'What a treacherous thing it is to believe that a person is more than a person'
Group Blog
 
All blogs
 
Cups of Love: เสิร์ฟรักรสกาแฟ


บอกก่อนเลยว่า วันนี้จะมาแบบ....ยาวมาก ฮา

สวัสดีค่า ห่างหายกันไปนานเลยเนาะ แต่กลับมาจากปารีส & กรีซได้เกือบๆ อาทิตย์แล้วค่ะ ผิวที่ซีดเป็นไก่ต้มก็เริ่มคล้ำๆ เกือบจะเป็นสีกาแฟขึ้นมาแล้ว เย้ๆ (ก็เกือบๆ จะเป็นอย่างนั้นค่ะ แต่คนข้างๆ เถียงว่ายังเผือกเหมือนเดิม กรี๊ด ไม่จริง ! อย่างน้อยก็เผือกไหม้ล่ะค่ะ แหม!) กลับมาแบบมีความสุขแต่ก็เหนื่อยจนทนไม่ไหว เพราะเพย์ตั้นเป็นพวกไม่ชอบนอนบนเครื่องค่ะ เจมส์บอกว่าไม่คุ้มค่าตั๋วเลยอย่างนั้น น่าจับไปนั่งชั้นประหยัด ก็พี่แกเล่นกรนมาแทบตลอดทาง เพย์ตั้นน่ะนั่งดูหนังมาตลอดตั้งแต่เครื่องออกจากดูไบค่ะ แทบคลานกลับบ้านเลย หัวถึงหมอนก็สลบลืมฟ้าลืมตะวัน ตื่นมาอีกทีถึงได้หิ้วท้องไปร้านอาหารไทยใกล้บ้าน คือมันโหยหาอาหารรสชาติจัดจ้านจริงๆ ค่ะ หลังจากกินแต่อาหารเมดิเตอเรเนียนติดต่อกันราวๆ สองอาทิตย์

รุ่งขึ้นก็กระวีกระวาดไปสะสางชีวิต เพราะได้พักแค่วันเดียวก่อนต้องเข้าออฟฟิศค่ะ (เข้าไปถึงน้ำตาแทบท่วมตึก งานกองเยอะมาก นี่ฉันหายไปสองอาทิตย์หรือสองปีเนี้ยยยย ?!)

เลยได้ฤกษ์แวะไปรับพัสดุจากไปรษณีย์ด้วยค่ะ หนังสือประจำเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมส่งมาแล้ว กล่องใหญ่โตมโหฬารมากๆ (ก็นะ ค่าส่งทำเอาน้ำตาตกในกันไปเลย) สั่งซื้อมาดอง เอ้ย มาอ่านเกือบๆ ยี่สิบเล่มได้ ให้ตายสิ ของเก่าก็ท่วมหัวแล้ว โรคจิตจริงๆ ค่ะ ขนาดว่าเพย์ตั้นเรื่องมากแล้วนะ ยังสั่งได้เยอะขนาดนี้เลย … แหะๆ ก็ยังปิดภาคเรียนอีกตั้งเป็นอาทิตย์นี่คะ ก็เลยหวังว่าจะได้โอกาสนั่งๆ นอนๆ อ่านนิยายให้ตาแฉะไปเลย

*เป๊าะ*

อย่างงไปค่ะ เสียงลูกโป่งแห่งความฝันเพย์ตั้นแตกเอง ไอ้ที่อยู่ทำมิดีมิร้ายหนุ่มๆ กรีกต่อไปอีกไม่ได้ ก็เพราะต้องรีบกลับมาทำงานค่ะ บอสเพย์ตั้นจะสติแตกตายอยู่แล้ว คนข้างๆ ล้อว่าสงสัยเป็นเพราะไม่มีคนชงชายามบ่ายให้มั้ง ถึงได้คลุ้มคลั่งแบบนี้ ก๊าก พอดีเพย์ตั้นชงชายามบ่ายให้แกทานตลอดก็เลยชิน

เอาเถอะค่ะ มาปั๊มเงินหลังจากท่องเที่ยวจนล้มละลาย (ก็ว่าไปโน่น)

พูดถึงเที่ยว...ขอเอารูปมาอวดและยั่วน้ำลายนิดนึงนะคะ ก่อนคุยเรื่องนิยายเล่มล่าสุดที่หยิบมาอ่าน

ดูพวก ‘idiots’ เสี่ยงตายค่ะ ด้วยการวิ่งข้ามถนนสักประมาณ 6 เลนได้ที่ Arc de Triomphe กรุงปารีส คนถ่ายบ่นหูดับตับไหม้ว่าเล่นพิเรนทร์ แต่ไอ้พวกคนจะวิ่งหาได้แคร์ไม่ค่ะ บ้าจัดว่างั้นเถอะ ฮาาา เป็นช็อตๆ ดูไปก็จะเห็นว่าภาพแรกนั้นลังเล ‘จะรอดไหมนะ’...จากนั้นก็วิ่งไม่คิดชีวิตค่ะ แล้วก็ กรี๊ด รอดแล้วค่า!







คุณแม่เพย์ตั้นเห็นภาพแล้วก็บอกเลยค่ะว่า “sil vous plait ...if it pleases you” ฮ่าๆ

ส่วนที่เหลือเก็บตกเล็กๆ น้อยๆ จากกรีซค่ะ Mykonos และ Santorini ... เพื่อนๆ พากันแซวใหญ่ว่ามิโคนอซนั้นมีมากกว่า Tropicana หรือ Paradise นะยูเอ๋ย เนื่องจากว่ารอบก่อนนั้นก็มีแต่ภาพจากคลับ Paradise รอบนี้ก็เน้น Tropicana ...ก็นะ ฮ่าๆ





ใครยังไม่ได้ไป ไปให้ได้นะคะ กรีซเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีเสน่ห์เกินบรรยาย unique & picturesque เลยจริงๆ ทีเดียวค่ะ ต่อให้ร้อนแค่ไหนไปแล้วไม่อยากกลับ หนุ่มๆ กรีก ถึงจะไม่ใช่สเป็ก แต่ก็ทำเพย์ตั้นน้ำลายหกไปหลายกะละมังเหมือนกันค่ะ อ้าปากหวอ หมุนตัวตามตาเหม่อๆ ลอยๆ จนคนข้างๆ หมั่นไส้เอานิ้วป้ายปาก บอกว่าเช็ดน้ำลายให้ - -*








กลับเข้าเรื่องนิยายอีกรอบ และด้วยเรื่องที่ว่าตัวเพย์ตั้นนั้นจะจู้จี้จุกจิกเรื่องนิยายไทยมากไปหรือเปล่า บางทีก็เคยถามตัวเองเหมือนกันนะคะ แต่ก็ต้องขอเข้าข้างตัวเองหน่อยค่ะ ว่าเรื่องมากอย่างจำเป็น คือก็แหม นิยายโรมานซ์ รักๆ ของเมืองไทยเนี่ยมีเป็นร้อยเป็นพัน ไปเดินร้านหนังสือที่เมืองไทยหรือแค่เปิดเว็บเข้าไปดูก็ตาลายแล้ว เพย์ตั้นเชื่อว่า ดูๆ แล้วนิยายพวกนี้มีมากกว่า Chick Lit. ของอเมริกัน อังกฤษและอีกทุกๆ ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มารวมกันอีกนะคะ (โห ขนาดนั้นเลยเชียวหรือเธอ)

มันต้องเลือกกันหน่อยล่ะ ใช่ไหมล่ะ ? เพย์ตั้นก็เลยตัดปัญหาด้วยการจับสนพ. ที่ไม่ใช้ปกหน้าคนมาวางไว้อันดับต้นๆ ของลิสต์ค่ะ ฮา (แก้ปัญหาได้สุดยอดมากเลยเนอะ) แต่ก็เป็นเพราะยังไม่ผิดหวังแบบชักดิ้นชักงอเลยสักทีค่ะกับปกแบบนี้ หุหุหุ

