Il n'y a qu'un bonheur dans la vie, c'est d'aimer et d'être aimé.
|
||||
รีวิว kuwait airways กลับจากฝรั่งเศสสู่ประเทศไทย
หลังจากได้รีวิว ขาไปกันไปแล้ว >> รีวิว kuwait airways ไปฝรั่งเศส วันนี้ขอมาต่อขากลับ หลังจากดองไว้นานมาก กำหนดวันเดินทางกลับจากฝรั่งเศสของเราคือวันที่ 2 พฤษภาคม 2018 ก่อนออกเดินทางจึงได้ทำการเช็คอินออนไลน์ไว้ ซึ่งหลังจากเซ็คอิน สิ่งที่เราจะได้ก็คือใบคอนเฟิร์ม จะไม่ได้ Boarding pass เหมือนสายการบินอื่นๆ ( ถ้าเข้าใจผิดต้องขออภัยด้วยค่ะ ) ในส่วนของที่นั่งนั่น ขามาเป็นเช่นไร ขากลับก็เป็นเช่นนั้น ไฟล์ทจาก ปารีส ไปคูเวต จะจัดที่นั่งแบบ 2-4-2 ซึ่งเราก็ได้เลือกที่นั่ง เดิมคือ 25 A ส่วนไฟล์ทจากคูเวตไปกรุงเทพ จะเป็นที่นั่งแบบ 3-4-3 แต่ !!!! สองแถวหลังสุด ด้านซ้ายและด้านขวา จะจัดเป็น 2 ที่นั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็น 3 ที่ เราเลือกที่นั่ง 46A เหมือนตอนขามา ตัดภาพมาที่วันเดินทาง สำหรับสายการบินคูเวต ณ สนามบิน CDG เราจะต้องไปเช็คอินที่ Terminal 1 บริเวณ Hall 3 ก่อนไปเช็คอินเราก็เอากระเป๋าไป พันพลาสติก จริงๆไม่ได้กลัวกระเป๋าแตกหรอก แต่แรปไว้เพื่อว่าถ้ากระเป๋าแตกของในกระเป๋ามันจะได้ไม่ล่วงไปไหน 55 เสียค่าใช้จ่ายไป 16 ยูโร บริเวณที่เช็คอิน มีแปะ flight information ไว้ตรงเค้าน์เตอร์ ด้วย ชอบสายการบินนี้ตรงที่ได้น้ำหนักกระเป๋าเยอะ ถึง 46 โล ( กระเป๋า2ใบ ใบละ 23 กิโล ) หลังจากเช็คอินแล้ว ก็จะได้ Boarding pass มาสองใบ ส่วนกระเป๋าก็รอไปรับที่เดียวที่สุวรรณภูมิเลย ร่ำลากับแฟนเสร็จ ก็เดินเข้าไปผ่าน ตม. และ สแกนรักษาความปลอดภัย (ไม่แน่ใจว่าผ่านจุดไหนก่อน ลืมค่ะ --" ) ทางเดินไปที่เกท เกท 52 เครื่องที่่จะพาเราไปคูเวต สำหรับใครที่หิวน้ำ และ ไม่อยากซื้อน้ำเปล่าขวดละ สองยูโร เช่นเรา แนะนำว่าให้พกขวดน้ำเข้าไป จะมีมุมให้กดน้ำดื่ม อยู่บริเวณแถวๆหน้าห้องน้ำ หน้าตาเป็นแบบนี้ เราเสียรู้เพราะหาตู้ไม่เจอ จนกระทั่งเดินไปเข้าห้องน้ำถึงเห็น --" เริ่มเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องประมาณ บ่ายโมงครึ่ง ตอนนั่งรอขึ้นเครื่อง คิดไว้อยู่ว่า ผู้โดยสารคงไม่เยอะ และก็ไม่เยอะจริงๆ ในเคบินด้านหลังนี่โล่งเชียว เบาะข้างๆ เรา ไม่มีคนนั่ง ดีเลยจะได้เข้า ออก ไปห้องน้ำสะดวก เบาะหลัง และ แถวกลาง ถัดจากเราไปก็ว่าง คิดในใจว่าสบายละกรู มันจะต้อเงียบสงบแน่ๆ 555 แต่! ความสงบอยู่กับเราไม่นาน หลังจากสัญญานรัดเข็มขัดดับไป ผู้โดยสารโซนหน้า ก็แห่กันย้ายที่มานั่งด้านหลัง