ธุดงค์ไพร บทที่ 1 ตอน ชายดง (2)
แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้ว ท้องฟ้าที่เคยสว่างมองเห็นต้นไม้ใหญ่ต่างๆ นานาพันธุ์ กลับขมุกขมัว ดูมืดมิดน่ากลัวเข้าไปอีก หมู่นกกาพากันบินกลับรัง ส่งเสียงเซ็งแซ่ บ่นยอดไม้ใหญ่ ห่างออกไป เสียงไก่ป่าขันเจื้อยแจ้ว อยู่ที่ใดสักแห่งในหุบเขา ขับขันกันสลับไปมาอยู่หลายฝูง พวกมันคงจะเตรียมขึ้นขอนนอนประจำของมัน อากาศตอนนี้เริ่มเย็นยะเยือกมากขึ้น ทั้งที่จริงยังไม่สิ้นแสงตะวันเลย แกงอีเห็น ของลุงนี่ยังเด็ดเหมือนเดิมนะ สิงห์เอ่ยปากชมแกงอีเห็นที่กินไปเมื่อตอนบายสี่โมงเย็น เออ...เหล้าแดงของเอ็งก็รสดีไม่น้อย แกพูดจบก็หยิบผ้าข้าวม้าที่สะพายไหล่มาเช็ดปาก เหมือนแกยังเปรี้ยวปากอยู่ โน่นไง ไอ้เคิ้งเดินจูงควายกลับมาแล้ว ถ้ามันเห็นเอ็งมาคงจะดีใจ พรานเฒ่ารู้ดีว่าถ้าสิงห์มาก็ไม่พลาดที่จะต้องเข้าป่า และรู้ว่าเจ้าเคิ้งเอง คงชอบเข้าป่า มากกว่าจูงควายไปเลี้ยงเป็นไหนๆ อ้าว...พี่สิงห์ มาตอนไหนนี่ มาถึงนานหรือยัง เคิ้งออกอาการดีใจเมื่อได้เห็นสิงห์ หลังจากจูงควายไปไว้ในคอก จากนั้น จึงรีบขึ้นไปหาชายหนุ่มบนกระท่อมทันที พี่มาถึงตั้งแต่ตอนบ่ายๆแล้ว นั่งล่อเหล้ากับเขียดทอดของเอ็งจนจะหมดจาน สิงห์พูดทักทายเคิ้ง อย่างสนิทสนม มีอีกเยอะพี่สิงห์ เมื่อวันก่อนผมไปส่องมาได้เป็นถังเลย เขียดเยอะจัดปีนี้ จับกันเพลินเลยพี่ เดี๋ยวผมทอดให้กินอีกจาน พูดจบ เคิ้งรีบรับอาสาทอดเขียดให้สิงห์อย่างเต็มใจ สักพักกลิ่นควันไฟก็ลอยมาจากในครัว ทอดแล้วใส่กระเทียมด้วยนะเคิ้ง รับรองเอร็ดกว่าเดิมอีก สิงห์แนะนำให้ใส่กระเทียมลงไปด้วยขณะที่เคิ้งกำลังทอดเพื่อดับกลิ่นคาวของเขียด ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขียดทอดจานใหญ่ก็พร้อมเสริฟ แหม...ถ้าได้พริกไทยป่นล่ะเรี่ยม ลุงโส่ยเสริมมาอีกหน่อย โถ...พ่อ! จะไปเอาจากไหนพริกไทยป่น แค่มีน้ำปลาก็ดีนักหนาแล้ว หรือจะลองพริกป่นดี เคิ้งหมายถึงพริกกะเหรี่ยง เอาไปคั่ว แล้วก็ตำให้ป่น เอามาโรยแทนพริกไทยป่น สิงห์ได้ยินแบบนั้นเข้าก็ร้องลั่น พอเลยๆ เดี๋ยวได้น้ำหูน้ำตาไหล เผ็ดกันตายห่ากันพอดี ไปไอ้เคิ้งไปหาถุงมาใส่เขียดทอด เดี๋ยวไปกินต่อที่บ้านน้าเบ เออเตรียมเสื้อผ้ากับของใช้ของเอ็งไปด้วย