูปกันตามระเบียบ แชะๆๆๆๆๆๆๆ รักพี่สาวคนนี้ที่ซู้ดดดดด หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 02 เมษายน 2553     Last Update : 2 เมษายน 2553 10:24:35 น. Counter : 1262 Pageviews.   14 comment Share Tweet

พุดดิ้งงงงง เมื่อหลายวันก่อนอ่านไดอารี่น้องใหม่ที่อัพเรื่องพุ้ดดิ้งที่ร้าน Rice ก็เกิดอารมณ์อยากกินสุดๆ ร้านก็อยู่ไม่ไกลด้วย แต่ไม่ได้ไปซักที เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ได้กลับบ้าน เพราะพ่อกะแม่ก็จูงมือกันไปเที่ยวกรีซ น้องก็ไปญี่ปุ่น เหลือคนเดียวจะกลับไปเหงาทำไม เลยอยู่คอนโด ออกไปช้อปปิ้งดีกว่า ตอนเย็นๆก็นั่งใต้ดินไปคาร์ฟูรัชดา ของเยอะดี แต่คนก็เยอะมากด้วย ซื้อกับข้าวมาเยอะแยะ รวมทั้งเจ้าผงพุดดิ้งมาด้วย ผงพุดดิ้งกล่องนี้ขายที่ไทยราคา 112 บาท ทำได้ประมาณ 3-4 ถ้วย วิธีทำก็แสนง่าย แต่น่าแปลก ทำไมข้างกล่องไม่มีฉลากภาษาไทยเลย แล้วยังงี้คนที่อยากทำแต่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกล่ะจะทำไง ก็ไม่แปลกใจที่ของเหลือบานเบอะ ฝุ่นจับ แต่เราไม่ถือหรอก อยากกินนิ ซื้อมาลองเล่น 1 กล่อง แล้วจัดการทำเลย หลังจากแกะกล่องมาก็เทผงพุ้ดดิ้งลงในชามใบใหญ่ ใส่น้ำอุ่นๆประมาณ 70 องศา ลงไป 200มิลลิลิตร แล้วก็กวนๆๆๆๆๆให้เข้ากัน หลังจากกวนเข้ากันดีแล้วก็เติมน้ำธรรมดาลงไปอีก 100 มิลลิลิตร แล้วก็กวนๆ พอกวนได้ที่ก็ตักใส่แม่พิมพ์ แต่เราไม่ได้ซื้อมาหรอก เลยใส่ถ้วยกาแฟทรงกลม ได้ประมาณ 3 ถ้วย แล้วก็นำไปแช่เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไป เสร็จแล้วในกล่องจะมีซองน้ำตาลทรายแดงมาให้ ก็เทลงไปใส่น้ำอุ่น 1 ช้อนโต๊ะ กวนๆๆๆให้เข้ากัน แล้วก็ตักราดพุ้ดดิ้งที่เทออกจาถ้วยแล้ว แค่นี้เอง พุ้ดดิ้งแสนง่าย รสชาดก็โอเคเลยล่ะ แต่ยังสู้พุ้ดดิ้งสูตรเตาอบไม่ได้ ครั้งหน้าถ้ามีอารมณ์ทำ จะลองทำแบบพุ้ดดิ้งเตาอบบ้าง หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 29 มีนาคม 2553     Last Update : 29 มีนาคม 2553 9:41:59 น. Counter : 1549 Pageviews.   16 comment Share Tweet

Tokyo omiyage ~ของฝากจากพี่ผึ้ง~ เมื่อวานก่อน มีพัสดุกล่องโตส่งมาที่ห้อง เห็นชื่อผู้ส่งแล้วก็ลัลล้ารีบเปิดกล่องทันทีเลย ของฝากจากพี่ผึ้งนี่เอง.... เรารู้จักกับพี่ผึ้งในเน็ทนี่แหละ ด้วยความที่ทำงานสายญี่ปุ่น และก็ชอบเมคอัพ ของญี่ปุ่นเหมือนๆกัน ก็เลยสนิทกันง่ายมาก ทุกครั้งที่เจ๊แกไปญี่ปุ่นก็ต้องซื้อของมาฝากเราทุกที เกรงใจจริงๆ แต่รอบนี้ดูน่าอิจฉากว่าทุกที เพราะไปฉลองวันเกิดกับดาร์ลิ้งค์ที่ญี่ปุ่นโน่นนน รอบนี้ได้ของฝากมาหลายชิ้นเลย หลายชิ้นเราไม่เคยใช้เลยล่ะ ได้โอกาสลองซะ... Mod's hair wax ชิ้นนี้เราฝากพี่ผึ้งซื้อเองล่ะ หลังจากหมดไปแล้วกระปุกนึง ใช้ดีมาก ไม่แพงด้วย