ส่วนวันนี้เพย์ตั้นมาพร้อมกับนิยายจากสนพ. Be Mine ค่ะ (เอ้อ เพิ่งสังเกตเห็นว่ามี Sexy แปะมาด้วย ) ในเครือ Touch …ใช่ไหมคะ ? เอ่อ ประมาณว่าเป็นญาติกัน พี่น้องอะไรประมาณนี้ เอ หรือสนพ. แม่-ลูก หว่า เอาเถอะค่ะ เพย์ตั้นเคยอ่านนิยายจากสองสนพ. นี้อยู่สองสามเล่ม ยังไม่ผิดหวังรุนแรงนะคะ เพย์ตั้นอ่านได้อยู่ ชอบตรงที่หลากหลายแนวดี แต่เจอปัญหาเดิมๆ ซึ่งเดี๋ยวจะขอบ่นตอนท้ายๆ แล้วกันค่ะ





เสิร์ฟรักรสกาแฟ หรือ Cups of Love นั้นเพย์ตั้นสั่งตอนนั่งในร้านกาแฟพอดีค่ะ ไม่กี่วันก่อนออกเดินทางไปพักร้อน ประมาณสั่งซื้อเอาสนุกก็ว่าได้ พอตอนอ่านก็กะจะกลับไปนั่งที่ร้านกาแฟเหมือนกัน เพื่อจะได้กาแฟตามแต่ละเรื่องในเล่มอะไรประมาณนั้นค่ะ แต่โดนสะกิด ก็เลยตระหนักได้ว่าขืนทำเช่นนั้นอาจจะมีการตาค้างหัวใจวายก่อนอ่านนิยายจบแน่ๆ ก็เลยนั่งๆ นอนๆ อ่านอยู่ในสวนแทน






Cups of Love: เสิร์ฟรักรสกาแฟ


ก็อย่างที่ชื่อเรื่องก็บอกไว้แล้ว เสิร์ฟรักรสกาแฟเป็นเรื่องราวของความรักที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ หกเรื่องหกรสค่ะ

Americano, Caramel Macchiato, Cappucino, Latte, Espresso และ Mocha

แอบแปลกใจนะคะที่เขาไม่ได้เรียกตามลำดับความหวานหรือขม มากไปน้อยอะไรประมาณนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าอยากให้คนอ่านได้รู้สึกเหมือนนั่งเครื่องเล่น Roller Coaster หรือเปล่าคะ ขึ้นๆ ลงๆ อะไรประมาณนั้น อิอิ เอาเถอะค่ะ เพย์ตั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเรียงเรื่อง แค่อยากรู้ว่าเขาเรียงเรื่องด้วยอะไรก็เท่านั้น ตามประสาคนขี้สงสัย ฮ่าๆ

เรื่องสั้น 6 เรื่องจาก 6 นามปากกาซึ่งเพย์ตั้นก็คุ้นหูและคุ้นตาพอสมควร (ถึงจะยังไม่ได้อ่านเรื่องของใครสักคนเลย แฮ่ๆ)

อ้อ เห็นว่ามีเล่มที่ออกคู่กันด้วยค่ะ เป็นขนม ชื่อเรื่อง หวานนักรักนี้ ชื่อภาษาอังกฤษจำไม่ได้จริงๆ เกือบจะเหมาซื้อมาด้วยความบ้าบิ่น แต่ตอนจบก็ไม่ได้ซื้อมาเนื่องจาก 1. กำลัง diet (ไม่อยากมีอะไรมายั่วต่อมความอยาก ฮ่าๆ) และ2. เหลือบไปเห็นคำโปรยด้านหลังของเรื่องนึงแล้วสะดุ้งค่ะ ก็เลยเอากาแฟมาชิมลางก่อน ขนมนั้นค่อยว่ากันอีกที แฮ่ๆ

ในเรื่องนี้ไม่มีตัวละครเกี่ยวเนื่องกันค่ะ (มั้ง…) แต่ตัวละครจากทุกๆ เรื่องจะแวะเวียนมาที่ร้านกาแฟซึ่งชื่อว่าร้าน Cups of Love ซึ่งตั้งอยู่แถวๆ เชียงใหม่นั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องย่อคร่าวๆ คงจัดให้ได้ลำบาก ก็เลยจะขอขออณุญาตเม้าท์ไปตามลำดับที่จัดไว้ในหน้าของหนังสือนะคะ

แต่ก่อนเริ่มขอเสียมารยาทนิดนึง ขอแย้งสนพ. หน่อยตรงคำนำที่เขียนไว้ ว่าควรจะเป็น Brainstorm ค่ะ ไม่ใช่ Brain strom ตอนแรกเพย์ตั้นนึกว่าเขาเขียนว่า Brain Stem เสียอีกนะนั่น ฮา







Americano: At a Place Right Here, Where I Have You - ณ มุมหนึ่งตรงนี้ ที่ที่ผมมีคุณ

คุณพระ ! ชื่อยาวได้โล่เลยค่ะคุณขา

กษิราเป็น Barista ของเล่มค่ะ โดยตัวละครของเธอเป็นเจ้าของร้านกาแฟ (และบาริสต้า) เออ ก็ไม่เชิงนะคะ คือเพื่อนของนางเอกเป็นเจ้าของร้านกาแฟ แต่นางเอกเรามาดูแลให้

น้ำหวาน หรือวีระญา นางเอกของเรื่องกำลังน้อยใจแฟนค่ะ ด้วยเหตุผลที่สาวๆ ส่วนใหญ่คงคุ้นเคยดีอย่างเรื่องที่เขาไม่มีเวลาให้ หรือทีท่าที่ไม่พร้อมจะปักหลักกับตัวเธอ (อย่างตอนที่เธอเอ่ยถึงเรื่องแต่งงานก็ทำเฉย ไม่ตอบ มันก็น่าเสียความรู้สึกอยู่หรอกค่ะ) แล้วไอ้อนาคตที่ไม่แน่นอนนั่นแล หญิงสาวเลยหนีขึ้นเหนือมาดูแลร้านกาแฟให้เพื่อนและถือโอกาสทำงานด้วยเลย เธอเป็นคอลัมนิสต์ค่ะ เขียนเกี่ยวกับกาแฟ และนามปากกา ‘กรุ่นกลิ่นกาแฟ’ ที่เธอใช้ก็เป็นนามปากกาที่เดวิด พระเอกของเรื่องชื่นชอบ นามปากกานี้ทำให้เขาลุ่มหลงในมนตราของกาแฟ จากที่เคยเป็นนักดื่มกาแฟธรรมดาๆ อย่างประชากรทั่วไป ก็กลายมาเป็นแฟนพันธุ์แท้อะไรประมาณนั้นค่ะ เขามาติดใจน้ำหวานเข้าและพอทราบว่าเธอคือเจ้าของนามปากกาก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือ

ก็ตามปกติค่ะ นางเอกงอน พระเอกก็ต้องมาง้อ แต่เรื่องนี้จะเน้นไปกับการที่วีระญามานั่งรำลึกถึงความหลัง วันวานที่เธอได้พบเจอกับเดวิดจนทั้งคู่ตกหลุมรักกันในที่สุดมากกว่าค่ะ เนื้อหาจึงสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบันบ่อยพอสมควร


