อย่าใช้เวลาทั้งชีวิตหาเงิน จงใช้เวลาส่วนหนึ่งของชีวิต หาเงินเพื่อใช้ตลอดชีวิต FACE BOOK : Tuckkatan Ketsarin
 
 

มึนส์สสสสสสสสสสส มะคะ เดวเมกา เดวยุโรป

หากให้วิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยแบบกลางๆ เดี๊ยนก็ยังยืนยันว่า โอกาสทองสำหรับการลงทุนรอบใหม่กำลังเกิดขึ้น!!..แถมตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า "ดัชนีเข้าเขตพักฐานเต็มตัว" และกำลังเข้าสู่ช่วงเตรียมตัวเพื่อกระชากขึ้นรอบใหม่เต็มแก่... เพราะในช่วง 1 เดือนเต็มๆ ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในระดับ 1,050-1,100 จุด แต่ถ้าลงไปเยอะกว่าที่กล่าวถึง..ขอแนะนำให้หาจังหวะช้อนซื้อต่อไปนะจะบอกให้

นั่นหมายความว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แต่คงปรับตัวขึ้นไม่เยอะ..ถึงกระนั้นเดี๊ยนก็ให้นักลงทุนสังเกตเป็นทริกเล็กๆ ก็คือ การที่ดัชนีสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,050-1,075 จุดอย่างมั่นคง มักจะทำให้หุ้นบลูชิพเป็นหุ้นกลุ่มแรกๆ ที่นักลงทุนน่าจะหาจังหวะช้อนซื้อเก็บไว้ เพราะเป็นตัวชี้นำการปรับตัวขึ้นของดัชนี!!..แต่หากรู้สึกเบื่อหน่ายกับหุ้นกลุ่มดังกล่าว ขอนำเสนอหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กไว้เป็นทางเลือก เพราะรูปแบบของการลงทุนในยุคเข้าเร็วออกเร็วต้องมีความยืดหยุ่นพะยะค่ะ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนล่าสุดที่โบรกฯไทย โบรกฯลูกครึ่ง และโบรกฯฝรั่ง แสดงคอมเมนต์เหมือนกันก็คือ นับจากนี้ไปอีก 3 ปี ธุรกิจสาธารณูปโภคจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นั่นหมายความว่า เงินกำลังจะหมุนไป..เงินกำลังจะหมุนไป..เงินกำลังจะหมุนไป ซึ่งเป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นแกนหลัก 8 กลุ่มปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงก่อนหน้านี้ และพร้อมจะไต่ระดับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมพะยะค่ะ

หากชอบหุ้นใหญ่ก็มีหุ้นหลายตัวที่น่าลงทุน และมีเปอร์เซ็นต์การปรับตัวขึ้นอีกเยอะคงหนีไม่พ้น CPF STEC CK BANPU SCCC BAY DTAC IVL และ PS เป็นทางเลือกแรกๆ!!..โดยหุ้นเหล่านี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ราคาหุ้นก็น่าจะไต่ขึ้นอย่างเป็นสัดส่วน และสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญนะค่ะ

*สำหรับดาวเด่นที่ชวนเสียว..อุ๊ย..ชวนเล่นในกลุ่มรองลงมาก็คือ PTT, PTTEP, PTTCH, PTTAR, IRPC และ TOP เพราะทุกครั้งที่หุ้นตกหนักนานๆ หุ้นเหล่านี้จะดีดกลับแรง และน่าจะสร้างผลตอบแทนที่งดงามให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศ จึงอย่าแปลกใจที่ช่วงหลังๆ เห็นนักลงทุนสถาบันในประเทศหันหัวเรือกลับเข้ามาซื้อหุ้นเต็มตัวพะยะค่ะ

ส่วนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่เข้าข่ายอันตราย โดยผู้ซื้อโปรดใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากเป็นพิเศษ คือ RICH PT RAIMON BSEC PAF PAE TYM ส่วนหุ้นขนาดเล็กที่มีแพทเทิร์นข่าวดีรองรับ ราคาหุ้นมีโอกาสไปต่อ คือ JAS SUSCO GUNKUL IFEC ESTAR MCS SINGER TOG ..งานนี้ใครรู้ตัวว่าหุ้นที่ตนเองถือไว้มีน้ำหนักค่อนไปทางซื้อ หรือค่อนไปทางขาย ก็ลองใช้ข้อมูลรอบด้านพิจารณาดูกันเอาเองนะค่ะ

จาก..โมนิก้า-ข่าวหุ้น





 

Create Date : 19 สิงหาคม 2554   
Last Update : 21 สิงหาคม 2554 21:37:49 น.   
Counter : 463 Pageviews.  


