Group Blog
 
All blogs
 
บทความ "น้ำเน่ามีเงาจันทร์" วิพากษ์ละครโทรทัศน์น้ำเน่า โดย คฑาหัสต์ บุษปะเกศ

ท่านผู้อ่านเป็นคนไทย นิยมดูละครโทรทัศน์ คงจะคุ้นเคยกับประโยคเหล่านี้ที่หลาย ๆ คนชอบพูดกันนะครับว่า

“ทำไมละครไทยถึงมีแต่น้ำเน่า...”
“ละครไทยนี่มันน้ำเน่าสิ้นดี เนื้อเรื่องซ้ำ ๆ ซาก ๆ”
“ละครไทยไม่เห็นมีอะไรมาก นอกจากเรื่องแย่งผัวแย่งเมีย”
“ดูละครโทรทัศน์แล้วปัญญาถดถอย วัน ๆ ไม่ทำอะไรกัน เอาแต่อิจฉาริษยา ตบกัน ตีกัน รักกัน แล้วลงท้ายก็แต่งงานกันทั้งปี ทั้งชาติ”

สังคมไทยโดยเฉพาะในอินเตอร์เนตโลกไซเบอร์ ดูเหมือนว่าถ้าใครด่าละครไทยว่าน้ำเน่าได้เนี่ย จะเป็นผู้มีปัญญาขึ้นมาทันที...

ช่วงสองสามปีหลังเนี่ย ยิ่งแล้วใหญ่ คอลัมภ์นิสต์วิจารณ์บันเทิงของหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงโทษ พิพากษาละครไทยเลยด้วยซ้ำว่า
“....เพราะความน้ำเน่านี่แหละ ก่อให้เกิดปัญหาสังคม ทำให้ประเทศด้อยพัฒนา เยาวชนของชาติเดินทางผิดเพราะเอาแต่ดูละครพวกนี้”

โอ้โฮ !! ว่าเข้านั่น ทำเหมือนพวกผมคนทำโทรทัศน์เนี่ย แบกภาระเพื่อชาติไว้เต็มสองแขน สามารถดลบันดาลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ยังงั้นแหละ
อันนี้มันก็เกินไปนี๊ดหนึ่ง !! ในฐานะที่เป็นคนเขียนละครน้ำเน่าอยู่หลายเรื่อง ขอแก้ข่าวการถูกประณามกัน
อย่างรุนแรงแบบนี้ คนวิจารณ์คงจะลืมไปว่าละครโทรทัศน์ส่วนใหญ่ถูกสร้างเพื่อให้เกิดความบันเทิงภายในบ้าน เพื่อให้คนดูมีความสนุกสนานและคล้อยตามไปกับเรื่อง ผ่อนคลายไปกับเนื้อหา เพราะชีวิตในโลกความจริงมันก็โหดร้ายพอแรงอยู่แล้ว

แล้วอะไรล่ะ...ที่จะสร้างความสนุกสนานให้กับคนดูได้มากไปกว่า เรื่องชีวิตใกล้ตัว เรื่องครอบครัว เรื่องความรัก และความขัดแย้งกันในเรื่องความรัก...

เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าสังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำกันมากระหว่างสังคมเมืองกับสังคมชนบท สื่อบันเทิงที่เข้าถึงคนมากที่สุดอย่างโทรทัศน์จำเป็นต้องตอบสนองต่อความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศ...
ซึ่งคนเหล่านี้สนุกกับการชมพระเอกนางเอกรักกัน นางเอกรันทด ต้องไปผจญกรรมกับเหล่าร้าย แต่สุดท้ายแล้วด้วยความดีงามที่มีในจิตใจจึงทำให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุขสมหวังตอนท้ายเรื่อง

ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะให้ดูแต่ละครน้ำเน่า (อย่างที่ผู้ทรงคุณวุฒิชอบเรียก) แต่ผมอยากชี้ให้เห็นถึงความดีของละครน้ำเน่าแบบไทย ๆ ดูบ้าง

เรียกว่าชิ้ให้เห็น “เงาจันทร์” ในน้ำเน่าไงครับ...