พรุ่งนี้ไปเที่ยวป่ากันโว้ย เดี๋ยวมืดค่ำแล้วจะลำบากลุงโส่ยและลูกชายของแกคือเคิ้งจัดเตรียมของใช้จำเป็นต่างๆจนเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นปืนแก๊ปกระบอกเก่าคนละกระบอก กระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่ดูไม่เหมือนกระเป๋าเท่าไหร่นัก เพราะเอาถุงปุ๋ยมาเย็บทำกันเอง ข้างในก็มีเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ไฟฉาย กับถุงข้าวสารอีกเกือบห้ากิโล แถมแกยังหิ้ว เหล้าป่ามาอีกสองแกลลอน ทั้งสามคนกำลังจะลงจากกระท่อม เคิ้งก็ร้องทักมา ไอ้พุ่มกลับมาพอดี นั่นได้ไก่ป่ามาด้วย เคิ้งชี้ให้สิงห์ดู พุ่มที่เดินมุดลอดออกมาจากซุ้มกอไผ่หลังบ้าน ดีเลย มาถึงก็ดีแล้วไอ้พุ่ม ไปเตรียมของพรุ่งนี้ไปเข้าป่ากันดีกว่าได้มาหลายตัวด้วยเก่งนี่เรา สิงห์ตะโกนบอกพุ่ม ที่กำลังเดินเข้ามาหา มันเปรียวครับเลยได้มาแค่สามตัว ไปได้มาแถวๆหุบตาสานโน่น มีอยู่หลายฝูง ถ้ามีลูกซองคงได้เยอะกว่านี้ แล้วพี่มาถึงนานยัง พุ่มเล่าที่มาของไก่ป่าสามตัว กับคำถามแบบเดียวกับ เคิ้ง เออๆอย่ามัวถามเลยวะ ไอ้พุ่มเอ็งเอาไก่ไปให้พ่อกับแม่เอ็งเถอะ แล้วก็บอกเขาด้วยว่าไปเที่ยวป่ากับพี่ ถ้าว่างเอ็งก็ไป แต่ถ้าติดงานที่ไหนก็ไม่เป็นไรนะ พี่กำลังจะไปบ้านน้าเบ สิงห์พูดพร้อมส่งไก่ป่าคืนกลับไปให้พุ่ม ว่างสิครับ วันๆผมก็ไม่ได้ทำอะไร ข้าวโพดก็ปลูกไปตั้งแต่ฝนลงหลายเดือนแล้ว นี่ผมก็หายิงนกยิงหนูไปวันๆ งั้นพี่รอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมจะรีบเตรียมของก่อน พูดจบ เจ้าพุ่มก็วิ่งกลับบ้านทันที แต่โยนไก่ป่าที่ยิงได้ให้เคิ้งรับไว้อีกหนึ่งตัว ดวงอาทิตย์ลับยอดเขาไปแล้ว เหลือเพียงแต่แสงสีส้มจับอยู่บนก้อนเมฆจางๆ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ผีตากผ้าอ้อม ควันไฟโพยพุ่งจากกระท่อมสามสี่หลัง คงเป็นเวลาหุงหาอาหารตามประสาชาวป่า ที่ใต้ถุนกระท่อมหลังหนึ่งไก่บ้านสามตัวพากันบินขึ้นเกาะราวนอน คงมีแต่ไอ้โต้งจ่าฝูงยังคงโกงคอขันอยู่บนเสาคอกควาย ที่มีเจ้าของบ้านนอนเคี้ยวเอื้องอยู่ข้างๆ ถัดออกไปจากคอกควายก็จะเป็นลำห้วย ซึ่งมีน้ำใสไหลเย็น บนผิวน้ำนั้นเริ่มมีละอองหมอกขึ้นจับอยู่จางๆ สิงห์ ชายหนุ่มจากในเมืองยังคงยืนทอดอารมณ์อยู่กับธรรมชาติที่ล้อมรอบตัวเขา บางครั้งก็สูดเอาอากาศเย็นสดชื่นเขาปอดลึก เวลานี้สิงห์คิดว่าไม่เสียเที่ยวและโอกาสที่ได้มาผจญภัยอีกครั้ง ถึงตัวเขาเองก็ไม่มีทางรู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกสักกี่ครั้งในชีวิต หรือจะมีป่าให้เขาได้เที่ยวอีกหรือเปล่า วู้...