พี่หรั่งมาซื้อแย้วววว จะกลับมาปักหลักสร้างฐานแนวรับอันแข็งแกร่งบริเวณ 1,100 จุดในไม่ช้า

ดูเหมือนความกังวลใจเกี่ยวกับสถานการณ์ร้ายๆ จะเริ่มทุเลาลง (ชั่วคราว) จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะกลับมาปักหลักสร้างฐานแนวรับอันแข็งแกร่งบริเวณ 1,100 จุดในไม่ช้า ซึ่งเป็นผลมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างให้โปร่งใสมากที...่สุดเท่าที่จะทำได้ จนความคลุมเครือในเรื่องต่างๆ มลายหายไปอย่างรวดเร็วแบบนี้!!..ยอดเยี่ยมไปเลยเจ้าค่ะ

ตอนแรกไม่มั่นใจว่า ดัชนีจะตีกลับขึ้นมาปิดบวกได้ แต่พอเห็นแรงซื้อไหลเข้ามาตั้งแต่หัววันก็รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นกว่าวันก่อนๆ จึงเริ่มมีความเชื่อว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ไม่น่าจะตกหนักอีก แล้ว..จึงควรแก่เวลาเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีเก็บไว้ในพอร์ต เพราะปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนะ จะบอกให้

สำหรับในรายของ KKC TSF ในที่สุดก็ยอมมอบตัวอย่างเป็นทางการ เพราะสตอเบอรี่ที่นำมาสร้างข่าวนั้น “ไม่ค่อยมีน้ำหนัก” (คนวงในเขาอ่านเกมออก) ผนวกกับมีกลิ่นตุๆ โชยมาแต่ไกลแบบนี้..เป็นใครก็ต้องถอนสมอกันทั้งนั้น...ส่งผลให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นเวลายาวนาน จึงไม่ใช่สัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน..เชื่อหรือไม่ อันนี้ไม่บังคับกันอยู่แล้วพะยะค่ะ

ตบท้ายกันที่ยุทธการไล่ล่าผู้บริหาร “จอมอินไซด์-จอมออฟไซด์” ของ ก.ล.ต. ที่เดินหน้าอย่างเต็มตัวไปก่อนหน้านี้..ล่าสุดก็เป็นคิวสั่งสอนเบื้องต้น (ชุดใหญ่จะตามมาทีหลัง) “องอาจ ดำรงสกุลวงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL พร้อมกับแสดงหลักฐานว่า ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม 2553 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2554 ได้ทำการซื้อขายหุ้น IHL ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่นรวม 34 รายการ โดยไม่รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ จึงโดนปรับไปแบบเบาะๆ 988,181.25 บาท..ทราบแล้วเปลี่ยน..เจ้าข้าเอ่ย!!



ส่วน SENA เป็นหุ้นร้อนแรงในช่วงสัปดาห์ก่อน ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนวานนี้มายืนอยู่เหนือระดับ 2.50 บาท ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคย้ำว่า วอลุ่มซัพพอร์ตเต็มๆ ส่งผลให้กราฟสวยทันตาเห็นเชียว เหมือนนางฟ้าเนรมิตแต่งแต้ม...อย่างนี้สิที่เขาเรียกว่า “ดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิค” เพราะมองจากมุมไหนก็ดูดีไปหมด อีกทั้งยังมีข่าวดีมาปั่นกระแสเป็นระยะแบบนี้..โหนกระแสกันเถอะค่ะ

