Group Blog
 
All blogs
 

อดีตคุณแม่เคยอ้วน!! เพราะการลดน้ำหนักแบบผิดๆ ทำให้เป็นคนอ้วนง่ายมากๆ โยโย่ตลอด แต่พอท้อง กลับไม่อ้วน



“ทำไมจอยไม่อ้วนเลย?”
“ทำไมออกแค่ท้อง?”
“ทำไมหน้าไม่ออก แขนขายังกระชับ?”

อดีตคุณแม่เคยอ้วน!!

เพราะการลดน้ำหนักแบบผิดๆ ทำให้เป็นคนอ้วนง่ายมากๆ โยโย่ตลอด แต่พอท้อง กลับไม่อ้วน แถมผอมลงด้วย วันนี้เลยเอาประสบการณ์ และเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการกิน และการออกกำลังกายมาแชร์ให้คุณแม่หลายๆคนได้ดูกันค่ะ

สวัสดีค่าา คุณแม่ที่น่ารักทุกท่านเนื่องจากมีคุณแม่หลายท่านถามจอยกันเข้ามาว่า

“ทำไมจอยไม่อ้วนเลย?”
“ทำไมออกแค่ท้อง?”
“ทำไมหน้าไม่ออก แขนขายังกระชับ?”

ยิ่งถ้าใครรู้ว่าเมื่อก่อนจอยเคยอ้วน และเป็นคนอ้วนง่ายมากๆนะยิ่ง งง และสงสัยมาก ว่า ทำไม!! ท้องแล้วไม่อ้วนบอกไปอาจจะไม่เชื่อ งั้นแอบให้ดูรูปสมัยก่อนหน่อยแล้วกัน


ไล่จากซ้ายไปขวา


1.จอยเป็นคนที่อ้วนมาแต่เด็กค่ะ (ไม่เคยลดเลย)
2.พอเริ่มโต คือตอนเรียนจบแล้ว ก็เริ่มลด 6 เดือน ลดไป 13 กิโล (ไม่พึ่งยา ไม่ไปฟิตเนส)(Linkนี้จ้า)
3.ต่อมาคือก่อนท้อง คุณพ่อเลี้ยงดีเกิ๊นนนนน หลังแต่งงานก็จะบวมๆหน่อยๆ
4.รูปสุดท้าย คือ ท้องประมาณ 7 เดือนแล้วค่ะ สัดส่วนลดหมดออกแต่ท้อง

เลยเกิดคำถามว่า ทำไมถึงลด?!!?

เพราะ ตอนจอยท้อง จอยกินเยอะกว่าก่อนท้องอีกนะ จะบอกให้

คือจริงๆตั้งแต่เริ่มลดน้ำหนักจนผอม จอยก็เป็นคนที่เสพติดการออกกำลังกายมากๆต้องออกทุกวัน ทุกวันจริงๆค่ะ ถามคนรอบข้างจะรู้เลย คุมอาหารหนักมากด้วย เรียกได้ว่า นั่งนับแคลกันทุกมื้อ (เบื่อชีวิตมาก ต้องมานั่งนับแคล) ไม่ยอมกินแป้งเลย ข้าวก็ไม่กินนะ กินแต่สลัด เวลาไปไหนก็ทรมาน (ช่วงนั้นถ่ายแบบบ่อยด้วย) เลยต้องผอมมากๆ แต่พอมาเจอพี่โจ (คุณพ่อนี่แหนะ)

ชีวิตหลังแต่งงาน เปลี่ยนไปจริงๆค่ะ 555 แต่เปลี่ยนไปในทางที่ดีนะ พี่โจให้เริ่มกินแป้ง กินเหมือนคนอื่น ค่อยๆเริ่ม เพราะจริงๆแล้วแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการมาก การขาดสารอาหารใดสารอาหารนึง จะทำให้ร่างกายเราไม่ปกติ ระบบเผาผลาญ ระบบย่อยอาหารจะพังหมด
(ลำดับต่อไป..ขออนุญาตเล่าแบบสั้นๆนะคะ กลัวจะอ่านกันไม่หมด) 

