Group Blog
 
All blogs
 
"น้ำเน่าผสมวิตามิน" บทวิพากษ์ละครน้ำเน่า (อีกแล้ว) จาก คฑาหัสต์ บุษปะเกศ

น้ำเน่าผสมวิตามิน

สองสามฉบับก่อนผมคุยกับคุณผู้อ่าน เรื่องการมองเห็น “เงาจันทร์” หรือ ความดีในละครน้ำเน่ากันบ้าง คุณผู้อ่านลองดูแล้วเห็นเหมือนกับผมบ้างมั้ยครับ...

ถ้ายังไม่แจ่ม... ฉบับนี้ผมจะคุยให้แจ่มมากกว่าเดิม จะลองยกตัวอย่างละครน้ำเน่า (ของแท้) สักเรื่องสองเรื่อง เอาเป็นประเภทที่ใครต่อใครในสังคมประณามหนามเหยียดว่าเป็นละครน้ำเน่า ไร้สาระ ไม่มีคุณค่าอะไรในสังคม เอามาวิเคราะห์ให้คุณผู้อ่านเห็น “เงาจันทร์” ความดีของละครพวกนี้กันเป็นฉาก ๆ ดีกว่า

เรื่องแรก...เป็นละครโทรทัศน์ที่เพิ่งจบไปเมื่อสักสามสี่เดือนก่อน ทางช่อง 7 สี
“สะใภ้ซ่าส์...แม่ย่าเฮี้ยน”
ยังจำได้มั้ยครับ ตอนที่กำลังฉายออกอากาศอยู่ หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ รุมก่นด่าว่า
เป็นละครผีไร้สาระ มุ่งเน้นแต่ความตลกพร่ำเพรื่อ ไม่ให้อะไรกับสังคม เยาวชนดูแล้วเสียเวลา

มาอ่านบทละครบางฉาก บางตอนกันดีกว่า ที่ว่าตลกไร้สาระ
จริง ! หรือ มั่วนิ่ม !!

ในเรื่อง...คุณนายพรทรัพย์ (แสดงโดยคุณดวงดาว จารุจินดา) ต่อรองกับยมทูตที่จะมาเอาวิญญาณ เธอไม่ยอมตาย ต้องการมีชีวิตอยู่บนโลกต่อไป เพราะรักลูกชายที่ชื่อดลวีร์
(ดนุพร ปุณณกันต์) โดยมีข้อแม้ว่าจะยอมมอบวิญญาณก็ต่อเมื่อมีเงินครบร้อยล้าน

“ไม่…ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น….ฉันยังไปไม่ได้….”
ยมทูตจ้องหน้าคุณนายพรทรัพย์เขม็ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงกร้าว
“มันเป็นลิขิตจากยมโลก เมื่อถึงคราวไปก็ต้องไป ไม่ใช่เรื่องของความเมตตา
แต่มันคือชะตากรรม ไม่ว่าใครก็ฝืนไม่ได้”
“ไม่…ตัวเราเป็นของเรา ฉันนี่ล่ะจะกำหนดชะตากรรมให้กับตัวเอง”
“เมื่อมีเกิดย่อมมีดับ ความตายเป็นของคู่กับมนุษย์ เมื่อละสังขาร เราก็ต้องละ
จากทุกสิ่งที่เคยมีเคยเป็น เคยไขว่คว้า ความเป็นตัวตนของพวกเจ้าได้จบลงไปตั้งแต่วันที่เจ้าหมดลมหายใจ เวลาของพวกเจ้าหมดลงแล้ว เชื่อข้าเถอะ การจากไปของเจ้าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด”
“ไม่มีทาง...ยังไงฉันก็ไม่ยอมไปไหนเด็ดขาด ถ้ายังไม่หมดห่วงเรื่องลูก”
“งั้นต้องทำยังไง เจ้าถึงจะหมดห่วงเรื่องลูก”
“เมื่อฉันแน่ใจว่าลูกจะสบาย”
“อะไรคือสบาย”
“สบายก็คือ…การมีเงินใช้มากพอ”
“เท่าไหร่ถึงพอ”
“ก็ซัก…100 ล้าน”

