[3][The Amercan's Dreams] JFK - Manhattan
  จาก Entry ที่แล้วเล่าไว้ถึงจังหวะที่ตรวจกระเป๋าและโดนยึดมาม่าโปรตีนไข่ เรามาต่อกันเลยครับ ทั่วไปเลยครับ สนามบินจะเหมือนกันทั่วโลกตรงที่มีคนมายืนถือแผ่นกระดาษรออยู่ ชื่อโรงแรมมั่ง ชื่อคนมั่ง แต่พวกเราไม่สนใจครับ เรามาเดี่ยวๆ ช่วยตัวเองกันไป 
  แผนการที่วางต่อจากนี้คือ บอกทางบ้านว่าถึงแล้ว และ หารถเข้าไป Manhattan ไปหาโรงแรมแถว Penn station นอนซักคือแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยจับ Amtrak ไป Harrisburg  
  ผมเริ่มทำการแผนการทันที คือ หา Internet สำหรับติดต่อไปหาตัวแทนองค์กรฝั่งนี้ว่าเรามาถึงแล้วนะ และจะบอกที่บ้านว่ามาถึงแล้วโดยสวัสดิภาพ ควัก laptop ออกมาเปิดหา wireless free กันเลยครับ ปรากฎว่า ทุกอันต้องจ่ายตังค์ทั้งหมด (- -" คิดถึง @TRUE_WIFI กากๆขึ้นมาทันที) สรุปคือยังไม่ได้ติดต่อใคร พวกเราเลยตัดสินใจเดินทางเข้า Manhattan เลยเพราะกลัวจะหาที่นอนไม่ได้ 
  เดินดุ่มๆเข้าไปหา Information เพื่อจะเอา map และข้อมูลรถ(ถ้ามีสมุนไพรเขียวกับกระสุนลูกซองอยู่หลังเค้าท์เตอร์จะได้อารมณ์ Residence Evil มาก O_o) สรุปคือไม่ได้ไรมาเลย แต่เค้าบอกว่าฝั่งตรงข้ามมีรถไฟ และ รถโค๊ช เข้าเมือง ให้เดินไปดู(ทีฝรั่งมาเที่ยวบ้านเรานี่เราแทบอุ้มมันไปส่งอ่ะ) 
  ไปกันเล้ยย!

  เดินออกมาจากประตู ก็เจอกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถบัสเข้าเมือง ยืนรออยู่หน้าประตูเลยเข้าไปจัดการถามข้อมูลมาได้ความว่าคันนี้จะไปลง Grand central แล้วจะมีรถต่อไป Penn Station อีกที เลยตัดสินใจซื้อตั๋วทันที $12 ต่อคน(ควักปริ๊นเตอร์มือถือออกมาแล้วปริ๊นตั๋วให้ เหยด คนละคลาสกับกระเป๋ารถเมล์บ้านเราสุดๆ) ยืนรอไปได้ซักพักก็มี สาวไทยที่จำได้ว่ามาไฟล์ทเดียวกับเราเดินตามออกมา คุยกันซํกพักก็ได้ความว่าจะเข้าไป  Grand central เหมือนกัน เลยแนะนำให้ไปทางเดียวกันซะเลย



  ในที่สุดรถก็มาครับ เป็นรถบัสสะอาดๆธรรมดา ระหว่างทางก็มีคนขึ้นเยอะพอสมควร แต่ไม่ถึงกับยืนกัน 



 นั่งไปได้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงก็ถึง Manhattan เราก็ขนของมารับของจากใต้รถบัส แล้วก็เดินไปขึ้นรถแวนสำหรับต่อไป Penn Station จัดแจงยัดของขึ้นรถเรียบร้อย(ซึ่งเยอะมากเพราะช่วยน้องคนไทยที่เจอกันยัดกระเป๋าสามใบเข้าไป) ก็ขึ้นไปนั่ง อ้อ! ลืมบอกไปว่าค่ารถช่วงนี้เก็บเพิ่มนะครับ ตกคนละสองสาม $ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ทิปนี่สิ ลุงคนขับบริการเราดีมาก และตามธรรมเนียมของอเมริกา งานบริการแบบนี้เขาสมควรได้รับทิป 10%-15% เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เลยต้องคำนวนเผื่อทิปไว้ด้วย แฮะๆ จำไม่ได้ว่าค่ารถเท่าไร่แต่ทิปเค้าไปสิบ $ แน่ะ 
  ระหว่างที่รถแล่นผ่านใจกลางเมืองนิวยอร์ค ผมสังเกตุเห็นโลเคชั่นจากหนังฮอลลีวูดหลายเรื่องมาก ผู้คนหลายร้อย ที่ใส่เสื้อลายดอก Clover สีเขียว ซึ่งสัญลักษณ์นี้เป็นของ ทีมบาส Boston Celtic เป่าแตรปู๊นๆ เดินแทบจะชนกันบนท้องถนน



 ในความครื้นเครง แปลกตานั้น ผมก็เริ่มมองเห็นความยุ่งยากที่จะตามมาได้ชัดเจนขึ้นทันที

  จากสภาพการณ์แล้ว วันนี้มีแข่งบาสแน่ๆ แมตท์ใหญ่ซะด้วย แล้วสนามที่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือ Medison Square Graden ซึ่งอยู่บน Penn Station นั่นเอง ผมหันหน้าไปถามเพื่อนที่กำลังตื่นเต้นกับกองเชียร์ ว่า "มึง วันนี้จะมีโรงแรมนอนป่ะวะ? คนเยอะสัด รอบๆนี้หาโรงแรมไม่ได้แน่".



จุดที่เริ่มลงเดินผจญภัย หน้า Medison square garden.

ต่อ entry หน้าครับ



Create Date : 11 ตุลาคม 2555
Last Update : 12 ตุลาคม 2555 15:53:02 น.
Counter : 969 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เด็กชายพุงห่วงยาง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พิชครับ
New Comments