พอจอยเริ่มกินแป้งจากที่ไม่กินเลยประมาณปีกว่าๆ ก็เลยโยโย่ และอวบๆอย่างที่เห็น  ก็อวบอยู่ประมาณ 6 เดือน ก็ค่อยๆลดลง เพราะยังออกกำลังกายอยู่ทุกวัน และแล้ว...สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น...จอยท้องค่ะ ดีใจมากกกก แต่อีกใจแอบคิดว่า เห้ยยยย เราเพิ่งจะผอมนะ เพิ่งจะกินเหมือนคนปกติได้นะ แล้วท้องต้องกินยังไง จะอ้วนมั๊ย หรือถ้ากินน้อย ลูกจะได้มั๊ย?? ไปหาหมอ 3 เดือนแรก คุณแม่ทุกคน ห้ามออกกำลังกายเด้ออออ ยิ่งถ้าใครมีภาวะแท้งคุกคาม ต้องเลี่ยงเลย เผลอๆ อาจจะไม่สามารถออกได้ ตลอดการตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้น

จอยขอย้ำ ** และแนะนำ ให้คุณแม่ทุกคนคอยปรึกษาคุณหมอค่ะ

การออกกำลังกาย ดีต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์จริง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถออกได้นะ ปรึกษาคุณหมอ ปลอดภัยที่สุด

การกิน

อาหารการกินของจอย มีพี่โจเป็นแบบอย่างค่ะคือคุณพ่อกินอะไร ก็กินด้วย ไม่งอแง ไม่อยากนู้นนี้  โดยเฉพาะ ขนม!!! จอยไม่แตะเลย (ทั้งที่จริงๆรักโทสต์ รักบิงซู แต่ก็ต้องหักห้ามใจ) บางทีคุณพ่อมีเมตตา ก็ให้กินอาทิตย์ละครั้ง โดยมีคุณพ่อเป็นผู้แย่งกิน กินยังไงก็ได้ให้ทันคุณแม่ให้คุณแม่กินได้น้อยๆ =.,= แต่ละเดือน ก็จะคอยถามคุณหมอว่า ลูกต้องการสารอาหารอะไรเป็นพิเศษรึป่าว ช่วงเดือนนี้เค้ากำลังสร้างอะไร
พอรู้ จอยก็หาข้อมูลเลย ว่าสารอาหารแต่ละอย่างได้มาจากอะไร แล้วก็ทานไม่ต้องเยอะค่ะ ไม่บำรุงจนเกินไป เพราะทารกในครรภ์ไม่ได้ดึงอาหารทุกอย่างไปใช้หมด และที่สำคัญคือ เค้าต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นแค่ 300 กิโลแคล (ยังไม่เท่าสตาบั๊คแก้วนึงเลย) แถมเค้ายังดึงสารอาหารบางอย่างที่ต้องใช้ไป นอกนั้นเค้าจะทิ้งไว้ให้ผู้เป็นแม่เด้อ

สรุปคือ ตั้งแต่จอยท้อง ของหวาน ของทอด ของมัน งดหมด หรือทนไม่ไหว ก็พอกินได้ ให้หายอยาก (แต่ก็จะมีสายตาคุณพ่อค่อยจับจ้องให้วางช้อนซักที!!) ทานอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทานให้ครบ 5 หมู่ (จอยชอบเน้นโปรตีน จากปลาและไก่ เพราะลูกชอบกินไก่มากค่ะ) 

อย่าลืมทานพวกผลไม้ด้วย เพราะคนท้องจะระบบย่อยไม่ค่อยดี แต่อย่าทานมากไป อย่าทานซ้ำๆ จอยเคยทานแต่กล้วยน้ำว้า ไปตรวจอีกที เกือบเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ อันนี้มีรีวิวด้วย
(https://www.injhouse.com/การตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์/ )

กินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่กินหนักในมื้อเดียว อาจจะเป็นเป็นมื้อย่อยๆ ให้ร่างกายได้ย่อยทัน หรืออาจจจะดูปริมาณตามตารางด้านล่างนี้ก็ได้ค่ะ


การออกกำลังกาย


3 เดือนแรก หรือ ไตรมาสแรก แทบไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ทารกยังไม่แข็งแรงพอ แต่จอยไม่มีภาวะแท้ง ร่างกายแข็งแรง เพราะออกกำลังมาตลอด ก็เลยแกว่งแขนบ้าง สควอชเบาๆ (ระหว่างสควอชก็จิบน้ำเรื่อย) เดินเล่นรอบหมู่บ้านบ้าง คือออกเบาๆแบบไม่หักโหมค่ะ พอผ่าน 3 เดือนแรกไป จอยก็เริ่มออกกำลังกาย โดยมีเทรนเนอร์เฉพาะทาง ซึ่งก็คือโค้ชอั๋นเป็นเทรนเนอร์ค่ะ เล่นอาทิตย์ละประมาณ 3 วัน


