Group Blog
 
All Blogs
 

ผักชี

ผักชีมีชื่อเรียกหลายชนิดแตกต่างกันไป เช่น ภาคเหนือเรียกว่า ผักหอมป้อมและผักหอมผอม ภาคอีสานเรียกว่า ผักหอมน้อย และที่นครพนมเรียกว่า ผักหอม ผักชีเป็นผักที่อยู่ในตระกูล Unbelliferae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coriandrum sativa Linn. เป็นผักที่ใช้บริโภคส่วนของใบและก้านใบเป็นผักสด หรือใช้รับประทานกับสาคูไส้หมู ต้นและรากใช้เป็นส่วนประกอบอาหารได้หลายอย่าง ใช้ต้มเป็นน้ำซุปหรือน้ำก๋วยเตี๋ยวทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติดี เมล็ดใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องแกงของเครื่องแกงเผ็ด นำมาบดคลุกกับเนื้อวัวสดใช้ทำเนื้อสวรรค์ที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน กลิ่นหอมของเมล็ด ราก ใบ และต้นของผักชีสามารถใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้

ผักชีเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นคือ ประมาณ 40-60 วัน ลำต้น ราก ใบ ก้านใบ ดอก และเมล็ดมีกลิ่นหอม สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินร่วน ร่วนปนทราย แต่จะชอบดินร่วน มีการระบายน้ำดีสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ปลูกได้ตลอดปี ช่วงที่เหมาะสมที่สุด คือ ฤดูหนาว แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ ราชบุรี นครปฐม และเขตปริมณฑล




 

Create Date : 14 กันยายน 2557    
Last Update : 14 กันยายน 2557 15:57:58 น.
Counter : 651 Pageviews.  

มะเหมี่ยว

"มะเหมี่ยว" ของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นชมพู่พันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากของผู้บริโภคผลไม้โดยทั่วไป"ชมพู่มะเหมี่ยว" มีลักษณะผลคล้ายลูกแอปเปิ้ล และมีกลิ่นหอมคล้ายๆ กลิ่นดอกกุหลาบ ชาวต่างชาติจึงเรียกชมพู่มะเหมี่ยวว่า "โสแอปเปิ้ล" ชมพู่มะเหมี่ยวมีรสชาติหวานอร่อย เนื้อนุ่ม น่ารับประทานจึงเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และที่สำคัญ ชมพู่มะเหมี่ยวมีแห่งเดียวที่จังหวัดสมุทรสงครามเท่านั้น
เริ่มเดิมทีการปลูกชมพู่มะเหมี่ยวของเกษตรกรในแถบนี้ ยังไม่เป็นล่ำเป็นสันนัก เนื่องจากขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องการดูแล และการรักษา อีกทั้งราคาชมพู่มะเหมี่ยวไม่ดีเท่าที่ควร แต่ปัจจุบันแนวโน้มทางด้านราคาดีขึ้นมาก จึงมีเกษตรกรหันมาปลูกชมพู่มะเหมี่ยวกันมากขึ้น ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกชมพู่มะเหมี่ยวในจังหวัดสมุทรสงครามประมาณ 100 กว่าราย ถือว่าเป็นผลไม้หลักของจังหวัดสมุทรสงคราม รองมาจากส้มโอและลิ้นจี่ แต่ที่น่าเสียดายชมพู่มะเหมี่ยวมักติดดอกออกผลไม่ดกเหมือนชมพู่พันธุ์ธรรมดา กิ่งหนึ่งจะติดลูกประมาณ1-3 ลูกเท่านั้น แต่ลำต้นใหญ่ จึงใช้พื้นที่มากในการเพาะปลูกกว่าพืชชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่จะปลูกเป็นพืชแซม ในสวนลิ้นจี่และส้มโอ เป็นต้น




 

Create Date : 12 กันยายน 2557    
Last Update : 12 กันยายน 2557 14:57:13 น.
Counter : 715 Pageviews.  

ประโยชน์ของมะปราง

ประโยชน์ของมะปราง

  1. มะปรางเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนสูง
  2. ประโยชน์มะปรางช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
  3. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง เบาหวาน ความดัน เป็นต้น
  4. มะปรางมีวิตามินสูงจึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้เป็นอย่างดี
  5. มะปรางมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสจึงช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
  6. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  7. มะปราง สรรพคุณช่วยฟอกโลหิต
  8. สรรพคุณของมะปราง ช่วยแก้เสลดทางวัว
  9. สรรพคุณมะปราง ช่วยแก้น้ำลายเหนียว
  10. รากมะปราง ช่วยแก้อาการไข้กลับ ถอนพิษสำแดง
  11. ใบมะปราง ใช้ทำเป็นยาพอกแก้อาการปวดศีรษะ
  12. น้ำจากต้นใช้เป็นยาอมกลั้วคอ
  13. ผลสุกมะปราง ใช้รับประทานเป็นผลไม้ หรือใช้ทำน้ำผลไม้ ทำแยม นำไปกวน ส่วนผลดิบใช้จิ้มน้ำปลาวาน กะปิหวาน หรือนำไปใช้ดองและแช่อิ่ม
  14. มะปรางเป็นผลไม้ที่เหมาะกับคนธาตุดิน หรือผู้ที่เกิดในราศีพฤษภ ราศีกันย์ ราศีมังกร และผู้เกิดตามธาตุนี้ มักจะเสี่ยงกับโรคความอ้วน ความดัน เบาหวาน โรคทางเดินหายใจ ซึ่งมะปรางถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ

คุณค่าทางโภชนาการของมะปราง ต่อ 100 กรัม

ข้อมูลจาก : หนังสือ คัมภีร์แพทย์สมุนไพร ผลไม้สมุนไพรและพืชผักสวนครัว

แหล่งอ้างอิง : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, หนังสือเภสัชกรรมไทยฯ (วุฒิ วุฒิธรรมเวช), หนังสือคัมภีร์แพทย์สมุนไพร ผลไม้สมุนไพรและพืชผักสวนครัว

ภาพประกอบ : maprangboonchop.com, gardenandfruituttaradit.blogspot.com

เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์ดอทคอม




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 26 กรกฎาคม 2557 14:24:14 น.
Counter : 709 Pageviews.  

