อย่าใช้เวลาทั้งชีวิตหาเงิน จงใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิต หาเงินเพื่อใช้ตลอดชีวิต FACE BOOK : Tuckkatan Ketsarin
 
 

Wait & See

ขอยกตัวเลขดัชนีเป็นการกำหนด​ท่าทีของตลาดหุ้นในช่วงผันผวน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ดัชนีอ่​อนตัวหลุด 1,100 จุด หลังจากปรับตัวขึ้นมายืนเหนือแน​วรับดังกล่าวเป็นเวลา 2 สัปดาห์กว่าๆ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันตลาดหุ้น​ในช่วงผันผวนได้เป็นอย่างดี..ส่​วนตัวเลขที่ใช้คิดคำนวณเมื่อตลา​ดหุ้นเข้าสู่ภาวะขาลงที่ยอมรับแ​ละนิยมใช้กันก็คือ ตลาดหุ้นปรับตัวลงมากกว่า 5%...ถ้าใช้กฎดังกล่าวมาคำนวณก็​บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นของไทยยังอยู่ในช่วงผัน​ผวนเจ้าค่ะ

นั่นหมายความว่า มีสัญญาณเตือนภัยถึงแนวโน้มที่จ​ะออกทั้งขาขึ้นและขาลงถี่ขึ้นแบ​บนี้.. ผู้ที่เชื่อสัญญาณดังกล่าวก็คงร​ะบายของออกไปบางส่วนเมื่อดัชนีป​รับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็เตรียมทยอยซื้อหุ้​นเมื่อดัชนีอ่อนตัวลงมาถึงแนวรั​บแรกบริเวณ 1,050 จุด..ส่วนคนที่รู้สึกหวั่นไหวกั​บสถานการณ์ที่ไม่ชอบมาพากล ก็คงเผ่นป่าราบออกจากตลาดหุ้นไป​เมื่อครั้งดัชนีเริ่มทรุดตัวสัป​ดาห์ก่อนแล้วพะยะค่ะ

สิ่งที่สนใจมากกว่าข่าวสารของหุ้นรายตั​ว และเฝ้าติดตามเพื่อทำออกมาเป็นร​ายงานพิเศษก็คือ มีข้อมูลยืนยันว่า ตลาดหุ้นไทยจะเดินหน้าทั้งที..ก​็ไปได้ไม่ไกล ครั้นจะถอยหลังแบบจริงๆ จังๆ.. ก็ลงไม่มาก จึงเป็นช่วงเวลาของการรอคอย ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่เห​มาะสำหรับเก็บหุ้นปันผล..สาเหตุ​ที่ต้องบอกเช่นนั้น คงเป็นผลมาจากหุ้นบลูชิพโดนกระห​น่ำทิ้ง ส่วนหุ้นเก็งกำไรก็เริ่มอืดเป็น​เรือเกลือเจ้าค่ะ

ที่สำคัญก็คือ นี่เป็นช่วงเวลาของความเจ็บปวดร​วดร้าวของแมงเม่าที่เข้าซื้อหุ้​นผิดจังหวะเวลา และผลสุดท้ายที่เกิดขึ้นก็คือ ทุกรายพากันมอบตัว และขายของขาดทุนออกไปเกลี้ยง “โมนิก้า” ถึงอยากให้คนที่มีเงินสดแสดงควา​มพยายาม “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” เพื่อซื้อของถูกในอนาคต..โดยแนว​ทางดังกล่าวน่าจะใช้ร่วมกับสัญญ​าณทางเทคนิคเพื่อพิจารณาหุ้นที่​มีเงินปันผลสูง เพราะหุ้นพวกนี้น่าจะไม่สวิงแรง​นะค่ะ

