I_AM_SUD_YOD : บล็อกของคนชอบวาด

ไปมาอีกแว้วววว - บ้านแม่อารมย์

อันก่อนที่เขียนไว้เต็มๆ ตามไปอ่านที่นี่นะครับ

//f0nt.com/forum/index.php/topic,5617.0.html

ส่วนวันนี้เอาภาพมาให้ดูเฉยๆ













 

Create Date : 07 ตุลาคม 2549   
Last Update : 7 ตุลาคม 2549 0:36:18 น.   
Counter : 1299 Pageviews.  

พาไปเที่ยวอัมพวา ที่บ้านแม่อารมย์โฮมสเตย์

อย่าบอกใครนะ
ผมไปอัมพวามาล่ะ + + +
บ้านแม่อารมย์ โฮมสเตย์ – ตลาดน้ำยามเย็น – หิงห้อย - เมืองอัมพวา

เหตุเกิดจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา งานยุ่งรัดตัวซะจนลืมไปว่าสัญญากับเพื่อนว่าจะพามันไปเที่ยวแถวบ้านครับ ทำงานจนเลยไปถึงวันที่ 12 เมษายนแล้วก็ยังไม่ได้หาที่เที่ยวเลย ก็เลยหยิบ notebook ตัวเก่งขึ้นมากางหน้า //www.google.com โดยตั้งโจทย์เอาไว้ว่าคงไม่พาเพื่อนไปที่บ้านเพราะคงไม่มี activities อะไรให้ทำมากนอกจากกินเหล้ากัน ก็เลยหาที่พักไกล้ๆบ้านแทน บรรยากาศดีๆ ริมน้ำครับ

น่าแปลกใจมากที่ไม่ว่าจะ search ไปที่ไหนๆ ทุกบอร์ดจะพูดถึง “บ้านแม่อารมย์ โฮมสเตย์” และทุกๆที่จะพูดแต่ว่า น่าประทับใจมาก อยากไปอีก ฯลฯ ด้วยความแปลกใจ ผมก็เลยลองโทรไปดู เพื่อตรวจสอบที่พักที่ยังพอว่างอยู่ หลังจากที่โทรไปได้ที่นอนมา 4 ที่ครับ หน้าทีวี

เอ้า - - -

ลองกะมันซักตั้ง


การเดินทาง
สำหรับผู้ที่ทำงานแล้ว ผมแนะนำว่าควรเอารถมาเองครับเพราะว่ามีที่เที่ยวที่ใกล้ๆ เดินไปไม่ถึงอีกหลายที่
แต่สำหรับนักศึกษา พี่แนะนำให้นั่งรถโดยสารมา เพราะน้องต้องมาอีกหลายๆรอบแน่ๆ และถ้าเที่ยวครบตั้งแต่ครั้งแรกแล้วจะเสียใจ (ควรเก็บที่เที่ยวเอาไว้เที่ยวหลายๆ รอบ เวลาเรายังมีเหลืออีกเยอะ)

รถโดยสาร : นั่ง ป 1 ดำเนินสะดวก ลงที่หน้า อุทยาน ร. 2 แล้วเดินเข้าซอยโรงเจอัมพวา (ถามคนแถวนั้นก็ได้)
รถส่วนตัว : มาตามถนน ธนบุรี – ปากท่อ เลี้ยวเข้าแม่กลอง หลังจากนั้นขับตามป้าย อุทยาน ร. 2 เลยครับ (คุณจะเริ่มเห็นป้ายตั้งแต่ออกจากกรุงเทพเลยมั๊ง ขับมาเรื่อยๆครับ เอาแผนที่มาด้วยก็ดี) จอดรถหน้าโรงเจอัมพวาแล้วเดินตามซอยเข้ามาตามป้ายเลย - -


หยิบกล้องแล้วตามผมมาเลยครับ




แค่ตรอกเข้าบ้านก็ได้ใจไปเต็มๆ ได้อารมณ์ตามชื่อบ้านเลย

จังหวะแรกที่เดินมาถึง ก็มีพี่เจ้าของบ้านคือรสสุคนธ์ กับพี่ป่า เข้ามาต้อนรับและ เข้ามาคุยด้วย สรุปความก็คือมีห้องแอร์ว่าง 1 ห้อง (และแล้วผมก็ไม่ต้องนอนหน้าทีวีแล้ว) ด้วยสนนราคาต่อหัว 300 บาท (ห้องพัดลม 200 บาทต่อหัว) หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้วพี่ป่าแนะนำให้เดินไปหาอะไรกินกันก่อนที่ตลาดน้ำเนื่องจากที่บ้านไม่ได้มีอาหารเอาไว้บริการ เพราะทางนายกเทศมนตรีขอร้องเอาไว้ว่าอยากให้นักท่องเที่ยวไปหาอะไรทานที่ตลาดน้ำ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวครับ และให้กลับมก่อน 2 ทุ่มครึ่ง เพราะจะไปดูหิงห้อยกัน