ดูเหมือนยมทูตในเรื่องนี้ ท่านต้องการจะสอนวิญญาณอย่างคุณนายพรทรัพย์ให้
รู้จักสัจธรรมของโลก ยมทูตก็เลยยอมคุณนาย โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า

“งั้นก็ได้ คนอย่างเจ้าต้องได้รับบทเรียน อย่าลืมนะ...ถ้าเจ้าได้เงินร้อยล้าน
เมื่อไหร่ เจ้าต้องไปกับข้าทันที…”

แล้วละครก็ดำเนินต่อไป ในที่สุดดลวีร์ (ดนุพร ปุณณกันต์) โดนผู้ร้ายยิง อาการปางตายอยู่ในโรงพยาบาล ในเวลาเดียวกับที่คุณนายพรทรัพย์ขายที่ดินได้เงินถึง 100 ล้านบาท

เอาละสิ คราวนี้จะทำไงดีล่ะ ยมทูตจะมาเอาวิญญาณอีกแล้วตามสัญญาเพราะมีเงินครบร้อยล้านแล้วนี่ มาดูกันว่าเมื่อเผชิญหน้ากับยมทูตอีกครั้ง คุณนายพรทรัพย์ว่าไง...

“ไม่ยุติธรรม….ที่ฉันขอต่อรองเรื่องเวลากับท่าน ก็เพราะต้องการสร้างความ
มั่นคงให้ลูกก่อนตาย ไอ้เงินร้อยล้านที่ได้มา ถ้าต้องแลกกับชีวิตลูก มันคุ้มกันที่ไหน ต่อให้มีมากกว่านี้ เป็นพันล้าน หมื่นล้านมันก็ไม่มีค่าอะไร…”
ยมทูตมองหน้าคุณนายพรทรัพย์ แล้วยิ้มมีเลศนัย เอ่ยปากพูดเหมือนกำลังสอนมนุษย์คนนี้
“เห็นแล้วใช่มั้ย...ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้เจ้าหรือคนที่เจ้ารักพ้น
ทุกข์ไปได้เลย เจ้าจะกังวลทำไมว่าจากไปแล้วลูกจะลำบากเพราะขาดเงินทอง ในเมื่อสุดท้ายแล้ว...เงินไม่ใช้ทางออกของชีวิตเลยซักนิด”
“ใครบอก….ไม่ใช่เงินเหรอที่ทำให้ฉันกับลูกลืมตาอ้าปาก พ้นจากความยากลำบากได้มาจนทุกวันนี้”
“นั่นมันเป็นผลจากความเพียร ความอุตสาหะของเจ้าต่างหาก...”

เป็นไง นี่แค่ตัวอย่างนะครับ...ท่ามกลางความน้ำเน่ากับตลกไร้สาระเนี่ย ละครเรื่องนี้ยังมีแก่นที่มีประโยชน์กับคนดูอยู่ไม่น้อย แถมในตอนจบคุณนายพรทรัพย์ที่รู้สัจธรรมของชีวิตยังพูดปิดท้ายให้คนดูได้รู้ซึ้งเกี่ยวกับชีวิตอีกว่า

“ขอบคุณนะคะท่านยมทูตที่ให้โอกาสฉันได้เรียนรู้ ในที่สุดฉันก็รู้ว่า...การไม่ยึดมั่นถือมั่น...คือการหลุดพ้นอย่างแท้จริง”
“ชีวิตนี้สวยงามเสมอ ถ้าเราเข้าใจมัน”

คุณผู้อ่านเริ่มคล้อยตามผมรึยังว่าละครน้ำเน่าไร้สาระในปัจจุบัน มีคุณค่าในตัวของมันเองเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าคนดูจะสังเกตหรือไม่เท่านั้น นี่จากตัวอย่างละครตลกที่โดนประณามว่าตลกไร้สาระที่สุดนะครับ...

มาดูกันอีกสักตัวอย่างดีกว่า เอาแบบที่เรียกละครน้ำเน่าเห็น ๆ เลยดีมั้ย
“แก้วตาหวานใจ”
ละครทางช่อง 7 ที่อู ภาณุ สุวรรณโน เล่นคู่กับชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต โดยมีเด็กหญิงตากลมผมดำหน้าตาสุดน่ารักที่ชื่อว่า “มดตะนอย” จำได้มั้ยครับ

บทละครเรื่องนี้ให้แง่คิดในการเลี้ยงลูกอยู่หลายเรื่อง อย่างตอนที่แม่ตัวจริงของมดตะนอยปรากฏตัวออกมา แล้วพูดกับพระเอกของเรา

“กวางจะพยายามเป็นแม่ที่ดีของมดตะนอยให้ได้ค่ะ”
ลุงช้าง (อู ภาณุ) มองหน้าน้องสาวตัวเอง ซึ่งเป็นแม่ของมดตะนอยนิ่ง ๆ สีหน้า
และแววตาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“พี่ช้างไม่เชื่อว่ากวางจะทำได้หรือคะ”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่พี่คิดว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีไม่ควรใช้ความพยายาม น่าจะใช้
ความรู้สึก ที่เค้าเรียกว่าสัญชาติญาณของความเป็นแม่...”

เป็นไง...คมบาดจิตใจมั้ยล่ะครับ
เรื่องราวของละครน้ำเน่าของใครหลายคนที่ผมอยากจะตีแผ่ให้เห็นความดีของละครประเภทนี้ยังไม่จบครับ

อาทิตย์หน้าผมจะมาคุยให้ฟังต่อ เป็นคิวของละครที่จบไปไม่นานนี้
“อุ่นไอรัก”
มีประโยคเด็ด ข้อคิดคม อยู่แทบทุกบท ทุกตอนเลยล่ะ
อีกเจ็ดวันมาไขว่ห้างคุยกันใหม่ครับ....



Create Date : 04 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2549 22:58:02 น. 2 comments
Counter : 666 Pageviews.

 
มายกมือว่า...
รออ่านของอุ่นไอรักนะคะ
ขอความกรุณาด้วยค่ะ


โดย: แม่มดมีฤทธิ์ (แม่มดมีฤทธิ์ ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:15:48 น.  

 
มาไขว่ห้างช้าไปไหมคะ
แต่ก็มาแล้วนะคะ ไม่รู้ตกข่าวอะไรไปบ้าง
ถ้าพี่อัพเรื่องใหม่ๆฝากไปบอกที่บล็อคด้วยนะคะ


โดย: ชีพชีวิน วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:16:07:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คราม
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





คฑาหัสต์ บุษปะเกศ (1)

นักเขียนบทละครโทรทัศน์
พี่ใหญ่ "ช่างปั้นเรื่อง / สับปะรดหรรษา"

ผลงานเขียนบท...>>>
จิตสังหาร เดือนเดือด ดั่งสวรรค์สาป
หัวใจและไกปืน คุณชาย ทิพยดุริยางค์
ใยเสน่หา เจ้าสาวกลัวฝน แก้วลืมคอน

ผลงานกับช่างปั้นเรื่อง...>>>
อุ่นไอรัก พลิกดินสู่ดาว ด้วยแรงแห่งรัก
ใจเดียว ฟ้ากระจ่างดาว ไฟในวายุ
เบญจาคีตาความรัก แม่คุณเอ๊ย ผีขี้เหงา
แก้วตาหวานใจ หมอลำซัมเมอร์ ฯลฯ

ผลงานกับ สับปะรดหรรษา...>>>
ลูกไม้หลากสี หนี้ชีวิต หมอผีไซเบอร์
ดวงใจและสายน้ำ กระดานสีรุ้ง ฯลฯ

Friends' blogs
[Add คราม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.