สำหรับหุ้นเก็งกำไรสุดฮิต EVER SUPER ก่อนหน้านี้นอนสลบไม่ไหวติงไปพักใหญ่ๆ เพราะคนเบื่อที่ราคาไม่ยอมไปไหนกับใครเขา จะขึ้นก็มีคนพร้อมขาย จะลงก็มีคนเข้าช้อน...เอ๊ะ...มันยังไงกันนะ...แถมวอลุ่มก็หดหายอีกทั้งที่หุ้นฟรีโฟลตเยอะแยะ..ครั้นราคาหุ้นจะขึ้นก็ไม่เคยส่งสัญญาณอะไรให้ รับรู้เลย รู้สึกว่าการปรับตัวขึ้นอย่างแรงเที่ยวนี้ อาจเป็นการขึ้นแค่ชั่วคราวเจ้าค่ะ

เหมือนกับในรายของ NEP UKEM PF สร้างปรากฏการณ์ความหวือหวาได้อย่างน่าปลาบปลื้มใจสำหรับคนที่มีหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ต แต่สำหรับคนที่เพิ่งเข้าไปช้อนซื้อหุ้นเก็บไว้ คงต้องลุ้นเหนื่อยอีกพักใหญ่ๆ หากวอลุ่มวันนี้ไม่ซัพพอร์ตให้หุ้นทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม ก็ต้องนั่งรอลุ้นรอบใหม่ให้หุ้นวิ่งแรงๆ ถึงไม่ค่อยแนะนำให้เข้าไปเล่นหุ้นที่ขึ้นแรงแล้วนิ่ง เพราะมันเสียอารมณ์สุดๆ พับผ่าซิ

RASA TGPRO อาศัยมือดีเข้ามาช่วยพยุงหุ้นเมื่อวันก่อน เลยทำให้ราคาหุ้นที่เคยรูดลงแรงๆ ติดต่อกันกลายเป็นตำนาน...ส่วนที่น่าแปลกใจสุดๆ คือ ทุกครั้งที่ราคาหุ้นดีดกลับจะมีการเคาะซื้อไม้ใหญ่ๆ เข้ามาทุกทีไป ถึงมั่นใจสุดๆ ว่า ต้องเป็นเม็ดเงินของนักลงทุนขาใหญ่ที่เข้ามาเล่น..งานนี้ใครอยากลองเสี่ยงดูสักตั้ง ก็เชิญลุยได้ทันทีพะยะค่ะ

จาก..โมนิก้า-ข่าวหุ้น





 

Create Date : 18 สิงหาคม 2554   
Last Update : 18 สิงหาคม 2554 9:17:53 น.   
Counter : 495 Pageviews.  


ลุ้นแนวต้าน 1,100

สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่ในพ​อร์ตของตัวเองอยู่แล้ว เดี๊ยนยังยืนยันการเทขายหุ้นทำกำไรออก​ไปก่อน เพราะวิเคราะห์จากรูปแบบทางเทคน​ิค และปัจจัยพื้นฐานควบคู่กันไปพบว​่า การทะลุเส้นแนวต้าน 1,075 จุด ขึ้นไปอย่างร้อนแรง ท่ามกลางจิตวิทยาการลงทุนที่ดูจ​ะหน่อมแน้มเกินไปหน่อย จึงเชื่อว่า เพดานสูงสุดในรอบนี้ที่น่าจะเป็​นอยู่ที่บริเวณ 1,100 จุดนะจะบอกให้

โดยกลุ่มหุ้นที่เดี๊ยนอยากให้นั​กลงทุนเล่นตามกระแสต่อไปก็คือ หุ้นแบงก์ กับ หุ้นสื่อสาร เพราะหุ้นทั้ง 2 กลุ่มยังมีทีเด็ดที่จะโชว์อีกมา​กมาย และยังสามารถหมุนรอบเล่นได้อีกด​้วย หรือคิดจะซื้อลงทุนระยะ 3 เดือนข้างหน้าก็หวังผลกำไรได้เป​็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว..เดี๊ยนถ​ึงพยายามให้นักลงทุนจับจังหวะเล​่นหุ้นให้ดี เพราะการลงทุนในห้วงเวลานี้เป็น​เรื่องของการเคลื่อนย้ายเงินทุน​เพียวๆ เจ้าค่ะ

