Group Blog
 
All blogs
 
ปวดท้องคลอด...มันเจ็บแบบนี้นี่เอง...

หลังจากกลับมาตั้งหลักที่บ้านตอนเย็นวันอาทิตย์ที่ 18 เมษา ... มะม้าก็ขึ้นนอนประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ แต่ก็ยังไม่หลับหรอกนะ รู้สึกจะเริ่มมีมูกเลือดออกมาหน่อยๆแล้วด้วย ใจก็คิดอยู่ว่า แล้วนี่เราจะรู้ได้ยังไง ว่าควรจะไปโรงพยาบาลแล้ว คิดแล้วก็อยากเจอหน้าลูกแล้ว ยิ่งคิดก็กังวลไปเรื่อย ว่าแล้วก็พยายามจะนอนหลับดีกว่า...

และแล้วตอนที่มะม้านอนตะแคงกำลังเคลิ้มๆ จะหลับอยู่ ก็ได้ยินเสียงในท้องดังโบ๊ะ ตอนแรกเข้าใจว่าลูกดิ้นแรง แต่ซักพัก..มีน้ำไหลออกมาเหมือนฉี่...รีบเดินเข้าห้องน้ำ พอเข้าไปปั๊ป..ก็รู้เลยว่า ไม่ใช่ฉี่ และก็รู้แหละว่าถึงเวลาไปโรงพยาบาลแล้ว เพราะว่าน้ำใสๆ ที่ไหลออกมาเนียะ มันต้องเป็นน้ำเดินแน่ๆเลย...ว่าแล้วก็ตะโกนเรียกคุณพ่อที่อยู่ข้างล่าง ว่าไปกันเถอะ ได้เวลาแล้ว แล้วก็คว้ากระเป๋าที่เตรียมไว้ โทรบอกอากงกะอาม่า..

น้ำเดินทางประมาณ 4 ทุ่มกว่า เกือบๆ 5 ทุ่ม.. ถึงโรงพยาบาลก็ 5 ทุ่มกว่า ตอนนั้นก็ยังไม่เจ็บท้องเลย แล้วก็เหมือนเดิม ไปจองห้อง แล้วก็แยกมะม้าไปรอที่ห้องรอคลอด...

จากนี้ไป มะม้าจะต้องเผชิญความเจ็บตามลำพังกับลูกในท้อง เพราะเขาไม่ให้ญาติเข้าไปด้วยเลย...แม้แต่คุณพ่อก็ไม่ให้เข้าไปด้วย...

มะม้าไปนอนรอให้ห้องรอคลอดอีกแล้ว..แต่คราวนี้ไม่ได้หลับสบายเหมือนคราวก่อน เพราะว่าคราวนี้โดนให้น้ำเกลือ แล้วก็ใช้เครื่องตรวจคลื่นหัวใจลูกติดไว้ตลอด จะลุกไปเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ ต้องเรียกพยาบาลมาช่วยเอากระโถนมาให้ฉี่บนเตียงเลย..

คืนนี้ก็นอนไปกังวลไป คิดว่าต่างๆนาๆ ว่าน้องขนมจีนในท้องจะเป็นยังไงบ้าง จะยังแข็งแรงดีอยู่ไหม ที่รู้มาก็คือถ้าน้ำเดินทางแล้ว ภายใน 24 ชม.ต้องคลอด ไม่งั้นเด็กอาจจะเป็นอันตรายได้.. แล้วพยาบาลบอกว่า ตราบใดที่ไม่ปวดท้องคลอด ปากมดลูกก็ไม่มีทางเปิดหรอก แล้วก็จะคลอดเองไม่ได้ด้วย...ทำไงดีหล่ะ ตอนนั้น มะม้าทำใจแล้วว่า ถ้าหมอบอกต้องผ่าตัด ก็ต้องผ่า..มะม้าไม่กลัวเจ็บแล้ว แต่กลัวลูกไม่ปลอดภัยมากกว่า... เอาไงก็เอา.. คิดไปคิดมาก็เผลอหลับไป...ซะงั้น

