Group Blog
 
All blogs
 

[Hair] Wolf Cool Beige: รีวิวสีผมใหม่...สุดchic โดย Ryu @ZAN Haircraft


เมื่อสัปดาห์ก่อนโน่นเรานัดกับพี่โบว์ Crazy Rabbit พี่สาวสุดสวยมาทัวร์กันแบบ
Happy Beauty 1 day Trip ช่วงเช้ามาคุยงานกันนิดหน่อยที่ Lobby condo
ถึงการปรับโฉมวงเดือนรีสอร์ทที่เสม็ด แฟนเราได้ออกแบบไว้คร่าวๆแล้วล่ะ
ก็สวย และชิล ทีเดียว หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่ BEKKU ถึงแม้จะเป็นอาหารที่
ไม่ค่อยจะ beauty ซักเท่าไหร่ แ่ต่ก็ทำให้เรา Happy ได้สุดๆเลย
(มื้อนี้หมอแม้วมาแจมด้วย ฮ่าๆ อิ่มอ้วนกันถ้วนหน้า)




อิ่มท้องแล้วก็ไปเดินย่อยกันที่ Emporium แล้วก็ไปนวดหน้ากันต่อที่
Cherry Blossom Spa ตอนนี้คอร์สนวดหน้าอัพมาเป็นราคาปกติแล้วจ้ะ
1,800 บาท แต่เราซื้อวัลเชอร์ไว้เมื่อปีก่อน เลยนวดได้ในราคาโปรโมชั่น

นวดไปหลับๆไป ตื่นมาหน้าเด้งดึ๋ง....เสร็จแล้วก็รีบนั่งรถไปหาริวทันที
เพราะเลยเวลานัดไปเกือบ 30 นาทีซะแล้ว

(สำหรับคนที่อ่านบล๊อกเราประจำจะทราบดีว่า ร้านประจำที่เราทำผมจะชื่อว่า
ZAN Haircraft ค่ะ เป็นร้านญี่ปุ่น ทุกอย่างใช้ของญี่ปุ่นที่อ่อนโยนต่อผมและ
หนังศีรษะ ราคาอาจจะแพงกว่าร้านไทยพอสมควรนะคะ สำหรับรายละเอียด
จะเขียนไว้ช่วงท้ายค่ะ)

----------------------------------------------------------------------------


ไปถึงก็คุยเรื่องสีผมที่อยากจะทำในครั้งนี้...
แต่ก่อนอื่นไปดูสีผมครั้งก่อน (ที่เราไม่ได้เขียนเล่าไว้ แฮะๆ)




จากครั้งก่อนที่ริวทำให้ จะเป็นสีโทนแอชบลอนด์ ผสมกับไฮไลท์สีบลอนด์
และโลว์ไลท์สีดำสนิท ผลก็คือไม่ถูกใจค่ะ มันแรงไป ก๊อยไป

เลยลงสีใหม่ทับ เป็นโทนม่วง และแอช ก็ได้สีที่ถูกใจ



ผ่านไป 1 -2 สัปดาห์สีแอชเริ่มลอกออกแล้วล่ะ พวกโลว์ไลท์กับไฮไลท์เลย
เริ่มกลับมาเ่ด่นชัดอีกครั้ง (แต่ไม่เท่าตอนแรก)




พอมาถึงตอนนี้ ชักอยากได้สีใหม่ ไม่เอาแรงแล้ว อยากได้โทนน้ำตาลเบจ
สีนุ่มๆ ไม่ออกเหลืองแบบก่อน เลยให้การบ้านริวไป ผสมสีให้สวยๆหน่อยน๊า



ในวันนี้ได้ทั้ง Ryu และ Mao มาดูแลผมให้ค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องลง Clear Color
เพื่อล้างสีดำและปรับสีผมให้สว่างเท่ากันก่อน (แต่พวกไฮไลท์ยังคงอยู่ค่ะ)

หลังจากลงแล้วได้ประมาณนี้ค่ะ



ริวบอกว่าสีผมเราออกโทนน้ำตาลแดงอยู่เยอะ ผสมกับบลอนด์
ถ้าลงสีเบจไปเลยน่าจะออกโทนเหลืองเด่นชัด เลยใช้โทนเบจ ผสมกับ โทนเขียว
เพื่อกลบสีเหลืองค่ะ ริวก็จะแว้บไปหลังบ้าน ผสมสีเพื่อมาลงให้

