และแล้วในที่สุดก้อมาถึงจนได้ ชุมพรเราพักที่บ้านของน้องที่มาด้วยกัน เป็นบ้านเจ้าของพื้นที่เลยหละอยู่ที่อำเภอสะพลี แถวๆ สะพานปลา บริเวณนั้นจะมีตลาดสดตอนเช้าๆ ด้วยมีร้านโกฟี ก้อคือ กาแฟ โอเลี้ยง ชานม ต่างๆ นานา ที่สำคัญมีปาโก๋จิ้มนมข้น แต่บางคนที่นี่กินแบบจิ้มน้ำตาลทรายอ่ะ จะเอาไปลองกินดูก้อได้นะ!!อย่างที่บอกว่า....ตอนเช้าเค้ามีตลาดสดกัน...ชาวประมงที่ได้ กุ้ง ปู ปลาหมึก มาก้อเอามาขายกันในราคาที่ถูกมากมายที่เห็นอยู่คือปลากระเบน เป็นแบบ before & after ด้านล่าง...สดแท้ๆ จากทะเลอ่าวไทยด้านบน...กระเบนผัดเผ็ด เด็ดๆจากครัวคร้าบท่านพร้อมกับข้าวที่มีทุกมื้อ ใบเหลียง(ลวก) จิ้มน้ำพริกกะปิ และเห็ดเหม็ด (ก้อเพิ่งจะได้รู้จักคราวนี้หละ หน้าตาอย่างที่เห็นอ่ะนะ) พื้นๆ บ้านๆ แต่จัดจ้านได้ใจซะงั้นไปชุมพรครั้งนี้อยู่หลายวัน แต่ได้เที่ยววันละที่ สองที่ซะงั้น อารมณ์เรื่อยเปี่อยสุดสุด....เรื่อยๆ ไปถึงที่ อุทยานหมู่เกาะชุมพร มีนิทรรศการของจริงแสดงเกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าชายเลนไว้ด้วยโดยทำเป็นทางเดินไปบนป่าชายเลนจริงๆ มีรายละเอียดของพันธุ์พืชที่ปลูกไว้ และก้อต้นไม้ของจริงเห็นๆ ตรงนั้นเลยที่นี่มีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การพายเรือคายัคมีท่าเรือเพื่อรับนักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูประการัง และมีที่กางเต็นด้วยถ้าเราเดินข้ามสะพานแขวนแขว่งไขว นี้ไปอีกฝั่ง จะมีทางเดินลัดเลาะไปบนป่าชายเลนจนออกไปทะเลด้านนอกได้เลย สร้างสรรค์ใช้ได้เลยทางด้านบนของอุทยานจะมีจุดชมวิว สามารถมองเห็นทะเลชุมพรได้รอบด้านเลย และมีเจ้าตัว ข้างแว่น สัตว์ประจำจังหวัดชุมพรมาโชว์ตัวด้วยตอนแรกว่าจะถ่ายรูปมาด้วยแต่ไปตื่นตาตื่นใจกับวิวพระอาทิตย์ตกอีกฝากฝั่งทะเล พอจะกลับมาหาค่างแว่น เค้าก้อกลับบ้านกลับช่องกันไปซะแล้วของฝากจากพระอาทิตย์ ณ อุทยานหมู่เกาะชุมพร...ภูเขา...ท้องฟ้า...น้ำทะเล...มีให้ครบรูปนี้ถ่ายผ่านช่องของต้นไม้บนจุดชมวิวยิ่งพลบค่ำ...ตัวปึ่ง หรือ ไรทะเล หรือ ลิ้นทะเล ตัวอะไรสักอย่างนี้หละกัดตามแขน ขา ได้คันมากๆ ถ้าเรายิ่งเกา ยิ่งคัน และตุ่มที่เราเกาจะใหญ่ขึ้นได้อีกด้วย...กลับจากอุทยานฯ ด้วยสภาพตุ่มแดงๆ เต็มแขน และ ขา เพราะเจ๋อใส่ขาสั่นไป ต้องโปะด้วยยาหม่องเพื่อบรรเทาอาการคัน พอได้อยู่อีกวันก้อไม่ไปทำบุญ และก้อไปเที่ยวเล่น ด้วยรถสองแถวสุดเก๋าของเจ้าถิ่น...ขอสักภาพ (ภาพนี้ของรุ่นพี่ที่ไปด้วยกันกับ The gang ชาวเรื่อยเปื่อย...