ตื่นมาอีกทีก็ 7 โมงแหละ พยาบาลก็เข้ามาขอวัดปากมดลูก ปรากฏว่า ยังไม่เปิดเพิ่มเลย.. อ้าว..เอาหล่ะสิ น้องขนมจีน..เอาไงกันดีหล่ะ ซักพักพยาบาลก็เลยมาคุยด้วยว่า คุณหมอโทรมาถาม ว่าย้งไงก็ต้องให้คลอดภายใน 5 ทุ่มคืนนี้ ถ้ารอไปเรื่อยๆอาจจะไม่ทันภายใน 24 ชม. ซึ่งลูกอาจจะมีปัญหาติดเชื้อได้... คุณหมอแนะนำให้ใช้ยาเร่งคลอดก่อน ก็ใช้เวลาประมาณ 5 - 8 ชม. ถ้าใช้ยาเร่งแล้ว ปากมดลูกยังไม่เปิด คงต้องผ่าตัด.. มะม้ากะคุณพ่อก็เลยตกลงกันว่าใช้ยาเร่งก่อนแล้วกัน...

ว่าแล้วพยาบาลก็จัดการฉีดยาเร่งคลอดให้ผ่านทางสายน้ำเกลือ เริ่มฉีดยาเร่งตอน 7 โมงครึ่ง ตอนแรกก็นอนเฉยๆอยู่ ยังไม่รู้สึก ในใจก็คิด..เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน..เตรียมทำใจรอรับความเจ็บแล้วหล่ะ ประมาณ 8 โมงกว่าๆ ก็เริ่มรุ้สึกหล่ะ ว่าปวดท้องคลอดมันเป็นยังไง ช่วงแรกยังไม่ค่อยถี่ ซักพักเริ่มถี่ขึ้น... มาถึงตอนนี้แล้ว รู้ซื้งแล้วว่า ที่เขาบอกกันว่าเจ็บท้องคลอดเนียะ มันเจ็บที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงแล้ว...มันบอกไม่ถูกจริงๆ ว่าเจ็บยังไง แต่บอกได้แต่ว่า..มันเจ็บสุดๆๆ

มันจะเจ็บๆ หยุดๆ จนต้องกำหมอนแน่น ในใจก็คิดไว้ ต้องทนได้ คนอื่นยังทนได้เลย คิดถึงหน้าขนมจีนไว้ แค่นี้มะม้าก็พร้อมจะทนเจ็บต่อไป..แต่ขอสารภาพว่าไอ้ตอนเจ็บเนียะ มะม้ามีความคิดเข้ามาแวบนึงว่า..ต้องเจ็บแบบนี้จนบ่ายเลยเหรอเนียะเรา.. แล้วก็คิดอีกว่า จะท้องอีกดีไหมเนียะเรา...

ซักพักพยาบาลก็เข้ามาถาม มะม้าก็บอกว่า เริ่มเจ็บถี่แล้ว .. พยาบาลก็เลยตรวจปากมดลูก.. ปรากฏว่า ปากมดลูกเปิดได้ 5 เซ็นแล้ว...มะม้าดีใจมาก แสดงว่าใช้ยาเร่งได้ผล คงไม่ต้องผ่าตัดแล้วแบบนี้.. ทีนี้พยาบาลก็เลยรีบโทรไปบอกคุณหมอ..คุณหมอก็เลยให้หยุดยาเร่งก่อน เพราะกลัวจะมาไม่ทัน... พยาบาลก็เลยเปลี่ยนขวดน้ำเกลือที่มียาเร่งออก เป็นน้ำเกลือธรรมดา .. แต่ว่ามะม้าก็ยังเจ็บถี่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับเครื่องมันติดแล้ว หยุดยาแต่ก็ยังเจ็บอยู่..

ประมาณ 9 โมงกว่าๆ พยาบาลก็เข้ามาตรวจปากมดลูกอีกที ปรากฏว่า เปิดได้ 7 เซ็นแล้ว พยาบาลเลยรีบโทรไปบอกหมออีกที คราวนี้หมอก็เลยรีบออกมาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ พยาบาลก็เปลี่ยนใช้ยาเร่งต่อ.. คราวนี้ก็เจ็บถี่ขึ้น เจ็บหนักขึ้น พยาบาลบอกให้สูดหายใจยาวๆ ฉี่ก็ดันฉี่ไม่ออกแล้ว พยาบาลเลยต้องมาสวนฉี่ให้...มันจะฉี่ออกได้ไง ก็มันปวดท้องอยู่อ่ะ...

ใจเริ่มเสีย กลัวหมอมาไม่ทัน เพราะมันปวดมาก ปวดถี่ แถมเหมือนอยากจะเบ่งแล้ว แต่พยาบาลสั่งไว้ว่า ห้ามเบ่งนะ เพราะถ้าเบ่งตอนนี้ เดี๋ยวปากมดลูกบวม พอตอนจะคลอดจริงๆ จะไม่ออก... เราก็พยายามกลั้นไม่เบ่ง แล้วก็ทนกับอาการเจ็บอีก เรียกว่า ตอนนั้นคิดถึงแม่เลย ว่าเป็นแม่คนแล้ว มันเจ็บขนาดนี้ ... รักแม่มากค่ะ ...

ซักพัก ได้ยินเสียงหมอเปิดประตูเข้ามาในห้องรอคลอด ดีใจมากๆ คิดในใจ.. รอดแล้วเรา... หมอก็เข้ามาตรวจปากมดลูก เปิดประมาณ 9 เซ็นแล้ว หมอสั่งพยาบาลให้พาเข้าห้องคลอดเลย จากนั้นทุกอย่างเร็วมาก ตอนนั้นไม่รู้กี่โมงแล้ว.. มะม้าโดนเข็นเตียงเข้าห้องคลอด มีพยาบาล มีหมอ อยู่เต็มห้อง

มะม้านอนอยู่บนเตียง ตั้งขาหยั่ง แล้วก็มีที่ให้เราจับไว้สำหรับเบ่ง..จากนั้นหมอก็มาประจำที่...พยาบาลก็เข้ามาช่วยมะม้าเบ่ง...แล้วก็บอกมะม้าว่า ถ้าปวดเบ่งเมื่อไรให้เบ่งเลย.. เวลาเบ่งให้สูดหายใจให้ลึกๆ แล้วก็เบ่งให้ยาวๆ ห้ามปล่อยลมออกทางปากหรือจมูก..ให้ปล่อยลมเบ่งลงข้างล่างอย่างเดียว.. มะม้าจำไม่ได้ว่าเบ่งไปกี่ครั้ง แต่จำได้ว่าพยาบาลเชียร์เบ่งได้มันส์มาก พยาบาลช่วยดันท้องมะม้าให้ลูกออกมาด้วย แต่ว่าก็ยังไม่ออก เพราะมะม้าแรงเบ่งไม่พอ สุดท้าย หมอก็เลยต้องใช้เครื่องสูญญากาศช่วยดูดลูกออกมา ตอนนั้นขนมจีนคาอยู่ตรงช่องคลอดแล้ว แต่มะม้าเบ่งไม่ออก หมอต้องรีบช่วยขนมจีนออกมา ไม่งั้นจะขาดอากาศหายใจ เดี๋ยวจะเป็นอันตราย...ใช้เครื่องดูดช่วย หัวอาจจะเป็นแผล แต่เดี๋ยวก็หายเองได้ภายในไม่กี่วัน จังหวะนั้น ขอแค่ให้ลูกออกมาปลอดภัยก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันที่หลังหล่ะกัน....

คราวนี้ เบ่งหวังผลแหละ..มะม้าเบ่ง พยาบาลช่วยดันท้อง หมอใช้เครื่องดูดช่วย..เอ้า!! อึ้บ..โพละ..ออกมาแล้ว มะม้ารู้สึกโล่ง หมออุ้มลูกมาวางบนท้องมะม้า ขนมจีนตัวเปื้อนเลือดอยู่เลย ตัวนิดเดียว.. หมอก็จัดการตัดสายสะดือ แล้วก็ส่งต่อให้หมอเด็กที่อยู่ในห้องด้วย หมอพาขนมจีนไปตรวจ แล้วก็ทำความสะอาดตัว ที่เตียงเล็กๆ ข้างๆ เตียงมะม้า ส่วนมะม้า หมอก็จัดการทำคลอดรกออกมา จากนั้นก็จัดการเย็บฝีเย็บไป แล้วก็บอกว่าต้องดูแลแผลยังไง แต่ตอนนั้นสายตามะม้า จับจ้องอยู่แต่เตียงที่ขนมจีนนอนอยู่... ส่วนแผลที่โดนเย็บอยู่ ก็รู้สึกเจ็บนิดๆ แต่มันน้อยกว่าที่เจ็บคลอดมากๆ ...