โดยการเน้นการออกกำลังที่แขน ขา และหลังเป็นส่วนใหญ่ค่ะ จะไม่ยุ่งกับหน้าท้องเลย (ห้ามออกแรงบริเวณหน้าท้อง) ทำให้แขน ขาจอยไม่ย้วย และยังกระชับอยู่ นอกจากนี้ การออกกำลังกายให้หลังแข็งแรง ก็จะทำให้สามารถรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นได้ ทำให้ไม่ปวดหลังค่ะ ตลอดการตั้งครรภ์ จนถึงตอนนี้อีก 2 อาทิตย์จะคลอดแล้ว จอยยังไม่เคยปวดหลังเลยค่ะ แต่จอยออกค่อนข้างจะโหดนิดนึง เพราะพื้นฐานเป็นคนออกกำลังเยอะอยู่แล้ว ซึ่งจอยก็มีการปรึกษาคุณหมอทุกเดือนค่ะ


ในส่วนของการออกกำลังกายในคนท้องที่จอยออกกับโค้ชอั๋น จอยมีทำรีวิวท่าต่างๆไว้นิดๆหน่อยๆ ซึ่งก็มีคุณพ่อรวบรวมไว้ให้ตามลิงก์นี้เลย
(https://www.injhouse.com /คนท้องกับการออกกำลังกาย/)

จอยเทรนกับโค้ชจนถึงประมาณเดือนที่ 7 ปลายๆ พอเดือนที่ 8 ก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนและ ก็จะมีการออกกำลังกายอยู่บ้าน เน้นคาร์ดิโอ โยคะเบาๆ ให้ร่างกายรู้สึกปลอดโปร่ง สดชื่น ไม่ปวดหลังค่ะ


ประโยชน์ของการออกกำลังกายของคนท้อง

  1. การออกกำลังกายที่ไม่หักโหมมากนักจะทำให้คุณแม่รู้สึกปลอดโปร่ง สดชื่นสบายตัว มีท่าทางกระฉับกระเฉง เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยลดอาการปวดเมื่อยที่หลัง และลดอาการเป็นตะคริวได้
  2. ช่วยให้คุณแม่นอนหลับสบายและผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงาน รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอด
  3. คุณแม่จะมีเรี่ยวแรงและพลังในการใช้ชีวิตในแต่ละวันเพิ่มขึ้น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดดี รวมทั้งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเชิงกรานแข็งแรงยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มพลังและความอดทนเมื่อต้องเจ็บครรภ์เป็นเวลานานและตอนเบ่งคลอด
  4. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น การขับถ่ายเป็นปกติ ท้องไม่ผูกหรือมีอาการท้องผูกลดน้อยลง
  5. การออกกำลังช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญอาหารส่วนเกิน ไขมันจึงไม่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากนัก จึงช่วยควบคุมน้ำหนักของคุณแม่มิให้เพิ่มมากขึ้นจนเกินไป และทำให้คุณแม่สามารถรับประทานอาหารได้มากขึ้นโดยไม่อ้วน แต่ได้ประโยชน์กับลูกน้อย
  6. คุณแม่ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในระหว่างการตั้งครรภ์จะส่งผลดีต่อลูกน้อยอย่างมากเพราะในขณะที่ออกกำลังกาย ระบบการไหลเวียนของเลือดจะดีขึ้น การถ่ายเทออกซิเจนไปสู่ลูกจึงดีขึ้น ทำให้เจ้าตัวน้อยในท้องเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่และแข็งแรง ในช่วงต้นของการออกกำลังกาย ฮอร์โมนอะดรีนาลินที่หลั่งออกมาจะผ่านไปยังมดลูกในท้อง ทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเหมือนได้ออกกำลังกายไปพร้อม ๆ คุณแม่ ส่วนสารแห่งความสุข (Endorphin) ที่ได้รับจากการออกกำลังกายจะทำให้คุณแม่มีความสุขอยู่นานกว่า 8 ชั่วโมง ลูกจึงมีความสุขไปพร้อมกับแม่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ลูกน้อยยังสามารถทนต่อสภาพความเครียดที่เกิดขึ้นในระหว่างที่อยู่ในครรภ์และในระหว่างการคลอดได้ดี ไขมันจะสะสมที่ตัวลูกไม่มาก แม้น้ำหนักแรกคลอดของลูกอาจน้อยไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับผิดปกติ แต่จะส่งผลดีในระยะยาว คือ ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะเด็กอ้วนในระยะ 5 ขวบแรกได้ ซึ่งผลดีนี้อาจจะมีไปถึงช่วงที่โตเป็นผู้ใหญ่ด้วย
  7. คุณแม่สามารถปรับตัวได้ดียิ่งขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในระหว่างการตั้งครรภ์
  8. คุณแม่จะมีความพร้อมในการคลอดมากขึ้น ถ้ามีการบริหารร่างกายตลอดเวลาการตั้งครรภ์
  9. คุณแม่ที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักจะคลอดบุตรง่ายเพราะจากการศึกษาพบว่า คุณแม่ที่เป็นนักกีฬาจะคลอดบุตรได้ง่ายและสะดวกมากกว่าคุณแม่ทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
  10. หลังคลอดร่างกายของคุณแม่จะฟื้นตัวกลับคืนสู่สภาพปกติได้เร็ว ยิ่งถ้าคุณแม่สามารถบริหารร่างกายหลังคลอดด้วยแล้วรูปร่างก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้เร็วยิ่งขึ้น