บอกตามตรง เพย์ตั้นไม่ได้ประทับใจเรื่องนี้มากมายค่ะ เพย์ตั้นคิดว่าพล็อตมันอ่อน ดำเนินเรื่องช้าและอืดไปหน่อย คือดูๆ แล้วก็เหมือนผู้เขียนตั้งใจให้มันออกมาเข้มข้นนะคะ แต่ไปตกม้าตายที่วิธีการเขียนและดำเนินเรื่องซึ่งทำให้เนื้อเรื่องอ่อนยวบ อย่างเช่นนำเสนอประเด็นของเรื่องค่อนข้างช้ามากสำหรับเรื่องสั้น ทั้งๆ ที่มีหลายต่อหลายจุดในเรื่องที่เพย์ตั้นเห็นว่ามีศักยภาพที่จะกลายเป็นจุดดึงดูดและทำให้นิยายเรื่องนี้น่าตรึงใจกว่าที่เป็นค่ะ

เริ่มที่บทแรกเลยดีกว่า เพย์ตั้นไม่ได้แอนตี้การบรรยายสถานที่เป็นอันดับแรกนะคะ ชอบมากๆ เสียด้วย มันเป็นการกระตุ้นระบบสัมผัสส่วนหนึ่ง และเพย์ตั้นก็เข้าใจว่าผู้เขียนรับหน้าที่เป็นบาริสต้า ประมาณเป็นเส้นด้ายที่จะเชื่อมโยงเรื่องอื่นๆ ดังนั้นหน้าที่สำคัญก็คือแนะนำสถานที่สำคัญซึ่งก็คือร้านกาแฟแห่งนี้

ผู้เขียนอธิบายได้เห็นภาพ ละเอียดชัดเจนดีค่ะ แต่ขออภัยเถอะ พอเข้าหน้าที่ 2 เริ่มรู้สึกเหมือนกำลังอ่านโน๊ตเก็บรายละเอียดของนักออกแบบมากกว่านิยายค่ะ มันทำให้สถานที่ที่ควรจะโดดเด่นหมดเสน่ห์ไปในสายตาของเพย์ตั้น ผู้เขียนน่าจะค่อยๆ เปิดตัวสถานที่ทีละนิดทีละหน่อยค่ะ ไม่ใช่จู่ๆ ก็โยนมาเต็มกระบุง หรือไม่บางแห่งก็น่าจะให้ผู้อ่านได้ไปค้นพบเจอในเรื่องถัดๆ มาบ้าง ไม่งั้นอ่านบทบรรยายย้ำทุกเรื่องมันก็จะเอียนเอาค่ะ (โชคดีว่าไม่ได้อย่างเป็นกรณีหลังนี้)

อย่างตอนอธิบายถึงเรื่องรีสอร์ทและบ้านไม้สัก ผู้เขียนน่าจะสอดแทรกเข้ามาในตอนที่นางเอก ‘ทอดสายตามองรอบๆ บริเวณพื้นร้าน…’ หรืออะไรทำนองนั้น จะน่าสนใจกว่านะคะ

แบบนี้มันค่อนข้างซ้ำซากและยืดเยื้อไปค่ะ ไม่ดึงดูดความสนใจเท่าไหร่ เพย์ตั้นล่ะยอมรับเลยว่าอ่านผ่านๆ เท่านั้น สรุปร้านกาแฟในหัวก็เลยเห็นแค่ที่บรรยายไว้หน้าแรกเท่านั้นล่ะค่ะ อีกอย่างชื่อร้านย้ำอยู่เป็นร้อยรอบ เง้อ ไม่ต้องย้ำมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ คนอ่านคงไม่ได้ความจำสั้นขนาดนั้น อีกอันนึงคือผ้ากันเปื้อนสีไข่ไก่บนพื้นสีน้ำตาลเข้ม เห็นผู้เขียนเน้นจัง เพย์ตั้นจำได้ตั้งแต่เด็กในร้านใส่แล้วค่ะ พอนางเอกมาใส่บ้างแค่บอกว่า ผ้ากันเปื้อนของร้าน ก็พอมั้งคะ เว้นเสียว่าผ้ากันเปื้อนมีความสำคัญเกี่ยวกับเนื้อหาโดยตรง และอีกอย่างนี่มันเรื่องสั้นอ้ะค่ะ เพย์ตั้นไม่เห็นว่าจำเป็นเลย

ส่วนการเขียนนั้นเพย์ตั้นอ่านแล้วงงๆ ค่ะ โดยเฉพาะการย้อนไปย้อนมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน เพย์ตั้นอ่านอยู่สามรอบถึงจะรู้ว่าฉากที่พระเอกนางเอกเจอกันครั้งแรกน่ะ นางเอกกำลังนึกคิดถึงอดีตอยู่ ไอ้เราก็ว่า เอ๊ะมันยังไง สรุปนี่มันเป็นเรื่องรักสามเศร้าเหรอ แล้วตาฝรั่งคนที่โผล่มาที่ร้านแถมมองนางเอกเหมือนรู้จักกันมาก่อนเนี่ยมันเป็นใคร อะไรยังไง กรี๊ดดดด

งง ค่ะงงมากๆ

แต่พออ่านๆ ไปก็เริ่มเข้าใจค่ะว่าอะไรเป็นอะไร แต่มันก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดี ตั้งตัวไม่ทันจนสับสนค่ะ ว่าสรุปนี่ฉันอยู่ในอดีตหรือปัจจุบัน ผู้เขียนน่าจะทำให้ชัดเจนกว่านี้ค่ะ

พูดถึงตัวละครบ้าง… วีระญาเป็นสาวห้าวนอกหวานใน (กรอบนอกนุ่มในเหมือนไก่ทอดรสเลิศปะ ฮา) ส่วนพระเอกอย่างเดวิด (ใช่ค่ะ สรุปพี่ท่านคือพระเอก หลังจากที่แอบบงงในช่วงแรก) เป็นบอดี้การ์ดมาเฟียชาวอเมริกัน ความตรงไปตรงมาของเดวิดตอนจะจีบนางเอกทำให้เพย์ตั้นอมยิ้มค่ะ ถึงเฮียแกจะลักจูบนางเอกง่ายๆ เลยเพย์ตั้นก็ไม่แคร์ ยกให้ๆ แต่พออ่านๆ ไป กลายเป็นว่านึกสงสัยความงี่เง่าของพระเอก โทรฯไปบ้านนางเอกทำไมคะ คุณเธออยู่โน่น ชงกาแฟอยู่เชียงใหม่ แต่เห็นพระเอกว่าที่ไม่โทรหานางเอกเพราะรู้ดีนะว่านางเอกไม่ชอบให้โทรฯง้อ ชอบคุยกันตรงๆ (แล้วจะโทรไปบ้านเพื่อ…?)สรุปดูปอดแหกจนน่าหมั่นไส้สำหรับบอดี้การ์ด จนเพย์ตั้นพาลเอาไปลงที่คนข้างๆ อย่างไร้เหตุและผลค่ะ เพราะโผล่มาพอดี ฮา

แต่ก็ขอชมคนเขียนค่ะที่ใช้สถานที่อย่างคุ้มค่า ไม่ได้ประชดนะคะ…ชมจริงๆ เพราะไม่งั้นเพย์ตั้นคงเซ็งค่ะ ถ้าบรรยายมาเยอะแล้วไม่ใช้ให้เต็มที่ แล้วก็ท้ายเรื่องค่ะ ความเข้มข้นของเรื่องถือกำเนิดอีตรงสองบทสุดท้ายนี่ล่ะค่ะ เพย์ตั้นค่อยตื่นตัวหน่อย เหมือนกาแฟที่ดื่มโดยไม่ได้คนอ้ะค่ะ ดื่มแรกๆ มันเลยจืดเพราะส่วมผสมไปกองอยู่ตรงก้นถ้วยหมด