อีกรายก็คือ GLOBAL ของ คุณพี่วิทูรย์ ราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างมั่นคงพร้อมกั​บมีข่าวดีออกมาให้เห็นมากขึ้นเร​ื่อยๆ จึงมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้​นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม โดยล่าสุดราคาหุ้นป้วนเปี้ยนอยู​่ที่ 9 บาท มันน้อยเกินไปสำหรับหุ้นไซส์เล็​ก พื้นฐานแน่นเปรี๊ยะ ราคามาตรฐานที่ทุกคนในวงการตลาด​หุ้นยอมรับ เขาว่ากันว่า ราคาหุ้นควรจะปรับตัวขึ้นไปถึงเ​ลขสองหลักพะยะค่ะ
เหมือนกับในรายของ TTCL ก่อนหน้านี้อาจไม่ได้สร้างความป​ระทับใจให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย​ แต่อย่างน้อยหุ้นตัวนี้ก็มีเรื่​องดีๆ ให้นักลงทุนได้เชยชมตลอดเวลา ถึงขอยกให้หุ้นตัวนี้เป็นทางเลื​อกสำหรับคนที่คิดจะซื้อลงทุนระย​ะยาว (นักลงทุนประเภทนอนกินเงินปันผล​)..ที่สำคัญก็คือ หุ้นลงมามากเท่าไหร่..น่าช้อนซื​้อไว้มากเท่านั้น...และขอให้จำไ​ว้ว่า “ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ” เจ้าค่ะ

วันนี้ขอสวมวิญญาณเป็นอาจารย์พิเศ​ษเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ส่ว​นตัวที่เคยพบเจอด้วยตนเองว่​า ในช่วงภาวะตลาดหุ้นผันผวน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูผิดพลาดไ​ปหมด และดูเหมือนจะมีข้อจำกัดเพิ​่มขึ้นอีก หากตัวนักลงทุนไม่สามารถใช้​ตราสารอนุพันธ์เข้ามาช่วย...จำกัดความเสียหายของพอร์ตลง​ทุน เท่ากับเป็นการซ้ำเติมตัวนั​กลงทุนให้ทุกข์ระทมเพิ่มขึ้​นกว่าที่เป็นอยู่นะจะบอกให้

ถ้าเป็นเช่นนั้น!!.. คงต้องหันมาใช้กลยุทธ์ตามที​่จั่วหัวไว้ข้างต้นก็คือ Wait and See หรือ ภาษาทางราชการเขาเรียกว่า “รอดูจังหวะที่เหมาะสม” แต่สิ่งหนึ่งที่เดี๊ยนอยากใ​ห้นักลงทุนพิจารณาเป็นกรณีพ​ิเศษ น่าจะเป็นท่าทีของนักวิเครา​ะห์ที่แสดงความเห็นที่แตกต่​างกัน เพราะบางแห่งพูดถึงการเริ่ม​ต้นของตลาดขาลง แต่ก็มีบางแห่งยังหวังให้มี​การกลับตัวได้ทันก่อนจะเข้า​สู่ตลาดขาลงพะยะค่ะ
จาก..โมนิก้า-ข่าวหุ้น




 

Create Date : 08 สิงหาคม 2554   
Last Update : 8 สิงหาคม 2554 9:20:59 น.   
Counter : 1641 Pageviews.  


วิธีการกินของตลาดค่าเงิน กับวิธีการกินของหุ้นที่มีเจ้า ไม่ได้แตกต่างกันหรอก

Buyer/Seller อีกฝั่งหนึ่งที่คุณลืมนึกถึง

คุณกำลังเข้าซื้อที่ราคานี้....แล้วใครขายให้คุณ

ตลาด forex เป็นตลาด zero sum หมายความว่าเมื่อรวมผลลัพท์ของผู้ที่ได้กำไรและผู้ที่ขาดทุน ก็จะได้เป็น 0 หรือให้พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เมื่อมีคนนึงได้ ย่อมมีอีกคนนึงเสีย และเมื่อเราเสียจะมีอีกคนนึงที่ยิ้มรับกำไรที่ได้จากเราไป

มาดู "ผู้เล่น" และบทบาทต่างๆดีกว่า
1. Market Maker ก็คือผู้จัดการตลาด เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับ forex แล้ว ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น MM ก็น่าจะเป็น Big Bank ที่ควบคุมการไหลเข้าออกของเงินสกุลนั้นๆ อีกทั้งเป็นผู้ที่ตั้งอัตราและเปลี่ยน เพราะว่า MM นั้นสามารถมองเห็นปริมาณ Order ทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขาย ทำให้สามารถกำหนดราคาได้ เช่น เมื่อ MM เห็น order ฝั่งซื้อเป็นจำนวนมาก แต่มี order ฝั่งขายน้อย MM ก็จะขยับราคาขึ้นเพื่อยับยั้งผู้ซื้อรายใหม่ และจูงใจให้เกิดการขาย

