ภูเขาสูง ฟ้ากว้าง ทางคดเคี้ยว เที่ยวแม่ฮ่องสอน ภาค 3 จบที่ปาย
ตื่นเช้ามาก็เตรียมออกเดินทางต่อออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปตามทางแม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้ามาสักหน่อยหนึ่ง ก็จะมีแยกทางด้านขวามือ เข้าสู้ภูโคลน รีสอร์ทแหล่งโคลนธรรมชาติอันลือชื่อของประเทศไทยจากข้อมูลที่ได้รับมาบอกว่า แหล่งโคลนธรรมชาติแบบนี้มีอยู่แค่สามที่ในโลกที่หนึ่งก็คือทะเลสาปเดทซี อีกที่หนึ่งผมจำไม่ได้อ่ะ อิอิและก็ที่ภูโคลนแห่งนี้ครับโคลนที่นี่จะนำมาสกัดเป็นผง แล้วก็นำมาพอกหน้าพอกตัวให้ผลดีกับผิวพรรณ กระชับรูขุมขน หน้าเด้ง หน้าใสเค้าว่ากันอย่างนั้นนะค่าพอกหน้าก็ไม่แพงหรอกครับ 60 บาทพอกทิ้งไว้ 20นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยสบู่โคลนแล้วก็ฉีดน้ำแร่สร้างความชุ่มชื่นแก่ผิวเป็นอันเสร็จพิธีพอกตัวก็มีนะครับ แต่ผมจำราคาไม่ได้ถามว่าผลเป็นยังไง ตอบแบบไม่ได้รับค่าโฆษณา สาบานได้ก็บอกได้ว่า อย่างผมเป็นพวกผู้ชายมอมๆ ครับ ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้มากแต่สิ่งที่พบก็คือ เจ้าน้องชายที่นั่งขับรถมาด้วยกันสี่ห้าวันจากกรุงเทพตากแดดตากลมหน้าคล้ำมาด้วยกัน พอพอกหน้าเสร็จผมรู้สึกเลยว่าหน้ามันผุดผ่องและเด้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกลับมากรุงเทพ ผมก็แนะนำให้น้องๆ ที่ออฟฟิศเพื่อนทดลองใช้ดูได้ผลครือๆ กันครับ แนะนำครับแนะนำอ้อ หาซื้อได้ตามร้านเลม่อนฟาร์มครับ มานจะเป็นผงบรรจุซองน้ำมาผมกับโยเกิร์ตแล้วพอกหน้าครับในสายตาคนพื้นราบ อย่างผมท้องนาของคนภูเขาภาคเหนือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งมันแปลก มันสวยมันบอกถึงความพยายามของคนที่จะมีชีวิตอยู่มันหมายถึงการเรียนรู้ที่จะอยู่อย่าเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติผมชักหลงเสน่ห์ภูเขาภาคเหนือเข้าแล้วซีคงเป็นเรื่องปกติในการเดินทางของชีวิต บางครั้งหนทางก็ราบโล่งบางครั้งก็ขึ้นๆ ลงๆ คดไปโค้งมาบางทีก็ขรุขระ ลดเลี้ยวไปตามขอบเหวมองรอบตัว เห็นอดีตและความฝัน ดังทิวเมฆที่อยู่ไกลลิบบางทีก็หม่นมัวเปียกปอนด้วยหยาดน้ำตายิ่งเข้าใกล้ ไขว่คว้าได้เพียงแค่ความว่างเปล่า มีเพียงแค่ความฉ่ำเย็นที่บอกให้รู้ถึงการดำรงอยู่ของมันมองสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากที่เคยยู่ แล้วก็นึกกับตัวเองว่านี่เราห่างบ้านมาไกลขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยจากเมืองแม่ฮ่องสอนผมก็เดินทางมาถึงเมืองปาย เมืองที่ได้ยินคำร่ำลือมานานเหลือเกิน ผมมาในช่วงโลว์ซีซั่น ผู้คนบางตา เมืองเหงา เงียบ และสงบรูปด้านบน เป็นวิวที่มองจากบ้านพัก ผมรู้สึกเฉยๆ กับปายนะแต่ก็เริ่มรู้สึกว่าอะไรที่ทำให้คนหลบออกจากเมืองเพื่อมาที่นี่ภาพบนเป็นวิวแม่น้ำปายจากระเบียงห้องพักของผมครับพักในราคาที่ถูกมาก จาก พันห้า เหลือ สามร้อยห้าสิบ เนื่องจากไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวนี่เองผมมาที่โป่งน้ำร้อนท่าปายซึ่งอยู่ในหน่วยพิทักษือุทยาน นด2 อุทยานห้วยน้ำดังอากาศขมุกขมัวด้วยเมฆฝน น้ำร้อนควันโขมงเลยน้ำที่ไหลออกมาจากตาน้ำร้อนเป็นบริเวณกว้างเหยียบไปแรกๆ ก็สะดุ้งเลยครับ แต่นานๆ เข้าก็สบายเท้าดีวิวข้างทางระหว่างผมออกเดินทางต่อมาที่บ่อน้ำร้อนเมืองแปงครับบ่อน้ำร้อนเมืองแปง เป็นลานหินโล่งๆ ท่ามกลางอ้อมโอบของภูเขา ผมชอบที่นี่ ดูเป็นธรรมชาติดี ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ ให้เกะกะลูกตาน้ำร้อนไหลมาบรรจบกับน้ำเย็นที่ลำห้วยสายหนึ่งเป็นน้ำร้อน สายหนึ่งเป็นน้ำเย็นวิวข้างทางระหว่างเดินทางกลับมาพักที่ปายครับกลับมาถึงเมืองปายตอนค่ำๆ ทานอาหารเย็น ผู้คนบางตา สบายไปอีกแบบคนในเมืองปายเล่าให้ฟังว่า ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว ที่จอดรถไม่มีคนเดินกันแน่นเมือง ที่พักก็ไม่มี ต้องไปกางเต้นท์นอนกันนอกเมืองผมว่าผมโชคดีมากเลย ที่ไม่ได้มาในเวลาแบบนั้นตัดมาที่อาหารเช้าเลย ผมเดินทางทริปนี้ ถือคติ กินให้อิ่ม นอนให้สบายแต่ทำงานกันถึงตายก็ต้องให้สำเร็จ ฉะนั้้นน้องผู้ช่วยผมอยากทานอะไรเต็มที่แต่ต้องขับรถเดินทางกันวันละหลายๆ ชั่วโมง บางวันกว่า 5-600 กิโลเมตรบางที่รถไปไม่ได้ก็ต้องไปกันแบบนี้ครับเสร็จงานที่ปายซะที ก่อนกลับก็แวะเขียนโปสการ์ดส่งให้ทางบ้านกันก่อนจากนี้ก็ต้องเดินทางไปเชียงใหม่ที่พักใจริมทางระหว่างเดินทางไปเชียงใหม่สนามตระกร้อบนภูสูงคงจบทริบแม่ฮ่องสอนไว้แค่นี้ครับถ้ามีโอกาส ผมจะพาไปจังหวัดอื่นๆ ต่อขอบพระคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่แวะมาชมครับ
ภูเขาสูง ฟ้ากว้าง ทางคดเคี้ยว เที่ยวแม่ฮ่องสอน ภาค 2
มาต่อกันที่แม่ฮ่องสอนครับ ไม่รู้ว่าเบื่อกันรึยังอย่างที่เกริ่นเอาไว้ในภาคแรกครับจุดหมายก็เป็นเพียงทางผ่านปลายทางก็แค่ที่พักพิงชั่วคราวแล้วชีวิคก็ผ่านพ้นไปอีกวาระหนึ่งจุดหมายของผมก็คือการเดินทางถ่ายภาพน้ำพุร้อนครับเดินทางกันสองคน กับน้องที่สนิทกันเค้าเป็นคนขับรถ ผมเป็นคนนำทาง ไปบนเส้นทางที่เราไม่เคยไป มีเพียงแผนที่เล่มใหญ่ ตำบลที่อยู่คร่าวๆใช้ปากถามทางเรื่อยไป มีกำลังใจติดตัวมาคนละหน่อยคอยเติมให้กันเพื่อจะได้ไม่ย่อท้อต่อหนทางข้างหน้าวิวจากตลาด อ.