นอกจากสีที่ผสมแล้ว ริวบอกว่า ปัจจัยอีกอย่างคือ Timing
จะเอาสีที่อยากได้ ถ้าไทม์มิ่งไม่ดี สีก็เพี้ยน ที่นี่จะคอยเช็คสีอยู่เรื่อยๆค่ะ



หลังจากลงสีเสร็จ ก็ทำ Treatment กันต่อเลย ที่ร้านนี้จะใช้ของทุกอย่าง
จากแบรนด์ ARIMINO ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ร้านทำผมญี่ปุ่นส่วนมากใช้กันค่ะ
ทรีทเม้นท์ที่ใช้ครั้งนี้ก็เป็นตัว Hi-end จากแบรนด์ ชื่อว่า Caretrico
บำรุงดีมากๆ เราเคยซื้อออยล์บำรุงมาค่ะ ใส่แล้วผมเด้ง เงาทีเดียว

หลังจากนั้นริวก็เซอร์วิส ตัดผมม้าให้ เป็นอันเสร็จ








สีที่ได้ เราชอบมากกกกกกก เป็นโทนเบจที่สวย (แต่กลัวอยู่ได้ไม่นานจัง
สีแบบนี้ชอบลอกออกง่าย) แต่เมื่อไม่นานมานี้ คุณแป๊ะ Salon de Bear
ได้ส่ง Sample Shampoo รุ่น Color Lock มาให้ช่วยรีวิว เลยเข้าล๊อคเลย
ได้ลองใช้กับผมทำสีหมาดๆ ตอนนี้เพิ่งใช้หมดไปชนิดนึง ชอบมากก (สระ 3 ครั้ง)
schwarzkopf / bonacure / color save shampoo [sulfate free]
สีผมยังคงสีเดิม ผมนิ่มดี มีแววเสียตังค์ซื้อต่อ ฮ่าๆ



พวกไฮไลท์ยังคงสีบลอนด์อยู่ค่ะ แต่ก็สวยดีเวลาโดนแสง





Image Hosted by ImageShack.usImage Hosted by ImageShack.us



Information:

ในครั้งนี้เราทำสีทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรก Clear Color 1,000 บาท
ครั้งที่ 2 ลงสี 2,000 บาท และ Treatment หลังทำสี 800 บาท
รวมทั้งหมด 3,800 บาท

ZAN Haircraft มี 2 สาขา คือ สุขุมวิท 31 และสาขา อโศก สุขุมวิท 14
เราไปที่สาขาอโศกนะคะ เดินทางง่าย ต้องโทรจองล่วงหน้าค่ะ
ช่างเป็นชาวญี่ปุ่น พูดไทยได้ ช่างประจำ (มือหนึ่ง) ชื่อ ริว
จะประจำทั้ง 2 สาขา ต้องโทรถามค่ะ

พิกัดร้าน สาขา อโศก สุขุมวิท 14 โทร 022613422




ราคาเิริ่มต้น ถ้าผมยาวก็จะบวกเพิ่ม 500-1000 อ่ะค่ะถ้าจำไม่ผิด
ตัด 700++
ดัด (รวมตัด) 2100++ ดัดที่นี่จะแนวยุ่นค่ะ คือลอนจะคลายๆดูเป็นธรรมชาติ
แต่สาวไทยหลายคนไม่ค่อยชอบนะเพราะว่าอ่อนไป ต้องอาศัยการเซ็ทผมค่ะ
ทำสี 1500++
ยืดถาวร 3100++
ยืดเฉพาะส่วนก็แล้วแต่ช่างค่ะ แนะนำว่าตกลงเรื่องราคาก่อนตัดนะคะ
เพราะที่นี่ไม่รับบัตรเครดิตจ้า








Kirari's talk






 

Create Date : 29 มกราคม 2554    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 12:20:50 น.
Counter : 32677 Pageviews.  