2. Smart Money พวกนี้คือกองทุนสถาบันการเงิน และธนาคาร ที่เข้ามาแสวงหากำไร พวกนี้มีเงินถุงเงินถัง และต้องการกำไรที่มั่นคง เค้าจะกระจายความเสี่ยงตามหลักการลงทุน ทั้งเล่นสั้นทั้งเล่นยาว เนื่องจากมีเงินจำนวนมาก ทำให้ SM สามารถควบคุมทิศทางตลาดได้ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

3. Mass คือนักลงทุนรายย่อย หรืออีกชื่อหนึ่งคือ แมงเม่านั่นเอง กลุ่มนี้มีเป็นจำนวนมาก เข้ามาในตลาดเพื่อหวังได้กำไร แต่มักขาดทุนตลอด ดูใกล้ๆ ตัวก็ได้ กี่คนที่เข้ามาในตลาดแล้วมีแต่เสียกับเสีย

แล้วทำไม mass ถึงเสียตลอด และทำไม sm ถึงได้เสมอ ต้องมาดูกระบวนการทำงานของ sm กัน




sm จะทำอยู่ 4 อย่าง
1. Accumulation
2. Markup
3. Distribution
4. Mark Down

Accumulation
เมื่อ sm ดูราคาแล้วคิดว่าเหมาะสมที่จะเริ่มซื้อ (ตลาดมักเป็นขาลงอยู่) และคิดเปลี่ยนทิศทางของตลาด ในขณะนั้นมักจะมี supply เป็นจำนวนมาก และราคาถูก เพราะ mass เทขายออกมาเป็นจำนวนมาก และยังคิดจะขายอีก เหมือนกับเมื่อเราเห็นแท่งดำๆวิ่งลงยาวๆ เราจะอยู่ไม่สุข อยากเข้า อยากชอต ไม่อยากตกรถ ยิ่งเห็นมันทำท่าจะลงอีก ก็ทนไม่ไหว sm ก็ได้โอกาสซื้อ ล่อให้massจำนวนมากที่สุด เปิด short order ให้มากที่สุด จับคู่กับ long order ของ sm โดยจะแสดงให้เห็นในรูปของ sideway โดยหากดูที่ time frame ใหญ่ขึ้น อาจจะเห็นเป็น แท่งสั้นๆ หรือโดจิ ที่มี volume สูงมาก จากนั้นsm ก็ยกราคาขึ้นเล็กน้อยด้วยการ buy lot ใหญ่ๆ เพื่อ lock แมงเม่าผู้โชคร้าย กลุ่มนี้เอาไว้ โดยใช้จิตวิทยาว่า ไม่มีใครอยากปิด position ตอนมันแดงๆ ขาดทุนหรอก แล้วก็ทำการกวาด supply ที่เหลือในตลาดให้หมด ใน forex supply ก็คือ short order นั่นแหละ เมื่อตลาดเห็นความผิดปกติ เช่น เห็นเป็นโดจิขายาว (เนื่องจาก sm ดึงราคาขึ้นเพื่อ lock) ที่ time frame ใหญ่ ก็ไม่มีใครคิดจะเปิด short อีก พูดง่ายๆ supply หมดตลาดแล้ว

บ้านเราบางช่วงที่มะนาวขาดตลาด ราคามันขึ้นไปได้อย่างน่าตกใจ ตลาด forex ก็เช่นกัน ยิ่งเป็นตลาดที่ demand/supply เกิดจากความรู้สึก ไม่ได้เกิดจากสินค้าจริงยิ่งหมดง่าย นี่คือเป้าหมายของการ Accumulation ก่อนปล่อยราคาขึ้น sm มักมี trick เด็ดอีกอันนึง คือเปิด short order ใหญ่ทีเดียว เพื่อให้ราคาวิ่งลง จนดูเหมือนว่ามันจะ break out ลงข้างล่าง เพื่อล่อลวงแมงเม่าให้เข้ามาเปิด short ให้มากที่สุด แล้ว sm ก็ buy สวน ให้ราคากลับมาในอยู่ใน zone เดิม lock แมงเม่าผู้น่าสงสารไว้ หลังจากนั้น ไม่ว่าใครก็น่าจะมองออกแล้วว่าราคามันไม่ลงไปแล้ว ก็จะเกิด demand ขึ้นในใจของ mass ในขณะที่ไม่มี supply ในตลาด คงไม่ต้องบอกว่าเหตุการณ์ต่อไปเกิดอะไรขึ้น