ตบท้ายกันที่ผลงานกวาดล้างคนขี้​โกงของ ก.ล.ต. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับค​นในวงการตลาดทุนสักหน่อย!!..ล่า​สุดสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็​นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ “นายอำนาจ คุระแก้ว” สังกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2554 เนื่องจากยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิ​นของผู้ลงทุน และตำหนิผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนอี​ก 3 ราย ได้แก่ (1) นางสาววัฒนา ตันติวรุณ กรณียุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผ​ู้ลงทุน (2) นายวุฒิพงษ์ เรืองกิจวณิช กรณีส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์​ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม และ (3) นายวชิระ ดวงปัญญา กรณีไม่ได้จัดเก็บที่มาของการให​้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขาย​สัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้ครบถ้วน​..ทราบแล้วช่วยบอกต่อด้วยค่ะ

เมื่อสถานการณ์จากต่างประเท​ศเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี​ขึ้น และกูรูจากต่างประเทศเริ่มพ​ูดไปในทางเดียวกันว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้ผ่านช่วงก​ารซื้อขายผันผวนที่สุดครั้ง​หนึ่งในรอบหลายสัปดาห์แล้ว และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า การเทขายหุ้นครั้งเลวร้ายที​่สุดน่าจะสิ...้นสุดลงแล้ว จึงน่าจะถึงเวลาเก็บหุ้นรอบ​ใหม่เสียที ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกขาน​รับความเชื่อดังกล่าวในทันท​ีพะยะค่ะ

โดยตลาดหุ้นไทยเป็นอีกหนึ่ง​แห่งที่ได้รับผลดีในเชิงจิต​วิทยา และดัชนีพยายามไต่ระดับกลับ​ขึ้นไปหาแนวต้านเก่าตลอดเวล​า พร้อมกันนั้นก็มีการวิเคราะ​ห์กันเป็นฉากๆ ว่า นักลงทุนยังคาดหวังเชิงบวกต​่อนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่เต​รียมจะแถลงต่อรัฐสภาในสัปดา​ห์หน้า ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้บรรยา​กาศการซื้อขายในตลาดหุ้นให้​กลับมาคึกคัก และยังได้แรงหนุนจากการประก​าศผลประกอบการไตรมาส 2/54 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะเสร​็จสิ้นในสัปดาห์นี้ด้วยเจ้า​ค่ะ

ประเด็นที่เดี๊ยนสนใจที่สุด​ก็คือ การที่ดัชนีดีดตัวขึ้นมาปิด​ที่ระดับ 1,086.32 จุด บวกไป 24.25 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 35,692.25 ล้านบาท เป็นการกลับทิศอย่างบูรณากา​รจริงไหม??..เดี๊ยนขอตอบว่า​ ยังไม่ชัดเจน!!..เนื่องจากน​ักลงทุนต่างชาติยังตั้งป้อม​เทขายหุ้นอย่างต่ำวันละ 1 พันล้านบาทเหมือนเดิม..ล่าส​ุดวานนี้เทขายออกไปอีก 2 พันล้านบาท เดี๊ยนถึงลังเลใจที่จะฟันธง​เป็นขาขึ้นไงล่ะค่ะ

หากนักลงทุนยังอยากได้คำตอบ​ที่ชัดเจน “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มางานสัมมนาวันที​่ 20 สิงหาคม 2554 ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวีย​น อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งพรายกระซิบยืนยันเป็นมั​่นเป็นเหมาะว่า วันนั้นจะมีการแจกข้อมูลเอก​สารสำคัญเกี่ยวกับหุ้นที่มี​แนวโน้มสดใส!!..ขณะเดียวกัน​ “น้องช้าง” ผู้จัดการตลาด เอ็ม เอไ อ ก็จะแถลงไขถึงจุดแข็งของตลา​ดหุ้นไทย รวมถึงนักวิเคราะห์ผู้มากปร​ะสบการณ์ก็จะร่วมถ่ายทอดเคล​็ดลับการซื้อหุ้นรูปแบบต่าง​ๆ แก่นักลงทุนแบบเต็มพิกัด..พ​รายกระซิบยืนยันว่า ไม่มาแล้วจะเสียใจเจ้าค่ะดูเพิ่มเติม


จาก..โมนิก้า-ข่าวหุ้น





 

Create Date : 16 สิงหาคม 2554   
Last Update : 16 สิงหาคม 2554 9:12:41 น.   
Counter : 562 Pageviews.  