พี่สิงห์ ไปกันได้แล้ว ไอ้พุ่มมันพร้อมแล้ว เสียงเคิ้งป้องปากตะโกนเรียกสิงห์ที่มายืนอยู่ที่ปลายคันนาริมห้วย เอาๆ...ไม่ต้องรีบไอ้สิงห์ เดี๋ยวก็ได้ตกคันนา นั่นไงข้าว่าแล้ว ฮาๆ ลุงโส่ย ร้องบอกสิงห์ ที่เห็นสิงห์วิ่งมา แต่ก็ไม่ทันขาดคำของแก สิงห์ก็วิ่งเหยียบพลาดเอาขอบคันนาจนขาตกลงไปแช่โคลนอยู่ข้างหนึ่ง เล่นเอาพวกกะเหรี่ยงดงหัวเราะงอหายไปตามๆกัน บนเส้นทางเดินลางๆ ชายหนุ่มกับชายชราเดินคุยกันมาเรื่อยเปื่อย คงปล่อยให้สองกะเหรี่ยงหนุ่มเดินนำหน้าไปแบบไม่รีบร้อนนัก เส้นทางนี้ลัดเลาะไปตามตีนเขา ซึ่งฝั่งซ้ายมือจะติดกับภูเขาสูงทะมึน ที่เต็มไปด้วยต้นไผ่รวกที่ขึ้นอยู่เป็นดง สูงขึ้นไปก็จะเป็นพวกต้นไผ่นวล และไม้ยืนต้นจำพวก ไม้แดง ประดู่ ที่ขึ้นปะปนกันไปในดงไผ่นั้น ส่วนฝั่งขวามือของถนนจะเป็นลำห้วยที่ทอดยาวมาจากป่าลึกเบื้องหน้า เย็นย่ำลงไปทุกขณะ หมู่นกกาพากันบินกลับรังกันหมดแล้ว หลังจากตลอดทั้งวันพวกมันพากันออกหากิน คงมีแต่เสียงร้องกู่ขับขานกันเป็นระยะๆ ตามดงไผ่และยอดไม้สูง ครั้งหนึ่งสิงห์ต้องสะดุ้งเมื่อมีนกชนิดหนึ่งบินออกมาจากพุ่มสาบเสือเบื้องหน้า พอหันไปดูก็รู้ว่าเป็นนกกระปูด มันคงกำลังจะขึ้นรังนอน นอกจากนกกระปูดตัวนั้นแล้ว บนถนนยังมีนกตบยุงนอนหมอบนิ่งอยู่ มันคงเตรียมออกหากินแมลงตอนกลางคืน พอเคิ้งซึ่งเดินอยู่หน้าสุด เดินเข้าไปใกล้ มันก็ร้องจุ๋งๆ แล้วบินหนีไปหมอบอยู่ด้านหน้า พอพวกของสิงห์เดินไปใกล้ มันก็บินหนีอยู่บนถนนลูกรังอย่างนั้นเรื่อยไป บ่อยครั้งเข้ามันคงนึกรำคาญ จึงบินหลบเข้าไปในป่าทึบ สิงห์และกลุ่มกะเหรี่ยงดงยังคงเดินไปตามเส้นทางนั้น พอตัดขึ้นเนินที่อยู่เบื้องหน้า สภาพพื้นที่ก็เริ่มจะเดินสะดวกขึ้นกว่าเดิม คงเป็นเพราะ พรานเบ ลงแรงถากถางไว้เสียอย่างดี นอกจากจะถากถางบริเวณจนดูเตียนโล้ง บนเนินเขาเตี้ยๆนั้นยังมีต้นข้าวโพดขึ้นอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อย