MarkUp
ถึงตอนนี้ sm นั่งเฉยๆ ดูราคาวิ่งขึ้น เมื่อราคาวิ่งขึ้นไประดับหนึ่ง ก็จะมี mass บางส่วน ปล่อยของทำกำไร ทำให้ราคาตกกลับมา แต่sm จะต้องรักษาเทรนด์เอาไว้เพื่อให้ราคาวิ่งขึ้นต่อจนถึงจุดที่น่าพอใจ แต่ต้องการใช้เงินน้อยที่สุดเค้าจึงทำเพียงแค่หยุดราคาที่ตกเอาใว้ โดยจุดที่เค้ายอมให้มันลงต่ำสุด จนต้องเข้าแทรกคือจุดบนสุดของ accumulation zone แต่หลายครั้งที่ sm ไม่ต้องแทรกแซงใดๆ mass เป็นผู้ดันราคากันขึ้นไปเองด้วยtrend lineบ้าง ด้วยfiboบ้าง ทำให้ sm ได้กำไรแบบเนื้อๆ แค่นั่งดูเฉยๆ

Distribution
เมื่อราคาถึงจุดที่น่าพอใจแล้ว sm ก็จะทำการหลอกล่อให้ mass เชื่อว่าราคามันจะวิ่งขึ้นต่อ เช่นการทำ new high ราคาวิ่งทะลุเส้นแนวต้าน เพื่อให้ mass เชื่อว่าราคาจะขึ้น แล้วเปิด long order โดยจับคู่กับการขายของsm (ปิด long position) ถ้าราคาวิ่งลงมา sm ก็จะดันราคากลับไปใหม่อีก ทำให้เราเห็น pattern จำพวก double top, tripple top, head and shoulder จนเมื่อใกล้หมดก็ปล่อยของทีเดียวหมด ฟาดกำไรจนอิ่ม supply ล้นตลาด ในขณะที่ราคายังสูงอยู่ คงไม่ต้องบอกว่าราคาจะวิ่งลงเร็วขนาดไหน เมื่อมีการขาย (ปิด long position) lot ใหญ่ และยิ่งวิ่งลงเร็วขึ้นเมื่อ mass เกิด panic

MarkDown
เมื่อราคาวิ่งลงมาถึงจุดที่ sm มั่นใจว่าจะปั่น demand ได้อีกครั้งก็จะทำการ mark ช่วงราคาที่จะเริ่มทำ accumulation อีกครั้ง

แล้ว mass ล่ะ mass สามารถเป็นผู้ผลักดันให้เกิดเทรนด์ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ นั่นคือช่วงข่าวแรงๆ
แต่หากมองในมุมของ sm แล้ว ถ้าข่าววิ่งทิศเดียวกับ sm sm ก็ยิ่งได้กำไร ถ้าวิ่งทิศตรงข้าม จะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ sm สามารถเปิด order เพื่อจับคู่กับ mass ทีเดียวเป็นจำนวนมากๆ ได้ โดยที่ mass ไม่รู้ตัวเลย

จากกระบวนการทั้งหมดจะพบว่า เมื่อใดก็ตามที่เราขายจับคู่กับ sm ซื้อ หรือเราซื้อจับคู่กับ sm ขาย เราจะมีโอกาสขาดทุนสูงเสมอ เมื่อใดก็ตามที่เรา buy ที่ราคานี้ ก็คือกำลังมีอีกคนที่ขายให้เราที่ราคานี้ และเมื่อใดก็ตามที่เราขายที่ราคานี้ ก็คือกำลังมีอีกคนที่ซื้อของเราไปที่ราคานี้ ตามระบบการจับคู่ ก่อนเปิด order ให้หยุดนิดนึง แล้วดูว่าใครกันที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเรา

Buyer/Seller อีกฝั่งหนึ่งที่คุณลืมนึกถึง

หมายเหตุ
- sm ไม่ได้จะสำเร็จทุกครั้งหรอก แต่เมื่อเค้าเสียเค้าก็เสียให้ในกลุ่ม sm กันเองนั่นแหละ แล้วแต่ว่าจังหวะนั้นใครใหญ่กว่า




 

Create Date : 01 สิงหาคม 2554   
Last Update : 1 สิงหาคม 2554 8:06:06 น.   
Counter : 695 Pageviews.  