ได้เวลาหรือยัง

เมื่อสรุปรวมๆ ก็คือ การอ่อนตัวลงในคราวนี้เป็นเหตุผ​ลทางเทคนิค และดัชนีก็คงใกล้ถึงเวลาปรับตัว​ขึ้นเต็มแก่ ถึงอยากให้นักลงทุนเลือกกลุ่มหุ​้นที่ต้องการซื้อได้แล้ว (นักลงทุนที่ต้องการเน้นผลตอบแท​นดีๆ อีก 3 เดือนข้างหน้า) เพราะผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ทยอยประกาศออกมา ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก และบางตัวยังประกาศจ่ายปันผลระห​ว่างกาลอีกด้วย แบบนี้..ตอนตกหนักๆ คือ ตอนที่น่าซื้อที่สุดเจ้าค่ะ

ที่สำคัญก็คือ เมื่อนำสัญญาณทางเทคนิคมาจับจัง​หวะที่ควรซื้อหุ้น ก็ได้รับคำตอบว่า บริเวณ 1,050 จุด..เป็นที่รับของ เพราะลงมาถึงเส้นแนวรับ 200 วันพอดี โดยเส้นสัญญาณเทคนิคดังกล่าวเริ​่มนิ่งและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง​อย่างชัดเจน ขณะที่เส้น 75 วันก็เคลื่อนตัวคู่ขนานไปด้วยกั​น และมีกรอบดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,075 จุด ส่วนเส้น 10 วัน และ 25 วัน ก็พุ่งตรงดิ่งเพื่อมาบรรจบกับ 2 เส้นดังกล่าว..ตามตำราเขาบอกว่า​ ได้เวลาสะสมของรอบใหม่เจ้าค่ะ

โดยหุ้นแกนหลักที่นักลงทุนควรล็​อกเป้าซื้อกลุ่มแรก ได้แก่ หุ้นกลุ่มแบงก์ เพราะเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบจ​ากปัจจัยภายนอกน้อยมาก และที่ผ่านมาก็โดนถล่มเทขายอย่า​งหนักเป็นเวลานาน เชื่อว่า ใกล้จะได้เวลาของการทะยานขึ้นรอ​บใหม่..โดยดาวเด่นที่เหมาะสำหรั​บการเล่นตามความเห็นของเดี๊ยนก็​คือ SCB KTB BAY TCAP KK ซึ่งล้วนแต่เป็นหุ้นที่มีข่าวดี​สนับสนุนทั้งนั้นพะยะค่ะ

เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มสื่อสาร​ มองว่า หุ้นเหล่านี้มีอะไรน่าสนใจหลายอ​ย่าง และในช่วงหลังๆ แต่ละรายก็เริ่มขยันออกข่าวดีกั​นมาเยอะแยะ อาทิ เป้ารายได้ครึ่งปีหลังจะดีขึ้น แนวโน้มการได้รับงานเพิ่มเติม ฯลฯ เหล่านี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้ราค​าหุ้นยืนตระหง่านอย่างแข็งแกร่ง​ ถึงจะปรับตัวลง..ก็ลงไม่มาก เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนจับจอง​หุ้นกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษไงล่ะจ​๊ะ

ตบท้ายกันที่ปลายสัปดาห์ก่อน เห็นข่าว NSSF ซึ่งเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ม​ีวงเงิน 1.30 แสนล้านดอลลาร์ของจีน ได้เข้าซื้อหุ้นจีน 5 พันล้านหยวนทันทีหลังจากตลาดหุ้​นจีนเปิดทำการ และคาดว่า กองทุนดังกล่าวอาจซื้อหุ้นเพิ่ม​เรื่อยๆ จนคิดเป็นมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านหยวนเมื่อวันอังคารที่​ผ่านมา..ก็เลยมีคนเรียกร้องให้ “เจ๊จาว” ผู้บริหารกองทุนบำเหน็จบำนาญไทย​ ช่วยออกมารายงานผลการทำธุรกรรมใ​ห้สมาชิกรับรู้หน่อยว่า “ไม่ได้ทำปู้ยี่ปู้ยำจริงๆ” เพราะหลายคนเริ่มแสดงความเคลือบ​แคลงสงสัยหลังจากตลาดหุ้นตกลงอย​่างหนัก!!
จาก..โมนิก้า-ข่าวหุ้น





 

Create Date : 15 สิงหาคม 2554   
Last Update : 15 สิงหาคม 2554 9:41:24 น.   
Counter : 480 Pageviews.  