[Hair] D.I.Y. เปลี่ยนสีผมด้วยโฟม กับ Liese Milktea Brown


เมื่อปลายปีก่อนเราได้รับเชิญไปสาธิตการเปลี่ยนสีผมด้วย Bubble Hair Color
จาก Liese (ลิเซ่) นวัตกรรมสุดเจ๋งในการเปลี่ยนสีผม
แอบเขินๆเหมือนกันนะ ตอนแรกนึกว่าจัดเป็น Workshop ธรรมดาๆ
ครั้งนี้ต้องขึ้นเวทีกะพี่วุ้นเส้นอีก โอ้ววว...เขิน

หลายๆคนคงแอบสงสัย ทำไมหน้ากล่องเหมือน Prettia เลยล่ะ
คำตอบคือ ยี่ห้อเดียวกันค่ะ แต่พอบินมาไทยแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นลิเซ่ไปเรียบร้อย
ไม่ต้องแปลกใจไปค่ะ ของเหมือนกัน ต่างกันแค่กล่อง

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us


ในครั้งนี้จะมาแนะนำการเปลี่ยนสีผมพร้อมกับรีวิวสีนี้นะคะ
สีที่ใช้ในครั้งนี้คือ Milktea Brown เป็นโทนน้ำตาลอ่อนประกายทองนิดๆค่ะ

*ก่อนทำการเปลี่ยนสีทุกครั้งอย่าลืมเทสต์ว่าแพ้หรือเปล่านะคะ


อุปกรณ์ในกล่อง

Image Hosted by ImageShack.us

*** สำหรับสาวผมสั้น หรือผมประบ่า ใช้แค่กล่องเดียวก็พอค่ะ
ผมยาวแต่ซอยๆประมาณพี่วุ้นเส้น เค้าก็บอกว่ากล่องเดียวพอด้วยล่ะ น้ำยามันเยอะมากค่ะ
เราทำแล้วเหลืออยู่พอประมาณ แต่ก็พยามบีบใส่ๆไปให้เยอะๆ จะได้สีสวย ^^

มาเริ่มกันเลย

Image Hosted by ImageShack.us

ขั้นแรกคือการผสมน้ำยาทั้งสอง เทขวดเล็กลงขวดใหญ่แล้วค่อยๆพลิกข้อมือไปมา
ให้น้ำยาผสมกัน ห้าม...เขย่านะคะ อย่าทำให้มันเกิดฟองข้างในค่ะ
เดี๋ยวจะบีบแล้วไม่เป็นโฟมนะจ้ะ

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us


หลังจากนั้นก็เปลี่ยนหัวจากจุกปิด เป็นหัวโฟมค่ะ
แล้วก็ค่อยๆ บีบลงฝ่ามือ ห้ามบีบลงศีรษะโดยตรงนะคะ
โฟมเปลี่ยนสีผมมีข้อดีอีกอย่างคือ ไม่ต้องแบ่งช่อผม
ก็ทำออกมาสวยได้ สีติดทั่วศีรษะค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

ลงสีไปเรื่อยๆค่ะ แป้ปเดียวก็ทั่วศีรษะแล้วล่ะ เทคนิคง่ายๆให้ยกผมขึ้นสูงๆ
แล้วค่อยๆขมวดปมค่ะ ปลายผมก็จะไม่เลอะเทอะเสื้อผ้าเราแล้วค่ะ
โฟมค่อยข้างเหนียวค่ะ ไม่หกเลอะเทอะ

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us


หลังจากนั้นก็ทิ้งไว้ 20-30 นาที ในระหว่างที่รอเวลา ก็ขยำๆเหมือนสระผมไปด้วย
สีก็จะติดสม่ำเสมอ สวยงามจ้า


หลังจากครบเวลาแล้วก็ไปล้างออกด้วยน้ำอุ่นเล็กน้อย สีที่ได้จะสวยค่ะ
สระผมได้ตามปกติค่ะ เสร็จแล้วก็ไดร์ให้แห้ง ปิดท้ายด้วยการใส่ทรีทเม้นท์ซอง
ที่แถมมา แบบไม่ต้องล้างออกค่ะ


สีผมที่ได้ประมาณนี้จ้า....

Image Hosted by ImageShack.us


มาดูสีในที่ร่มบ้าง..