แม่สะเรียง ครับภาพส่วนใหญ่ถ่ายจากในรถ ไม่ค่อยมีเวลาแวะลงเก็บภาพกันนอกจากที่เป็นเป้าหมายจริงๆนี่ก็ จาก ตัวอำเภอแม่สะเรียงอีกเช่นกันไม่แน่ใจว่าเป็นสถานที่อะไร เพราะไม่ได้แวะชม หรือแวะถามบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย คดเคี้ยว สูงชัน มีเวลาเป็นตัวเร่งรัดเราเลยต้องเร่งรีบผ่านเรื่องราวดีๆ จากสองข้างทางไป โดยไม่ได้เก็บรายละเอียดคงเหมือนชีวิตเมืองที่ผมสังกัดอยู่กระมังรีบเร่ง แข่งขัน แก่งแย่ง มองไปแต่จุดหมาย มองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สวยงามมองผ่านความรักความปราถนาดีของคนผูกพัน มุ่งเน้นไปที่จุดหมาย ความสำเร็จปลอมๆอยากจะย้อนมันกลับมาอีกครั้ง บางทีไม่ใช่เรื่องง่าย และบางทีก็เป็นไปไม่ได้แต่อย่างไรก็ตาม ชีวิตต้องดำเนินต่อไป จะเสียใจ เสียดาย ก็เป็นบทเรียนจากบาดแผลในชีวิตอีกรอยหนึ่งภาพนี้เป็นแค่ทางผ่านอีกเช่นกันอาคารที่สร้างด้วยศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ทางภาคเหนือผมก็ทำได้แค่ยกกล้อง ส่องผ่านกระจกหน้่ารถกดชัตเตอร์ แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านเลยลับไปกับทางโค้งสองภาพด้านบน คือบ่อน้ำร้อนหนองแห้ง อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ครับน้ำร้อนมาก เอามือจุ่มไปได้สองวินาทีถือว่าเก่ง สถานที่ยังต้องปรับปรุงอีกหลายอย่างกว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แต่น้ำพุร้อนทางเหนือถือว่าร้อนมาก ถึงร้อนสุดๆ 60-70 องศานี่ถือว่าธรรมดา 80-90 องศา เยอะแยะแต่ที่อาบหรือแช่สบายๆ ผมว่า 50-60 องศากำลังดีป้ายข้างทางนี้ประทับใจเป็นพิเศษครับ ชื่อมันจี๊ดดี โดนใจเด็กเทพฯ อย่างผม มิค่อยได้เห็นภูเขา ประทับใจมากมายสายเมฆ ไอหมอก ที่บรรจงโอบไล้ทิวเขาเหมือนใยรัก เหมือนไออุ่น คอยแนบกระซิบปลอบประโลมขุนเขาทระนงเดียวดายหยัดยืนท้าทายกาลเวลา บางครั้งอารมณ์ที่ท่วมท้นบีบแน่นก็กลั้นตัวเป็นหยดน้ำ ดั่งปลดปล่อยความรู้สึกอัดอั้นต่อท่าทีเฉยเมยของภูผาเด็กเทพฯ ดีใจ ที่ได้พาชีวิตมาอยู่ใกล้ก้อนเมฆถึงเพียงนี้ประเทศไทยเราช่างกว้างใหญ่ยิ่งนักเพียงแค่สองข้างทางก็ยังพานพบเรื่องราวมากมายลึกเข้าไปในหลืบเขา ขอบเมฆ ไม่รู้ว่ามีอีกมากมายเพียงใดไหนจะโลกทั้งใบที่เรายืนอยู่ จริงๆ แล้วมันกว้างขนาดไหนแล้วถ้าเรามองจากที่ไกลๆ เราจะเห็นแค่เป็นประกายระยิบระยับ เช่นดาวดวงอื่นบนฟากฟ้าหรือเปล่าหรือชีวิต จะคล้ายดังเส้นทางที่เราต้องเดินทางต่อไปเหน็ดเหนื่อย เหน็บหนาว คดเคี้ยว เปียกปอน ขมุกขมัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างหน้าจะเจออะไร แต่แล้วก็ต้องผ่านมันไป หรือจะเลือกอยู่บนเส้นทางง่ายๆ ที่คุ้นเคย ซ้ำซาก วนเวียนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเพื่อแลกกับความมั่นคง แน่นอน และคิดว่ากำหนดมันได้ วาดหวังกับมันได้ถ้ามาจาก อ.