การฉีดปาก และ การฉีดร่องแก้ม ( Filler )
การฉีดปาก การฉีดร่องแก้ม ( Filler ) หรือที่หลายๆคนชอบเรียกว่า ฉีดคอลลาเจน ซึ่งจริงๆแล้วมักเป็นสารสังเคราะห์ที่ปลอดภัยเรียกว่า "ไฮยาลูโลนิค แอซิด" ( Hyaluronic acid ) ชื่อเล่นคือ "ไฮย่า" ลักษณะคล้ายเจลลี่หยุ่นๆ ฉีดไปในตำแหน่งที่ต้องการเติมเต็ม ซึ่งเทรนด์การฉีดปากนี้นิยมกันอย่างมากในกลุ่มดาราเกาหลี แม้จะอายุยังน้อย เพราะริมฝีปากที่อวบอิ่มได้รูป จะทำให้แลดูอ่อนเยาว์ หน้าสวย คมชัดขึ้น ตำแหน่งที่นิยมฉีด 1. ริมฝีปาก ฉีดได้ทั้งริมฝีปากบน และล่าง เพื่อให้ริมฝีปากอวบอิ่มได้รูป หรือเพื่อลดรอยเหี่ยว และร่องที่ริมฝีปาก เนื่องจากเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ริมฝีปากจะเริ่มบางมากขึ้นๆเรื่อยๆ ริ้วรอยก็มากขึ้นด้วย 2. ร่องแก้ม ร่องแก้มคือแนวเส้นที่ลากจากปีกจมูกมาสู่มุมปากทั้งสองข้าง ซึ้งเมื่ออายุมากขึ้นร้องแก้มจะยิ่งชัดขึ้นลึกขึ้น 3. ตำแหน่งอื่นๆ เช่นใต้ตา เมื่อคนเราอายุมากขึ้น เบ้าตาลึกขึ้น ก็อาจมีการฉีดเติมได้ หรือที่พบในดาราเกาหลีที่นิยมฉีดให้มีก้อนใต้ตาเพื่อขับเน้นให้ตาเด่นขึ้น แลดูเหมือนเยาว์วัยขึ้น ซึ่งการฉีดในตำแหน่งแบบนี้มีความเสี่ยงที่จะไหลไปรวมเป็นก้อนได้ การฉีด - ที่ร่องแก้มอาจทายาชา 45-60 นาที แล้วฉีด หรือฉีดยาชาที่เหงือกด้านบนให้ชาแล้วค่อยฉีด ซึ่งหากไม่ทาหรือฉีดยาชา จะค่อนข้างเจ็บ - ริมฝีปาก ต้องฉีดยาชาก่อนทำ เพราะจะเป็นบริเวณที่เจ็บมาก การฉีดปาก และร่องแก้ม นั้นไม่ง่าย ไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพราะมันคืองานศิลปะ ผสมกับหลักการแพทย์ แพทย์ที่เก่งๆสามารถฉีดได้สวยได้รูป อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งหากไม่ชำนาญอาจฉีดมาผิดรูปหรือเป็นก้อนได้ หลังฉีด - บวมขึ้นทันทีเพราะเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไป - จะปรากฎรอยเข็มที่ฉีด เป็นจุดแดงๆ ซึ่งหายเองใน 2-3 วัน - การบวมตรงตำแหน่งที่ฉีด โดยเฉพาะปาก อาจบวมอยู่ 2-3 วันก่อนจะกลับเข้ารูปที่สวยงามได้ ซึ่งตรงนี้สำคัญ เพราะแพทย์ต้องกะให้พอดีว่า ฉีดเท่าไหร่จึงจะสวยพอดีเพราะตอนฉีดมันจะมีอาการบวมร่วมด้วยซึ่งทำให้กะยาก ผลของการฉีดจะอยู่ได้นาน 7-8 เดือน ถึง ปีกว่าก็มี ขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีด ปริมาณที่ฉีด และ ฝีมือแพทย์ที่ฉีด ค่าใช้จ่ายในการฉีด ขึ้นกับสารที่ใช้ฉีดและปริมาณที่ใช้ฉีดต่อบริเวณ เพราะแต่ละคนใช้มากน้อยต่างกัน ราคาจึงเทียบยากมากๆ ที่พอจะแนะนำได้คือสารที่ปลอดภัยในการใช้ฉีดที่ผ่าน FDA Approved ของสหรัฐอเมริกาคือ ไฮย่า ยี่ห้อ Perlane Restylane ของสวีเดน เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงใช้กันมานาน มีผลวิจัยของคนไข้เป็นหลักเป็นฐาน ผ่าน อ.ย. จึงน่าจะปลอดภัยต่อการใช้ แต่ราคาก็น่าจะสูงตามมาตรฐานที่ต้องผ่าน FDA ด้วย ส่วนข้อควรระวังอย่างยิ่งคือ ซิลิโคนเหลว ถือเป็นสารที่ไม่ปลอดภัยอย่างที่สุด ในการฉีดเพื่อความงาม แต่กลับพบว่าคลีนิกเถื่อนต่างๆนิยมนำมาใช้เพราะหาง่ายและราคาถูก ถ้าเป็นแพทย์จริงๆที่มีความรู้และจรรยาบรรณ คงไม่นำมาฉีดกัน เพราะความน่ากลัวของซิลิโคนเหลวคือ มันไม่ย่อยสลายเอง และเมื่อเวลาผ่านไปมันมักจะไหลไปกองรวมกันด้านล่างของใบหน้า จับตัวเป็นก้อน หรือเป็นกระจุกๆ แลดูน่าเกลียด ส่วนการแก้ไขทำได้ยากถึงยากที่สุด และไม่สามารถการันตีได้ว่าจะแก้ให้กลับไปเหมือนเดิมได้หรือไม่ เพราะมันจะมีเนื้อเยื่อหุ้มอยู่ ขอแนะนำว่า ไม่ว่าใครจะชักชวนอย่างไร ต่อให้ทำให้ฟรี ก็อย่าฉีดซิลิโคนเหลวอย่างเด็ดขาด ค่าใช้จ่ายในการฉีดยังขึ้นอยู่กับฝีมือแพทย์ที่ฉีด เพราะถ้าฉีดไม่ดี ก็จะไม่สวย เบี้ยว จับตัวเป็นก้อนได้ แม้จะใช้สารชนิดเดียวกันก็ตาม (ปลาตัวเดียวกันแม่ครัวสองคนปรุงออกมารสชาติยังต่างกันเลย) ดังนั้นควรเลือกคลีนิกที่ไว้ใจได้ อย่าเลือกคลินิกเถื่อน หรือถูกเกินไป ควรเลือกคลินิคที่มีคนที่ไปทำแล้วแนะนำต่อว่าดี น่าจะปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุดครับ :) เอารูปปากสวยๆ กับดาราเกาหลีไปดูก่อนละกันครับ
Free TextEditor
ดื่มกาแฟมั้ยคะ :D
ปากปัจจุบันของอึนเฮ
Create Date : 22 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 12 ตุลาคม 2553 0:01:55 น. |
|
33 comments
|
Counter : 16347 Pageviews. |
|
|
|
คือว่าไม่อยากเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแท่ง และ คาง ไม่อยากใช้ซิลิโคนแท่ง อยากใช้ไขมันของตัวเอง ไม่ทราบว่าหมอเค้าจะเอาไขมันจากส่วนไหนของร่างกายเราครับ และ ไขมันนั้นมันจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ และค้าใช้จ่ายจะตกประมาณเท่าไหร่ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าอย่างมากๆครับ