Jazzyrain ... let's fill the life with happiness
Group Blog
 
All Blogs
 
visa Austria นี้... (เค้าว่ากันว่า) ได้ยากหนักหนา

ในที่สุดก้ได้ฤกษ์ เปิดบล็อกใหม่ เพราะท่าทางทริปนี้จะเล่ากันยาว

จริงๆแล้วบล็อกเปิดควรจะเป็นการจัดทริป (อย่างหนักหน่วง) ของเรา แต่เนื่องจาก วันนี้เพิ่งไปขอวีซ่ามาสดๆร้อนๆ ก็เลยอยากจะมาแชร์สักหน่อย

ขอเกริ่นก่อนค่ะ ว่า ทริปนี้ เป็นการเดินทางไปยุโรปครั้งแรกของเรา โดยเริ่มต้นที่ Vienna (Austria)> Budapest (Hungary) > Bratislava (Slovakia) > Praque (Czech) > Cesky Krumlov (Czech) > Vienna

เราไปทั้งหมด 11 วันค่ะ อยู่ออสเตรีย 4 เช็ค 4 ตามหลักของการขอวีซ่าเชงเก้น ถ้าอยู่ที่ไหนนานสุด ต้องไปขอสถานทูตนั้น แต่ว่า ถ้าอยู่ระยะเวลาเท่ากัน ให้ไปขอที่ประเทศที่เราเข้า-ออก เพราะฉะนั้น เราก็เลยต้องไปขอที่สถานทูตออสเตรีย

จากการค้นข้อมูล เริ่มแรกคือ เว็บของสถานทูต

//www.bmeia.gv.at/th/botschaft/bangkok/ratgeber/reisen-nach-oesterreich/visa-informationen.html

จะมีรายการเอกสารที่ต้องยื่น ... อย่างไรก็ตาม บางรายการไม่ได้บอกรายละเอียด และชวนให้เกิดคำถาม

ขออธิบายเฉพาะบางรายการที่ทำให้เรางง หรือว่า ที่เราอยากจะเล่าละกันค่ะ

1. แบบฟอร์ม ... ที่ให้ดาวน์โหลด ในเว็บ จะเป็นแบบสแกนมา เราก็เลยปรินท์ออกมาเขียน เพราะในเว็บบอกให้ "กรอกเป็นตัวพิมพ์" ได้ >> //www.bmeia.gv.at/fileadmin/user_upload/bmeia/media/Vertretungsbehoerden/Bangkok/visa_application_form_2011_1905.pdf

จะเห็นว่า หลายประเทศมีให้เป็น PDF ที่พิมพ์ลงไปได้เลย จะง่ายกว่ามาก เพราะว่าไม่ต้องเขียนบีบๆให้กรอกได้ครบ จริงๆแล้วข้มูลที่ให้กรอกของแต่ละประเทศก็เหมือนๆกันนั่นแหละ แต่หน้าสุดท้าย จะมี reference ถึงเว็บของสถานทูต เราก็เลยไม่เสี่ยง

เว็บที่ช่วยเราได้มาก ในการกรอกฟอร์มก็คือบล็อกนี้ค่ะ //jirisuda.wordpress.com/2012/02/15

แต่เราก็ยังมีข้อสงสัยว่า ช่อง 31 ที่ให้เรากรอกที่พักชั่วคราวนี่ เราจะกรอกยังไงให้ครบ เพราะเรานอนทั้งหมดหกที่ -.- ก็เลยไปถามชาวบลูมา ได้ความว่า ให้กรอกแค่โรงแรมเดียว แล้วที่เหลือก็บอกว่า ตามเอกสารแนบ ซึ่งเราจัดทำรายละเอียดอย่างดี ว่า วันที่เท่านี้ นอนที่ไหน ที่อยู่ เบอร์โทร ราคา

(แต่ พบว่า มีบางกระทู้ ที่วีซ่าไม่ผ่าน ด้วยเหตุผลที่ว่า ที่อยู่ไม่ชัดเจน ... อันนี้เราก็ยังลุ้นอยู่ว่า ของเราจะโอเคมั้ย)

2. ประกันสุขภาพ ... ขอให้ดูที่ลิงค์ด้านล่างก่อน ว่าประกันที่คุณกำลังจะทำนั้นอยู่ในลิสท์รึเปล่า จริงๆแล้วก็สามารถโทรไปถาม call center ของประกันได้ ส่วนเราเลือกใช้ของ Chartis เป็นแบบรายปีทั่วโลกเลย เพราะว่า ปีนี้น่าจะไปอีกสามสี่ที่ ซึ่งเราก็ระบุวันเริ่มคุ้มครองให้คุ้มๆได้

3. การรับรองที่พัก ... ถ้าไปกับเพื่อน และจองผ่าน booking.com ให้ เพิ่ม note ลงไป ว่าผู้ที่เข้าพักชื่ออะไรบ้าง ส่วนถ้าจองตรงกับโรงแรม ก็ขอให้บอกชื่อเค้าไปเลยตั้งแต่แรก ไม่อย่างงั้นจะลำบากเหมือนเราที่ต้องไล่ส่งอีเมลเพื่อคอนเฟิร์มและแจ้งชื่อ ซึ่งทำให้บางโรงแรมงงเหมือนกันว่าส่งมาทำไม พอปรินท์แล้วก็ ไฮไลท์ชื่อเราไปด้วย เค้าจะได้เห็นชัดๆ