เนื้อแว๊กซ์เป็นไฟเบอร์ หลังจากจัดทรงแล้วจะไม่ค่อยเหนียวเหนอะหนะ รุ่นที่เราใช้ก็รุ่นนี้แหละ สีเหลืองแบบ Nuance CANMAKE Lash No.7 ขนตาล่างปลอมของแคนเมค เบอร์ 7 ฮิตสุดแล้ว เจ๊ผึ้งบอกว่าหาซื้อหลายร้านกว่าจะเจอ ปกติเราไม่ค่อยติดขนตาปลอมหรอก เพราะขนตายาวอยู่แล้ว แต่พักหลังเหมือน มันผลัดขน??? ขนตาร่วงแต่เริ่มงอกใหม่เส้นบางๆ อันนี้ฝากซื้อเผื่อต้องไปออกงานที่ไหน ตาจะได้เด้งๆ แฮ่... Ettusais Pore coat เบสปกปิดรูขุมขนจากเอตูเซ่ จำได้ว่าตัวนี้พี่ผึ้งเคยแนะนำไว้ แต่ก้ไม่ได้ไปหาซื้อ หลังจากลองใช้แล้วก็โอเคเลยอ่ะ ปกปิดได้ดี ไม่แพ้ ลักษณะมันเป็นครีมอัดแข็ง ความรู้สึกเหมือนซิลิโคนแข็งเลยอ่ะ ปาดลงผิวแล้วนุ่มๆลื่นๆดี KANEBO Suisai makeup remover remover ตัวนี้ไม่เคยใช้เลยล่ะ ลองแล้วรอบนึง หลังใช้หน้านุ่มดี เช็ดสิ่งสกปรกอกได้หมดเลย หลังจากนวดๆวนๆแล้ว เหมือนมันจะมันๆหน่อย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ล้างออก สำหรับผิวแพ้ง่าย หมอเคยบอกว่า ใช้แบบครีมนี่แหละดีสุด แบบออยล์ล่ะเสี่ยงสุดเลย ไม่ว่าเค้าจะเทสท์มาแค่ไหนก็ตาม แต่ก็รับประกันไม่ได้หรอกว่าจะไม่อุดตัน Muji concealer (white) ชอล์คขาวมุจิตัวนี้ยังไม่เคยใช้เลยล่ะ เทพช่ายม๊า อ่านในบลอคหลายๆคนชอบกันมาก เดี๋ยวต้องหัดใช้วาดหนวดแมวกะเค้าบ้างแล้ว Lavshuca concealer คอนซีลเลอร์ตัวนี้เมื่อปีก่อนเราซื้อให้แม่ใช้ สรุปคือ เค้าชอบมากกกกกก นี่เพิ่งหมดไปเลยฝากซื้ออีกอัน เราเอามาลองใช้ ชอบเหมือนกันค่ะ มันปกปิดดีทีเดียว ไม่เป็นคราบ เนื้อค่อนข้างหนาค่ะ เดี๋ยวใครไปญี่ปุ่นว่าจะไปฝากซื้อมาใช้เองซักแท่ง LANCOME le rouge absolu 302 เปิดมาอยากจะกรี๊ดด สีสวยจัง ปกติเราไม่ค่อยได้ซื้อ คสอ ของฝรั่งเท่าไหร่ค่ะ ยิ่งลิปแล้วเนี่ย เราชอบแนวญี่ปุ่น คือบางๆใสๆ สีแน่นแต่ไม่เข้มเกิน แท่งนี้สีสวยมากเลย ชมพูนู้ดๆ มุกๆด้วย แพคเกจก็สวย หมดแล้วล่ะ ของฝากจากพี่ผึ้ง ต้องขอบคุณพี่ผึ้งมากๆเลยค่าสำหรับของฝาก ชอบทุกชิ้นเลยล่ะ วันไหนแวะมาเที่ยวกทม.อย่าลืมแวะมากินข้าวกันนะคะ   Create Date : 25 มีนาคม 2553     Last Update : 25 มีนาคม 2553 14:10:50 น. Counter : 1893 Pageviews.   13 comment Share Tweet

my amaryllis เมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมา แฟนเราไม่ได้ให้ดอกไม้หรอกนะ ให้ของขวัญเป็นกระเป๋าและให้เจ้านี่มาปลูก (รูปจากคุณแฟน) เป็นหน่อของต้น amaryllis หรือในภาษาไทยเรียกกันว่า ว่านสี่ทิศค่ะ พอได้มาปุํปเราก็ลงมือลงดินเลย ช่วง 2-3 วันแรกไม่ได้ถ่ายรูปเลย มันเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มาถ่ายทุกวันช่วงมันจะออกดอกเนี่ยแหละ เรารดน้ำทุกวัน วันละนิด ปลูกอยู่หน้าระเบียงคอนโดเราเองแหละ ให้มาเป็นหัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันอ่ะ สนุกดี ได้ปลูกเองเลย ถ้าไม่ออกดอกคงเศร้าน่าดู ฮ่าๆ ผ่านไปไม่นาน บานแล้วๆ สีส้มสวยมากเลย หลังจากมันบานครบก็จะเหี่ยวพร้อมกันทันทีเลยค่ะ พอมันเหี่ยวเราก็ตัดช่อที่เหี่ยวทิ้งไป เหลือแต่ใบๆ นี่ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วยังไม่เห็นมีช่อใหม่เลย ใครเคยปลูกต้นนี้บ้างคะ อีกนานมั้ยกว่าจะออกดอกใหม่อ่ะเนี่ยย ข้อมูลเกี่ยวกับดอก amayllis จากเวบไม้ประดับ.คอม ลักษณะทั่วไป ว่านสี่ทิศเป็นพรรณไม้ดอกอายุสั้น พุ่มสูง 35 - 60 เซนติเมตรที่มีลักษณะ มีลำต้นเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน และส่วนที่โผล่ขึ้นมานั้นจะเป็นส่วนก้านใบและตัวใบเท่านั้น ซึ่งหัวนี้ลักษณะจะคล้ายๆกับหอมหัวใหญ่ สำหรับใบที่โผล่ขึ้นมาเหนือดินนั้น จะมีลักษณะเป็นรูปหอกเรียวยาว ยาวประมาณ 15 - 30เซนติเมตร ดอกออกปลายก้าน ออกเป็นช่อ 4 - 8 ดอก หันไปทั้งสี่ทิศ ดอกรูปถ้วย ขนาดดอก 8 - 15 เซนติเมตร มี 6 กลีบ มี สีขาาว สีชมพู สีแดง และบาางชนิด มีแถบสีต่างๆพาดกลีบ ดอกแรกที่จะบานจะรอจนดอกที่ 4 บานจึงจะเหี่ยว ออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคม - เดือนมิถุนายน หัว รูปกลม หัวโตเต็มที่พร้อมให้ดอกมีขนาด 4 - ุ เชนติเมตร ส่วนหัวลูกขนาดเล็ก แยกหัวนำมาปลูกเลี้ยง ใบให้หัวโตเต็มที่ แล้วจะออกดอกต่อไป สภาพการปลูก ว่านสี่ทิศเป็นพรรณไม้ทีปลูกที่แสงแดดจัด เป็นไม้กลางแจ้ง ที่ชอบแสงแดดมากๆเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยหรือดินปนทราย ระบายน้ำได้ดี การดูแลรักษา เป็นพรรณไม้ที่ ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง ในช่วงปลูกให้ปุ๋ยที่มีโพแทสเซียม ช่วยบำรุงหัว เมื่อดอกโรย รดน้ำเลี้ยงใบต่อไปให้หัวใต้ดินเจริญเติบโตและเก็บสะสมอาหาร จนถึงต้นฤดูหนาว ไม้หัวส่วนใหญ่พักตัวในฤดูหนาว ควรงดการให้น้ำ ที่มา //www.maipradabonline.com/weekly/wanseetit.htm ความเป็นมงคล เชื่อกันว่าถ้าเลี้ยงว่านสี่ทิศให้ออกดอกพร้อมกัน ได้ทั้งสี่ดอกหรือสี่ทิศผู้เลี้ยงจะมีโชคลาภ และหากว่าในช่วงที่ว่านสี่ทิศกำลังออกดอกทั้งสี่อยู่นั้น ผู้เลี้ยงคิดจะทำอะไร ก็จะประสบความสำเร็จทุกประการ แต่ถ้าหากว่า ว่านสี่ทิศออกดอกไม่ครบทั้งสี่ดอก หรือออกดอกแค่ 2 หรือ 3 ดอก ก็จะไม่เป็นผลดีแก่ผู้เลี้ยง เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าจะมีสิ่งไม่ดีเกิดแก่ผู้เลี้ยง ที่มา //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=teppei-teerak&month=04-2009&date=15&group=3&gblog=4   Create Date : 17 มีนาคม 2553     Last Update : 18 มีนาคม 2553 7:22:18 น. Counter : 1384 Pageviews.   4 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com