ลำต้นของมันดูอวบใหญ่เพราะสภาพความสมบรูณ์ของดิน ที่พวกมันได้อาศัยหล่อเลี้ยงชีวิตเพื่อรอวันผลิดอกออกฝักอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เลยจากดงข้าวโพดที่ขึ้นอยู่บนเนินนั้นแล้ว พวกของสิงห์ก็เดินตัดออกทางขวามือ ซึ่งมีถนนสายเล็กๆตัดลงไปตามเนินลาดชัน ที่ทอดลงไปถึงลานดินกว้างขวางเบื้องล่าง ที่ลานดินนั้นเองกระท่อมยกพื้นสูงแบบกะเหรี่ยงแท้ ดูโดดเด่นใหญ่โตกว้างขวางอยู่บนที่แห่งนั้น เพราะมีเสาบ้านถึงสิบหกต้น พรานเบพรานกะเหรี่ยงวัยสี่สิบกว่า กำลังสุมไฟกองใหญ่ไว้หน้าบ้าน เมื่อพวกของสิงห์เดินเข้าไปใกล้ หมาของแกที่ดูปราดเปรียวก็วิ่งกรูออกมาเห่ากันลั่น จึงทำให้พรานเบหันมามอง น้าเบ สวัสดีครับ สิงห์ยกมือไหว้พร้อมส่งยิ้มให้ หวัดดีๆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แกส่งภาษาทักทายแบบไม่ค่อยชัดนัก แต่ก็แฝงไปด้วยความยินดี ที่ได้พบกับสิงห์ คิดว่าจะไม่ได้เจอน้าเบแล้ว ยังเดินลุ้นมาตลอดทางเลยใจมาชื้นตอนที่เห็นควันไฟลอยมาแต่ไกลนั้นล่ะ พูดจบ สิงห์ก็โยนเป้ขึ้นไปไว้บนระเบียงของกระท่อมหลังใหญ่ ข้าก็เพิ่งกลับมาได้สักพักนี้เอง ไปหายิงกระรอกมาลาบกิน กำลังจะเผาเอาขนออกพอดี ไอ้สองตัวนี้มันเห่าถึงรู้ว่า เอ็งมา พูดจบแกก็โยนพวงกระรอกที่ยิงมาได้สี่ตัวลงไปในไฟที่แกพรากออกมาจากกอง วันนี้โชคดีจริง นอกจากจะได้กินไก่ป่าแล้ว ยังได้กินลาบกระรอกอีกไม่เสียเที่ยว สิงห์ร้องบอก หลังจากช่วยกันลำเลียงของต่างๆขึ้นไว้บนกระท่อม แล้วไก่ป่าตัวนี้จะทำอะไรกินดีพี่สิงห์ เคิ้งร้องถาม พร้อมโยนไก่ป่าไว้บนชานกระท่อม ต้มข่าเอาไว้ซดน้ำก็น่าจะดี สิงห์ออกความเห็น ไอ้พุ่ม เอ็งไปขุดข่ากับตะไคร้มาสักหน่อย เดี๋ยวข้าทำไก่ให้พี่สิงห์เอง ส่วนพ่อหุงข้าวแล้วกัน เคิ้งสั่งงาน พูดจบก็นั่งถอนขนไก่ป่า จากนั้นก็เอาไปลนกับไฟเพื่อให้ขนอ่อนของไก่ป่าออกจนมันเหลืองน่ากิน ไอ้พุ่มเก็บผักแพวมาด้วยข้าจะเอามาใส่ลาบ พรานเบป้องปากตะโกนบอกพุ่มที่เดินหายเข้าไปในดงข้างกระท่อม สิงห์เองก็ไม่ได้อยู่เฉยหลังจากจัดเรียงของต่างๆบนกระท่อมเรียบร้อยดีแล้ว ก็ลงมาช่วยพรานเบขูดขนกระรอก ในระหว่างที่นั่งทำกระรอกด้วยกัน สิงห์ก็ถือโอกาสคุยกับพรานเบถึงการมาหาในครั้งนี้ ซึ่งพรานเบเองก็คงจะรู้ดีว่า ถ้าสิงห์มาก็หนีไม่พ้นเที่ยวป่าเข้าดงอีกตามเคย แล้วเอ็งมาเที่ยวกี่วันล่ะ พรานเบร้องถาม ก็น่าจะหลายวันอยู่น้าเบ ผมกะว่าจะอยู่เที่ยวสักเจ็ดแปดวัน ว่าแต่น้าได้ไปเที่ยวบ้างหรือเปล่า สิงห์ถามด้วยความอยากรู้ ในขณะที่มือทั้งสองข้างยังทำกระรอกอยู่ เออ...