เพย์ตั้นยังแอบเคืองอยู่เลย เพราะตรงปกบอกว่า อเมริกาโน่เป็นรักรสเข้มเต็มรสกาแฟแท้ และอเมริกาโน่ที่เพย์ตั้นรู้จักก็มีรสชาติเข้มข้นนะคะ มันก็ espresso เติมน้ำดีๆ นี่ล่ะ คิดค้นขึ้นสำหรับพวกที่ไม่ชอบรสขมจัดของ espresso ค่ะ แล้วเรื่องนี้กลับค่อนข้างเอนไปทางรสจืด เติมน้ำมากไปอะไรแบบนั้น แต่ก็เออเนาะ อ่านไปก็เริ่มสนุกขึ้นค่ะ ถึงจะตีโจทย์ยังไม่แตกสำหรับเพย์ตั้น แค่ร้าวๆ เท่านั้น



อย่าเพิ่งเซ็งกับความคิดเห็นของเพย์ตั้นเกี่ยวกับเรื่องแรกค่ะ เพราะเพย์ตั้นอ่านเองยังไม่ได้ท้อแท้ใจแต่อย่างใดเลย (สำคัญตัวเองมากเธอ) ตามประสานางเอกที่มองโลกในแง่ดี คิกๆ เพราะมันมีเหลืออีกตั้งห้ารส แม้ว่ากาแฟจะหมดไปสามสี่แก้วแล้วกว่าจะอ่านเรื่องแรกจบ มาดูกันสิว่า Caramel Macchiato นี้จะตรงรสชาติที่เพย์ตั้นเคยลิ้มลองไหม

เอ้าๆ เรื่องต่อไปของ Nefertiti งับท่านผู้ชม

ปล. นามปากกานี้น่ารักจัง





Caramel Macchiato: รักผมโดนใจมั้ยครับคุณ


- Nefertiti




เปิดเรื่องด้วยบทเพลงที่เพย์ตั้นชอบเลย (ถึงจะเป็นคนละเวอร์ชั่นกันก็ตามที อิอิ) ทำให้นึกถึงตอนไปสวิต รอบตัวหิมะตกโปรยปราย…Oooooh.

ยอมรับตามตรงค่ะว่าตั้งใจจะจับผิดผู้เขียน (มันนิสัยเสียอีกแล้ว) แต่แปลได้ดีมากค่ะ (ยกเว้นบางจุดค่ะ อย่างบทที่ 5 พลาดนิดนึง คนพยายามทำตัวกลมกลืนหรือซ่อนตัวตนคือฝ่ายชายนะคะ) ว่าแต่…เคยสนใจทำงานแปลไหมคะ (ถึงสนแต่เพย์ตั้นไม่มีงานให้นะเออ…อ้าว -*- )

และต้องบอกอีกด้วยว่า Macchiato เนี่ย กาแฟแก้วโปรดของเพย์ตั้นกับคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ ชอบกันทั้งครอบครัวก็ว่าได้ มันจะหวานมัน ไปขม ไปหวานหวานมันอีกที แต่แบบใส่คาราเมลนี่ไม่เคยลองดื่มเลยค่ะ เห็นอยู่นะที่สตาร์บัคส์ แต่ก็ขอเดาเอาว่ามันคงจะเพิ่มรสชาติของความหวานจัดของคาราเมลลงไป ยังไม่เคยทานที่เมืองไทยนะคะ ก็เลยไม่ทราบว่าจะตรงกับรสชาติที่ผู้เขียนรู้จักหรือเปล่า

และก็ตรงตามรสชาติค่ะ เรื่องนี้หวานปนฮามากค่ะ ได้ทั้งสองรสชาติเกือบๆ เท่าเทียมกัน (หวานมากกว่าขม) เล่นกับอารมณ์คนอ่านได้ดีจนไม่น่าเชื่อ คือวินาทีนึงกำลังหัวเราะวินาทีต่อมาก็ปวดใจตะหงิดๆ อดสงสารนางเอกไม่ได้ อีหนูเธอซวยมาก ผู้เขียนสลับไปมาระหว่างความหวานและความขมได้ดีค่ะตามรสชาติของแมกคิอาโต้ ส่วนพระเอกนั้นก็น่ารักแบบกวนโอ๊ยดีค่ะ ‘หน้าด้าน’ ได้ใจมาก จนเพย์ตั้นอยากจะไปช่วยเฮียแกทุบกำแพงที่นางเอกสร้างไว้เสียจริง

อุ๊ย ลืมเล่าเรื่องย่อเลย… นางเอกของเราโดนไล่ออกจากที่ทำงานมาหมาดๆ ค่ะ รันทดแบบติดตลกดี ทั้งขำทั้งสงสารนะตอนเธอโดนไล่ออก พระเอกไม่ต้องพูดถึงค่ะ เพย์ตั้นแทบจะล้วงมือเข้าไปในหนังสือแล้วดึงอเล็กซานเดอร์ออกมากอดรัดฟัดเหวี่ยง (อุ๊ยตาย ว้ายกรี้ด!) ความหล่อกินขาด ความรวยนั้นสุดจะบรรยาย ความร้ายกาจมีมากไม่เท่ากับความเจ้าเล่ห์ แต่เสน่ห์น่ะ มีไว้มัดใจเพย์ตั้นเต็มๆ (ฮา คิดได้เนอะ)

พี่อเล็กซ์แก “เน่า…ไม่มีคำบรรยาย” จริงๆ ค่ะ (ถึงความสัมพันธ์จะเกิดขึ้นเร็วปานจรวด แต่ก็นะ ให้อภัย )

ยิ่งไอ้ฉากพานางเอกไปซื้อเสื้อผ้านะคะ กำลังจะทำให้เพย์ตั้นต้องงัดมารยาหญิงไปบังคับคนข้างๆ ให้ไปช้อปเป็นเพื่อนแล้วทำให้มันตื่นเต้นเร้าใจแบบพี่อเล็กซ์บ้าง

อ้อ อีกจุด ยายรัชนี นางร้ายของเรื่องโผล่มาแป๊บเดียวนี่ทำเอาเพย์ตั้นเดือดแทนนางเอกเลยค่ะ อยากเอากรงเล็บไปข่วนหน้าคุณเธอนักเชียว แนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งแฟนเก่านางเอกอะไรประมาณนี้ (แต่ไอ้แฟนเก่านางเอกก็เส็งเคร็งเหมือนกันล่ะค่ะ)

เอาล่ะค่ะ ไม่อยากทำให้เสียอรรถรสมากกว่านี้ เรื่องนี้สนุกค่ะ ชอบที่ผู้เขียนเก็บเรื่องราวตั้งแต่เจอกันไปจนถึงปลายทางความรัก(ที่คงไม่หยุดแค่นั้นแน่)มาถ่ายทอดไว้ได้ในเพียงไม่กี่หน้า โดยที่เพย์ตั้นไม่รู้สึกว่ามันห้วนไปหรืออะไรไป และเนื้อเรื่องอย่างที่บอก หวานปนขมกลมกล่อมดีค่ะ ขอชื่นชมคนเขียนที่ตีโจทย์แตกนะคะ เนื้อหาเข้ากับรสชาติของกาแฟได้ดีทีเดียว ตัวละครมีอารมณ์ขันทำให้อ่านไปหัวเราะไปเหมือนคนเส้นตื้น บทจะเศร้าก็เศร้าเชียว ..รักของอเล็กซ์โดนใจเพย์ตั้นค่ะ

“หากพี่จักเกี้ยวเจ้าบ้าง เจ้าจักว่ากระไร”