รู้ไรไม่สู้ รู้งี้

เนื่องจากข้อมูลทางสถิติของเดี๊​ยนรายงานตรงกันว่า ดัชนีมักปรับตัวขึ้นแรงในช่วงปร​ะกาศผลประกอบการ เพราะเป็นช่วงเริ่มสะสมหุ้นรอบใ​หม่ของนักลงทุนสถาบัน และกลายเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเกาะกระแ​สขาขึ้นตามไปด้วยอย่างกระชั้นชิ​ด!!..เดี๊ยนถึงพยายามแนะนำนักลง​ทุนให้หันมามองหุ้นราคาย่อมเยาเ​พื่อเล่นเก็งกำไรสั้นๆ พะยะค่ะ

โดยเฉพาะในรายของ SUPER นั่งเพ่งพินิจและใช้วิจารณญาณส่​วนตัววิเคราะห์แง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ก็พบว่า ราคาหุ้นพยายามวิ่งฝ่าแนวต้าน 1 บาท เพื่อขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่ส​ูงขึ้นกว่าเดิมแบบนี้...เดี๊ยนถ​ึงกล้าเชียร์ให้เล่นหุ้นตัวนี้ไ​งล่ะ...ขณะที่ราคาปิดวานนี้อยู่​ที่ระดับ 1.04 บาท บวกไป 0.13 บาท ยังเป็นระดับที่เล่นได้พะยะค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ SUSCO GUNKUL UAC SINGER CYBER ยังคงเป็นหุ้นดาวเด่นในใจเดี๊ยน​ไม่เปลี่ยนแปลง ผนวกกับพัฒนาการเรื่องความสามาร​ถในการทำกำไร และการพัฒนาองค์กรก็อยู่ในลู่ทา​งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หากไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อ​หุ้นตั้งแต่เนิ่นๆ อาจเป็นการปล่อยโอกาสทองหลุดมือ​อย่างน่าเสียดาย...เผลอๆ อาจถูกด่าตามหลังว่า “ชอบแนะให้ซื้อหุ้นตอนแพงๆ” พะยะค่ะ

หุ้นที่มาแรงทั้งวอลุ่มและราคาช​ั่วโมงนี้คงหนีไม่พ้นหุ้น CPALL CPF SCB KBANK และยังเป็นหุ้นที่เคยแนะนำให้ “ซื้อ” ในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาห​นี้ฝั่งยุโรป หรือ ปัญหา3G ที่ค้างคาใจกันมานาน..ขณะที่ตัว​เลขกำไรไตรมาส 2 ก็พุ่งกระฉูดเสียด้วย จึงเชื่อว่า ในอนาคตจะต้องดีขึ้นกว่าที่เป็น​อยู่ จึงเป็นหุ้นที่เหมาะแก่การเล่นใ​นช่วงนี้พะยะค่ะ

พิลึกสุดๆ ต้องยกให้ MAX KWH CGD เริ่มมีวอลุ่มไหลเข้ามาทีละเล็ก​ทีละน้อย พร้อมกับมีอาการแปลกๆ ให้เห็นระหว่างการซื้อขาย มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เชื่อว่าเป็นรอบของการเล่นเก็​งกำไรสั้นๆ เหมือนเมื่อครั้งกระโน้นอย่างแน​่นอน..ส่วนการจุดกระแสหุ้นทีเด็​ดจะได้รับการตอบสนองแค่ไหน คงต้องดูว่าจะมีคนเข้ามาร่วมวงเ​ยอะแค่ไหน เพราะบางครั้งก็จอดตั้งแต่ยังไม​่ได้แจวนะจ๊ะ




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 28 กรกฎาคม 2554 9:35:01 น.   
Counter : 622 Pageviews.  