Image Hosted by ImageShack.us


ในงานนี้หิ้วพี่สาวคนสวยไปด้วยอีกคน และก็มีน้องพลอยไปด้วยล่ะ
เรียกว่าไปพักผ่อนนอกสถานที่กัน ในครั้งหน้าค่อยมาอัพบรรยากาศในงานอีกทีนะคะ

Image Hosted by ImageShack.us

บ๊ายบาย


ข้อมูลเพิ่มเติมของ Liese

ตอนนี้วางขายที่ห้างเรียบร้อยแล้วจ้า แอบเห็นโฆษณาตามแมกกาซีนกันแล้วล่ะ
ราคากล่องละ 350 บาท มี 12 สีให้เลือกค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us
Image Hosted by ImageShack.us


Image Hosted by ImageShack.us


คลิกที่ Link ด้านล่างเพื่อดูรูปใหญ่ได้เลยจ้า

Liese Hair Color Chart






Kirari's talk






 

Create Date : 15 มกราคม 2554    
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2554 11:50:46 น.
Counter : 39436 Pageviews.  

[Hair] FAQ: Hair color : ไขข้อข้องใจของใครหลายๆคน ตอนที่ 1

หลายๆคนคงมีความกังวลใจเกี่ยวกับสีผม ทำแล้วจะเข้ากับเราหรือไม่
ทำสีไหนดี สีไหนสวยกว่ากัน ทำที่ร้านดีหรือทำเองดี
หลากหลายปัญหาที่ในช่วง 2-3 ปีนี้ได้รับคำถามเหล่านี้มา

Image Hosted by ImageShack.us

ในครั้งนี้เลยขอเล่าประสบการณ์ตรงในฐานะ 1 ในผู้บริโภคให้ฟังก็แล้วกันจ้า
ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา เราไม่ค่อยได้ทำสีเองมากเท่าแต่ก่อน
เริ่มเข้าร้านทำผมบ่อยขึ้น เป็นเพราะอะไร อ่านได้ด้านล่างนี้เลย....



Image Hosted by ImageShack.us

เข้าสู่ประเด็นแรกก่อน...

คำถามที่เจอบ่อยที่สุดตั้งแต่ทำบล๊อกมาคือ "ทำสียี่ห้อไหนดีคะ"

ส่วนตัวเราแล้วชอบสีจากโซนญี่ปุ่นค่ะ เลยขอยกมาแต่ยี่ห้อดังๆที่หลายๆคน
ชอบถามกันเข้ามานะคะ

Image Hosted by ImageShack.us

:: PALTY ::
สำหรับครีมเปลี่ยนสีผมที่ให้สีที่สวย และติดชัดเจน เราชอบยี่ห้อนี้สุดค่ะ
ตัวครีมไม่เหม็น ใช้แล้วสบายจมูก ยิ่งรุ่นเก่าๆที่เป็นกลิ่นแอ๊ปเปิ้ลนี่หอมสุดๆ
ทำแล้วผมเสียมั้ย...แรกๆไม่เสียค่ะ แต่ถ้าหลังทำแล้วไม่บำรุงเลย เสียและแห้ง
มากกว่าเดิมค่ะ สีของพาลตี้ค่อนข้างหลากหลาย แต่ถ้าอยากได้ผมสีเกือบเข้ม
แต่ไม่เอาเข้มไปเลยนี่หายากค่ะ เพราะพาลตี้เน้นโทนสีอ่อนซะส่วนมาก
ถ้าเลือกสีเข้มก็จะเข้มมากไปเลย

อุปกรณ์ในกล่องเป็นแปรงหวีซี่ๆ ใช้งานง่าย รุ่นเก่าๆจะมีผ้ากันเปื้อนมาให้ด้วย
แต่รุ่นล่าสุดนี้ไม่มีแล้วล่ะ น่าเสียดายจริงๆ

สรุปข้อดี : สีสวยแจ่ม ติดทน ราคาไม่แพง กลิ่นหอม
ข้อด้อย : ไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทย ต้องหาซื้อร้านหิ้วกันเอง


Image Hosted by ImageShack.us
Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

:: Prettia ::
Prettia เป็นโฟมเปลี่ยนสีผม ทำเองได้ง่ายที่สุด ใครอยากเปลี่ยนสีผมเอง
และเป็นมือใหม่ เรามักแนะนำยี่ห้อนี้ให้ก่อนเสมอ เพราะทำยังไงก็ไม่หัวด่างแน่ๆ
Prettia ตอนนี้ได้ถูกนำเข้ามาจำหน่ายที่ไทยแล้วจ้า แ่ต่เปลี่ยนชื่อเป็น "Liese" (ลิเซ่)
Liese เนี่ยเป็นแบรนด์ลูกของบริษัทคาโอที่ญี่ปุ่น พวก styling เค้าดังและดีมากๆค่ะ
ตอนนี้ก็นำเข้ามาแล้วล่ะ ทั้ง styling และรวมเอา Prettia ที่เป็น Hair color เข้ามาอยู่ในไลน์ด้วย