อ๊ายยย ขอไปกำจัดคนแถวๆ นี้ก่อนนะคะอเล็กซ์ แล้วเพย์ตั้นจะมาให้คำตอบค่า


ตอนนี้ขอจรลีไปป้อนข้าวป้อนน้ำให้ตัวเองสักครู่นะคะ ก่อนมาเคลียร์อีก 4 เรื่องที่เหลือ หุหุหุ









ถ้าจู่ๆ คนข้างๆ หันมาบอกว่าอยากมีลูก ...คุณจะทำไง ? เอ้อ เพย์ตั้นสำลักโยเกิร์ตหน้าดำหน้าแดงเลยค่ะ แบบ หา ว่าไงนะ ?! คนถามก็ทำหน้าจริงจังอีก...เอิ่ม ไปหาซื้อหมามาเลี้ยงสักตัวดีไหม ฮ่าๆ ข้ามขั้นไปเสียไกลเลยพ่อคุณ... เรื่องของเรื่องคือพี่สาวเจมส์คลอดลูกสาวก่อนกำหนดเมื่อบ่ายวันจันทร์ เพย์ตั้นถึงได้หายหัวไปเลยค่ะ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ไอ้แพลนที่ว่าจะมานั่งเม้าท์กาแฟอีก 4 รสให้จบแล้วไปกรี๊ดเรื่องอื่นต่อสักหน่อยก็เป็นอันต้องพับเก็บไว้ชั่วคราว...ตอนนี้ล่ะก็รู้สึกเหมือนกับว่าเพิ่งคลอดลูกเอง... ขอนินทาหน่อยเถอะค่ะ ฮา เพราะคนข้างๆ เห่อหลานสาวประหนึ่งว่าเพิ่งได้ลูกสาวเองงั้นล่ะค่ะ เพย์ตั้นไม่เคยต้องเลือกเสื้อผ้าเด็ก infant/toddler มากมายแบบนี้เลย Baby Zara นี่มีจะครบเซ็ตแล้วมั้งคะ ชนิดที่ว่าพี่สาวเจมส์คนไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าให้ลูกสาวอีกเลยสักสี่ห้าปี เพราะตอนอยู่ปารีสเมื่อต้นเดือน เจมส์ก็หมดไปเยอะมากกับเสื้อผ้าเด็ก แล้วท้ายที่สุดคนเลือกซื้อก็ไม่ใช่ใคร นอกจากเพย์ตั้นนั่นเอง ไอ้เราก็อยากไปดูของผู้หญิงเนอะ อยากแกล้งๆ ดึงพี่ท่านเข้า Harry Winston หน่อย ฮ่าๆ แต่ก็ต้องรับประทานแห้วค่ะ เพราะมัวแต่ไปหมกอยู่กับแผนกเสื้อผ้าเด็กและทารก จำพวก Burberry Kids, Baby Dior, Elle Kids, Chloe Kids...โอย ดูๆ แล้วของรับขวัญหลานสาวคนแรกนี่แพงกว่าของขวัญวันเกิดเพย์ตั้นจากเจมส์รวมกันอีกนะ

แล้วอีกตั้งกี่เดือนกว่ายายหนูเกรซแกจะได้ใส่สื้อผ้าคุณอาก็ไม่รู้ ... วุ้ย พูดแล้วก็หมั่นไส้ค่ะ คอยดูเถอะ เพย์ตั้นจะขนมาแข่งกับเจมส์บ้าง เล็ง Gucci & Lanvin Kids กับ Luisa Beccaria Bambini เอาไว้แล้ว ...วะฮะฮ่า หาเรื่องเสียเงิน(ที่ไม่ค่อยจะมี)อีกแล้วฉัน

ต่อค่ะต่อๆ ...




Cappucino: ความทรงจำครั้งใหม่
-    โอลด์โรส



รสชาติของคาปูชิโน่อ่อนกว่าสองรสแรก และเนื้อหาก็ประมาณนั้น แน่นอนว่ามันซ่อนความขมของกาแฟไว้ เหมือนที่เรื่องก่อนของ Nefertiti หรือพี่อเล็กซ์ของเพย์ตั้น (ฮา เนียนซะ) บอกไว้ว่ากาแฟยังไงก็เป็นกาแฟ ขมอยู่วันยังค่ำล่ะค่ะ

คำโปรยเรื่องนี้ทำเพย์ตั้นสยองนะคะขอบอก ฮ่าๆ แต่อย่าตกใจค่ะอย่าได้ตกใจ คือโปรยเหมือนว่ามันจะออกมาประมาณรักสามเศร้าและนิยายแนวนี้นี่เพย์ตั้นมักลังเลที่จะอ่านค่ะ เพราะรู้ตัวดีว่า รักพระรองชัวร์ แต่ก็ไม่ใช่กรณีนั้น...เท่าไรนัก

เรื่องย่อคร่าวๆ ( คร่าวมากๆ เลยนะคะ  ฮา ) ตฤณ พระเอกของเรื่องกำลังเดินทางไปเยี่ยมครอบครัว เอาสาวไปให้แม่ดูตัวว่างั้นเถอะ แต่สาวที่จ้างมาดันแพ้อาหารฉับพลัน โอ๊ะ โอ..แต่ณ สนามบินก็ไปเจอะกับปรายฟ้า นางเอกเข้าค่ะ สำหรับพระเอกก็ประมาณติดใจตั้งแต่แรกพบ ดั่งพรหมลิขิตบันดาลชักพาทั้งสองก็ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน แต่ปมหลักอยู่ที่อดีตของนางเอกค่ะ ซึ่งเล่าไปแล้วอาจจะเสียอรรถรส...แต่อย่าลืมนะเออ ว่าชื่อเรื่องคือความทรงจำครั้งใหม่ พอดีกว่า (นี่เหรอเรื่องย่อของหล่อนน่ะเพย์ตั้น)

ไม่รู้จะเม้าท์ยังไงดีเพื่อไม่เปิดเผยพล็อต ฮ่าๆ แต่ขอชมเลยว่าภาษาสวยค่ะ หวานละมุนละไม อ่านไปตั้งแต่ต้นจนจบรู้สึกเหมือนเต้นรำไปตลอดทั้งเรื่องอ้ะค่ะ (ยังไงยะ) ก็ย่างกรายไปอย่างนุ่มนวลๆ ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหาจะเรียบๆ เอื่อยๆ นะคะ มันทำให้เพย์คั้นรู้สึกเหมือนกำลังอ่านวรรณกรรมคลาสสิกของฝรั่งค่ะ อย่างพวก Jane Austen ภาษาสวย เนื้อหาดี มีสาระมีเหตุและมีผล อ่านสนุก แต่ก็ไม่ได้คิดอยากจะเอาผักเอาผลไม้เอาไข่ไก่ปาหน้าตัวละครน่ะค่ะ อาจจะมีโกรธ มีเศร้า มีเคืองตัวละครบ้างเพราะอิน แต่ก็ควบคุมอารมณ์ได้อยู่ค่ะ เพราะความนุ่มนิ่มของภาษาเขียน คือสไตล์การเขียนนิยายเรื่องนี้ให้ความรู้สึกแบบคลาสสิกๆ ค่ะ อธิบายยากเนอะ…เหมือนจะตำหนิ แต่เปล่านะคะ เปรียบเปรยอีกอย่างไรดีล่ะ อ้อ ! สวยสไตล์แอนเจลิน่า โจลีที่เห็นแล้วหมั่นไส้ กับสวยสไตล์เจนนิเฟอร์ อนิสตันที่เห็นแล้วอิจฉาแต่ไม่อยากเอากรงเล็บข่วนหน้าน่ะค่ะ…อืม เพย์ตั้นว่าเพย์ตั้นหุบปากก่อนดีกว่าเนอะ


