�ทุกสิ่งที่อยากบอก ทุกสิ่งที่เรารู้ ทุกความสุนทรีย์ของโลกใบนี้�
|
||||
Episode07:ความรู้สึกเมื่อจะได้กลับบ้าน
Episode 07: ความรู้สึกเมื่อจะได้กลับบ้าน … เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องกลับบ้าน ระหว่างที่นอนรอที่เตียงนั้น ผมมองเตียงรอบตัวอีกครั้ง มองทั้งป้าๆลุงๆ รวมถึงคนอื่นๆ ที่เขาอาจต้องนอนอยู่ต่อ แต่ผมก็ไม่รู้เลยว่าการได้ออกไปเร็วกว่าพวกเขาเหล่านั้น หมายถึงการที่ร่างกายผม มันจะกลับไปเป็นปกติเหมือนเดิมเร็วกว่าพวกเขาเหล่านั้นหรือไม่ หรือระดับความทุกข์ที่เราเจอนั้น ใครทุกข์น้อยหรือมากกว่ากัน เพราะจิตใจคนเรามันแข็งแกร่งไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ๆคือจิตใจผมตอนนั้น มันอ่อนแอและเปราะบางมากจริงๆ จนพร้อมที่จะแตกสลายได้ในทุกเวลา ..จากนั้นก็ถึงเวลาที่ได้กลับบ้าน เมื่อพยาบาลเตรียมตัวผมเสร็จแล้ว
Episode06: สับสนกับความรู้สึกดีใจหรือเสียใจ
Episode 06: สับสนกับความรู้สึกดีใจหรือเสียใจ … วันนั้นเป็นเช้าวันอาทิตย์ เป็นวันที่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าให้ผมกลับบ้านได้แล้ว เป็นวันอาทิตย์แรกในรอบหลายปีเลยทีเดียว ที่ผมจะไม่สามารถใช้ทักษะพรสวรรค์หรือของประทานที่เรามีด้านการเล่นเครื่องดนตรี เพื่อจะทำกิจกรรมนมัสการพระผู้สร้างด้วยเสียงเพลงตามพิธีกรรมในคริสตจักร หรือใช้มันเล่นเพื่อผ่อนคลายสร้างความสุขให้กับตัวเอง รวมถึงหารายได้เพิ่มจากมันได้อีกแล้วในตอนนี้ ซึ่งมันคือความเจ็บปวดอีกอย่างหนึ่งมากเลยทีเดียว แน่นอนว่าสามวันที่ผ่านมามันคือความทุกข์ความเจ็บปวดหนักที่อยู่ภายในจิตใจเรา จนเราร้องไห้มันออกมาภายในใจโดยที่มีแค่เราที่ได้เห็นน้ำตานั้น จนเวลาล่วงผ่านไปถึงช่วงบ่าย ก็ถึงเวลาที่ผมจะได้กลับบ้านแล้ว ในใจตอนนั้นมันสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ว่าเรากำลังที่มีความรู้สึก ดีใจหรือเสียใจกันแน่ ผมใคร่ครวญคิดและเข้าใจในความรู้สึกดีใจว่า เราดีใจที่จะได้เจอหน้าคนที่เรารักและคนที่เขารักเรา เราดีใจที่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านของเราสักที แต่ในขณะเดียวกันเราก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้น และมีความทุกข์ในสิ่งที่เราต้องรอเจอในอนาคตเรื่องของร่างกายเรา
โดยเฉพาะความทุกข์ที่มาจากโรคภัยไข้เจ็บของตัวเอง มันทุกข์อย่างแสนสาหัสจริงๆ ผมเคยอ่านเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งชื่อว่า “โยบ” ชีวิตเขาเจอความทุกข์หนักไล่มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ความทุกข์เพราะต้องเสียทรัพย์สินเงินทองโดยไม่ยุติธรรม ต่อมาต้องทุกข์เพราะคนที่เขารักต้องตายจากไป แต่เขาก็ผ่านมันไปได้แม้มันจะยาก
Episode05:สามวันสามคืนที่ยาวนาน
Episode 05:สามวันสามคืนที่ยาวนาน …ตำแหน่งที่วางเตียงที่ผมนอนรักษาตัวอยู่นั้น มันมีนาฬิกาเข็มติดอยู่ช่วงปลายเตียงระดับระยะสายตาของผมอย่างพอดี ซึ่งทำให้ผมนั้นสามารถมองเวลามันเดินไปได้อย่างง่ายดาย ด้านหนึ่งเป็นเรื่องดี แต่อีกด้านหนึ่งก็เหมือนเครื่องมือที่ทรมานเรา เพราะเครื่องมือที่ใช้ทรมานคนเราได้ดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ “เวลา” ที่ทำให้เราทุกข์จากการรอคอยบางอย่าง ทำให้เราอาจทุกข์เพราะความสุขที่เข้ามากำลังจากไปแล้ว ในส่วนของผมช่วงนั้น ผมไม่รู้ว่าการที่ผมมองนาฬิกาหมุนไปเรื่อยๆนั้น มันทำให้ผมนั้นทุกข์หรือสุขกันแน่ ใจนึงผมก็อยากจะออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับมาบ้าน อีกใจนึงก็แสนทุกข์กับสิ่งที่เราต้องเจอในอนาคตจากอาการของเราที่ทำให้เราต้องกลายเป็นคนพิการโดยไม่เคยเผื่อใจมาก่อนเลย