สรุปข้อดี : ทำง่ายที่สุด สีติดทั่วถึึง มีสีให้เลือกเยอะมากและหลากหลาย และ
แม้ว่าผมยาวประบ่าก็สามารถใช้กล่องเดียว (ถ้าเป็นแบบครีมต้องใช้ 2 กล่อง)
หาซื้อได้ในไทยแล้วตอนนี้
ข้อด้อย : สีมีความ glossy น้อยกว่าแบบครีมนิดนึงค่ะ (อันนี้รู้สึกเองนะ)



Image Hosted by ImageShack.us

:: Beauteen ::
บิวทีนเราว่าดีพอๆกับ PALTY เลย ทำออกมาแล้วคล้ายๆกัน ที่วัตสันก็นำเข้ามา
แถมราคาถูกด้วย หาซื้อง่าย
บิวทีนเป็นยี่ห้อที่สังเกตได้ว่าบางทีมีของแถมมาให้ เช่นครีมบำรุงขนาดทดลอง
หรือครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว บางทีไม่ได้ตั้งใจซื้อก็หยิบมาเพราะอยากลอง
ของแถมนี่แหละ ฮ่าๆ ในกล่องมีอุปกรณ์ครบค่ะ หัวเป็นแปรงทำได้ง่าย

สรุปข้อดี : หาซื้อง่ายมาก ราคาไม่แพง คุณภาพใช้ได้ สีติดชัดเจน
ข้อด้อย : กลิ่นค่อนข้างแรงเหมือนกันค่ะ



Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

:: FRESH LIGHT ::
หน้ากล่องรูปน้องบลายธ์ สีสันมีให้เลือกไม่มาก ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย
เพราะวัตสันนำเข้ามา ยี่ห้อนี้เราเคยทำอยู่ไม่กี่ครั้งค่ะ ส่วนมากจะซื้อยี่ห้อด้านบนๆ
บ่อยมากกว่า แต่สีเบจของยี่ห้อนี้สวยค่ะ แนะนำเลย สีไม่ทอง ไม่เข้มแบบน้ำตาล
เราว่ากำลังดีเลยล่ะ แล้วล่าสุดทางญี่ปุ่นออกรุ่นโฟมมาแล้ว ไม่รู้ว่าดีด้อยกว่า
ออริจินัลอย่าง Prettia อย่างไร หากได้ลองเมื่อไหร่จะมาแชร์นะคะ

สรุปข้อดี : หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง สีติดปานกลาง ไม่ค่อยจัดมาก
ข้อด้อย : กลิ่นแรงเหมือนน้ำยาทำสีทั่วไปค่ะ




Image Hosted by ImageShack.us

อีกข้อที่เจอบ่อยๆคือ "ทำสีครั้งแรก ทำที่ร้านหรือทำเองดีคะ"
"ทำสีที่ร้านดีกว่าทำเองยังไงคะ"


แน่นอนว่าถ้ามีทุนทรัพย์เราอยากให้ไปทำที่ร้านก่อนค่ะ เพื่อดูวิธีการทำจากช่าง
และช่างที่ดีจะสามารถแนะนำสีผมที่เหมาะกับสีผิว และรูปหน้าของเราได้
แต่ถ้าหากอยากลองทำเอง ก็ควรอ่านคู่มือก่อน และต้องเทสต์สีก่อนว่าแพ้หรือไม่
เพราะแน่นอนว่าสีที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป ปริมาณเคมีมีสูงกว่าไปทำที่ร้านแน่นอน
ด้วยคอนเซพท์ที่ว่า สีต้องติดๆๆๆๆ แต่ถ้าไปทำที่ร้าน ช่างจะดูสภาพผมเราก่อนว่า
รับเคมีได้มากน้อยแค่ไหน เสียมากหรือเปล่า เพื่อที่จะปรับสูตรเคมีให้เข้ากับผมเรา
พักหลังๆเราจึงติดใจที่ทำสีผมตามร้านบ่อยขึ้น เพราะผมไม่รู้สึกว่าโดนทำร้ายมากนัก
และอีักอย่าง เราชอบทำ Hilight, Low light ด้วยค่ะ มันทำให้ผมมีมิติมากขึ้น
ซึ่งทำเองไม่ได้ ต้องพึ่งทางร้านอย่างเดียวเลย
แต่ในบางครั้งเวลาโคนงอกออกมา แล้วไม่มีเวลาไปร้านก็มักจะทำเองที่บ้านค่ะ
ประหยัดเวลาและเงินไปได้เยอะเลย





