Everyday is Sunday...
Group Blog
 
All blogs
 

ประสบการณ์เสียวในวันหยุด

มันเสียวจริงๆที่จะเอาอะไรแท่งๆ แหย่เข้าไปในร่างกายตัวเอง

-๑-
วันนี้ตื่นแต่เช้า(10โมง)
จู่ๆเกิดอารมณ์เปลี่ยวตามประสาสาวโสดวัย 22ปี
จึงไปคว้าอุปกรณ์มาสนองอารมณ์
เคยได้ยินมานานแล้วว่าผู้หญิงหลายๆคนก็เคยทำด้วยตนเองมาก่อน
ไม่มีอันตราย และสำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมายมาด้วยดี

-๒-
จัดเตรียมสถานที่ อะไรจะเหมาะไปกว่าห้องน้ำละเนี่ย
เอาผ้าเช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้งและสะอาดก่อนจะได้ลงไปนอนได้
แล้วก็จัดการ Naked ตัวเองซะ จะได้ทำงานได้สะดวกๆ
จากนั้นก็ทา วาสลีนที่ปากทางเข้าให้มันหล่อลื่นเสียก่อน
แล้วก็ทาที่ของเแข็งนี้ด้วย
ค่อยๆ เสียบของแท่งใสๆนี้เข้าไป ตอนแรกก็ต้องทำใจอย่างมาก
เหมือนร่างกายต่อต้าน แต่พอเข้าไปได้นิดนึงแล้วก็ smooth as silk
ด้วยความที่ทำเป็นครั้งแรกจึงไม่รู้ว่า ต้องให้เข้าเท่าไหร่
จึงได้เอาเข้าๆออกๆ เพราะกลัวมากเกินไป น้อยเกินไป
เมื่อกะได้ที่ประมาณ3-4นิ้ว ก็จัดการปล่อยน้ำเข้าไปตามกฎแรงโน้มถ่วง
อ่า......อืม..... สบายจริงๆ

-๓-
เอาละ มันคือการทำดีทอกซ์
สำหรับคนที่คิดเป็นอื่น๕๕๕๕๕

ก็เล่าข้ามขั้นให้ตื่นเต้น ไปงั้นแหละ หุหุ
คนที่เพิ่งกินข้าวเสร็จหรือกำลังจะกินข้าวก็อย่างเพิ่งอ่านละกัน

ดีทอกซ์คืออะไร
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาแล้วบ้างว่ามันคือการ เอากาแฟใส่ก้นเพื่อสวนทวาร
แต่ความจริงมันคือ.....................
นั่นสินะ มันคืออะไรเราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แค่อยากทำ (อาจจะเพราะเคยได้รับยินว่าทำแล้วผอม)
ป.แป้ง และ ม.แม่ได้รับคำแนะนำจากอ.อาอึ้มข้างบ้าน ( ฟังแล้วไม่มีความน่าเชื่อถือทางวิชาการใดๆ
แต่อาอึ้ม คนนี้เป็นคนที่ทำอาหารเก่งมาก ทั้งขนมจีบ ซาลาเปา กุยช่าย บะจ่าง ขนมเทียน ขนมเข่ง
จนคุณแม่ไปตีซี้ ได้วิทยายุทธ์มาหลายอย่าง โอ้ว!!! ฟังดูน่าเชื่อถือแล้วรึยัง)

ประกอบกับคุณแม่ ก็ได้เป็น คุณแม่แนวทดลองไปแล้วถึงสองครั้ง
ป.แป้งเลยอยากมีประสบการณ์ตรงมั่ง

ชุดอุปกรณ์มีถุงใส่น้ำ ทางออกเป็นสายยางใสๆให้น้ำไหลออก
ขั้นแรกก็ฉีกซองกาแฟที่เค้าให้มา ผสมน้ำร้อน๑แก้ว เทลงในถุง
แล้วใส่น้ำสะอาด ตามที่กำหนดในคู่มือ จนมีอุณหภูมิธรรมดา
จากนั้นปล่อยให้น้ำกาแฟไหลออก เพื่อการไล่ลมจนหมดสายยาง
ที่สายจะมีที่ล็อคควบคุมการไหลของน้ำ
จากนั้นขอให้กลับไปอ่านต่อนที่ -๒-