ประกอบกับวันแรกแฟนผมได้แชทมาหาแจ้งว่า ทางพยาบาลประเมินว่าผมลิ้นแข็งพูดไม่ชัด อาจกินอาหารเองไม่ได้อาจต้องเจาะคอเพื่อให้อาหารทางสายยาง
Episode04:ช่วงเวลาที่คิดอะไรมากมาย
![]() ![]() ![]() เพราะช่วงเวลานั้น ![]() ![]() ![]() นั่นหมายถึงว่าหลังจากนี้ผมไม่มีโอกาสได้เห็นทุกๆคนที่รักผมและอยากมาให้กำลังใจผมในเวลานั้นได้เลย (ความเลวร้ายของการระบาดของไวรัสโคโรน่านั้น ไม่ใช่อาการของโรค แต่เป็นการที่มันทำให้มนุษย์ไม่สามารถมีปฎิสัมพันธ์กันตามปกติต่างหาก) จากนั้นเจ้าหน้าที่พยาบาล ก็ดำเนินการดูแลผมตามขั้นตอนต่างๆที่ควรเป็น ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() #เส้นเลือดสมองแตก #stroke #เมื่อฉันเป็นโรคทางสมอง #บทความ #เรื่องเล่า #แค่คิดแล้วเขียน Episode03:เหมือนทุกสิ่งคงหมุนไปแต่ตัวเรากลับหยุดนิ่ง
Episode 03:เหมือนทุกสิ่งคงหมุนไปแต่ตัวเรากลับหยุดนิ่ง 💚...ห้องแรกที่ผมได้เข้าไป คือห้องสำหรับเคสฉุกเฉิน เป็นห้องที่ผมไม่เคยคิดหรือฝันเอาไว้เลยว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาในนี้ด้วยสถานการณ์เป็นผู้ป่วยหนักซะเอง ในชีวิตของผมมีหลายครั้งที่ได้มาที่ห้องนี้ (แต่เป็นแค่หน้าห้อง) เพื่อมาให้กำลังใจดีๆให้กับญาติของผู้ป่วย หรือมาที่นี่แล้วอธิษฐานวิงวอนกับพระผู้สร้าง เพื่อส่งพลังดีๆให้กับผู้ป่วย เป็นบทบาทประจำที่ตัวผมเคยทำบ่อยๆ คือการพยายามเป็นผู้ให้ส่งพลังดีๆออกไปให้คนอื่น แต่ตอนนี้บทบาทของผมนั้น ได้เปลี่ยนไปเป็นผู้รับพลังงานดีๆจากคนอื่นบ้างแล้ว ซึ่งผมขอขอบคุณทุกๆคนที่มาในวันนั้นจากใจจริง รวมถึงทุกคนที่แม้ตัวจะไม่อยู่ที่นั่น แต่ส่งพลังงานดีๆ อธิษฐานวิงวอนด้วยความเชื่อในทุกสิ่งที่ทุกคนศรัทธา ที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อผมอย่างใจจริง โปรดจงรับรู้ไว้ว่า ตัวผมนั้นรับรู้และสัมผัสได้เสมอครับ
ในจิตใจผมตอนนั้น มันไม่ได้รีบเร่งอะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองในตอนนั้น ต้องการยังไงกันแน่จากสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าอยากให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อหรืออยากที่จะจากไปดี (ซึ่งน่าจะอยากจากไปดีกว่า) เพราะข้างในตอนนั้นมันรู้สึกว่า ในตอนที่ผมนอนแล้วคิดจิตใจวนไปวนมาอยู่นั้น ผมก็มองเห็นกลุ่มคนอีกบทบาทหนึ่ง ที่รับบทบาทในการเป็น แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ในห้อง ทุกคนนั้นรีบเร่งเพื่อดำเนินขั้นตอนรักษาผมให้พ้นวิกฤต มีทั้งแวะมาที่เตียงผมเพื่อซักถามอาการก่อนเป็นต่างๆ ทั้งเสียบสายวัดความดันโลหิต วัดการเต้นของหัวใจ (ผมมีสติตลอดตอนที่เป็น) ผมเห็นได้เลยว่าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ในตอนนั้นผมก็เริ่มคิดในใจว่า ผมคงไม่ได้จากไปแล้วล่ะ คงต้องสู้อดทนในชีวิตต่อไป อย่างน้อยก็เพื่อพี่ๆเจ้าหน้าที่ทุกคน (แอบผิดหวังเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้จากไป ฮ่าๆ ผ่านไปสักพักเขาก็ย้ายผมไปเพื่อทำการสแกนสมอง เพื่อประเมินรอยโรคว่าจะต้องทำการผ่าสมองหรือไม่ ซึ่งผลออกมาคือว่าผมไม่ต้องเข้ารับการผ่าสมอง เขาจึงส่งผมเป็นผู้ป่วยในเพื่อรักษาอาการที่เป็นต่อไป…
|
Heavystrokeman
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() �ทุกสิ่งที่อยากบอก ทุกสิ่งที่เรารู้ ทุกความสุนทรีย์ของโลกใบนี้� All Blog |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |