เที่ยวอยุธยา...หน้าฝน...ปั่นอุตลุต~~~ตะละล้า

การท่องเที่ยวแบบหฤโหดกับไกด์จอมมั่ว

ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


คราวนี้เราได้ผู้ร่วมชะตากรรม(ซวย)มา 2 ท่าน

คือนางสาวปนัส(ไอ้แบ๋ม) กับพี่ท๊อปของน้องแบ๋ม

สถานที่ที่เราจะไปคราวนี้คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งในช่วงนี้ ถึงวันที่ 10 ตุลาคม มีงานอยุธยามหามงคล

ไหว้พระ 80 วัด


ตามหนังสือเล่มนี้






หาซื้อได้ที่ศูนย์ ททท.อยุธยา (อาคารศาลากลางเก่า)

เล่มละ 25 บาท แต่เชื่อเหอะ ...คุ้มมาก


เราออกเดินทางโดยรถไฟ ตอน 8โมงกว่าๆ(เนื่องจาก

ไกด์ดันหลงทางหนีตาม 542ไป กว่าจะหาทางกลับมา

หัวลำโพง) ราคาตั๋ว 20 บาทขาดตัว ห้ามต่อ




(ถ่ายหัวลำโพงไม่ทัน เลยเอาบางซื่อเนี่ยแหละ

อยากจอดแช่เอง)

และบนรถไฟ นอกจากที่ไอ้กิ๊กกับน้องแบ๋มจะ

จัดการกับข้าวกล่องคิตตี้ในระหว่างทางแล้ว

เราก็ได้เพื่อนร่วมทางน่ารักมา 1 ตัว




อากาศยามเช้าสดชื่นมากๆจนแบ๋มถามว่า

ถ้ามาอยู่นอกเมืองแบบนี้จะหายจากภูมิแพ้ไหมน่า

(แต่มันคิดว่าอาจตายเพราะยาฆ่าแมลงก่อน)


พอรถไฟมาถึงอยุธยา เราก็ได้การต้อนรับจาก "ฝน"

ตกปรอยๆ น่ารำคาญและกวนโมโหมาก


จนสุดท้ายก็เลยต้องจ้างรถ 2 แถวหน้าสถานีรถไฟ

ไปส่งที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

ในราคาเหมา 50 บาท


(ไกด์คิดว่าเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ดีกว่ายืนรอที่สถานีรถไฟ)




อาคารแรก ซึ่งเป็นส่วนของการจัดแสดงของที่พบในกรุ

วัดมหาธาตุและวัดราษฏร์บูรณะนั้น ทางเจ้าหน้าที่


"ขอร้อง"ว่าอย่าถ่ายรูป แต่ว่า


ทำไมไอ้"ไต้หวัน"นั่นมันถ่ายได้วะ


2 สาวปล่อย 1หนุ่มให้เดินเล่นเองกับกล้องNIKON

แล้วก็มาเดินดูพระพุทธรูปโบราณ


อ้อ แนะนำห้องที่เก็บพระสารีริกธาตุจาก 8สถานที่สำคัญ

ทางพุทธศาสนา เข้าไปแล้วสวดมนต์ดูจะรู้สึกดีมาก

ค่าเข้าชมทั้งวัน 10 บาทเจ้า (ราคาคนไทย)


จากนั้นก็ไปเรือนไทยข้างๆ จัดแสดงพวกเครื่องใช้

ของคนไทยสมัยก่อน












ของอย่างอื่นไม่ถูกชะตาเท่าภาพนี้ เป็นงานไม้แกะสลัก

แบบลอยตัวแสดงวิถีชีวิตไทย ภาพอาจไม่ค่อยชัด

เพราะแสงมันไม่ค่อยมี








เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้วชอบอาคารแบบเรือนไทย

ก็เลยเก็บภาพมาเยอะหน่อย



จากนั้นเราก็เดินข้ามถนนไปที่ศูนย์ ททท. เจ้าหน้าที่ก็ต้อน

รับเราดี ก่อนจะเดินเข้าอาคาร พี่ท๊อปเห็นรูปปั้นนูนต่ำ

ที่ติดอยู่หน้าอาคาร แล้วบอกว่า"นั่น อริสโตเติลหรือเปล่า"


อริสโตเติลบ้านพี่เดะ เกล้ามวยอย่างนั้นเนี่ยนะ


(อันที่จริงคือพ่อขุนรามคำแหง)

แล้วก็ถามหาที่เช่าจักรยานกับเจ้าหน้าที่ เขาแนะนำให้ไป

เช่าที่สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวที่อยู่ข้างๆ



ถ้ามีทางเลือกมากกว่านี้


อิชั้นจะไม่แนะนำให้เช่าจักรยานที่นี่


เพราะไอ้แบ๋มขี่แล้วยางแตก กุญแจล๊อคให้มา

อันเดียว แต่มีจักรยาน 3 คัน

ดูไม่ค่อยรับผิดชอบยังไงก็ไม่รู้


(คราวหน้าจะไป servey ร้านจักรยานจริงๆละ)




ราคาเช่าทั้งวัน(กลับก่อน 6โมงเย็น) 50 บาท









ดูจากระยะทางแล้วเราน่าจะไปไหว้วิหารพระมงคลบพิตร

ก่อน


อะไปโลด





สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอยุธยา (ให้บรรยากาศเหมือนวัด

กัลยาณมิตร หลวงพ่อซัมปอกง--ความเห็นส่วนตัว)

พอออกมาอิชั้นถามทุกคนว่ามีใครจำเวลารถไฟเที่ยวกลับ

ได้บ้าง แหงะ



เราหาเบอร์โทรศัพท์การรถไฟได้จาก1672ของ ททท.

แต่โทรไปก็"ตืด...ตืด.....ตืด" จนอ่อนใจ

สุดท้ายพลิกตั๋วรถไฟ ก็เจอแต่website ไม่มีเบอร์โทร


จนคุณแบ๋มเกิดไอเดีย เอามือถือ DTACเข้าGPRS

เข้าเวบการรถไฟ จนได้เวลารถออกจากอยุธยาไปกทม.




หนูรักคุณซิลเวเก้ โครตๆค่ะ




จากนั้นก็ไปวัดหน้าพระเมรุพร้อมกำหนดเวลาcut off

ที่4โมงเย็น เพราะรถไฟจะออกตอน 4 โมงครึ่ง






คร่าวๆกับประวัติวัดหน้าพระเมรุฯเนื่องจากอย่างน้อย

พม่าก็ยังไม่เนรคุณพอจะเผาวัดที่ตัวเองมาตั้งป้อมค่าย

ถล่มกรุงศรีฯตอนเสียกรุงครั้งที่ 2


เราก็เลยยังมีพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์

บรมไตรโลกนาถ
ไว้ให้ลูกหลานได้สักการะกัน


จริงๆแล้วในวัดมีอุโบสถพระคันธาราฐ แต่กล้องอิชั้น

ไม่ไหว รอภาพจากของพี่ท๊อปดีกว่า


ระหว่างนั้นอิชั้นหนีไปซื้อน้ำ(ขวดละ10บาท และกระป๋อง

ละ15บาท โลตัสอยุธยานิขายของแพง)


แบ๋มนั่งศึกษาเส้นทาง และคุยกับกลุ่มป้าๆน้าๆ

ที่มาเที่ยวกันเอง (แบ๋มใส่เสื้อเชียร์--เลยมีคนสนใจ)


ตลอดทางเราโดนทักว่าเรียนปีไหน คณะไหนตลอด


แบบว่าหน้าเด็ก


โม้เสร็จแล้ว เราก็เลยไปเที่ยววัดรอบๆแถวนั้นต่อ


วัดศรีโพธิ์




เอามาฝากองค์ เจอครอบครัวกุ๊กไก่ที่นี่


วัดนี้นอกจากเจ้าอาวาสใจดีแล้ว ยังมีธูปเทียน

7สีให้เลือกตามวันเกิด ไอเดียเก๋กู๊ด






รอยพระพุทธบาทจำลอง เขาให้วางเหรียญไว้ที่ปีเกิด


กว่าจะหาปีเกิดตัวเองได้ ตั้งนานต้องไล่จากปีเถาะไปเรื่อยๆเพราะทองที่ปิดไว้มันพรืดไปหมด



พระประธาน พระศรีมหาโพธิ์




พระพุทธรูปหน้าโบสถ์




อดีตเจ้าอาวาส




งานปูนปั้นตรงเสารอบอุโบสถ


วัดเชิงท่า


มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

เนื่องจากพระองค์ท่านได้บวชเป็นเณรและศึกษาที่วัดนี้




พระพุทธชินราชจำลอง




คืออันนี้เป็นไอเดียเก๋สุดๆ แนวมาก (สำหรับกะเหรี่ยงเมืองกรุง)

ในตู้จะเป็นพระประจำวันเกิด เมื่อหยอดเหรียญจะมีเสียง
สวดมนต์ ออกมา อิชั้นกับคุณนายแบ๋มสนุกสนานตื่นเต้น
กัน จนคนอื่นที่มาไหว้พระเขาต้องมาหยอดเหรียญเหมือนเราด้วย ถ้าสนใจเขามีเบอร์คนทำด้วยหละ