ตามคู่มือบอกให้นอนตะแคงเฉยๆประมาณ๑๐นาที แต่เราก็ไม่ได้จับเวลาหรอกนะ
ตอนแรกๆแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ก็นอนเพลินไป มือก็คอยกดสายยางให้น้ำกาแฟค่อยๆไหล
พักใหญ่ๆจึงรู้สึก มันตุ่ยๆ โดยไม่ได้ปวดมวนท้องแบบท้องเสียนะ แค่ตุ่ยๆ
ม.แม่( ผู้ส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างนอกห้องน้ำ) ก้อบอกให้อดทนไว้
จนขนแขนสแตนด์อัพแบบหนังไก่แล้วค่อยไปนั่งส้วม

พอนั่งส้วมแทบไม่ต้องเบ่ง มีน้ำกระจุยกระจายออกอย่างสวยงาม
(ที่เห็นเพราะคุณแม่บอกให้ก้มลงไปวิจัยผลงานของตัวเองด้วย)
รู้สึกสับสนนิดหน่อยว่าตัวเองฉี่อยู่รึเปล่า
ลักษณะที่ออกมาจะเป็นลิ่มๆ สีกาแฟๆ แต่ที่แปลกคือไม่มีกลิ่นเหม็นเลย
รู้สึกโล่งมาก กดชักโครกอย่างมั่นใจไร้กังวล

แต่คุณแม่บอกว่า อ๊ะๆ อย่าเพิ่งวางใจ มันจะมีก๊อกสองต่อมา
ไอ้เราก็เลยนั่งรอ จนคว้าหนังสือพิมพ์มาอ่าน ปรากฏว่าไม่มีภาคต่อ

อาจจะเพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ??

ว่าแต่ว่าพอทำเสร็จแล้วรู้สึกอิ่มๆอืด เรอด้วย
เอ.... เป็นเพราะเราไม่ได้ปล่อยก๊อกสอง หรือว่า เสียบสายลึกเกินไป
จนดันmassมาอยู่ข้างบนนะ ???




 

Create Date : 29 เมษายน 2551    
Last Update : 29 เมษายน 2551 23:05:51 น.
Counter : 839 Pageviews.  

ว่าด้วยเรื่องไก่ทอด

ว่าด้วยเรื่องไก่ทอด
-1-
มีอยู่วันหนึ่ง เรากำลังยืนรอรถเมล์ที่หน้าเซเว่น
ข้างหน้าเซเว่นมีร้าน(รถเข็น)ขายไก่ทอดหาดใหญ่ อยู่เจ้านึง
รสชาติอร่อยมาก (เพราะผงชูรส)

ผู้หญิงคนขายกำลังคีบไก่ทอดเรียงๆ วางเพื่อเมอร์ช้านได้ส์ดิสเพลย์อยู่
ด้วยความไม่ทันระวังเจ๊ แกเผลอทำไก่ทอดชิ้นนึงตกจากรถเข็น
กระเด็น กลิ้งปุปุ บนฟุตบาท

แน่นอน ชาวคอยรถเมล์ เห็นกันทุกคน เจ๊แกก็รีบไปเก็บ
ไอ้เราที่อยากรู้ว่าเจ๊แกจะทำไงต่อไป เลยแอบเหล่ดู

เจ๊แก ตอนแรกเอา"ไก่กลิ้ง" ชิ้นนั้น วางไว้ข้างๆเขียง
ซึ่งเป็นที่กองเศษไก่ทอดดำๆ เวลาเค้าตักขึ้นจากก้นกะทะ

อ๊ะๆ เวลาผ่านไป รถเมล์สายที่เรารอก็ไม่มาซะที
ชาวคอยรถเมล์สายอื่นก็เปลี่ยนหน้าตาไปไปเรื่อยๆ
จังหวะปลอดคน เราก็เห็นเจ๊ะ คีบเอาไก่กลิ้งชิ้นนั้น
วางดิสเพลย์เคียงข้างเพื่อนอย่างแนบเนียน