ชัดตื่นเต้นแล้วสิตู




หลังจากเดินหาอะไรกินจนรู้สึกว่ามันจะอิ่ม (มาก) ไปแล้ว
พวกผมก็เดินเที่ยวกันบริเวณตลาดน้ำนั่นล่ะครับ
บรรยากาศก็ดี คนก็ไม่เยอะมาก เดินไปดูร้านค้าไปเรื่อยๆ

ถ้าอากาศที่นี่หนาวนะ อยากจะบอกให้ลืมตลาดใน อ ปาย ไปเลย
อาหารที่นี่อร่อย ถูก (จนอึ้ง) บรรยากาศและอากาศดีมากๆ แล้วก็คนยังไม่เยอะมาก อีกทั้งนายทุนยังเข้าไม่ถึงอีกด้วย


แต่พอเดินดูไปเรื่อยๆ รู้สึกเหมือนเดินเข้ามาในจตุจักรยังไงไม่รู้ นายทุนยังไม่เข้าแต่รู้สึกว่านักศึกษาหัวหมอลูกหลานที่นั่นคงจะเข้าถึงแล้ว เพราะสังเกตจากร้านแนวๆ มากมายทั้งร้านขายโปสการ์ด ร้านน้ำชา ร้านขายเสื้อยืด จิปาถะ
ที่นี่ยังไม่มี 7 / 11 และเค้าก็ไม่ให้มีด้วย
ดังนั้นร้านโชว์ห่วยที่นี่จึงเยอะมาก และขายดี


แล้วเราก็กลับมานั่งเรือไปดูหิงห้อยกัน
ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องเสียเงินมาดู หิงห้อยมันเยอะจริงๆ
ต้องใช้เวลาดูกันชั่วโมงกว่าๆ จึงจะรอบเกาะครับ เพลินดีจริงๆ
แต่ขอเตือนว่าถ้ามาเพื่อดูหิงห้อยอย่างเดียวละก็ ให้เลือกเรือดีๆหน่อย
แนะนำให้ไปถามพี่คนที่ขายขนมหวาน โคนสะพานตรงตลาดน้ำครับ เค้ามีเรือและนำเที่ยวดีมาก
เสียไป 50 บาทเท่านั้น


บรรยากาศของที่พักที่นี่ทำเอาคิดถึงแถวบ้านสมัยก่อนเลย
จากการสอบถามพี่ตือเจ้าเก่าพบว่ารัฐบาลเดนมาร์กให้งบที่นี่ 30 ล้านบาทเพื่อให้ทุกๆ บ้านเข้าโครงการและทำสัญญาว่าต้องรักษาสภาพของบ้านให้คงเดิม เหมือนเดิมมากที่สุดครับ

คนที่นี่เค้าบ่นน้อยใจผ่านผมมา ว่าขนาดรัฐบาลเดนมาร์กยังเห็นความสำคัญเลย แล้วทำไม....

กิจกรรมเด็ดๆ ที่เกือบทุกคนที่มาที่นี่ต้องทำคือการตกปลา และจะเยี่ยมมากถ้ากินเบียร์หรือเหล้าไปด้วย
บรรยากาศดีมาก ลมโชยๆ ปลาชุมๆ



บ้านแม่อารมณ์เป็นบ้านโบราณ ประตูที่บ้านยังเป็นบานเฟี้ยมอยู่ ตั้งอยู่ริมคลองอัมพวา ตัวบ้านสร้างมาแล้วตั้งแต่รุ่นคุณแม่อารมย์ โดยมีบรรดาลูกๆ ดูแลกันต่อมา

พี่ตือซึ่งเป็นลูกคนหนึ่งของแม่อารมย์เล่าให้ฟังว่าเปิดเป็นบ้านพักแบบ homestay มาได้ปีกว่าๆเท่านั้น สาเหตุก็เนื่องมาจากชอบมีเพื่อนมานอนค้าง กินเหล้าที่บ้าน เพื่อนก็ชวนเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนมาพักต่ออีกที พี่แกก็เก็บเงินซะเลย แล้วมันก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ แบบปากต่อปาก จนเดี๋ยวนี้สามารถรับนักเดินทางได้สูงสุด 30 ท่าน (แอร์กับพัดลมอย่างละครึ่ง แต่ส่วนตัวเห็นว่า ถ้านอนจริงๆ ก็น่าจะเบียดได้ถึง 50 คนครับ)

หลังจากหลับเต็มอิ่ม และทำบาปมาทั้งคืน เราก็มาใส่บาตรตอนเช้ากันครับ
พระท่านจะพายเรือผ่านหน้าบ้าน พอท่านผ่านมาก็นิมนต์เลยครับ อิ่มบุญกันไปตามๆกัน
ถ้าสังเกตดีๆ บริเวณที่ใส่บาตรกับบริเวณที่ตกปลาเป็นบริเวณเดียวกัน
(เอาปลาที่ตกเมื่อคืนนั่นแหละครับไปใส่บาตร เอ้ย... ปล่อยไปครับ ตกเป็นกีฬา เบ็ดก็ไม่มีเงี่ยงด้วย)