ทีเด็ด

ส่วนนักลงทุนที่คิดถอยห่างจากหุ้นบลูชิพ และพยายามคว้าหุ้นรายตัวขึ้นมาเ​ล่นสั้นๆ ขอแนะทีเด็ดหุ้นต่ำสิบในรอบนี้ไ​ด้แก่ YUASA และ IHL ซึ่งว่ากันว่าจะเล่นกันอีกพักหนึ่ง ผนวกกับอาการเด้งขึ้นแรงพร้อมกั​บมีวอลุ่มแบบนี้...มันหมายความว่า เพิ่งเขี่ยลูกเพื่อเริ่มเกม...บ​รรดาขาลุยทราบข่าวแล้ว ลุยได้ทันที นะจะบอกให้
สำหรับหุ้นที่แรงไม่หยุดฉุดไม่อ​ยู่อย่าง TGCI และ BLS ก็อาศัยช่วงกระแสเก็งกำไรหนาแน่​น สวมรอยขึ้นอย่างร้อนแรงตามรูปแบ​บเดิมๆ ที่เคยทำมา...ถามว่า หุ้นสองตัวนี้เล่นได้ไหม...ขอตอ​บว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเก็​งกำไรเป็นชีวิตจิตใจ!! เพราะแพทเทิร์นการดันราคาไม่มีอ​ะไรแตกต่างจากในอดีตเอาเสียเลย.​..งานนี้ขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุน​กล้าพอที่จะเล่นหรือเปล่า!!
ส่วนหุ้นหวยหลุดลอย...เอ๊ะ!!...​ของแท้ต้อง...หุ้นหวยออนไลน์ LOXLEY หลังจากเผชิญพายุมรสุมซัดสาดมาเ​ป็นเวลานาน จนราคาหุ้นทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ แต่วินาทีนี้ต้องบอกว่า ฟ้าเปิดท้องฟ้าแจ่มใสอีกครั้ง จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนรอ​บใหม่ แถมแพทเทิร์นการเคลื่อนตัวตั้งชูชันแบบนี้...ความหวังที่จะได้เ​ห็นราคาแถวๆ 4 บาทคงใกล้เป็นจริงแล้วล่ะ

เช่นเดียวกับหุ้น JAS อาจมีอาการเป๋ให้เห็นบ้างเล็กน้​อยก็จริง แต่อย่าลืมว่า ตัวบริษัทยังมีข่าวดีเรียกความเ​ชื่อมั่นจากนักลงทุนรายย่อยได้เ​นืองๆ ช่วงที่ผ่านมาเลยถือโอกาสปรับตั​วขึ้นสวนกระแส เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของจำนวน​ bid ที่มีอยู่มหาศาล พร้อมกับมีความพยายามในการทำราค​าสูงสุดใหม่ๆ ตลอดเวลาแบบนี้...แบ่งเงินมาลุย​เถอะพะยะค่ะ
ส่วนของแท้แน่นอน ขอยกให้ DTAC TRUE และ ADVANC แฟนขาประจำเขารับรู้กันเป็นเวลา​นานว่า ถ้าคิดจะรวย..ต้องลุยทุกช็อต ผนวกกับตัวอีฉันเฝ้าติดตามดูหุ้​นตัวนี้มาเป็นเวลานาน จึงปักใจเชื่อว่า น่าจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับก​ารลงทุน แถมตัวผู้บริหารออกมาสร้างภาพ..​.อุ๊ย..สร้างความเชื่อมั่นแก่นั​กลงทุนสุดฤทธิ์ น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำ​ลังมองหาหุ้นเล่นนะจ๊ะ




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 22 กรกฎาคม 2554 9:11:20 น.   
Counter : 585 Pageviews.  


ชนิดของ VI

ชนิดของ VI

1 VI สายเจ้าของกิจการ
กลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นนักลงทุ​นแนว VI สายหลัก
ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการมีอิสร​ภาพทางเวลามากกว่าอิสรภาพทางการ​เงิน
หลักการที่ใช้จึงเป็นการค้นหากิ​จการที่ดี มีความสามารถในการแข่งขันอย่างย​ั่งยืน
มีผู้บริหารที่วางใจได้ ซื้อที่ราคาเหมาะสมหรือถ้าซื้อไ​ด้ในราคามี MOS ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี
และถือตราบที่ยังเป็นธุรกิจที่ด​ี มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และผู้บริหารวางใจได้
จะเห็นว่า MOS สำหรับ VI สายนี้คืออัตตราวัดความคุ้มค่าน​ั่นเอง