Image Hosted by ImageShack.us

คำถามที่เจอบ่อยเป็นอันดับที่ 3 ก็คือ "อยากได้สีผมแบบนี้ ต้องทำสีอะไรคะ"

เป็นคำถามที่ตอบยากสุดๆค่ะ เพราะสภาพผมเราไม่เหมือนกัน สีก็ต่างกัน
ขอตอบรวมๆเลยเนาะ ถ้าเป็นคนเส้นผมหนา ดำมากๆ ทำสีครั้งแรกอาจจะติดไม่มาก
ต้องทำใจค่ะ อาจจะไม่ได้สีที่อยากได้เป๊ะๆ แนะนำให้เลือกเฉดที่อ่อนกว่าสีที่อยากได้ 1 ระัดับ
พูดง่ายๆคือทำสีที่อ่อนกว่าไปก่อน แต่ถ้าเป็นคนผมเส้นเล็กสีที่ได้จะใกล้เคียง
กับข้างกล่องมากขึ้นค่ะ (อย่าดูหน้ากล่องนะคะ เพราะนั่นคือการย้อมบนผมที่เป็น
สีขาว สีที่ได้จึงจะได้ตามหน้ากล่อง) คนผมสีธรรมชาติให้พลิกดูข้างกล่อง
หรือหลังกล่องค่ะว่าได้สีประมาณไหน

และเวลาในการทำสี ไม่ควรหมักทิ้งไว้เกิน 45 นาทีค่ะ เคยฟังข้อมูลมาจากช่างทำผม
เค้าบอกว่าถึงจะทิ้งให้นานกว่านี้สีก็ไม่ได้สวยขึ้น หรืออ่อนขึ้นหรอก
เพราะเมื่อเคมีโดนอากาศแล้ว มันก็ทำปฏิกิริยากับเส้นผมได้ประมาณ 45 นาทีนี่แหละ



ยังมีอีกหลายทริคที่เก็บข้อมูลมาจากช่างทำผมทั้งไทยและญี่ปุ่น เอาไว้โอกาศหน้า
จะเอามาแชร์ให้ฟังกันอีกนะคะ








Kirari's talk




 

Create Date : 15 มกราคม 2554    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 12:10:33 น.
Counter : 8316 Pageviews.  

[Hair] Review: NEW Dove Damage Therapy



Image Hosted by ImageShack.us

เมื่อไม่นานมานี้ Dove ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นสูตรปรับปรุง
จากรุ่นยอดฮิตที่มีมา เราเองได้มีโอกาสรับผลิตภัณฑ์เพื่อมาทดลองใช้ทั้งหมด 3ชิ้น
หลังจากที่ได้ทดลองใช้เป็นเวลา 1สัปดาห์ จึงมาสรุปรีวิวแชมพูตัวใหม่นี้ซักหน่อย

ในสูตรใหม่นี้จะพัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนด้วยนวัตกรรม Micro Moisture Fiber
และ Fiber Active ซึ่งจะซึมเข้าสู่แกนผมได้ดีกว่าแบบก่อน


Image Hosted by ImageShack.us

สภาพเส้นผม และปัญหา....
1.เป็นคนทำสีผมบ่อยมาก และทำมานานหลายปี จึงทำให้ผมแห้งมาก ชี้ฟู จัดทรงยาก

2. เส้นผมเส้นเล็ก ค่อนข้างแห้ง ไม่มีน้ำหนัก ลมพัดแล้วผมจะกระเซิงไปเลย

3. สระผมและไดร์แห้งบ่อย ประมาณสัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง
เนื่องจากใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีความเหนียว
เช่น ครีมแว๊กซ์ และเสปรย์ จึงทำให้หนังศีรษะมัน แต่เส้นผมแห้ง ชี้ฟู