ก็ไปมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ไปกับไอ้พรมันนั้นล่ะ ได้ตัวนิ่มมาตัวหนึ่ง สิบกว่าโลได้มั๊ง ได้ตรงโน่นล่ะแถวๆช่องผาแคบ กำลังจะเดินตัดขึ้นเขาสกแล้วเชียว ไอ้พะเปรียวมันเห่า เลยได้ตัวมันมา พูดจบแกก็หันไปมองเจ้าพะเปรียวที่นอนหมอบกระดิกหางอยู่ข้างๆ นอกจากพรานเบจะเป็นพรานฝีมือดีแล้ว แกยังมีหมาที่ทั้งเก่งและรู้งาน เจ้าพะเปรียวเป็นหมาไทยแท้เพศผู้ท่าทางปราดเปรียว ส่วนอีกตัวชื่อพะบอง หมาไทยแท้เพศเมียแต่ดูแก่กว่าเจ้าพะเปรียวอยู่หลายปี ถ้าเป็นคนก็อาจจะนับได้ว่า ป้ากับหลาน แต่มันก็ยังทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่พรานเบออกท่องป่า พวกมันสองตัวก็จะคอยออกตามนายของมันไปด้วย สัตว์ตัวไหนที่ควรแก่การล่ามันก็จะช่วยกันเห่าไล่ ส่วนตัวไหนที่ไม่ควรล่ามันก็จะไม่ส่งเสียงเลย แต่ถ้าครั้งใดพรานเบยิงกระรอกมันก็จะรู้ว่า กระรอกคือเป้าหมายของมัน พวกมันจะคอยวิ่งไล่บ้าง หรือไม่ก็เดินดมดูตามโคนไม้ ถ้ามีกลิ่นของกระรอกมันก็จะเห่าไล่ทันที แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นพรานเบก็ยังพลาดเดินเหนื่อยฟรี เพราะพวกมันพากันเห่างู ที่ริมห้วยหลังกระท่อม เจ้าเคิ้งกำลังนั่งทำไก่ป่า ส่วนเหนือขึ้นไปบนลำห้วย เจ้าพุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับของที่สั่งตรงจากธรรมชาติ ทั้งหัวข่าป่ากำลังอ่อนน่ากิน ผักแพวอีกกำใหญ่ แถมยังมีผักหนาม ยอดมะกอกป่าและผักกูดมาอีกอย่างละกำ ส่วนตะไคร้มีปลูกไว้อยู่แล้วหลังกระท่อม สิงห์รับอาสาทำต้มข่าไก่ พอตั้งน้ำเดือดได้ที่ก็ใส่ เกลือลงไปนิดหน่อย ตามด้วยมะขามเปียกที่ไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหนให้เปลืองเงิน แค่สิงห์เดินออกไปเก็บฝักที่หล่นอยู่เกลื่อนกลาดตามโคนต้นของมัน พอเนื้อมะขามเปียกหลุดออกดีแล้ว ก็ใส่ข่าอ่อนซอยที่มีมากเป็นพิเศษ ตามด้วยตะไคร้สับเป็นท่อนๆแล้วทุบพอแตกสองต้น