4. หนังสือรับรองการทำงาน และหนังสือรับรองวันลา ภาษาไทยไม่ได้บอกอะไร แต่ที่ออฟฟิศออกบ่อย รู้งาน จะระบุเงินเดือน และวันที่ลามาให้เลย แต่ ... ในภาษาอังกฤษจะบอกด้วยว่า Employment certification incl. salary slips of the last 3 months เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมเอาสลิปเงินเดือนไปด้วยนะคะ

5. หลักฐานด้านการเงิน ... ในภาษาไทยจะไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลย บอกแค่ว่า "(สลิปธนาคาร ข้อมูลธนาคาร สมุดเงินฝาก เช็คเดินทาง) บัตรเครดิตและเงินสดจะไม่ได้รับการยอมรับเป็นหลักฐานด้านการเงินที่เพียงพอ" .... แต่ถ้าไปดูเอกสารภาษาอังกฤษ ในลิงค์ด้านล่าง จะบอกว่า

Proof of sufficient funds (e.g., credit cards, bank book of the last 6 months, bank certification ... งงม้ั้ยอ่ะ เพราะอันนี้บอกว่าให้ใช้ บัตรเครดิตได้ แต่เพื่อความชัวร์ ก็ไม่ใช้ และต้องไปขอ bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน

ขอให้เรียงลำดับการจัดเตรียมเอกสารให้ดีนะคะ เพราะอย่างเรา เสียเวลาที่หนังสือรับรองของออฟฟิส ต้องรอ 1 สัปดาห์ bank statement ต้องรอสองวัน และที่สำคัญคือ พาสปอร์ต เพราะว่า ต้องเหลือ 90 วัน จากวันสิ้นสุดวีซ่า

เอาล่ะ ทีนี้ ไปขอวีซ่ากัน

จากที่หาข้อมูลพบว่า ที่นี่เปิด 9:00-12:00 วันละ สามชั่วโมง รับแค่วันละ 30 คน โดยต้องไปยื่นเองทุกกรณี ... เราก็เลยไปตั้งแต่เจ็ดโมง มีคนนั่งอยู่แล้วสามคน เราก็ดีใจ ว่าไม่ต้องต่อคิวนาน ... ที่ไหนได้ ... พี่ที่นั่งรออยู่บอกว่า มันเต็มมาตั้งแต่เมื่อวาน และที่นั่งรออยู่นี่ คือรอสมุดลงคิว !!! ตึง !!!

ถามไถ่กันแล้ว ก็ได้ความว่า อาทิตย์นี้คนเยอะเป็นพิเศษ ล้นมาสามวันแล้ว คนที่มาหลังคิวที่ 30 ก้เลยต้องลงชื่อในวันถัดๆไป ดังนั้น เราก็เลยต้องนั่งรอสมุด จนถึงเกือบๆเก้าโมง และลงชื่อไว้มายื่นเอกสารวันจันทร์ โดยได้เป็นคิวที่ 12-13 มีคนนึงน่าสงสารมาก เพราะว่ามาไกลจากเชียงใหม่ แล้วคิดดูว่าเป็นวันศุกร์ ...เค้าต้องอยู่ต่อเสาร์อาทิตย์ ..เซ็งแทน

เมื่อถึงวันจันทร์ ... จริงๆแล้ว ถ้ารู้คิวแล้ว ก็ไม่ต้องรีบไปค่ะ เพราะว่า พี่รปภ จะเรียกตามลำดับที่ลงคิวไว้ ไม่ใช่ลำดับการมาในวันที่ยื่น คิวนึงใช้เวลา 10-20 นาที แล้วแต่กรณี ... ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวอย่างเรา ก็เร็ว .. แต่ถ้าเป็นวีซ่าไปแต่งงานก็จะนาน

ปรากฎว่า คนที่มาวันจันทร์โชคดีมาก เพราะว่าคิวเหลือ 15 คิว ก็เลยมาไม่เสียเที่ยว .. มีแค่ไม่กี่คนที่มาหลังเก้าโมง ที่ต้องหงุดหงิดกับระบบนี้

เรายื่นเอกสารเสร็จประมาณสิบโมงครึ่ง ตามความคาดหมาย ทั้งนี้ ข้ามไปสามคิว เพราะเค้ามาช้า (หรือไม่มาก็ไม่รู้) แต่ที่แน่ๆ มีคนนึง มาช้า เพระว่ามาจากชลบุรี แล้วทางด่วนรถติดมากเพราะ easy pass เสีย ทำให้ชื่อพี่เค้าถูกเรียกไปแล้ว (เค้าเป็นคิวที่ 5) ... แต่พอเค้าเดินไปถาม เจ้าหน้าที่ก็ให้รอ จนเราเสร็จแล้ว เค้าก็ยังไม่ถูกเรียก ไม่รู้ว่าโดนไปต่อคิวสุดท้ายรึเปล่า แต่เค้าบอกว่า สุดท้าย ก็ยังดีกว่า โดนยกเลิกคิว ... น่าสงสารอ่ะ