เงาจันทร์สำคัญและปฏิเสธไม่ได้ ที่ผมอยากชี้ให้เห็นก็คือ ละครน้ำเน่าทุกเรื่องสะท้อนให้คนทำความดีแน่นอน !!

ยังไงเหรอครับ...ก็คุณผู้อ่านเคยเห็นละครน้ำเน่าเรื่องไหนที่ตัวร้ายได้ดีบ้างมั้ย จบท้ายละครน้ำเน่าทุกเรื่องก็จะบอกให้คนดูรู้เสมอว่า....

”ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

วิบากกรรมของคนชั่ว ตัวอิจฉา จะต้องรับผลกรรมที่ตัวเองสร้างไว้เสมอ ชั่วมากก็สนองมาก ชั่วน้อยก็สนองน้อย แต่สุดท้ายไม่มีใครเลยที่จะเสวยสุขได้ในความทุกข์ของคนอื่น ส่วนกรรมดีของนางเอกหรือพระเอกที่ปฏิบัติมาตลอดทั้งเรื่อง จะสะท้อนผลทำให้ทั้งคู่พบรัก ได้รับความสุขของชีวิตในที่สุด

ในความคิดของผม คำพูดของตัวละครในละครน้ำเน่าหลาย ๆ เรื่องในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นสัจจะธรรมในการดำรงชีวิตและการความดีอยู่เสมอ

ขอยกตัวอย่างจากเรื่องใกล้ตัวที่กำลังออกอากาศอยู่ก็ได้

ละครเรื่อง “อุ่นไอรัก” ทางช่อง 7 ด้วง...พระเอกของเรื่อง พูดเรื่องการทำความดี การกลับตัวและให้โอกาส เมื่อถูกจับและได้รับการปล่อยตัวเพราะไม่ผิด

“คนที่เคยทำผิดพลาดครั้งหนึ่ง ต้องเป็นคนเลวไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ…”

นายด้วงของเราตอกย้ำเข้าไปอีกว่า...
“ไม่มีใครอยากผิดพลาดไปตลอดชีวิตหรอกนะสารวัตร ขยะอย่างพวกผม ขอแค่โอกาสและความเข้าใจเท่านั้นก็พอ...”

ในละครเรื่อง “เจ้าสาวกลัวฝน” ทางช่อง 3 มีมุมมองเกี่ยวกับความรักและการใช้ชีวิตคู่ระหว่าง รัตนิน (พระเอก) และ ปารวี (นางเอก) แบบถ้าคิดตามจะได้อะไรเยอะเลย...
“แต่งงานกับผมอีกครั้งนะปารวี...”
“ไม่...ฉันยังไม่พร้อม ยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานจริง ๆ จัง ๆ ชีวิตฉันไม่เคยเห็นชีวิตแต่งงานที่ประสบความสำเร็จเลย”
“แล้วทำไมคุณไม่ทำให้มันสำเร็จด้วยตัวคุณเองล่ะ...”
“วันนี้คุณบอกรักฉัน แล้วพรุ่งนี้ล่ะ พรุ่งนี้คุณยังจะรักฉันอยู่หรือเปล่า ฉันจะมั่นใจในอนาคตได้ยังไงคะ”
“ผมไม่มีหลักประกันอะไรจะให้คุณ นอกจากสองแขนนี้ที่จะปกป้องดูแลคุณ...ตลอดเวลาที่ผมยังมีลมหายใจ”
“คุณสัญญากับฉันได้ไหม”
“ผมสัญญาว่าวันนี้ของทุก ๆ วัน ผมจะทำอย่างดีที่สุด เพื่อวันพรุ่งนี้ของเรา”

ถ้าเรามองกันเฉพาะประเด็น “ความดี” ละครที่ประกาศว่าสร้างสรรค์สังคมบางเรื่องทำร้ายจิตใจของคนชมมากกว่าละครน้ำเน่าซะอีก เพราะพระเอกหรือนางเอกที่ทำความดีมาทั้งชีวิต พอจะมีความสุขสมหวัง...