(cr. https://medthai.com)

สำหรับคุณแม่ที่อยากออกกำลังกายจอยขอแนะนำว่า ให้ **ปรึกษาคุณหมอ ก่อน เพื่อความชัวร์ และความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็ก
และวันนี้จอยก็มีคลิปออกกำลังสำหรับคนท้อง ที่จอยก็เล่นตามเป็นประจำ พอท้องเริ่มใหญ่ ก็จะเล่นเอาที่ไหว โดยสำคัญคือเราต้องรู้จักตัวเอง
รู้ว่าเหนื่อยระดับไหนแล้วคำนึงถึงตัวน้อยด้วย เพราะหัวใจเราจะเต้นไปพร้อมๆกัน ถ้าเราเหนื่อยมากๆ ตัวน้อยก็จะเหนื่อยมากเหมือนกัน
เราก็ต้องหยุดพัก จิบน้ำบ่อยๆ (การเป็นแม่นี่ไม่ง่ายเลย แต่เพื่อลูก เราจะทำได้ค่ะ)

สุดท้ายนี้ ของให้คุณแม่ทุกคนสู้ๆ ขอให้คุณแม่ทุกคนคลอดง่ายๆ ปลอดภัย แข็งแรงทั้งคุณแม่คุณลูก มีอะไรสามารถเข้าไปทักทาย
ไปคุยกับจอยได้ที่

https://www.injhouse.com
https://www.facebook.com/injhouse/

สำหรับวันนี้ขอปิดท้ายด้วย 10 คลิปออกกำลังกายสำหรับคนท้องค่ะ

บ๊ะบายยยยย เลิฟแม่แม่ทุกคน






















 

Create Date : 08 ธันวาคม 2560    
Last Update : 8 ธันวาคม 2560 20:16:24 น.
Counter : 1258 Pageviews.  

แชร์ประสบการณ์! การตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ 4 เข็ม



บอกเล่าประสบการณ์การตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ 


สวัสดีค่าาา คุณแม่ที่น่ารักทุกคน วันนี้จอยจะมาเล่าถึงประสบการณ์การเจาะตรวจเบาหวาน ที่จอยโดนไป 6 เข็ม!!!!!
ที่หลายคนอาจจะโดนแน่ๆ 1 เข็มแรก ถ้าค่าน้ำตาลในเลือดไม่เกิน 140 ก็รอด แต่ถ้าสูงมาซัก 141 ก็โดนอีก 4 เข็มแน่นวลลลล

ตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ 4 เข็ม

เรื่องของเรื่องคือจอยตั้งครรภ์ได้ประมาณ 8 เดือนแล้ว ซึ่งจริงๆต้องตรวจหาเบาหวานตั้งแต่เดือนที่ 6
ของการตั้งครรภ์แล้ว เพราะเมื่อเราตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ทุกคนจะมีภาวะเสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ยิ่งถ้าใครมีญาติหรือกรรมพันธุ์ที่เป็นเบาหวานยิ่งเสี่ยงค่ะ
ต้องตรวจ คุณแม่ที่น้ำหนักตัวขึ้นเยอะ ขึ้นเร็ว หรือชอบกินหวานจัดก็ต้องตรวจซึ่งถ้าเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จะมีความเสี่ยงค่ะ
(Cr.enfababy.com)