4. ใช้ Hair Iron รีดผมค่อนข้างบ่อย (แต่ก่อนรีดผมทุกครั้งจะต้องใส่ออยล์
กันความร้อน ซึ่งก็ช่วยไม่ให้เส้นผมกรอบค่ะ)



การดุแลผมในปัจจุบัน
อาศัยการใช้ออยล์บำรุงเพื่อให้ผมดูมีน้ำหนักและเงางาม
อบเซรั่มที่ร้านเดือนละครั้ง และหมักผมสัปดาห์ละครั้ง (ตั้งแต่หันมาใส่ใจกับผม
และดูแลผมอย่างจริงจัง ประมาณ 2 เดือน ผมเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง)
ตอนนี้ก็พยายามเลือกแชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม
เพราะตั้งใจจะไว้ผมยาว ต้องดูแลเป็นพิเศษกันหน่อยค่ะ

เกริ่นมายาวแล้ว เข้าสู่การรีวิวกันเลยดีกว่า



DOVE Damage Therapy shampoo

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

แพคเกจเปลี่ยนไปเป็นสีขาวมุกสบายๆ เิปิดปิดง่าย แต่ไม่สามารถกลับหัวตั้งได้
ตอนแชมพูใกล้หมดอาจจะมีปัญหากันนิดหน่อย
ตัวแชมพูเนื้อเหลว สีขาววิ้งๆ กลิ่นหอมตามแบบของโดฟที่คุ้นเคย
ใช้นิดเดียวก็ฟองเต็ม ล้างออกง่าย เมื่อล้างออกแล้วไม่รู้สึกว่าผมแห้ง หรือหนืด

:::::::::: TIPS :::::::::
ในการสระผมสำหรับสาวผมแห้งแต่หนังศีรษะมันแบบเรา จะลงแชมพูแล้วขยี้แค่บริเวณ
หนังศีรษะค่ะ ส่วนปลายผมจะไม่ค่อยไปยุ่งกับมันเท่าไหร่ และไม่ลงแชมพูเพิ่ม
เวลาล้างผม แชมพูต่างๆก็จะผ่านเส้นผมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องลงแชมพูเยอะๆ
เพราะเท่าที่สังเกตมา การใช้แชมพูเยอะๆ แล้วล้างฟองออกไม่หมด
มักทำให้เราเกิดรังแค บ้างก็เป็นสิวที่หนังศีรษะค่ะ




DOVE Damage Therapy cream conditioner

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us


ครีมนวดเราว่าใช้แล้วคล้ายๆเดิม เนื้อสีขาวนุ่มๆ ล้างออกไม่ยาก ใช้แล้ว
เคลือบปิดเกล็ดผมให้นุ่มขึ้นทันที ลดการชี้ฟูได้ดีเหมือนกัน


:::::::::: TIPS :::::::::
สำหรับครีมนวด เราจะลงแค่กลางผมและปลายผมเท่านั้น
จะไม่ลงหรือนวดบริเวณหนังศีรษะเลย เพราะเกิดการตกค้าง ล้างไม่หมดได้ง่าย
หน้าที่หลักของครีมนวดคือการปิดเกล็ดผม หรือเคลือบเส้นผมให้นุ่มลื่นเท่านั้น
หากลงที่หนังศีนษะด้วย จะทำให้เกิดรังแค หรือหนังศีรษะมันได้ง่าย




DOVE Damage Therapy Treatment Mask

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

Mask กระปุกจิ๋ว บำรุงด้วยโปรตีนเข้มข้น ฟื้นฟูสภาพผมหลังหมัก
ตัวนี้แนะนำให้ใช้ไม่มากนะคะ ใช้นิดเดียวก็ทั่วหัวแล้ว อย่าหมักบริเวณโคนผม
เพราะทำให้หนังศีรษะมัน และเหนอะค่ะ
หลังใช้รู้สึกถึงความนุ่มทันที ผมทิ้งตัวดูมีน้ำหนักมากขึ้น



โดยรวมแล้ว Dove สูตรใหม่นี้ หลังจากที่ใช้ติดต่อกัน 1 สัปดาห์ (5 ครั้ง)
ก็รู้สึกได้ว่าผมนุ่ม และทิ้งตัวมากขึ้นกว่าก่อน อาการคันหนังศีรษะยังไม่มี
(สูตรก่อนสีฟ้าๆเราจะมีปัญหาเรื่องการคันหนังศีรษะ และอาการหนังศีรษะมัน)
แต่ในสูตรใหม่นี้ ยังไม่เจอปัญหานี้ค่ะ