ขอยืมนะพี่)ตกเย็นไปเล่นน้ำทะเลที่หาดทุ่งวัวแล่น...ถ้าไปช่วงธรรมดาไม่ใช่เทศกาล...หาดนี้จะเงียบสงบดีและที่สำคัญ หาดทรายและน้ำทะเล ยังใส สะอาดดีอยู่(และเราก้อขอยืมมาอีกภาพนะพี่......ไปเล่นน้ำ เอากล้องไปเป็นภาระทำมัยหละ หุ หุ)ในที่สุดก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ สักที แต่จะตรงดิ่งถึงเมืองกรุงคงไม่ใช่ ทัวร์เรื่อยเปื่อย อย่างทริปนี้แน่ๆแวะครับพี่น้อง ขากลับเราใช้เส้นทางเลียบทะเล เลาะมาทางบางเบิดที่แรกที่เราแวะถ่ายรูป คือ สำนักสงฆ์แก้วประเสริฐ ท่าแอตมีรูปปั้น เจ้าแม่กวนอิม และ พระพิฆเณศ ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดนอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์ต่างๆ ให้ได้สักการะบูชากันตามศรัธราภาพนี้เป็นเสามังกรที่ตั้งไว้ด้านหน้าเจ้าแม่กวนอิม เพื่อไว้เป็นที่บูชาเทวดา ฟ้า ดิน อย่างน้อย คนเราก้อควรหัดเคารพ ฟ้า ดิน (ธรรมชาติ) ไว้บ้างเกี่ยวอะไรกันมั้ยเนี้ย ที่นี่ตอนกลางวันร้อนมากๆ เพราะเป็นที่โล่งๆ และทุกสิ่งอย่างก้อดูจะใหญ่โกกว่าต้นไม้จะปกคลุมไหว มองจากมุมที่ยื่นไหว้พระที่สำนักสงฆ์นี้แล้ว จะได้ภาพด้านล่างแบบนี้หละจริงๆ จะมีอีกวิวที่เห็นภาพเวิ้งทะเลด้วย แต่ภาพที่ถ่ายออกมาไม่สวยติดสายไฟ และน้ำก้อลง ไม่แจ่มใจเท่าไหร่ จากสำนักสงฆ์ มาแวะต่อที่ เนินทรายงามบางเบิดเป็นงานทรายสร้างสรรค์จากธรรมชาติ หนึ่งเดียวในประเทศ อีกแล้วจากภาพที่เห็นอาจดูเล็กๆ ...แต่จริงๆ ถ้ามีคนไปยืนอยู่บนสุดของเนินทรายภาพที่ถ่ายออกมาเราจะได้รูปคนเล็กๆ ประมาณครึ่งเซ็นอยู่ในรูปบนเนินทรายนั้นหละ...เปรียบเทียบแบบให้เห็นภาพว่าไม่เล็กอย่างภาพนะคร้าบขอบอก...บางเบิดตัวปึ่ง หรือ ไรทะเล หรือ ลิ้นทะเล อะไรเนี้ย กัดเจ็บและคันกว่าที่อุทยานหมู่เกาะชุมพรอีก...กลับจากเที่ยวครั้งนี้ตุ่มแดงตรึม!!!เรื่อยๆ จนหิว เรามาทานมื้อเย็นที่หาดแม่รำพึง อำเภอบางสะพานเหมือนตอนขามาที่เราก้อแวะกินข้าวเย็นก่อนจะถึงชุมพรที่อำเภอนี้เมนูที่เราสั่งก็มี ไส้กรอกไข่เค็ม คล้ายๆ แฮ่กึ้นใส้ไข่เค็มอ่ะเอ็นหอยผัดฉ่า ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลาปูผัดผงกระหรี่ และต้มยำกุ้งตัวโต้โตกินอิ่ม ก้อรื่นรมย์กันต่อกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกชายทะเล ณ หาดแม่รำพึงจบทริปแสนจะเรื่อยเปื่อย แต่ไม่สิ้นเปลื่องนี้ด้วยภาพนี้หละกัน...บ้ายบาย...ท้องฟ้าบ้ายบาย...สายลมแล้วพบกันใหม่เมื่อใจต้องการ....I'm so fine...