เห็นแล้วไม่ตกใจเลย เพราะคิดอยู่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ว่าเจ๊แกไม่ยอมทิ้งหรอก
แต่ที่คอยดู( ฆ่าเวลา) เพราะอยากรู้ว่าเจ๊จะเอาไก่กลิ้งชิ้นนั้นมา เนียนกับเพื่อนๆได้อย่างไร
โดย( คิดว่า)ไม่มีคน( อย่างเรา) เห็น

โดยส่วนตัวเราเข้าใจและเห็นใจเจ๊นะ
ไก่ทอดมีราคาขายชิ้นละ 25บาท
สมมติว่าเจ๊ได้กำไรสุทธิจากไก่ทอดชิ้นละ 8 บาท
ถ้าต้องทิ้งไก่กลิ้งชิ้นนั้นไปเฉยๆ เท่ากับว่า ขาดทุนไป 25บาท
แปลว่า เจ๊ต้องขายไก่ทอดอีก 3 ชิ้น ให้ได้กำไรประมาณ 24บาทเพื่อมาหักลบกับไก่กลิ้ง
และกำไรจากตัวที่สี่ จึงจะเป็นรายได้จริงของวันนั้น

-2-
แล้วยังไง
พอดีระลึกอดีตสมัยไปขายแรงงานในต่างแดน
ทำงานเป็นพนักงานแมคโดนั่ล

เคยสงสัยม๊ะว่าทำไมไก่ทอด นักเก็ต แฮมเบอร์เกอร์ มันขายแพงขนาดนั้น
ทั้งที่ นักเก็ต มันก้อคือเศษไก่ตรงไหนไม่รู้ เอามาปั้นๆ แล้วบอกว่าไก่ไม่มีกระดูก
(โดยไม่ได้บอกไปว่า ไม่มีเนื้อด้วย มีแต่มัน หนัง และแป้งไง)
แฮมเบอร์เกอร์ ก้อเศษเนื้อชัดๆ
แล้วทำไมมันแพง โอเคอาจจะเป็นค่าที่ ค่าตบแต่งร้าน ค่าจ้างพนักงาน ชุดพนักงาน ฯลฯ

แต่จริงๆเราว่ามันมีอีกประเด็นนึง

เรื่องมีอยู่ว่า........
แมคนักเก็ต ไก่ทอด ถ้าทอดทิ้งไว้เกิน 30นาที ไม่มีลูกค้ามาซื้อ
เค้าจะโยนทิ้งเลยทั้งกล่อง ( มีเครื่องตั้งเวลา ร้องเตือน)
เฟรนช์ฟราย ถ้าทอดแล้วทิ้งไว้นานเกิน**นาที ( จำไม่ได้) ก็โกยใส่ถังพลาสติกไว้เลย
ข้างใต้ถังมีตาชั่งด้วยนะ เพื่อเช็คยอด รู้สึกว่าวันนึงประมาณ 2กิโล
ไอ้เราตอนนั้นเห็นแล้วโคดเสียดาย แบบว่ามันเอาไปทิ้งจิงๆนะ

เพื่อนเราคนนึงทำหน้าที่ทิ้งขยะ เก็บร้าน ยังเก็บแม็คนักเก็ต( ที่มันถูกทิ้งทั้งกล่อง)มาฝากเลย

นอกจากนี้ เราเพิ่งรู้ว่าฝรั่งมันเรื่องมากกระทั่งแฮมเบอร์เกอร์
เช่น เอาแมคแบบไม่ใส่ หัวหอม ขอเพิ่มมัสตาร์ด กับผักกาด
(เราเพิ่งรู้ว่ามันสั่งแบบนี้ได้ด้วย ยังไม่เคยลองที่เมืองไทย
เพราะเราเกลียดแตงกวาดองมาก เลยเขี่ยออกเอง)