สรุปก็ถือว่าสนุกดีค่ะ อ่านไปอมยิ้มไป (หัวใจพองโตตอนพระเอกแทนตัวเองว่าพี่อ้ะค่ะ ไม่รู้ทำไม ฮ่าๆ) เหมือนเดินอยู่บนถนนที่โปรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ และเนื่องจากเพย์ตั้นชอบนิยายภาษาสวยๆ อยู่แล้ว ก็เลยเพลินเป็นพิเศษ ส่วนพล็อตนั้นก็ถือว่าค่อนข้างจะโอเคค่ะ แปลกใหม่ดี เพราะนางเอกสถานะแบบปรายฟ้าหาไม่ค่อยได้บ่อยนัก ซึ่งเพย์ตั้นคิดว่าเพิ่ม appeal ในตัวของพระเอกไปด้วย แบบว่า เออนะ นี่คือรักแท้ =)





Latte: คนที่ใช่...ที่หัวใจต้องการ
-    ลภัสรดา




เรื่องนี้อลังการงานสร้างมากค่ะ อลังการนี่หมายถึงพระเอกนะคะ เฮียแกชื่ออลังการ (แล้วงานสร้างตรงไหน…เดี๋ยวก็จะรู้ค่ะ)

ลัลล์ลิตา หรือ ลาเต้ (...ฮา ขอบอกเลยค่ะว่ากำลังรออยู่ว่าจะมีเรื่องไหนนำชื่อของกาแฟมาใช้เป็นชื่อตัวละคร ) นางเอกของเรื่องก็...เหมือนจากอเมริกาโน่อ้ะค่ะ โกรธแฟนมาเนื่องจากฝ่ายชายดันไปบอกเพื่อนว่าเจ้าหล่อนไม่ใช่สาวในฝัน นางเอกเราก็เกิดอาการสับสน เศร้าใจว่าถ้าไม่ใช่คนที่ใจต้องการแล้วจะมาคบทำไม ฝ่ายชายก็มาง้อ...ฮาดีค่ะ แต่แก้ตัวผิดเรื่องอีก เกือบโดนสองกระทงแล้วไหมล่ะอลังการเอ๋ย แถมมีสุภาพบุรุษรูปหล่อผู้โผล่มาเป็นคู่แข่งหัวใจอีก

ก็....ใสๆ ดีค่ะ สนุกและลุ้นไปกับพระเอกด้วยวิธีการง้อที่มาทั้งหวานติดฮา (ก็บอกแล้วไงคะว่าอลังการงานสร้าง คือทั้งเรื่องพระเอกเด่นสุดค่ะ) และที่แบบทำเอานางเอกเราตราหน้าเลยว่าเป็นซาตานร้าย... เพย์ตั้นเข้าข้างพระเอกมากกว่านางเอกอีกค่ะ นายอลังการเด่นจริงๆ ในสายตาเพย์ตั้น และอีกอย่างคือเพย์ตั้นไปเคืองนางเอกตรงที่คบกันกับพระเอกมาตั้งสามปี (ใช่ไหมคะ) แต่เธอกลับมาจะเป็นจะตายง่ายๆ กับการที่พระเอกเผยว่าตัวเองไม่ใช่สาวในอุดมคติของเขา ก็ถูกของอลังการล่ะค่ะตอนที่แอบน้อยใจว่าทำไมไม่มีการเชื่อใจกันเลย แต่จะให้แฟร์ ก็ต้องเห็นใจนางเอกเธอเหมือนกันค่ะ (ถึงเธอจะทำตัวให้เพย์ตั้นคิดว่าไม่เหมาะสมกับพระเอกเท่าไหร่นัก) อย่างน้อยเธอก็รู้ตัวในภายหลังและขอโทษพระเอกที่งอนอะไรไม่เข้าเรื่อง



ปล. แอบเสียดายพระรองเล็กน้อยค่ะขอบอก...ไม่ใช่อะไรหรอก เชียร์พระรองให้คู่กับนางเอก เพื่อที่เพย์ตั้นจะได้ครอบครองพี่อิฐอะไรประมาณนั้น ฮ่าๆ



Espresso Stains: เกมซ่อนใจ อุ่นไอปรารถนา


- รวิณาธิตรา


คุณพระคุณเจ้า … ขออีกแก้วได้ไหมคะ ขมกระชากความรู้สึกสมกับเป็นเอสเปรสโซ่ แต่ก็หวานติดลิ้น หรือแบบที่ผู้เขียนว่าไว้ “คนที่ได้ลิ้มลองเอสเปรสโซ่เพียงแค่ครั้งเดียว ก็จะไม่มีวันได้รู้ว่าภายใต้รสขมจัดคือความหวานละมุน...ที่จะทำให้พวกเขาต้องคอยลิ้มลองมันเรื่อยไป”

โอ ประโยคนี้ชอบจังค่ะ ถึงส่วนตัวจะไม่ใช่แฟนเอสเปรสโซ่ก็เถอะ ฮ่าๆ ...ของรวิณาธิตรานั้นค่อนข้างจะดราม่ากว่าเรื่องอื่นๆ ค่ะ แต่ก็นะ กาแฟรสขมที่สุดในบรรดากาแฟนี่นา

เรื่องย่อคร่าวๆ ก็คือ แทน หรือณัฏฐนันท์ นางเอกเป็นนางแบบที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเทร้นท์ หรือธนาธิป ฮาร์แลนด์ ชายหนุ่มลูกครึ่งเลือดสีน้ำเงิน รวยล้นฟ้าจากเกาะอังกฤษ สังคมตราหน้าเธอเป็นนางบำเรอของเขา และด้วยที่เพราะฝ่ายชายไม่เคยบอกรัก บวกกับความเข้าใจผิดอีกหลายๆ ประการทำให้นางเอกเราก็มองเห็นตัวเองเป็นแค่นางบำเรอ อย่าเข้าใจผิดไปนะคะ นางเอกไม่ใช่พวกชอบดูถูกตัวเอง เศร้าสร้อยจนคนอ่านอย่างเราๆ ต้องเครียดไปกับเธอตั้งแต่ต้นจนจบหรอกค่ะ เธอหยิ่งและทะนงตัวใช้ได้เลย และความถือดีของนางเอกก็มีส่วนทำให้พระนางเราต้องผิดใจกันค่ะ

ก็อย่างที่ชื่อเรื่องบอกไว้นะคะ มันเป็นเกมซ่อนใจ คือพระนางเราน่ะรักกันค่ะ แต่ทิฐิแรงทั้งคู่ก็เลยกว่าจะสารภาพรักกันตรงๆ ก็โน่นบทจบ (แต่พี่เทร้นท์ – ขออนุญาตเรียกพี่เลยนะคะ – มีหยอดคำรักให้เร้าใจกันเล่นเป็นหย่อมๆ) ก็อย่างว่าล่ะนะ สถานการณ์พาไป หากเพย์ตั้นเป็นนางเอกบ้าง (ก็อยากเป็นจริงๆ ล่ะ) ก็คงไม่ยอมบอกว่ารักง่ายๆ หรอกค่ะ พระเอกก็เหมือนกันค่ะ หล่อๆ รวยๆ มั่นๆ เหมือนเพื่อนชายของเพย์ตั้นหลายๆ คน สไตล์นั้นเจอใครมาดูถูกความรู้สึกก็คงไม่ปลื้มเป็นแน่ ผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้นี่เนอะ (เข้าข้างกันมากค่ะ…อเล็กซ์จะน้อยใจไหม แล้วพี่ติ –คนนี้เดี๋ยวจะตามมาค่ะ--จะงอนเพย์ตั้นไหมนะ)