แม่สะเรียง อ. ขุนยวม ก่อนถึงอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเล็กน้อย ก็ถึงมีบ่อน้ำร้อนผาบ่องอยู่ด้านขวามือ พูดถึงบ่อน้ำร้อน บางคน บางที่เค้าก็เรียกว่าน้ำพุร้อน อิอิ ส่วนใหญ่ดูยังไงผมก็ว่าเป็นบ่อน้ำร้อนมากกว่าที่นี่มีตาน้ำร้อนขนาดใหญ่ กลางสระน้ำที่สร้างล้อมรอบไว้น้ำอุ่นสบายทีเดีนวครับมีห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ สร้างไว้อย่างดี เท่าที่ดูก็มีชาวบ้านชาวถิ่นมาใช้บริการกันพอสมควรบางคนก็พาลูกหลานมาอาบน้ำ บางคนก็ขนาดว่ามานั่งซักผ้ากันเลยทีเดียวปลายทางของวันนี้อยู่ที่ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน แวะมาสักการะ และเยี่ยมชมวัดจองคำ วัดแห่งแรกของแม่ฮ่องสอน สร้างขึ้นเมื่อปี 2370แวะซื้อสินค้าพื้นเมืองเป็นของฝากกันที่ตลาดนัดยามค่ำคืน
ภูเขาสูง ฟ้ากว้าง ทางคดเคี้ยว เที่ยวแม่ฮ่องสอน ภาคแรก
ช่วงหลังสงกรานต์ มีโอกาสได้เดินทางไปทำงานหลายจังหวัดครับช่วนี้ว่างๆ ก็มานั่งเปิดไฟล์ภาพและสมุดบันทึกดูทบทวนเรื่องราวและความรู้สึก ที่ได้มาจากการเดินทางแล้วก็พบว่าหากใจเรามิได้จดจ่อไปที่เพียงจุดหมายปลายทางเป็นสิ่งสำคัญเพียงสิ่งเดียวแล้วอื่นๆ ที่พานพบระหว่างสองข้างทางล้วนมีเรื่องราวมากมายให้จดจำมิรวมความรู้สึกต่างๆ ซึ่งไม่ใช่การเดินทางออกข้างนอกสู่โลกกว้างเท่านั้นแต่เป็นการเดินทางเข้าไปข้างในความรู้สึกนึกคิด และจิตใจของตัวเองส่วนหนึ่งก็รวบรวมมาบันทึกไว้ ณ ที่นี้เป็นบันทึกความทรงจำเบื้องหลังการเดินทางทริปหนึ่งของผมเอาเข้าจริงแล้ว จุดหมายก็เป็นเพียงทางผ่านปลายทางก็แค่ที่พักพิงชั่วคราวแล้วชีวิคก็ผ่านพ้นไปอีกวาระหนึ่งผ่านพ้นไปอีกวัน สู่อีกวัน อีกภพหนึ่ง สู่อีกภพหนึ่งภูเขาสูง ฟ้ากว้าง ทางคดเคี้ยวผมจดบันทึกไว้สั้นๆ ระหว่างเดินทางสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอกเส้นทางคดโค้งขึ้นเรื่อยๆ ความสูงช้นที่เพิ่มขึ้น ผกผันกับอุณหภูมิที่ลดต่ำลงอาการหูอื้อเริ่มเข้ามาเยือนเมื่อรถโซลูน่าคันน้อยใช้กำลังแทบทั้งหมดที่มีปีนป่ายขึ้นที่สูงต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกรู้ตัวอีกทีก็เมื่อตัวเองอยู่ใกล้เมฆเข้าไปทุกขณะเป็นครั้งแรกที่ผมนึกอยากจะมีเครื่องวัดระดับความสูง ผมอยากรู้ว่าเราอยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากี่ร้อยกี่พันฟิตคืนแรกที่แม่ฮ่องสอน เราได้รับความสะดวกจากพี่ๆ อุตสาหกรรมป่าไม้สาละวิน จัดที่หลับที่นอนให้ผมหลับสนิทท่ามกลางเสียงพายุฝนตกกระหน่ำตลอดคืนอาหารเช้าของเราในวันนี้ ลาบดิบ และยำอึ่ง บวกกับข้าวเหนียวร้อนๆ และผักท้องถิ่นรสชาติอร่อยแปลกไปกว่าที่เคยอิอิ สารภาพว่าหนักไปทางข้าวเหนียวจิ้มน้ำลาบ กับน้ำยำ ส่วนเนื้อกินได้นิดหน่อยแต่รับทั้งรสชาติอาหาร แสะรสชาติน้ำใจของพี่ๆ แห่งป่าสาละวินเต็มอิ่มจากนั้นโฟร์วีลคันเก่งก็พาเราเข้าสู่เส้นทางลูกรังเลาะขอบภู ที่ผมอยากจะเรียกว่า ซ้ายเป็นหน้าผา