สมมติพนักงาน( เช่นเรา)ทำผิด ( เพราะฟังมันไม่ค่อยออก) ลูกค้าก้อจะกลับมาโวยว่าทำไมมันยังมีหัวหอมล่ะ
ผู้จัดการก็จะโยนอันนั้นทิ้ง แล้วทำใหม่ทันที ( ไอ้เรานึกว่าจะเอามาคีบๆออก 55)

จับความได้ว่าที่พนักงานทุกคนไม่รู้สึกเสียดายที่จะทิ้งเลย เพราะว่า
อาหารที่ทิ้งพวกนี้ถูก ตีมูลค่า และรวมมาใน ราคาขายแล้ว
เรียกว่าคำนวณมาแล้ว ทิ้งไป ยังไงก็ไม่ขาดทุน

ดังนั้นเวลาเราซื้อแฮมเบอร์เกอร์ นักเกต ไก่ทอดราคาแพงเว่อนั้น
พึงสังวรว่า เพราะเราต้องเสียค่าอาหารที่ถูกพนักงานทิ้งด้วย

-3-
อ่านแล้วคิดว่าที่เมืองไทยจะทำอย่างเมืองนอกป่ะ
ราคาขายที่แพงเว่อ นี่ยึดตามเมืองนอก
แต่เหตุผล และที่มาที่แพงเว่อนี่ทำตามเมืองนอกด้วยป่ะ

เคยได้กินนักเกตเย็นๆ
เฟรนช์ฟราย เหี่ยวๆ ป้อแป้ๆ
ไก่ทอดชืดๆมั่งป่ะ

หลายเดือนก่อน แฟนพี่เราไปกินเคเอฟซี ในร้าน
เรากับพี่ตามมานั่งด้วยทีหลัง พอเราหยิบเฟรนช์ฟรายมากิน
ก็รู้สึกถึงความเย็นๆเหี่ยว เละๆ

เราก้อคิดว่า สงสัยพี่เค้าซื้อมานานแล้ว มันเลยเหี่ยวอย่างงี้
แต่แฟนพี่เราบอกว่า เป็นอย่างงี้ตั้งแต่ซื้อมาแล้ว

ไอ้เราก็แบบ ฮีทขึ้น อย่างงี้มันเอาเปรียบกันนี่หว่า ขายแพงแล้วยังห่วยอีก
ทอดไว้นานแล้วเอามาขายลูกค้าได้ไง
เลย ยกถาดไปที่เค้าเตอร์ พร้อมใบเสร็จ

พี่คะ ขอเปลี่ยนค่ะ มันไม่ร้อนเลยตั้งแต่ซื้อมา ขอร้อนๆหน่อยค่ะ พร้อมใบเสร็จเป็นหลักฐาน
พี่แกทำหน้างง แล้วก้อเปลี่ยนให้อย่างเร็ว

เรากล้าวีนเพราะเรารู้ว่ามันเป็นสิทธิของผู้บริโภคอย่างเรา
ที่พึงจะได้ของดีในราคาขนาดนี้
ถ้าเราไปซื้อเฟรนฟราย ไก่ทอด กินตามข้างถนน
เคยม๊ะ แบบ มันไม่กรอบ ไม่ร้อนเลย
เราก็ไม่กล้าไปวีนหรอก เพราะ รู้ว่าราคาอย่างงี้มันไม่ได้คิดครอบคลุมส่วนนั้น
ถ้าไม่ร้อน ก้อไม่ต้องกิน ---แม่ค้าคงบอกอย่างงี้ พร้อมคำอย่างอื่นแถมด้วย

แม่ค้าหาบเร่ไม่มีแบรนด์ ไม่มีโพสิชั่นนิ่ง ไม่ต้องการรอยัลตี้ ไม่ต้องสร้างอิมเมจ

เจ้ ต้องการแค่กำไร

ปล. ถ้าเป็นร้านอาหาร ก็ต้องพูดแบบดีๆนะ กลัวมันถุยน้ำลายใส่
เคยดูหนังเรื่องนึง สยองมากๆๆ




 

Create Date : 29 เมษายน 2551    
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 0:47:56 น.
Counter : 1501 Pageviews.  

1  2  

momojojo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add momojojo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.