เสี่ยงต่อคุณแม่

– เสี่ยงต่อการเกิดครรภ์พิษ

– เกิดภาวะเสื่อมของระบบหลอดเลือด ตา ไต และปลายประสาท มือชา เท้าชา

– เกิดความดันโลหิตสูงติดเชื้อง่ายโดยเฉพาะระบบทางเดินปัสสาวะ

เสี่ยงต่อลูกน้อย

– ระดับน้ำตาลที่สูงจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของทารกในครรภ์ทำให้ทารกจะมีร่างกายใหญ่กว่าปกติ
เป็นอุปสรรคต่อการคลอดจนอาจได้รับอันตรายขณะคลอดอาจเกิดการแท้งการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกตายในครรภ์ได้

– หลังคลอดระบบการหายใจของทารกอาจมีปัญหาพัฒนาช้ากว่าปกติ ไม่สามารถหายใจได้เองเมื่อแรกคลอด

– เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเหลืองหลังคลอดมากกว่าทารกทั่วไป

– อาจพบระดับน้ำตาลในเลือดทารกต่ำ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขจะมีผลต่อการทำงานของสมอง

ดังนั้น เราเลยจำเป็นที่ต้องตรวจเบาหวาน ซึ่งการตรวจจะแบ่งเป็น 2 ครั้งอย่างที่เกริ่นไปเบื้องต้นว่า 
ครั้งแรก จะเจาะ 1 เข็ม ถ้าเกิน 140 ทางโรงพยาบาลจะเรียกมาเจาะโดยละเอียดอีก 4 เข็ม!!!


กลับมาที่เรื่องของจอยกันเถอะ บอกก่อนว่า บ้านจอยไม่มีใครเป็นเบาหวานเลยส่วนตัวจอยค่อนข้างเลือกกินมาก
ข้าวก็ไม่กินข้าวขาว กินแต่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้องหรือโฮลวีต และก็กินในปริมาณไม่มาก ของหวานก็งดหนักมาก
พี่โจให้กินนิดเดียวเองแทบจะอาทิตย์ละ 3 คำ!!! นี่ไม่ได้เวอร์นะ เพราะแต่ก่อนจอยเป็นสายขนมหวานค่ะ
ไม่ยอมกินข้าว กินแต่ขนม พอท้องปุ๊ป โดนงดเลยจ้าาา ส่วนใหญ่เลยกินแต่ผลไม้ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า 
ก็เค้าบอกว่าดีต่อลูก แล้วไม่อ้วนด้วย  จอยโดยเรียกตรวจครั้งแรกวันที่ 14 พ.ย. 60 ซึ่งก่อนหน้านี้จอยป่วยตั้งแต่
วันที่ 11 พ.ย. 60 กินอะไรไม่ค่อยได้ ก็โด๊ปแต่กล้วยน้ำว้า ของโปรด กินวันละ 4 ลูก!!! วันที่ไปตรวจ ก็กินไปลูกนึง อิอิ
(จริงๆต้องงดน้ำงดอาหาร 6 ชั่วโมงเด้อ แต่จอยไม่ได้ฟัง)

การตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์-ตรวจรอบแรก

(14 พ.ย. 60) : มาถึงพยาบาลจะให้ดื่มน้ำตาลกลูโคส 50 มิลลิกรัม (ซึ่งหวานม๊ากกกก ขนาดจอยชอบหวาน ยังทนไม่ไหว แสบคอเวอร์)
แล้วก็จะให้กินน้ำแค่ 1 แก้วที่ทางพยาบาลเตรียมมาให้ (แค่ 1 แก้ว แล้วห้ามกินเพิ่มอีก) ห้ามกินน้ำ กินขนม ห้ามกินทุกสิ่ง 1 ชั่วโมง
เพื่อไปเจาะเลือด 1 เข็ม ผลน้ำตาลในเลือดห้ามเกิน 140 ส่วนผลจอยนั่น…190!!!!!
(คุณพระ พยาบาลโทรมานัดให้ไปเจาะตรวจแบบละเอียดอีก 4 เข็มเลยจ้า)

ด้วยความงอแง เพราะกลัวเข็ม โดนเข็มเดียวน้ำตาคลอ พี่โจก็สงสารเลยโทรกลับไปแผนกสูติว่าน้องไม่สบายเลยกินแต่กล้วยน้ำว้า
(คือพี่โจสันนิฐานว่าต้องเป็นกล้วยต้องกล้วยแน่ๆ มันเป็นอะไรที่ใช่ ต้องใช่แน่ๆ~) พยาบาลก็บอกงั้นให้ตรวจรอบแรกใหม่
วันที่ 19 พ.ย. 60 ครั้งนี้เตรียมไปอย่างดี งดน้ำงดอาหาร 6 ชั่วโมงงดของหวาน งดแป้ง งดกล้วยด้วย!! กะว่าผ่านชัวร์ ไม่ต้องโดน 4 เข็ม


การตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์-ตรวจรอบแรกครั้งที่ 2

(19 พ.ย. 60) : ตรวจเหมือนเดิม พยาบาลเอาน้ำตาลมาให้ดื่ม 50 มิลลิกรัม กับน้ำเปล่า 1 แก้ว
(นี่ยังคิดเลยว่า จะเป็นเบาหวานเพราะน้ำตาลเนี่ยแหละ หวานเหลือเกิน) ดื่มเสร็จ เว้น 1 ชั่วโมงแล้วไปเจาะเลือด
เดินขึ้นมากระดี๊กระด๊า ประนึงว่ารอดแล้วโว๊ยยยย พยาบาลเดินมาบอกเลยค่าน้ำตาลสูง 160 นะคะ
ต้องกลับมาตรวจโดยละเอียด 4 เข็ม!!(วินาทีนั้นหน้ามืด ลมจัดมาก ในหูมีเสียงพยาบาลก้องอยู่ดังๆว่า 4 เข็มๆๆๆๆๆ)
กลับบ้านไปด้วยความโศกเศร้า แต่มันก็ลดลงมาตั้ง 30 ภายใน 5 วันนะ

กลับบ้านมาก็ยังไม่กินกล้วยน้ำว้า (รางสังหรแรงมากว่าต้องเป็นเพราะกล้วยน้ำว้าตามที่พี่โจบอกเป็นแน่)
กลับมาอ่านเลยข้อมูลโภชนาการว่าเราผิดตรงไหน ขนมก็ไม่กิน น้ำหวานก็ไม่แตะน้ำอัดลมนี่ไม่กินตั้งแต่เด็ก
และมาเจอตรง ผลไม้!!!!! ถึงบางอ้อเลยยยยยเพราะจอยชอบกินผลไม้มาก ชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยิ่งกล้วยน้ำว้าที่แม่ๆหลายคน
รวมทั้งจอยโด๊ปเนี่ยแหละตัวดี น้ำตาลสูงปรี๊ดดดดดดด มาแรงแซงทุเรียนไปเลยเลยตัดกล้วยจริงจัง
(ก็ตัดมาตั้งแต่วันที่ 14 แล้ว ตรวจอีกที วันที่ 28 เดี๋ยวรู้เลย)


การตรวจเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์-ตรวจรอบที่ 2 ตรวจแบบละเอียด

(28 พ.ย. 60) : วันนี้นัดเช้าเลยค่ะ งดน้ำ งดอาหารล่วงหน้า 6 ชั่วโมง วันนี้จอยมีพบคุณหมอตอนบ่ายด้วยจอยมาตั้งแต่ 8 โมง
มาถึงก็ทำการเจาะเลือดก่อนเลย เข็มแรก จากนั้นพยาบาลก็จะให้ดื่มน้ำตาลซึ่งก่อนหน้านี้ พยาบาลจะให้เตรียมมะนาวมา 1 ลูก 
(**ย้ำว่า ใครโดน ต้องเอามะนาวมานะ)
เพราะครั้งนี้จะเป็นการกินน้ำตาล 100 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าไม่มีมะนาวมาช่วย เตรียมตัวอ้วกได้เลยถ้าอ้วกคือเริ่มใหม่เด้อ
แล้วพยาบาลก็จะให้น้ำเปล่า 1 แก้ว มาจิบสลับไปมาแนะนำว่า ค่อยๆจิบ ไม่งั้นจะอ้วก นั่งจิบอยู่นานมาก ทรมานกว่าการเจาะเลือดไปอีก
กินเสร็จปุ๊ป 8:20 น. พยาบาลจะเรียกมาเจาะเลือดเข็มที่ 2 อีกทีตอน 9:20 น.เข็มที่ 3 ตอน 10:20 น. และเข็มที่ 4 ตอน 11:20 น.
(คือห่างเข็มละ 1 ชั่วโมง ระหว่างนี้ห้ามกินอะไรเลย น้ำก็ไม่ได้ นั่งนิ่งๆ ทำสมาธิไปจะได้ไม่อ้วกเด้อ และต้องไปตรวจให้ตรงเวลาด้วยนะ
จอยนี่ตั้งนาฬิกาเลย กลัวจะเลย)


ซึ่งผลที่ควรจะเป็น

เข็มที่ 1 : ค่าน้ำตาลจะน้อยกว่า 95 mg/dL (5.3 mmol/L).