ต้นหูกระจง

ต้นหูกระจง

ต้นหูกระจง

ต้นหูกระจง
(TERMINALIA IVORENSIS CHEV.)

ชื่ออื่นๆ :

 หูกวางแคระ

  ชื่อสามัญ :

 Ivory Coast almond, Black Afara, Idigbo (Nigeria), Emeri (Ghana), Framire (Ivory Coast) Black afara

ชื่อวิทยาศาสตร์ :

 TERMINALIA IVORENSIS CHEV.

วงศ์ :

 COMBRETACEAE

ถิ่นกำเนิด :

 มีถิ่นกำเนิดในป่าแอฟริกาตะวันตก แถบเส้นศูนย์สูตร ตั้งแต่ประเทศกีนี ไปจนถึงประเทศแคเมอรูน

ลักษณะทั่วไป :

 ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่ หนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่อง สีน้ำตาลอมเหลือง แตกกิ่งในแนวราบเป็นชั้นๆคล้าย
 ฉัตร

ฤดูการออกดอก :

 ออกดอกช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย

            การขยายพันธุ์ :

 การเพาะเมล็ด

       ข้อดีของพันธุ์ไม้ :

 ปลูกประดับสวน อาคาร ให้ร่มเงา ริมถนน ลานจอดรถ ปลูกในพื้นที่กว้าง เช่น สวนสาธารณะ

                ข้อแนะนำ :

 ขึ้นได้ในดินทั่วไป หากต้องการปลูกต้นหูกระจงในบริเวณบ้านนั้น ควรปลูกให้ห่างตัวบ้าน เนื่องจากต้นหูกระจงมีระบบรากแข็งแรง จึง
 อาจส่งผลกระทบกับตัวบ้านได้ นอกจากนี้ การขยายพันธุ์ต้นหูกระจงนิยมใช้วิธีเพาะเมล็ดมากที่สุดอีกด้วย เพราะต้นหูกระจงจะเติบโต
 ได้เร็ว 

               ข้อมูลอื่นๆ :

 หูกระจง เป็นไม้ที่มีการเจริญเติบโตเร็ว และมีอายุยืน เป็นไม้ที่มีทรงพุ่มสวยงามแตกกิ่งเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นห่างกันประมาณ 50-100
 ซม.ชอบ น้ำเมื่อนำไปปลูกในกระถางหรือลงดินแล้วรดน้ำให้ชุ่ม และสม่ำเสมอใบแทบจะไม่ร่วงเลย และที่ตั้งชื่อว่า หูกระจงเป็นเพราะ
 ลักษณะใบคล้ายกับหูกวาง แต่ใบหูกระจงจะมีขนาดเล็กกว่า สำหรับดอกมีสีขาวคล้ายดอกกระถินณรงค์ เมล็ดหูกระจงจะคล้ายกับเมล็ด
 พุทรา




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2557 16:14:24 น.
Counter : 1055 Pageviews.  

การเพาะเห็ดฟางตะกร้า

ขั้นตอนการเพาะเห็ดฟางตะกร้าอย่างง่าย

1. ทุบก้อนเชื้อ(ได้จากการเพาะเห็ดในถุงพลาสติก) ให้แตกพอแหลก แต่ไม่ต้องละเอียด

2. ใส่วัสดุเพาะลงในตะกร้าสูงประมาณ 2-3 นิ้ว กดให้พอแน่น และ ให้ชิดขอบตะกร้า

3. โรยผักตบชวาที่หั่นไว้ ลงบนวัสดุเพาะ โดยรอบ

4. นำเชื้อเห็ดฟางมาโรยบนวัสดุเพาะได้เป็น ชั้นที่ 1

5. ทำชั้นที่ 2 และ 3 ด้วยวิธีการเดิม ปิดชั้นที่ 3 ด้วยวัสดุเพาะ ได้เป็น 1 ตะกร้า

6. นำตะกร้าเห็ดฟางใส่กระโจมเพาะเห็ดฟาง

7. รักษาอุณหภูมิในโรงเรือนให้อยู่ที่ 33-38 องศา เมื่อเส้นใยเดินเต็มวัสดุจึงรดน้ำด้วยบัวฝอย

8. เมื่อเกิดตุ่มดอกแล้วรักษาอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 28-32 องศา ช่วงนี้เห็ดฟางจะเจริญเติบโตขึ้น

9. เก็บดอกตูม หัวพุ่ง ของเห็ดฟาง ให้ชิดรูตะกร้า

รูปแบบกระโจมที่ใช้เพาะเห็ดฟางในตะกร้า

กระโจมแบบเต็นท์ลูกเสือ

กระโจมแบบสุ่มไก


ชมรมเกษตรอินทรีย์ธรรมศาสตร์




 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 18 กรกฎาคม 2557 11:35:05 น.
Counter : 1316 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

noknaka55
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • Friends' blogs
    [Add noknaka55's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.