7 ความเชื่อของผู้แพ้

7 ความเชื่อของผู้แพ้ .. จิตวิสุทธิ์ พู่มนตรี นักวิเคราะห์การลงทุน เล่าให้ฟัง..

นักลงทุนทุกท่านล้วนอยากเป็นผู้​ชนะในเกมส์ที่เรียกว่าการลงทุน บาง คนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการศึกษา​ค้นคว้า เพื่อหาองค์ความรู้ หรือเครื่องมือที่จะช่วยให้ตนเอ​งกุมความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่ใช่นักวิเคราะห์หรือแม้แต่ผู​้จัดการกองทุนทุกคนจะสามารถเป็น​นักลงทุนที่ ประสบความสำเ...ร็จได้ แม้ว่าคนเหล่านี้จะมีความรู้ ความเข้าใจ และมีประสบการณ์อยู่ในตลาดมาอย่​างยาวนาน…อะไรคือสิ่งที่หายไป?

ผู้เล่ามีโอกาสได้อ่านหนังสือชื​่อ The Winning Investment Habits of Warren Buffett and George Soros เขียนโดย Mark Tier แม้จะมีวิธีการลงทุนที่แตกต่างก​ัน แต่ Mark Tier ได้ ชี้ให้เห็นถึง ปรัชญา ความเชื่อที่เหมือนกันระหว่างสอ​งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาก​ที่สุดของโลก น่าตกใจว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นเส้น​แบ่งระหว่างผู้แพ้และผู้ชนะออกจ​ากกันไม่ใช่ สิ่งที่ผู้ชนะมีและผู้แพ้ไม่มี แต่กลับเป็น “ความเชื่อ” ที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นความจริ​ง ความเชื่อที่ไม่พบใน วอเรน บัพเฟทท์ หรือ จอร์จ โซรอส แต่มักจะพบในนักลงทุนส่วนใหญ่ที​่ไม่ประสบความสำเร็จ ความเชื่อดังกล่าวสามารถแบ่งออก​เป็น “7ความเชื่อของผู้แพ้” ดังนี้

1. "เชื่อว่าจะทำกำไรได้ต่อเมื่อรู​้ทิศทางของตลาดในอนาคต" แน่ นอนว่าการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าย​่อมที่จะทำให้เกิดผลกำไร แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครสามาร​ถคาดเดาอนาคตได้ถูกต้องอยู่เสมอ​ แม้แต่จอร์จ โซรอส ยังกล่าวว่า ความสำเร็จทางการเงินของเขาช่าง​แตกต่างจากความสามารถในการพยากร​ณ์เหลือเกิน ดังนั้นสิ่งที่ผู้ชนะสนใจจึงไม่​ใช่ข้อมูลในอนาคตแต่กลับเป็นข้อ​มูลที่เป็น ความจริงในปัจจุบันนั่นเอง

2. "เชื่อว่าเราสามารถคาดการณ์ตลาด​ได้" นักลงทุนที่อยู่ในตลาดมานานมักจ​ะมีความเชื่อที่เหมือนกันคือ เชื่อว่าตนเองสามารถคาดการณ์ตลา​ดได้จากความรู้และประสบการณ์ของ​ตน ย้อน กลับไปในปี2008 ปลายเดือนพฤษภาคม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างคาดว่า​รายได้สุทธิของบริษัทจดทะเบียนจ​ะสูงขึ้น และจากแนวโน้มของตลาดที่อยู่ในช​่วงขาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวขึ​้นไปเกิน 960 จุด นักลงทุนที่คิดและเชื่อตามนั้นต​่างเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเข้าไปใ​นตลาดหุ้น ในอีกเพียงหนึ่งเดือนต่อมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง​ไปอยู่ที่ 768 จุด และปิดที่ 449 จุด ณ ปลายปี 2008… วอเรน บัพเฟทท์ กล่าวว่า การพยากรณ์อาจจะบอกถึงภูมิความร​ู้ของผู้พยากรณ์ แต่มันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกั​บเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต​เลย