คือเพย์ตั้นก็ไม่ค่อยนิยมตัวละครที่ไม่ชัดเจนในความรู้สึกหรอกค่ะ พวกรู้ตัวช้าจนน่าหมั่นไส้อะไรแบบนี้ แต่เรื่องนี้พระนาง รู้ตัวแต่เริ่มแรกค่ะ ชัดเจนในความรู้สึกมากๆ เพียงแค่กว่าจะเปิดเผยให้แต่ละฝ่ายรู้ก็ลุ้นจนหืดแทบขึ้นคอเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกรำคาญกับความปากหนักเลยจริงๆ (มั่นใจว่าเพย์ตั้นกำลังลำเอียงมากๆ เลยค่ะ เพราะพี่เทร้นท์คนเดียวเลยจริงๆ ฮ่าๆ)

แต่ก็ไม่อยากจะสารภาพเลยค่ะว่าพี่เทร้นท์นี่กินขาดไปตั้งแต่ดวงตาสีมรกตกับผมสีกาแฟแล้วล่ะ ฮา พอดีเพย์ตั้นชอบผู้ชายตาสีอ่อน แต่ผมสีเข้มๆ ด้วย ฮ่าๆ (ไม่รู้ไปสอยหัวทอง ตาฟ้ามาได้ยังไง -_- ) ส่วนนางเอกนั้น อย่างที่เคยว่าไว้ในสมัยคุณชายพุฒิภัทรนะคะ แบบว่า นางเอกจะสวยเลิศเลอปานฉะไหน เพย์ตั้นไม่สะท้านค่ะ แย่งบทนางเอกมาให้ตัวเองได้เสมอ

ฮาาาาา

ประทับใจการสร้างคาแร็กเตอร์ของผู้เขียนมากๆ ค่ะ ทุกการกระทำ ทุกคำพูดไม่ขัดแย้งกับบุคลิกหรือนิสัยเลย คงที่มากไม่หลุด ไม่โดดเลยจริงๆ โดยเฉพาะพระเอก โห ธนาธิปคือสุดยอดของกาแฟ espresso เลยล่ะค่ะ (ต่างกับอเล็กซ์ของ Nefertiti นะ แทบจะคนละขั้ว แต่เร้าใจสุดๆ …เพย์ตั้นเลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะเลือกใครดี ขอสองเลยได้ไหม ?!)

เป็นอีกเรื่องที่ใช้ภาษาได้สวยค่ะ เพย์ตั้นยังไม่เคยขึ้นไปที่ St Paul de Vence แต่อ่านจากที่ผู้เขียนบรรยายแล้วขอบอกว่า เสียดายมากที่ไม่ได้ขึ้นไปตอนไปแถบ Cote D’Azure  แต่ก็ขอจู้จี้นิดนึงกับบางจุด อย่าง “แสงทิวาเคียงข้างจันทรา” นี่ควรจะเป็นแสงดาวหรือเปล่านะ ทิวานี่มันยังไงคะ เพย์ตั้นอ่านแล้วงงๆ แต่อ่านไปอ่านมามันฟังคล้องจองดีค่ะ ก็เลยไม่ได้อะไรมากมาย (โห) อีกทีนึงก็ ตอนพระเอกบอกว่า “แต่ผมยัง” … น่าจะมีต่อประมาณว่า “ยังไม่ได้อาบน้ำ” หรือเปล่าคะ มันดูขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้

( พูดถึงอาบน้ำ … ขอบอกค่ะ อ่านเรื่องนี้แล้วมุมมองของคุณในการอาบน้ำในห้องน้ำแบบเปิดตรงระเบียงจะเปลี่ยนไปทันทีทันใด เพย์ตั้นยังกำลังวางแผนเลยค่ะว่าจะเอาห้องอาบน้ำสไตล์นี้บ้าง หุหุหุ แล้วจะกล้าอาบไหมเนี่ย )
ถึงกระนั้นก็นับเป็นอีกเรื่องที่ตีโจทย์แตกค่ะ คงความขมที่ซ่อนความหวานลึกๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

แต่ก่อนเราจะไปยังเรื่องสุดท้าย…เคยเห็นผ่านๆ ว่านามปากกานี้ตัวละครเลิศหรูชวนฝันกันทุกคน ใช่ไหมคะ?  ถ้าใช่ก็ขอเพย์ตั้นรบกับนิยายที่มีๆ อยู่เสร็จจะไปหาข้อมูลค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวบ้าบิ่นสั่งซื้อนิยายมาอีกล็อต -*-

ปล. ชอบอีกอย่างที่เอาเกม crossword มาประยุกต์ใช้ค่ะ =)




Secret Mocha: ความลับแสนหวานของหัวใจ
-    รัตติกาลซ่อนรัก




เพย์ตั้นเชื่อว่าตัวเองเป็นคนเดียวในโลกที่ดื่มมอคค่าแล้วยังต้องเติมน้ำตาล เพื่อนๆ คอยบ่นกันใหญ่เชียวว่ามันยังหวานไม่พออีกหรือยังไง ... ฉะนั้นพอดูชื่อเรื่องและชื่อผู้เขียนแล้ว จะหวานแค่ไหนเพย์ตั้นก็ไม่หวั่นค่ะ รับได้ ฮาาา ...เหมือนกับว่าชีวิตขาดความหวานเลยเนอะ

เรื่องนี้เป็นสไตล์ รักแท้ต้องขอพิสูจน์ค่ะ รักจริงก็ต้องรับได้ทุกอย่าง ติวานนท์และกิ่งแก้วถูกหมั้นหมายกันด้วยสัญญาระหว่างครอบครัว หากแต่เมื่อติวานนท์ ชายหนุ่มผู้เพรียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างต้องกลายเป็นคนพิการ กิ่งแก้วที่เห็นชายหนุ่มเป็นเพียงแค่สิ่งที่จะมาเสริมฐานะทางสังคมของเธอจึงใช้น้องสาวมาเป็นตัวช่วยและทำให้เก็จกาญน์กลายเป็นคู่หมายคนใหม่ของติวานนท์แทน ...เก็จกาญน์หลงรักติวานนท์ คู่หมั้นของพี่สาวมาตั้งแต่แรก แต่หัวใจของเธอก็ต้องพบกับความเจ็บปวดเมื่อรับรู้ว่าเขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาว ... และการที่เขาต้องกลายเป็นคนพิการไม่ได้ทำให้เธอรักเขาน้อยลงเลย ตรงกันข้ามเธอกลับเต็มใจที่จะดูแลเขาไปตลอด

เธอไม่รู้เลยว่าติวานนท์มีความลับอะไรบางอย่างที่ซ่อนไว้...และมันอาจจะทำให้เก็จกาญน์ไม่ยอมให้อภัยเขาเลยก็ได้ แต่เขาจำเป็นต้องทำเพื่อพิสูจน์รักแท้

อ้าว ดูสินั่นเล่าเพลินค่ะ...ดูดราม่าจัด แต่ขอบอกว่าเรื่องนี้ขมกว่าลาเต้อีกนะ ..หรือมอคค่าเมืองไทยมันขมกว่าลาเต้คะ เพย์ตั้นชักงง... ช่างเถอะเพราะโดยรวมแล้วก็หวานค่ะ หวานสมมอคค่าเลยจริงๆ ซ่อนขมนิดๆ ตามประสากาแฟ เพย์ตั้นชอบมากค่ะ ชอบพระเอก (นั่นๆ มันนอกใจหนุ่มคนอื่นๆ) คือพี่ติเนี่ย…อ่า หลงรักเก็จกาญน์แต่แรกพบใช่ไหมคะ เพย์ตั้นก็ประมาณนั้นค่ะ ติดใจพี่ติอย่างอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

“เก็จไม่ใช่สิ่งของที่พี่จำเป็นต้องมี แต่เก็จคือคนที่พี่ขาดไม่ได้” อ๊ายยยยย มีผู้ชายมาพูดกับหนูแบบนี้ก็หวั่นไหว ใจละลายค่ะ