เข็มที่ 2 : ค่าน้ำตาลในเลือดหลังจากดื่มน้ำตาล 1 ชั่วโมงจะน้อยกว่า 180 mg/dL (10 mmol/L).

เข็มที่ 3 : ค่าน้ำตาล 2 ชั่วโมงหลังจากดื่มน้ำตาลจะน้อยกว่า 155 mg/dL (8.6 mmol/L).

เข็มที่ 4 : ค่าน้ำตาลหลังจากดื่มน้ำตาล 3 ชั่วโมงจะน้อยกว่า 140 mg/dL (7.8 mmol/L).

ซึ่งผลของจอยคือ….น้อยกว่าหมดทุกเข็มมมม  รอดตัวแล้ววววว เจอคุณหมออีกทีตอนบ่าย คุณหมอก็บอก
ตอนนี้จอยตั้งครรภ์ประมาณ 35 สัปดาห์ กับอีก 2 วันแล้ว ผลเลือด ไม่มีภาวะเสี่ยงเป็นเบาหวานทั้งขณะตั้งครรภ์
และในอนาคต ส่วนตัวน้อยก็แข็งแรงมาก อีกไม่เกิน 3 อาทิตย์ จะได้เจอกันแล้ววว (ในใจคือโล่งอกมากกกกกก)

ระหว่างรอก็มีนักโภชนาการมาให้คำแนะนำ เค้าก็บอกว่า ถ้าเกิดตรวจเจอว่าเป็นเบาหวานไม่หนัก
ก็จะต้องมีการปรับพฤติกรรมการบริโภค การกินของคุณแม่ แล้วก็คอยมาเจาะค่าน้ำตาลในเลือด
(อันนี้เค้ามีให้รายละเอียดการกินมาพอสมควร ใครอยากฟัง บอก เดี๋ววจอยมาเล่าให้ฟังอีกทีน้าาา)
แต่ถ้าเจอว่าเป็นเบาหวานขั้นหนัก ก็ต้องคอยฉีดอินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนไปตรวจ นอกจากของหวานแล้ว อย่าลืมงดกล้วยด้วย!!! กลัวเวอร์ ไม่เอาแล้ววว จริงๆกินได้นะคะ
แต่นักโภชนาการแนะนำแค่ 1 ลูกเล็ก แบบไม่สุกมากด้วย ถ้ากล้วยหอม ได้แค่ไม่เกินครึ่งลูกเอง

สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อน เพราะยาวมากแล้ว ขอให้แม่ๆทุกคนโชคดี ปราศจากโรคภัย แข็งแรงกันทั้งแม่ทั้งลูกนะค้าาาาาา

ติดตามสาระครอบครัว IN J HOUSE #บล็อคครอบครัว
www.injhouse.com





 

Create Date : 02 ธันวาคม 2560    
Last Update : 2 ธันวาคม 2560 11:11:36 น.
Counter : 1256 Pageviews.  

ท่าออกกำลังกายสำหรับคนท้องการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์



ท่าออกกำลังสำหรับคนท้อง การออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์จะทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากการมี
เจ้าตัวน้อยได้ทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง เลือดไหลเวียนได้ดีลดอาการปวดเมื่อย และตะคริว นอกจากนี้น้ำหนักก็จะไม่เพิ่มขึ้นมากด้วย
ช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ สิ่งสำคัญคือ ทำให้แข็งแรงทั้งแม่และเด็กในคุณแม่ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้คลอดบุตรง่าย
และฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วย

ท่าออกกำลังกายสำหรับคนท้อง

การจะออกกำลังกาย ต้องไม่หักโหม คุณแม่ต้องรู้ตัวเอง คอยสังเกตุตัวเองในระหว่างที่ออกกำลัง ไม่ให้เหนื่อยมากจนเกินไป ในคุณแม่ที่มีภาวะแท้งบุตรง่าย ควรอยู่ในความดูแลของคุณหมอ ในช่วงไตรมาสแรก (1-3เดือน) ยังไม่ควรออกกำลังกาย