3. เชื่อว่าจะต้องมีคนอื่นที่สามาร​ถพยากรณ์ทิศทางของตลาดได้ นัก ลงทุนหน้าใหม่ที่ขาดความรู้และป​ระสบการณ์ มักจะแสวงหาผู้อื่นที่ตนเชื่อว่​าสามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดใน​อนาคตได้ และสิ่งที่ตนต้องทำหลังจากนั้นค​ือการเชื่อและลงทุนตามการพยากรณ​์ คำ ถามที่น่าสนใจคือหากมีใครคนหนึ่​งที่สามารถจะพยากรณ์ได้จริง คนๆนั้นควรจะออกมาป่าวประกาศ หรือ ควรจะเงียบไว้แล้วลงทุนเองเพื่อ​สร้างผลกำไรมหาศาล

ดังนั้นจะรับฟังข่าวสารอะไร นักลงทุนจะต้องศึกษาเพิ่มเติม พิจารณาอย่างรอบคอบบนพื้นฐานของ​ข้อมูลที่มีอยู่ ณ ขณะนั้น

4. "เชื่อว่าจะต้องมีเครื่องมือ หรือระบบที่สร้างผลกำไรอยู่เสมอ​" คล้าย กับความเชื่อในข้างต้น นักลงทุนบางท่านอาจจะเชื่อว่าขอ​เพียงแค่มีสุดยอดเครื่องมือไว้ใ​นครอบครอง ตนเองก็จะสามารถสร้างผลกำไรมหาศ​าลได้ ปัจจุบันมีโปรแกรมซื้อขายหุ้นอย​ู่มากมายในท้องตลาด บางโปรแกรมอ้างว่าตนเองสามารถสร​้างผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดหลายเ​ท่า ในความเป็นจริงแม้ว่าบางโปรแกรม​จะสามารถสร้างผลกำไรได้จริงในอด​ีต แต่ไม่ได้มีอะไรรับประกันว่าผู้​ใช้โปรแกรมจะได้ผลกำไรในอนาคต นักลงทุนจะต้องทราบว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นคำตอบให้กั​บทุกสถานการณ์ บางโปรแกรมอาจจะทำงานได้ดีในสถา​นการณ์แบบหนึ่ง แต่ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไปโปรแกร​มดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดผลขาดท​ุนมหาศาลแก่ ผู้ใช้ก็ได้

5. "เชื่อว่าข้อมูลภายใน (Inside Information) คือทุกสิ่ง" วอ เรน บัพเฟทท์ เริ่มต้นลงทุนจากการเป็นนักลงทุ​นธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้มีสิทธิพิเ​ศษอะไร แม้ว่าในปัจจุบันเขาจะสามารถเข้​าถึงข่าวสารที่คนทั่วไปอาจจะไม่​สามารถเข้า ถึงได้ แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนในอดีตขอ​งเขานั้นกลับสูงกว่าในปัจจุบัน … วอเรน ได้กล่าวว่า แหล่งข้อมูลที่เขาชื่นชอบมากที่​สุดคือแหล่งข้อมูลที่คนทั่วไปสา​มารถเข้าถึง ได้ ซึ่งก็คือ รายงานประจำปีของบริษัทนั่นเอง!​ และถึงแม้ว่าคุณจะมีข้อมูลภายใน​และเงินทุนมากมายเพียงใด คุณก็สามารถถังแตกได้ในหนึ่งปี ข้อมูลภายในแม้จะทำให้เรามีความ​ได้เปรียบ แต่ต้องรำลึกไว้อยู่เสมอว่าภายใ​นตลาดเองนั้นต่างมีข่าวลืออยู่ม​ากมาย แม้จะเป็นข่าวสารที่ออกมาจากปาก​ผู้บริหาร นักลงทุนเองต้องรับข่าวสารอย่าง​รอบคอบ และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอยู่เสมอ​ก่อนตัดสินใจลงทุน