แต่เรื่องนี้ไปทำเพย์ตั้นขัดใจก็ตรงที่ตอนพระ-นางตกหลุมรักกันน่ะค่ะ เข้าใจว่าเป็นรักแรกพบ แต่ก็น่าจะทำให้ชัดเจนกว่านี้ คือขยายความนิดนึง เพิ่มรายละเอียดอีกหน่อยให้พอหอมปากหอมคอ มันจะได้ยิ่งกระชากความรู้สึกกว่านี้ค่ะ เรื่องของเรื่องคือเพย์ตั้นอยากได้ความรู้สึกของพระนางในการตกหลุมรักกันมากกว่านี้ค่ะ แฮ่ๆ เพราะอีกอย่างแค่นี้มันดูว่าพระนางเรารักกันง่ายเกินไปค่ะ

อ้อ แล้วทำไมแม่นางเอกถึงไม่ว่าอะไรเลยที่พระเอกฉีกหน้าลูกสาวคนโตแบบนี้ อันนี้ยังไม่ค่อยเคลียร์ค่ะ เพย์ตั้นว่าจากฉากมื้อค่ำสุดแสนจะเวอร์ (ซึ่งคุณแม่นางเอกและพี่สาวนางเอกแต่เครื่องเพชรเต็มยศไปนั่นล่ะค่ะ เพย์ตั้นหัวเราะตามนางเอกเลยขอบอก) คือตื่นเต้นเตรียมใจกันมานานหลายปี จู่ๆ จะมายอมกันง่ายๆ ขนาดนี้เลยหรือคะ ?

แต่ที่ชอบสุดๆ คือฉากพระเอกกับลูกน้อง เดชา คุยกันค่ะ มันฮาดี (ยายนี่เส้นตื้นจริงๆ )

โดยรวมเพย์ตั้นชอบค่ะ มันอ่านแล้วกระชุ่มกระชวยใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ภาษาลื่นไหล ไม่ได้สวยหรูจนโอเวอร์ แต่ก็อ่านได้เพลินดีค่ะ แถมพี่ติก็น่ารัก...เจ้าเล่ห์จริงๆ



และมาพูดถึงทั้งเล่มบ้าง โดยรวมแล้วก็สนุกดีค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ ก็แนะนำให้ลองอ่านนะคะ ถ้าอยากได้หลากหลายรสชาติและอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป

อาจจะสะดุดในเรื่องแรก ซึ่งน่าเสียดายเพราะควรจะเป็นจุดที่แข็งที่สุดของเล่ม เป็นโครงกระดูกเลยก็ว่าได้ แต่หลังจากนั้นก็ pick up the pace ได้ดีค่ะ ให้อารมณ์ที่หลากหลายตรงตามคอนเซ็ปพอสมควร
แต่สิ่งที่ทำเพย์ตั้นหงุดหงิดใช้ได้เลยคือการตรวจงานในเล่มค่ะ คำผิดคำเพิ่มเสริมเกินและคำตกโผล่มาตรึม (คือเยอะเกินไปสำหรับหนังสือที่มีพิสูจน์อักษรถึงสองคนนะคะ และเพย์ตั้นคิดว่าไม่ควรจะมีเลยด้วยซ้ำ) และเป็นทุกเล่มของสำนักพิมพ์นี้ที่เคยอ่าน อยากให้แก้ปัญหาจริงๆ ค่ะ ก่อนที่คนอ่านจะอิดหนาระอาใจจนพาลไม่ซื้อไปนะคะ

งานที่ผลิตออกมาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี แต่การตรวจทำให้เสียอารมณ์พอสมควร ไอ้เราก็มึนๆ อยู่แล้ว มาเจอรูปประโยคที่ผิดๆ เข้าไป เพย์ตั้นล่ะปวดหัว ตากระตุกคันไม้คันมืออยากจะแก้ต้นฉบับเอง (หล่อนจะไปยุ่งอะไรกับเขายะ)
การสะกดก็ไม่เหมือนกันทั้งเล่มค่ะ สรุปจะเอายังไง เช่น มนตร์หรือมนต์? (ใครก็ได้อธิบายทีเถิด กูเกิ้ลแล้วไม่ได้คำตอบค่ะ) เอสเพรสโซ่ หรือ เอสเปรสโซ่ คะ ?








Create Date : 24 กรกฎาคม 2554
Last Update : 5 มีนาคม 2556 21:12:48 น. 7 comments
Counter : 1116 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ



โดย: nanny01 วันที่: 24 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:57:03 น.  

 


ขี้เกียจพิมพ์อีก 4 เรื่องที่เหลือละนี่ 555


โดย: les-bisou วันที่: 24 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:26:12 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเพย์ตั้น

ต้องขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะคะ ตอนอ่านยิ้มปากแทบฉีก
ตัวเบาหวิว ทำให้มีกำลังใจ และหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ

อ้อ เดี๋ยวจะตกใจว่า เรื่องไหน เพราะคุณเพย์ตั้นรีวิวหลายเรื่อง
เรื่อง ความทรงจำครั้งใหม่ ใน เสิร์ฟรักรสกาแฟค่ะ
โรสจะนำรีวิวไปให้เพื่อนๆ ที่เขียนร่วมกันอ่านนะคะ
จะได้มีกำลังใจพัฒนางานเขียนให้ถูกใจนักอ่านมากยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ


โดย: โอลด์โรส (lekouy ) วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:20:38:24 น.  

 
ว้าวววว สวัสดีค่ะคุณเพย์ตั้น

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะสำหรับรีวิวนี้ แล้วอย่างที่พี่โรสบอกไว้ พวกเราจะนำไปพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

ดีใจจังที่คุณเพย์ตั้นอยากได้เอสเปรสโซ่อีกแก้ว อิอิ อ่านแล้วหน้าบานยิ่งกว่าเก่าเลยค่ะ ส่วนพี่เทร้นท์ (เสน่ห์แรงจริงตาคนนี้ 555) อยากบอกว่าพี่แกจะออกมาอีกค่ะ เนื่องจากไอซ์ยังมีเรื่องของน้องชายพี่แกเปิดทิ้งไว้อยู่ 555 น๊านนน โฆษณากันอย่างเนียนๆ

เรื่องคำที่ใช้ผิดนั้น ไอซ์ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีตอนแก้พลาดจุดนั้นไป


โดย: รวิณาธิตรา IP: 58.106.236.107 วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:21:00:21 น.  

 
ขอบคุณคุณเพย์ตั้นนะคะ สำหรับคำติชมหนังสือเล่มนี้

สำหรับคำชมจะเอาฝากนักเขียนค่ะ
ส่วนคำติ สนพ.ขอน้อมรับ และจะนำไปพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

ขอบคุณจากใจ
พี่กุ้ง
ฺBe Mine Publishing


โดย: ฺBe Mine Publishing IP: 58.9.158.120 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:21:34:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณมากๆ เลยสำหรับรีวิวนี้ค่ะ อ่านแล้วแสนเป็นปลื้ม
มูนจาก Caramel Macchiato: รักผมโดนใจมั้ยครับคุณ ค่ะ


โดย: ์ำNefertiti IP: 110.171.43.16 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:21:47:52 น.  

 
โหย อย่าเรียกว่ารีวิวเลยค่ะ มันดูเป็นทางการเกินไป ฮ่าๆ
แต่ก็...ดีใจที่แวะมาทักทายกันค่ะ ดีนะไม่มีใครเอาเปลือกทุเรียนติดไม้ติดมือมาด้วย ^^

Photobucket


โดย: les-bisou วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:22:09:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

les-bisou
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add les-bisou's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.