ขวาเป็นเหวมองลึกลงไปก็คือลำห้วยสาละวินขับรถทางแบบนี้ คนขับต้องมีหัวใจที่นี่งไม่หวั่นไหว และใหญ่โตกว่าคนธรรมดา (อย่างผม) แน่นอนเรานั่งไปลุ้นไป ทั้งขาขึ้นขาลงแต่พี่คนขับหน้าแกสบายๆ ยังกะขับอยู่บนโทลเวย์ถึงแแล้วครับ สวนป่าสาละวิน สวนป่าสักขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาระกิจของผมวันนี้ก็คือ มาสำรวจและถ่ายภาพบ่อน้ำร้อนแม่อุมลองซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนป่าแห่งนี้หละครับพามาลำบากอีกละ เสียงบ่นจากผู้ช่วยของผม (ขับรถ ถ่ายภาพ เพื่อนคุย เพื่อนดื่ม ฯลฯ)เมื่อรู้ว่าเราจะต้องเดินลุยลำห้วยไปน้ำพุร้อน หรือบ่อน้ำร้อนแม่อุมลอง ตั้งอยู่ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนเป้นตาน้ำร้อนธรรมชาติ อุณหภูมิ 76-78 องศา ผุดออกมาจากเชิงเขา ใหลลงมาเป็นธารน้ำตกขนาดเล็ก ลงสู่ห้วยแม่สะเรียงน้ำตกเล็กๆ ที่เห็นนี่ก็ยังมีอุณหภูมิสูงอยู่นะครับแช่ตัวแช่เท้า สบายเลยทีเดียวถ้ามาช่วงเช้า หรือเย็น จะเห็นควันโขมงเลยทีเดียวที่นี่มีบ้านพัก และห้องอาบน้ำร้อนไว้คอยบริการด้วยอากาศดี เย็นสบายตลอดทั้งปี อนาคตคาดว่าจะได้รับการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญของอำเภอแม่สะเรียงยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติไว้สูงมากวิถีของชาวบ้านก่อนถึงบริเวณที่ทำการสวนป่าสาละวินครับเค้าหุงข้าวกันแบบนี้ ไม่ต้องใช้หม้อไฟฟ้า หลังคามุงด้วยใบตองตึงมีชีวิตอยู่กับกลมกลืนธรรมชาติอย่างเข้มแข็งอดทน ได้สัมผัสกับชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขันบางทีตอบคัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าวิถีคนเมือง เป็นวิถึแห่งความเจริญหรือว่าเป็นวิถีของความอ่อนแอ ความแปลกแยก และเห็นแก่ตัว
ดอกไม้ริมทาง
คนถ่ายภาพทั้วๆ ไปคงเคยถ่ายภาพดอกไม้กันมามั่งนะครับจริงแล้วผมไม่ค่อยได้ถ่ายภาพพวกนี้บ่อยๆ หรอกอาศัยว่าถ่ายฆ่าเวลาในยามว่าง ถือเป็นการซ้อมมือไปในตัวผมว่าการถ่ายภาพแบบนี้ ถ่ายยาก ต้องอาศัยความใจเย็นเป็นอย่างยิ่งอิอิ ไม่เหมาะเลยกับคนใจร้อนอย่างผมแต่ผมก็มีเลนส์มาโครกับเค้าเหมือนกันนะมักจะติดกระเป๋าไปเวลาไปสถานที่ต่างอย่างที่บอกหละครับ ไว้ฆ่าเวลาอ้อ.. ฝึกใจให้เย็นลงด้วยภาพนี้ถ่ายที่ รพ.มิตรภาพ สระบุรี ไปนอนเฝ้าไข้คนที่รักที่สุดในชีวิตคนนึงตื่นเช้ามาไม่มีไรทำ ก็เลยกดซะสองภาพต่อมาก็เหมือนกัน ถ่ายจากที่เดียวกันภ่ายจากแถวๆ บ้าน อิอิ ขโมยถ่ายจากบ้านใครก็ม่ายรุในซอยถ่ายจากบ้านยายของผมที่ชลบุรี ดอกมันแปลกดี อยู่ใต้ใบจากสวนสาธารณะแถวเซ็นทรัลลาดพร้าว กาลังจะต่อรถไปทำงาน พกกล้องไปด้วยพอดีผีเสื้อตัวนี้แถวบ้านอ้อย สระบุรีครับลองใช้เลนส์ไวด์ถ่ายครับ จาก บางระกำ พิษณุโลก ไปหาคนที่รักที่สุดคนนึงในชีวิตเช่นกัน