เพราะงั้น ถ้าลงคิวเร็วก็ให้รีบไปนะคะ ไม่งั้นจะจ๋อยแน่ๆ

ส่วนเรา ... ราบรื่น ไม่มีคำถามอะไรเลย

แต่... แม่เพนกวิ้นน้อย ... โดนเรียกเอกสารเพิ่ม เพราะว่า "เงินไม่พอ"

หึๆ ดังนั้น ถ้าเจอที่ไหนบอกว่า จำนวนเงินไม่สำคัญก็อย่าไปเชื่อนะคะ เตรียมไว้ดีกว่า ... โดยขั้นต่ำที่ควรมี ของแต่ละประเทศ มีดังนี้ //www.mediavisa.net/schengen-means-of-subsistence.php

Austria
Proof of funds assessed on a case-by-case basis

นั่นปะไร!!!! แล้วใครจะไปรู้ว่า เราจะเป็นเคสที่เค้าอยากให้มีเงินมากน้อยเท่าไหร่ ... ปวดกบาลทันทีที่เห็น เพราะประเทศอื่นเค้าก็ระบุไว้ชัดเจน ว่าจะให้มีเงินเท่าไหร่ต่อการอยู่ที่โน่น 1 วัน อย่างยากสุด ก็บอกว่า ให้เป็นกี่เท่าของค่าแรงขั้นต่ำของประเทศเค้า ซึ่งก็อาจจะต้องทำการบ้านหาข้อมูลกันสักหน่อย

เพนกวิ้นน้อย ดันแจ็คพอต เป็น "เคส" ที่เงินน้อยไปซะงั้น ... แล้วก็เคยเจอมั้ยคะ ที่มีกระทู้ถามว่า ใช้ port หุ้น หรือเงินในกองทุน ได้มั้ย ... เจ้าหน้าที่ตอบค่ะ ว่าไม่ได้

สิ่งที่เพนกวิ้นทำได้ก็คือ ให้แม่ ออก bank guarantee ให้ว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

เราซึ่งเป็นคิวถัดจากกวิ้น เลยถามเค้าว่า ใช้เงินเราได้มั้ย เพราะว่าไปด้วยกัน ให้เราเขียนจม.บอกได้มั้ย ว่าเราจะออกให้ .. ตอบคำเดิม ว่า ให้ไปออก bank guarantee

เราก็เลยต้องไปขอให้ธนาคารออกให้ ...โดย ต้องไปสาขาเจ้าของบัญชีเท่านั้น ... และบอกเค้าว่า ออกหนังสือการันตีให้ผู้อื่น แล้วก็กรอกรายละเอียดไป โดยทางธนาคารจะมีฟอร์มอยู่แล้ว ค่าธรรมเนียม 100 บาท รอ 1 วัน

เรากลับมาเสิชดู ไม่เห็นเคยมีใครต้องออก bank guarantee แต่มีคนถามว่า มันหนักแน่นกว่า bank statement จริงมั้ย .. คนที่มาตอบบอกว่า เข้าใจผิดรึเปล่าคุณ ใครเค้าออก bank guarantee กัน

เหอะๆๆๆ ขอบอกเลยว่า ...สถานทูตออสเตรียนี่แหละให้ออก

ทั้งนี้ ทั้งนั้น เราก็เตรียมพร้อม ร่างจดหมายว่าเรารับรองค่าใช้จ่ายของกวิ้น โดยอ้างอิงจาก bg นั้น และร่างจดหมายให้กวิ้นอธิบายค่าใช้จ่าย โดยเราทำบัดเจ็ทไว้อยู่แล้ว แล้วก็หักค่าตั๋วเครื่องบินที่ต่ายแล้ว ... จริงๆแล้ว เงินที่เหลือต้องใช้ที่โน่น ก้แค่ประมาณห้าหมื่นเท่านั้นเอง

แต่ ... ณ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่า เราอาจจะโดนเรียกเพิ่มซะเองก็ได้ ... คืบหน้าอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังนะคะ แต่ขอบอกว่า ตอนนี้ เครียดมาก เพราะยิ่งเสิร์ชเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเจอประสบการณ์แย่ๆจากสถานทูตนี้ทั้งนั้น หลายคนมากๆที่บอกว่า ชีวิตนี้ ขอที่นี่ครั้งเดียวพอ





Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2556 20:56:13 น. 1 comments
Counter : 3736 Pageviews.

 
Thank you very much


โดย: Kai (nookookai8 ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:13:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rainy in the blue sky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ฟังเพลงแจ๊สในวันฝนตกนี่มันช่างดีจริงๆ

http://www.jazzyrain.com
New Comments
Friends' blogs
[Add Rainy in the blue sky's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.