อ้าว แต่ต้องตายตอนท้ายเรื่องซะแล้ว !!
ถ้าคิดแบบไม่ต้องใช้สมองมาก เราอาจตีประเด็นได้ว่า...แบบนี้คนดูจะมุ่งมั่นในการทำความดีไปทำไม ในเมื่อทำดีแล้วต้องตาย !!

เหรียญยังมีสองด้าน ละครน้ำเน่าก็มีมุมมองสองด้านเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับใครจะมองด้านไหนมากกว่ากัน
สำหรับผมและพรรคพวกที่เขียนบทโทรทัศน์อยู่ด้วยกัน (ในกลุ่ม”ช่างปั้นเรื่อง”) มั่นใจว่าละครโทรทัศน์ไทยที่ใครหลายคนประณามว่า “น้ำเน่า” นี่แหละ สามารถสร้างสรรค์ จรรโลงสังคมไทยให้พัฒนาดีขึ้นได้ หากมีการนำเสนอและเพื่อการตีความอย่างแยบยล

เหมือนหมอไงครับ หมอที่ต้องการให้คนไข้มีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาที่ขมปี๋ คนไข้หน้าเบ้ส่ายหัวไม่เต็มใจกินยา เพราะกินแล้วระคายคอตลอดเวลา

เราขอเป็นหมอที่จ่ายยาดี เคลือบน้ำตาล สีสันสวยงามชวนกิน ล่อหลอกให้คนกินยาเหล่านี้ด้วยความเต็มใจดีกว่า เพราะมันได้ผลในทางรักษากว่ากันเยอะ !

ขอย้ำอีกครั้ง...
“สังคมไทยพัฒนาได้ด้วยละครน้ำเน่า...แน่นอน !!”

คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
20 มิถุนายน 2547
เวลา 12.59 น.



Create Date : 21 ตุลาคม 2549
Last Update : 21 ตุลาคม 2549 14:25:28 น. 4 comments
Counter : 758 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ พี่คฑาหัส

เห็นด้วยอย่างแรงว่า ในน้ำเน่า มันก็มีเงาจันทร์อย่างที่พี่บอก แล้วก้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พวกผู้มีความรู้ทั้งหลาย จะเอาอะไรกับละครไทยนัก บางที่หนูดู หรืออ่านแล้วก้เบื่อ สภาวะบ้านเมืองก้เครียดอยู่แล้วกลับบ้านมาดูทีวี ก็ดันเจอแต่ละครน้ำดี(แต่มันเบื่อเว้ย)ก็ปิดซะเท่านั้น แล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ละครนี่ จะสามารถทำให้เยาวชนเราเปลี่ยนแปลงความคิดได้มากมายอะไรขนาดนั้น มันอยู่ที่ตัวตนของเด็ก การอบรม เลี้ยงดู สั่งสอนของผู้ปกครองต่างหาก แอบมาบอกพี่นิดนึงว่า ปลื้มพี่มากค่ะ พี่สามารถทำนิยายธรรมดาๆให้สนุกขึ้นมาได้อย่างไม่อยากจะเชื่อ จนหนูเองที่ชอบเขียนนิยาย(ตอนนี้ก็ฝึกเขียนลงเน็ตอยู่ค่ะ)ก็อยากจะเขียนบทโทรทัศน์บ้าง ดีใจค่ะ ที่พี่เปิดบล็อก หนูติดตามพี่มาตั้งแต่ อืม ไรน้า ดั่งสวรรค์สาป แล้วก็เรื่อยมาเลย
คุยซะยืดยาว ไปก่อนดีกว่า รักษาสุขภาพนะคะพี่หนึ่ง(ใช่หรือเปล่าวะเนี่ย)
แสนดีคนเดิม


โดย: แสนดี (superverynice ) วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:17:23:16 น.  