ซักพัก..หมอก็อุ้มขนมจีนที่ทำความสะอาดเลือด ห่อตัวเรียบร้อยแล้ว มาวางไว้ที่อกมะม้า... เสียงขนมจีนร้องไห้ มะม้าเห็นหัวขนมจีนเป็นรอยนูนตามเครื่องดูด มะม้าน้ำตาไหลเลย สงสารขนมจีน คงจะเจ็บน่าดู...มะม้าขอโทษนะลูกนะ ที่มะม้าเบ่งหนูเองไม่ไหว ต้องใช้เครื่องดูดช่วย...
มะม้าถามหมอว่า ลูกแข็งแรงสมบูรณ์ดีไหม หมอบอกว่า สมบูรณ์ดี แต่ว่าต้องพาน้องไปตรวจละเอียดอีกทีก่อน แล้วหมอก็เปิดจุ๋มจิ๋มให้มะม้าดู ว่าขนมจีนเป็นลูกสาวจ้า....หมอใจดี ให้มะม้าได้หอมแก้มขนมจีนไปหนึ่งทีด้วยนะ..แล้วพยาบาลก็พาขนมจีนออกไปก่อน...

ส่วนมะม้า พอเย็บแผลเสร็จ พยาบาลก็พาไปนอนดูอาการต่อที่ห้องรอคลอดอีกประมาณชั่วโมงเห็นจะได้ ตอนนั้นมะม้าเริ่มมึน ง่วง สงสัยใช้กำลังภายในในการเบ่งเยอะ ..ซักพักพยาบาลก็เข้ามา บอกว่าขนมจีนหนัก 2,740 กรัม แล้วก็ให้กำลังใจมะม้า ว่าทำได้ดีแล้ว แล้วก็บอกว่าสายสะดือของเราสั้น อาจมีส่วนทำให้เบ่งแล้วติดก็ได้.. แล้วก็สอนให้มะม้านวดมดลูกให้มันหดรัดตัวลง ไม่งั้น..อาจจะตกเลือดได้ พยาบาลก็มาช่วยกดท้อง ไล่เลือดเสียออกมา รู้สึกเลยว่ามีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดอีก.. หลังจากนั้นซักพัก พยาบาลก็พาไปส่งที่ห้องพักที่จองไว้...

ไปถึงห้องก็เจอคุณพ่อ อากง อาม่า คุณย่า กู๋ก้อง เฮียต้าร์ .. มีแต่คนมาให้กำลังใจมะม้ากะขนมจีน... พยาบาลบอกว่า ถ้าตรวจเด็กเสร็จ แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้ว จะพาส่งให้ที่ห้อง... ตอนนี้ทุกคนก็รอเจอหน้าขนมจีนอย่างใจจดใจจ่อจ้า... จริงๆ ก็ได้เห็นกันแล้วหล่ะ ตอนที่พยาบาลพาหนูออกมาจากห้องคลอด แต่ว่าแค่แป๊ปเดียวเอง..

เอาเป็นว่า..มะม้า คุณพ่อ และก็ทุกคน รอเจอขนมจีนอยู่ที่ห้องนะจ๊ะ... แล้วเราก็จะได้เจอกันอย่างเป็นทางการซะทีนะจ๊ะ...




Create Date : 01 พฤษภาคม 2553
Last Update : 3 พฤษภาคม 2553 22:12:53 น. 1 comments
Counter : 699 Pageviews.

 
คุณแม่เก่งจิงๆ เลยค่ะ อนทนได้จนถึงที่สุดเลย อยากคลอดเองได้มั่งจัง โชคดีจังนะคะที่คลอดเองได้ น้องก็ปลอดภัยด้วย .. ยินดีด้วยค่ะ


โดย: Oujang วันที่: 10 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:46:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมูดิ้น
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมูดิ้น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.