รูปจำลองตอนพระเจ้าตากมาบวช




พระราชานุสาวรีย์


วัดเชิงท่ามีประวัติความเป็นมาย่อๆดังนี้

มีเศรษฐีท่านหนึ่งได้สร้างเรือนหอไว้รอลูกสาวที่หนีตาม

ไอ้หนุ่มไป แต่รอแล้วรอเล่า ลูกก็ไม่กลับมา

จึงยกเรือนหอให้สร้างเป็นวัด ชื่อเดิมว่าวัดคอยท่า

จนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสุดท้ายได้ชื่อว่าวัดเชิงท่า


(ก็ว่าอยู่เพราะไม่เห็นมีท่าเรือแถวนั้น)


บริเวณวัดมีพระปรางค์เก่าแก่อยู่

ก็เลยเก็บมาฝาก














ปิดท้ายกับคุณหมาแถวนั้น




แบ๋มreccommendว่ากาแฟโบราณในวัดอร่อยมาก


จากนั้นรถแบ๋มยางแตกเราเลยลากคุณตำรวจให้ไปรับ

จักรยานยางแตกนั้นมาแถววังช้าง

จากนั้นแบ๋มซ้อนพี่ท๊อปไปหาอะไรกินแถววังช้าง

อิชั้นก็กินด้วย (ข้าวกล่องคิตตี้)

จากนั้นเราตั้งใจจะไปวัดตึก

ขี่ไปจนสุดถนนอู่ทอง ราวๆ 2-3กิโล

แวะซื้อสายไหมและถามทางไป

ปรากฎว่าต้องไปอีก 2 กิโล

พระเจ้า!! ตอนนั้นก็ 4โมงแล้ว

เลยขี่กลับ

เดี๋ยวไม่ทันรถไฟไหนจะต้องกลับไปคืนจักรยานและ

กลับไปพิพิธภัณฑ์ฯเพราะจะกลับไปSTAMP





ครบ 80 วัด ได้พระไปบูชา 1 องค์


ได้แค่ 5 ที่ก็เกือบตายแล้ว


จนได้ขึ้นรถไฟแบบฉิวเฉียด เฮ้อๆ


อิชั้นบังคับให้แบ๋มกินพารากันไข้แดด

(เพราะเราขี่จักรยานฝ่าแดดสลับฝน)


จนถึงกรุงเทพฯด้วยความปลอดภัย

และเหนื่อยสุดๆ


ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวคราวนี้


ค่ารถเมล์ไปกลับ 34 บาท

ค่าแท๊กซี่ 50 บาท

ค่ารถไฟ 40 บาท


ค่าเช่าจักรยาน 50 บาท

ค่าสองแถว หารกัน 100 บาท

ค่าน้ำ 90 บาท(แพง)


ค่าชมพิพิธภัณฑ์ 10 บาท

หนังสือ 25 บาท

ทำบุญ +เช่าพระ 175 บาท


รวม 524 บาท



ปิดท้าย



สุขสันต์วันแม่ ด้วยรูปหมาแอ๊บแบ๊ว 1 ตัว






ปล.จะไปอีกแน่นอน เพราะยังแค้นเรื่องจักรยาน


Create Date : 12 สิงหาคม 2550
Last Update : 12 สิงหาคม 2550 12:10:30 น. 4 comments
Counter : 564 Pageviews.

 
ชอบภาพแม่ไก่จังค่ะ เข้ากับเทสกาลวันแม่


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:14:15:26 น.  

 
ซื้อของฝากมา ฝากที่บ้านหรือป่าวหล่ะ ^^;

ที่บ้านจะกินหรือป่าวเนี่ยยย~~~

ปล. กุ๊กไก่นี้ ขาดตัวพ่อไปนะ


โดย: Yutaka (Real) วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:23:37:53 น.  

 
ชอบหมาง่า


โดย: ปืนแก๊ป วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:8:38:47 น.  

 
กุ๊กไก่ตัวพ่อ
ก็
อยู่ที่บ้านเราไงจร๊า
แบ๋ม

เห็นแล้วกรี๊ด รักแกว่ะกิ๊ก
โอ๊ยยย ปวดจาย อดีตรัก


โดย: องค์ IP: 124.120.85.46 วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:20:33:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แปรงสีฟันเดียวดาย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




lozocat
lozocat
 
สัญชาติ ลูกครึ่ง ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี

อายุ มากกว่าลูกคนข้างบ้านประมาณ 3 ปี

เพศ จากการทดสอบการโครโมโซมระบุว่าเป็นหญิง

การศึกษา บัญชี ธรรมศาสตร์

กำลังโทบริหารธุรกิจ ธรรมศาสตร์


อนาคตโทบัญชี ธรรมศาสตร์

ถ้ามีโอกาส ปริญญาเอก ธรรมศาสตร์ JDBA

สถานภาพ โสดสนิท กิ๊กส่ายหน้า


นิสัย เสียเป็นส่วนใหญ่

งานการ อยู่ในระหว่างลาออก 29.05.09
lozocat
lozocat
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แปรงสีฟันเดียวดาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.