 
สวัสดีค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
โดยส่วนตัวชีพเป็นคนที่ชอบดูละครมากคนหนึ่ง
แม้ว่าละครที่ชีพดูหลายๆเรื่องจะถูกวิจารณืมากมายว่าน้ำเน่า แต่ชีพไม่ได้มองตรงนั้นค่ะเพราะทุกบทประพันธ์ที่กลั่นกรองจากสมองให้เป็นตัวละครที่มีชีวิตนั้น มักคัดสรรเรื่องราวบางส่วนมาจากสังคมในปัจจุบันบวกกับจินตนาการของผู้แต่ง แต่สะท้อนความจริงออกมาให้เห็นชัดเจน
มีคำกล่าวหนึ่งที่เป็นคำที่ดี " ดูละครแล้วย้อนดูตัว" เพราะทุกสิ่งสรรล้วนแต่มีความนัยซ่อนอยู่ สุดแต่จะพิจารณานำไปใช้ให้เหมาะสม ผู้ปกครองควรแนะนำเด็กที่ยังมีภาวะในการตัดสินใจต่ำ และชี้แนะให้ถูกทาง
สังคมพัฒนาได้ด้วยหลายสิ่งทั้งการศึกษา การดำเนินชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงข้อคิดจากละครก็มีส่วน เพราะทีวีมีใช้กันทุกบ้านเป็นสื่อที่เข้าถึงง่ายที่สุด
**ขอให้มีความสุขนะคะ **


โดย: ชีพชีวิน วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:17:54:24 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักน้องแสนดี และ น้องชีพชีวินครับ
ดีใจที่มีคนติดตามผลงานเราอยู่
ความสุขของคนเขียนบทคงไม่มีอะไรมากไปกว่า
รู้ว่างานที่เราทำมีคนชื่นชอบ

จะหมั่นเข้ามาอัพเดทบล็อคทุกอาทิตย์ครับ
ว่าง ๆ เข้ามาเยี่ยมกันอีกนะครับ

ขอบคุณและยินดีมากที่ได้รู้จักทั้งสองคนครับ


โดย: คฑาหัสต์ บุษปะเกศ (1) (คราม ) วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:18:13:30 น.  

 


ภูมิใจในน้ำเน่าไทย



นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
//nuntawan.bloggang.com


โดย: แม่มดมีฤทธิ์ (แม่มดมีฤทธิ์ ) วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:14:57:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คราม
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





คฑาหัสต์ บุษปะเกศ (1)

นักเขียนบทละครโทรทัศน์
พี่ใหญ่ "ช่างปั้นเรื่อง / สับปะรดหรรษา"

ผลงานเขียนบท...>>>
จิตสังหาร เดือนเดือด ดั่งสวรรค์สาป
หัวใจและไกปืน คุณชาย ทิพยดุริยางค์
ใยเสน่หา เจ้าสาวกลัวฝน แก้วลืมคอน

ผลงานกับช่างปั้นเรื่อง...>>>
อุ่นไอรัก พลิกดินสู่ดาว ด้วยแรงแห่งรัก
ใจเดียว ฟ้ากระจ่างดาว ไฟในวายุ
เบญจาคีตาความรัก แม่คุณเอ๊ย ผีขี้เหงา
แก้วตาหวานใจ หมอลำซัมเมอร์ ฯลฯ

ผลงานกับ สับปะรดหรรษา...>>>
ลูกไม้หลากสี หนี้ชีวิต หมอผีไซเบอร์
ดวงใจและสายน้ำ กระดานสีรุ้ง ฯลฯ

Friends' blogs
[Add คราม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.