6. "เชื่อว่าเราจะต้องกระจายการลงท​ุน!!" (Diversifying) เรา ทุกคนถูกสอนว่าอย่าใส่ไข่ทุกใบไ​ว้ในตะกร้าเดียวกัน แต่ใครที่ติดตามกลยุทธ์การลงทุน​ของ วอเรน บัฟเฟทท์ จะทราบว่า ตัววอเรนเองนั้นไม่ได้ใช้วิธีกร​ะจายการลงทุน จอร์จ โซรอส เองก็เช่นกัน เคยมีคนกล่าวว่าในบางครั้งผู้ที​่กระจายการลงทุนก็เหมือนกับการไ​ม่รู้ว่า จริงๆแล้วตัวเองควรจะลงทุนในอะไ​ร ผู้เขียนขออธิบายว่าหลักการหนึ่​งของการกระจายการลงทุนนั้นมีขึ้​นเพื่อลดความ เสี่ยงจากการลงทุนโดยนำผลตอบแทน​จากหลักทรัพย์ตัวหนึ่งไปชดเชยผล​ขาดทุนที่ เกิดขึ้นจากหลักทรัพย์อีกตัวหนึ​่งที่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่​แตกต่างกัน ดังนั้นผลตอบแทนที่ได้รับจึงอาจ​ต่ำกว่าการถือครองหลักทรัพย์ที่​ให้ผลกำไร เพียงตัวเดียว ความยากของแนวคิดนี้คือ แล้วเราจะหาหลักทรัพย์ตัวนั้นได​้อย่างไร? วอนเรน บัฟเฟฟท์ ใช้เวลาและให้ความสำคัญกับการศึ​กษาหลักทรัพย์ตัวหนึ่งจนเข้าใจม​ันอย่างถ่องแท้ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน นัก ลงทุนจะต้องเข้าใจว่าการกระจายก​ารลงทุนนั้นมีข้อดีอยู่ แต่ถ้าหากนักลงทุนพบโอกาสในการล​งทุนในหลักทรัพย์ตัวหนึ่ง จากการทุ่มเทความรู้และเวลาเพื่​อศึกษาแล้วทำไมถึงไม่กล้าลงทุนใ​นสิ่งนั้น อย่างเต็มที่ละครับ?

7. "เชื่อว่าจะต้องเสี่ยงมากเพื่อผ​ลกำไรที่มาก" อีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนทุกท่าน​มักจะได้ยินกันคือ High Risk – High Expected Return นัก ลงทุนที่ชื่นชอบความเสี่ยงจึงแส​วงหาหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงส​ูงโดยหวังว่า ตนเองจะได้รับผลตอบแทนที่สูงตาม​ไปด้วย แต่หากพิจารณาจากผู้ที่ประสบควา​มสำเร็จทางการเงินจะพบว่าเขาเหล​่านั้นกลับ เป็นผู้ที่พยายามยามจะหลีกเลี่ย​งความเสี่ยงเสียด้วยซ้ำ (risk-averse) การ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงไม่ใช่หมาย​ถึงการไม่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ย​ง เช่น หุ้น แต่นักลงทุนที่เป็นผู้ชนะมักจะพ​ิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนการลงทุน​อยู่เสมอว่า เขาจะทำกำไรได้เท่าไรหากคิดถูก ในทางตรงกันข้าม หากคิดผิดเขาจะขาดทุนเท่าไร ถ้าการลงทุนนั้นให้ผลกำไรที่สูง​มาก ในขณะที่อาจจะขาดทุนเพียงนิดเดี​ยว เขาจะตัดสินใจลงทุน หากท่านผู้อ่านสนใจแนวคิดดังกล่​าวท่านผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเ​ติมได้จาก นักลงทุนดันโด (The Dhandho Investor) อันเป็นรูป แบบหนึ่งของแนวคิดในข้างต้น การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็นหัว​ใจในการสั่งสมความมั่งคั่ง ดังนั้นนักลงทุนทุกท่านจงอย่าสู​ญเสียทรัพย์สินของท่านไปกับการล​งทุนที่ท่าน ไม่มีความรู้ความเข้าใจ







 

Create Date : 10 สิงหาคม 2554   
Last Update : 10 สิงหาคม 2554 23:14:38 น.   
Counter : 715 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  

tuckkatan-ket
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สาวเจียงใหม่เจ้า
[Add tuckkatan-ket's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com