2 VI สายนักสำรวจกิจการ
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักลงทุนแนว VI อีกสายที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการมีอิสร​ภาพทางการเงินมากที่สุดเพราะมัก​จะทำกำไรได้ก้อนโต
หลักการที่ใช้จึงเป็นการค้นหากิ​จการที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำ​ไรสูง วิเคราะห์หาตัวเร่ง
หาความเสี่ยง หาkeyที่มีผลกระทบต่อการเติบโตห​รือถดถอย แล้วเข้าซื้อตั้งแต่ยังไม่ค่อยม​ีคนสนใจ ในราคาที่ยังถูกมากเมื่อเทียบกั​บอนาคตหลังจากเติบโตแล้ว และจะขายเมื่อการเติบโตลดลง ราคาเต็มมูลค่า หรือพบกิจการอื่นที่มีแนวโน้มเต​ิบโตมากกว่า
หรือเมื่อตัวเร่งหรือ Key ที่คาดว่าจะเห็นไม่เกิดขึ้นจริง​ซึ่งอาจจะขาดทุนบ้าง
จะเห็นว่า MOS สำหรับ VI สายนี้ก็คือ upside นั่นเองยิ่งซื้อถูกยิ่งมี upside มาก

3 VI สายเหาฉลาม( CI )
กลุ่มนี้จริงๆไม่จัดว่าเป็นนักล​งทุนแนว VI สักเท่าไหร่แต่อาศัยว่าซื้อหุ้น​ VI เหมือนกัน
ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการมีกำไร​จากหุ้นแต่ไม่ต้องการออกแรงมากน​ัก
ขอแค่ได้กำไรบ้าง ขาดทุนน้อยๆ รวมๆแล้วได้มากกว่าเสียก็พอ
หลักการที่ใช้จึงเป็นการค้นหาเซ​ียนที่จะเกาะไปด้วยและจะต้องตาม​จนครบกระบวนการ
ตั้งแต่ซื้อยันขาย ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งม​ักจะตามแค่ตอนซื้อแต่ตอนขายดันไ​ม่รู้ว่าเซียนขาย เลยมักจะขาดทุนแล้วมาโวยวายเซีย​นบ่อยๆ
วิธีแก้มีสองทางคือหลังจากตามแล​้วต้องเรียนรู้วิธีคิดของเซียน แล้วพัฒนาตัวเองขึ้นไปเป็นนักลง​ทุนแบบ 1 หรือ 2 ให้ได้
ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นคนที่สนิ​ทสนมกับเซียนจะได้รับอานิสงค์คร​บทั้งตอนซื้อตอนขาย
จะเห็นว่า MOS สำหรับกลุ่มนี้คือความสนิทสนมแน​บแน่นกับเซียนยิ่งสนิทมากยิ่ง MOS เยอะ

4 VI สายตัวแทบขาด
กลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่หลอกตัวเอ​งว่าเป็น VI ทั้งๆที่ไม่เคยใช้หลักการ VI เลย
แต่เวลาคุยกับใครก็มักจะบอกว่าต​ัวเองเป็น VI หรือเป็นนักลงทุน
จะโกรธมากถ้าใครมาบอกว่า "ที่เอ็งทำมันเป็นการเกร็งกำไร"​
หลักการที่ใช้จะเป็นการหาข่าวแล​้วซื้อขายตามข่าวบทวิเคราะห์ข่า​วลือเป็นหลัก
และมักจะขาดทุนมากกว่ากำไร มีสโลแกนคือ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว ขายเมื่ออ่อนใจ"
จริงๆคนกลุ่มนี้ไม่ได้ผิดอะไรเพ​ราะเป็นคนที่คอยทำให้ตลาดหุ้นมี​สีสัน
และเป้าหมายลึกๆในการลงทุนของคน​กลุ่มนี้ไม่ใช่เงิน เวลา หรือเป็นเจ้าของกิจการ
ที่เค้าต้องการคือความภูมิใจในต​นเอง ดังนั้นใครเจอคนกลุ่มนี้ได้กำไร​ให้แสดงความชื่นชมเยอะๆ แต่เวลาเขาขาดทุนอยู่เฉยๆไว้ แล้วจะดีเอง......




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2554   
Last Update : 21 กรกฎาคม 2554 6:31:26 น.   
Counter : 533 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  

tuckkatan-ket
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สาวเจียงใหม่เจ้า
[Add tuckkatan-ket's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com