ได้แค่ยืดเส้นยืดสาย ให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อย่างตัวจอยเองก็ปรึกษาคุณหมออยู่ตลอดว่า สามารถออกกำลังกายได้มั๊ย ในช่วง 1-3 เดือนแรก จอยทำแค่ยืดๆ หมุนแขนไปมา แกว่งแขนเบาๆ แอโรบิกแบบไม่ให้เหนื่อย แต่พอเริ่มเดือนที่ 4 จอยก็เริ่มออกกำลังโดยมีเทรนเนอร์เฉพาะทางอย่างโค้ชอั๋นคอยเทรนให้ ระหว่างออกกำลังก็จะมีการจิบน้ำตลอด คอยดูตัวเองตลอดว่าเหนื่อยรึยัง


โดยการออกกำลังหลักๆของจอยคือ

  • ไม่ออกกำลังที่ใช้แรงกระแทก เช่น วิ่ง กระโดดเชือก
  • ไม่เล่นท่าที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้อง
  • เล่นท่าที่ทำให้หลังแข็งแรง จะได้ไม่เจ็บหลัง และทำให้หลังมีแรงพยุงท้อง
  • การเล่นเวต สามารถเล่นได้โดยการลดน้ำหนักดัมเบลลง
  • เน้นออกแค่ให้ต้นแขน ต้นขากระชับ อย่างวันนี้จอยก็มีท่าออกกำลังกาย


(โดยโค้ชอั๋น) 2 ท่าที่สามารถทำเองได้ที่บ้านมาฝากกันค่ะ

ท่าออกกำลังกายสำหรับคนท้อง-ท่าที่ 1 walking lunge

ท่าออกกำลังกายสำหรับคนท้อง

ท่านี้ ได้ขากับก้น ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ขา ทำให้ต้นขากระชับเพิ่มความแข็งแรง และการทรงตัว
(แม่ๆอาจจะไม่ต้องใช้ดัมเบลก็ได้นะคะ แต่จอยเป็นรุ่นถึก เล่นดัมเบลมาเยอะแล้ว)

ท่านี้ก็ง่ายค่ะ แค่ก้าวขา ย่อ แล้วชิด
(เช่น ก้าวเท้าขวา…ย่อ…แล้วชิดเท้าซ้ายมาเท่าเท้าขวา…จากนั้นก้าวเท้าซ้าย…ย่อ…แล้วชิดเท้าขวามาเท่าเท้าซ้าย สลับไปมาซ้ายขวาๆ)

เดินไปข้างหน้า 10 ก้าว ถอยหลังอีก 10 ก้าว
ทำ 2 เซ็ต**

ท่าออกกำลังกายสำหรับคนท้อง-ท่าที่ 2 Bird Dog

ท่า bird dog ได้ทุกส่วนเลย กระชับทุกส่วน ลดอาการปวดหลังได้ดี
(จอยทำตั้งแต่ท้องได้ 4 เดือน จนตอนนี้ 7 เดือนแล้วค่ะ)
เป็นการบริหาร หลัง ก้น แกรนกลางลำตัว core แขน และฝึกการทรงตัว

ทำข้างละ 15 ครั้ง 3-4 เซ็ต

#ท่าออกกำลังกายคนท้อง
Aun Trainer

ติดตามสาระครอบครัว IN J HOUSE #บล็อคครอบครัว
https://www.injhouse.com




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2560    
Last Update : 2 ธันวาคม 2560 11:09:51 น.
Counter : 1099 Pageviews.  


สมาชิกหมายเลข 2611866
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณแม่
"เพจคุณแม่จอย AEมาเอง เรื่องราวการใช้ชีวิตที่เป็นครอบครัว การเลือกทานอาหาร การออกกำลังกาย การท่องเที่ยว ก่อนจะเป็นคุณแม่ต้องเตรียมตัวตัวใจ ต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง ติดตามกันน้า"

คุณพ่อ
"อยากให้คุณแม่มีสุขภาพดี ลูกน้อยแข๊งแรง

ด้วยหลักธรรมะ - การใช้ชีวิตที่ไม่ห่างไกลธรรมชาติ ทานผัก ทานผลไม้ ทานสิ่งที่มีประโยชน์ ทานอะไรได้สิ่งนั้น สังเกตุความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างมีเหตุและผล.

ด้วยหลักทางสายกลาง - คุณแม่อยากทานอะไร ทานได้ ทานกำลังดี ทุกสิ่งมีประโยชน์ในตัวของมัน อย่าเชื่อคำโฆษณา อย่าเชื่อคำเค้าเล่ามา เชื่อความเป็นจริง อยู่กับความเป็นจริง. "
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2611866's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.