เจ้าเด็กคนนี้มันชอบเข้ามาเล่นกล้องผมมาก
มันคิดว่ามันเป็นนายแบบ
พูดก็เหน่อ
เหน่อขนาดที่ว่าผมเอง คิดว่าตัวเองพูดเหน่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ก็ยังฟังมันไม่รู้เรื่องเลย
มันชื่อเจ้ามาร์ด (ตอนแรกฟังแล้วนึกว่ามันชื่อว่าหมา)

ปล. วันที่ 2 มาร์ดมันทะเลาะกับพี่สาว เนื่องจากพี่สาวบอกว่ามาร์ดไม่หล่อ แต่มาร์ดมันก็เถียง
ได้ยินแม่ของน้องทั้ง 2 ปรามว่า เออทะเลาะอะไรไม่ทะเลาะ ทะเลาะกันเรื่องหล่อไม่หล่อ



หลังจากนั้นก็มีเรือขายข้าวผ่านหน้าบ้านมา
โบก เลยครับโบก

สรุปว่าเช้านั้นรองท้องด้วยข้าวหมูแดง ก่อนเข้าไปเอาหนังสือมาอ่านที่ชานบ้าน
สรุปว่ากิจกรรมหลักๆ ของเช้านั้นคือนั่งเหม่อครับ
แล้วก็มีโอกาสได้เล่นน้ำคลองด้วย แต่ไม่สามารถเอารูปมาแปะให้ยลกันได้
(รอดูตูตอนเผยผิวละกันนะ)

พอช่วงบ่าย ตามโปรแกรมคือจะเดินไปที่อุทยาน ร 2
ไปดูเรือนไทยกัน
ระหว่างทางมองไปในคลอง เจออีกแล้ววว

ผัดไทกุ้งสด

สั่งมาซัดกันคนละกะทะ ห่อนึงมีกุ้ง 5 ตัว
ห่อละ 20 บาท กินไปก็สงสารป้าไป จะเอากำไรตรงไหนเนี่ย



เดินลัดบ้านริมคลองแล้วทะลุวัดเข้าไป
ใช้เวลาเดินจากบ้านไม่นับการซัดผัดไทข้างบนประมาณ 10 นาทีก็ถึง
อากาศกำลังร้อนได้ที่ ก็เลยหลบร่มไปพักนวดฝ่าเท้าที่ใต้เรือนไทยหลังหนึ่ง
และแล้ว เราก็สู้ลมโชยๆ กับเสียงดนตรีไทย ไม่ได้ ผล็อยหลับไป
หลังจากเช็ดน้ำลายเรียบร้อยแล้ว ก็เดินชมเรือนไทยเป็นพิธี
ขากลับเห็นคนมุงอะไรก็เลยเดินรี่เข้าไปดู เค้าแย่งกันซื้อขนมไทยกันครับ
จากประสบการณ์ ถ้ามุงกันขนาดนี้ล่ะก็อร่อยแน่นอน

ได้ฤกษ์ซัดขนมหวานหลังวัดต่อ
อร่อย !!!!

เจ้านี้อร่อยจริงๆ ขนาดที่เรานึกไม่ออกว่าเคยกินขนมไทยที่ไหน ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน



ขากลับก็แวะไปที่บ้านนกไม้
เค้าขายเครื่องประดับทำมือ พวกโมบายน่ะครับ บ้านพี่เค้าจะติดๆกับที่พักเลย
เข้าไปถ่ายรูปอย่างเดียว

พี่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เหมือนจะได้สายตาเคืองๆ กลับมา
(คราวหน้าแล้วกันนะพี่ ผมไม่รู้จะซื้อไปแขวนตรงไหน แต่ช่วยโปรโมทร้านแล้วนะ)



ตกเย็นเราก็ตกปลาอีกรอบ
มีน้องคนหนึ่งน่ารักมากเลย มองพวกผมตกปลาด้วยสายตาน่าเอ็นดู
ตกได้เกือบ 20 ตัวเป็นปลาชื่อว่าปลากด ครับ
แล้วเราก็ปล่อยไป

ปล. น้องที่เห็นในภาพเนี่ย ตอนล่องเรือไปดูหิงห้อย
ไปยืนตรงหัวเรือ แล้วกางแขนเป็นโรสตลอดทางเลย น่ารักมากเห็นแล้วอยากมีซักคน อิอิ



แค่นี้ก่อนเดี๋ยคืนนี้ UP ต่อ




 

Create Date : 29 เมษายน 2549   
Last Update : 29 เมษายน 2549 14:10:34 น.   
Counter : 13645 Pageviews.  


I_AM_SUD_YOD
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




วาด เข้าปายยยยยย
[Add I_AM_SUD_YOD's blog to your web]