หัวหอมแดงทุบสองสามหัว พอน้ำเดือดส่งกลิ่นหอมได้ที่ ก็เทไก่ป่า ที่เคิ้งสับไว้ให้แล้ว ลงไปในน้ำที่กำลังเดือดพล่าน พอเนื้อไก่เริ่มสุกได้ที่ ก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมดูเปรี้ยวไม่พอก็คั้นน้ำมะขามเปียกเติมลงไปอีก ปิดท้ายด้วยใบมะกรูดที่ปลูกไว้และพริกนกตบๆด้วยมีดพอแตก ที่พรานเบเก็บมาให้อีกกำมือใหญ่ ใส่ลงไปลอยฟอง ต้มข่าไก่ป่าฝีมือสิงห์ก็ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งกระท่อม เล่นเอาลุงโส่ยชักทนไม่ไหว ขอซดน้ำชิมดังโฮกใหญ่ บ๊ะ! ต้มข่าของเอ็งนี่มันเด็ดจริงๆเลยโว้ย ทั้งร้อน ทั้งเผ็ด ไอ้เบเอ็งทำลาบเสร็จหรือยังวะ พูดจบก็คว้าช้อนไปชิมต้มข่าไก่ของสิงห์อีกโฮก แล้วก็ทำหน้าเหยเก เพราะโดนลูกโดด คือพริกนกสดไปเต็มๆถึงสองเม็ด ส่วนพรานเบหลังจากทำกระรอกแล้วก็เอามาสับทั้งตัว ส่วนหัวและเครื่องในไม่เอา พอสับละเอียดแล้วก็นำไปคั่วต่อในกระทะ พอสุกได้ที่ก็เติมน้ำปลา มะนาวไม่มีก็ใช้ น้ำมะขามเปียกแทน คลุกเคล้าดีแล้ว ก็ใส่ข้าวคั่วและ พริกคั่วที่เคิ้งคั่วและตำให้ใหม่ๆ ได้รสที่ต้องการแล้วก็ใส่หอมหัวแดงซอยอีกสี่ห้าหัวลงคลุกเคล้าอีกที สุดท้ายใส่ใบผักแพวซอยอีกกำมือใหญ่ๆที่พุ่มไปเก็บมา ลาบกระรอกของพรานเบก็ใช่ย่อย เล่นเอาสิงห์อดที่จะขอชิมเสียไม่ได้ สุดยอดเลยน้าเบ แบบนี้ค่อยคุยกันได้หน่อย อยู่แต่ในเมืองกินแต่กระเพราหมูจนเอียนเต็มทนแล้ว สิงห์ไม่พูดเปล่าเดินไปคว้าขวดเหล้าในเป้ออกมาหนึ่งขวด เล่นเอาลุงโส่ยมองตาเป็นมัน เอาลุง เอาไปไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อน อยู่แต่ในป่าในดง ท่านคงเอียนเหล้าป่าเต็มที สิงห์ยื่นขวดเหล้าแดงให้ลุงโส่ย พอแกรับก็เดินลงไปรินใส่จอกไม้ไผ่ ที่ตรงส่วนก้นแก้วนั้นแกทำไว้สำหรับปักดินไม่ให้ล้ม พอจุดธูปเทียนเตรียมจะไหว้ สิงห์ก็ร้องบอกอีกว่า เดี๋ยวๆลุง...ไหว้แต่เหล้าได้ยังไงเล่า! ไอ้เคิ้งเอ็งตักต้มไก่ กับลาบกระรอกใส่ถ้วยไปด้วยอย่างละถ้วย ไอ้พุ่มข้าวสุกแล้วก็ตักใส่ไปอีกถ้วย สิงห์ร้องบอกพุ่มกับเคิ้ง ที่กำลังจัดเตรียมข้าวอยู่ในครัว
Create Date : 21 พฤษภาคม 2556 |
| |
|
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 13:25:54 น. |
| |
Counter : 988 Pageviews. |
| |
|
|