ในทุกๆวันเส้นผมเราจะเผชิญกับมลภาวะและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผมเราแห้งเสีย
อยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ความร้อน หรือการทำเคมีต่าง
Dove สูตรใหม่นี้เน้นในเรื่องการบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียเหล่านี้ให้กลับมา
มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ก็ถือเป็นอีกชุดดูแลผมที่ราคาไม่แพงและน่าใช้ทีเดียวค่ะ


ข่าวฝากจาก Dove
ตอนนี้ Dove จัดกิจกรรมสาวผมสวยสารภาพผิด ชิงตั๋วบินตรงไปอังกฤษ
ง่ายๆแค่บอกเล่าประสบการณ์การทำร้ายเส้นผม ลองเ้ข้าไปเล่นกันได้ค่ะ

DOVE Homepage



Image Hosted by ImageShack.us



Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

Kirari's talk
หน้าสารบัญบล๊อก
Image Hosted by ImageShack.us




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2553    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 12:19:18 น.
Counter : 3018 Pageviews.  

[Hair] 7 days with The Mystery Shampoo

หลังจากที่ทาง P&G ได้ส่งสินค้าตัวใหม่มาให้ลองใช้
ตอนนี้ใช้ครบ 7 วันแล้วล่ะ มีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในหลายๆเรื่อง
ครั้งนี้เลยขอมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ

Photobucket

สิ่งที่ทาง P&G ส่งมาให้เป็นแชมพูและครีมนวด โดยที่ไม่เขียนฉลากใดๆ

ประสบการณ์ครั้งแรก....กับความรู้สึกแรก

ชอบเรื่องกลิ่นมากที่สุด รู้สึกว่ากลิ่นหอมติดผม และเรื่องความนุ่มนี่ก็อีกเรื่องนึงที่ชอบ
เพราะหลังสระครั้งแรก แม้ไม่ลงครีมนวดผมก็นิ่มค่ะ ผมพริ้วแต่ก็มีน้ำหนักขึ้น


หลังจากใช้ครบ 7 ครั้ง...
ในช่วง 10 วันนี้เราใช้แต่เซทนี้ตลอด และรู้สึกอย่างหนึ่งว่า ผมเราชี้ฟูน้อยลงมาก
จากแต่ก่อน ถ้าฝนตกหรือมีความชื้นสูงๆ ผมเราจะแย่มาก คือเหนียว และฟู
แต่ช่วงนี้น้อยจนแทบจะไม่เกิดปัญหานี้เลย

อีกอย่างที่รู้สึกได้คือ ผมนุ่ม หอม และผมตรงขึ้น รู้สึกชอบเซทแชมพูครีมนวดนี้มากๆค่ะ

Photobucket

Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us

Kirari's talk
หน้าสารบัญบล๊อก
Image Hosted by ImageShack.us







 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 12:19:11 น.
Counter : 1644 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

KiRaRi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 98 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน
หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน
KiRaRi blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และ
เพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่
กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

กฎหมายพรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดทาง
คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ให้ความคุ้มครอง
สำหรับผู้เสียหายจากการสวมรอย
สำหรับการโพสข้อความรูปภาพโดยแอบอ้าง
ว่าเป็นบุคคลอื่นเท่ากับเป็นการนำเข้าข้อมูล
ที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และทำให้
ผู้อื่นเสียหายแล้วมีความผิดตามมาตรา 14 (1)
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน
1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


"พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์"




เพื่อนๆสามารถค้นหาทุกสิ่งใน blog
โดยการพิมพ์ keyword เพื่อค้นหาได้ที่นี่ค่ะ

Custom Search






Created since: 23 JAN 2009



KiRaRi on Thailand Blog Award 2010

Bloggang Popular Award 201





ในหน้าของ Kirarista Fanpage จะเป็นการอัพเดท
Blog entry, Kirari TV, Kirarista item
หากอยากติดตามการอัพเดท สามารถแอดที่หน้านี้ค่ะ

Kirarista

Promote Your Page Too



Kirarista Instagram

Kirari on twitter



Ads by Google
Friends' blogs
[Add KiRaRi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.