กันเต็มไปหมด และเสียงดังโวยวาย --" เราเจอคู่แม่ลูก เด็กผู้ชายน่าจะประมาณ 4-5 ขวบได้ นั่งถีบเบาะเรา และนางร้องเพลง + คุยแทบตลอดเส้นทาง อยากจะร้องไห้ --" มาดูเมนูอาหารกันดีกว่า เราเลือกเมนูไก่ ค่ะ ( แนะนำว่าถ้ามีเด็ก หรือ ไม่ทานเนื้อ และ อื่นๆ สามารถเข้าไปรีเควสได้เว็ปเลยนะคะ ) อาหารมาแล้ว เปิดมาดูหน้าตา คิดว่าเหมือนพวกแกงพะแนง อะไรประมาณนั้น รสชาดไม่ได้แย่อย่างที่เราคิดค่ะ ++ ขอเล่านิดนึง ด้วยความที่ผู้โดยสารย้ายที่นั่งไปมา เราเจอเคสนึง สั่งอาหารมังสวิรัต แล้วลุงกับเมีย ก็ดันย้ายที่ไปอีกที่นึง พอแอร์เอาอาหารมาเสิร์ฟ ปรากฏว่าไม่ใช่มัง ลุงคนนั้นก็เลยโวยวายใหญ่ ว่าทำไมรีเควสมาแล้วได้แบบ นี้ โถ่ลุง ก็ลุงย้ายที่นั่งเองอะ แอร์เค้าจะไปรู้ได้ไงล่ะ ตอนหลังลุงคงคิดได้มั้งว่าผิดเอง ถึงได้เงียบไป ++ กินอิ่มก็ปิดหน้าต่าง ปิดไฟนอน ค่ะ ส่วนมื้อที่ 2 ก่อนเครื่องลง เป็นอาหารว่าง มีชา กาแฟ และ ขนมค่ะ รสแอปเปิ้ล อร่อยดี บรรยากาศก่อนเครื่องลง เรามาถึงสนามบินประมาณสองทุ่มครี่งได้ ระหว่างรอ ออกจากเครื่อง พอเดินออกจากเครื่องมาก็งงๆ นิดหน่อย ทำไมไม่เหมือนตอนขามาฟะ ?? รอบนี้พอเดินเข้าประตูมา ต้องเดินขึ้นบันไดไปก่อน แล้วค่อยเดินต่อไปที่เกต ( ไม่ทันได้ถ่ายรูปไว้ ) บรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสาร เรามีเวลารอต่อเครื่อง ประมาณ 1.30 น่าจะได้ ระหว่างรอก็หิว ไปซื้อไก่กินอีกแล้วจ้า ทีแรกคิดว่าจะเอาไปกินบนเครื่อง ลังเลอยู่นานกลัวตรงจุดตรวจเค้าให้ทิ้ง ก็เลยนั่งกินมันตรงหน้าเกทนี่เลย ไฟล์ทขากลับดูอบอุ่นดี คนไทยทั้งนั้นเล้ยจ้า ไฟล์ทนี่เท่าที่ดูผู้โดยสารน่าจะเต็ม แต่พอได้ขึ้นเครื่องเท่านั้น แหละ โซนหลังก็ยังมีที่ว่าง ส่วนเราก็นั่งคนเดียวอีกตามเคย สำหรับอาหารค่ำนั้น มือนี้เราเลือกปลา เป็นความรู้สึกที่ว่า คิดผิด โคตรรร คิดผิดมากๆ หน้าตาอาหาร ที่ว่า เหมือนผัดหมี่ ที่เอาไปผัดรวมกับผัดเปรี้ยวหวาน รสชาดนั้น น้ำตาจะไหล เลยเลือกกินแต่ปลาแทน เสียดาย 555 อาหารมื้อนี้ที่อร่อยสุด น่าจะเป็นโค้ก กับ ขนมปัง 55 หลังจากกินอิ่ม ก็ได้เวลาพักผ่อน ผู้โดยสารก็มาหาที่นอนกันเช่นเคย บรรยากาศก็เป็นเช่นนี้ สบายแค่ไหนคิดดู๊ววว บรรยากาศตอนปิดไฟ บริเวณโซนที่เรานั่งนั้น จะใกล้ห้องน้ำ และ ห้องครัว ดังนั้น ก็จะมีแสงไฟ และ เสียงรบกวนเล็กน้อย ก่อนเครื่องลง ก็ได้รับ อาหารว่าง ได้มาเป็นกล่องๆแบบนี้ ส่วนอันนี้เป็นรูปที่นั่ง ถ่ายไว้ก่อนออกจากเครื่อง ออกจากเครื่อง ก็ไปผ่าน ตม รับกระเป๋า เสร็จเป็นอันสิ้นสุดการเดินทางค่ะ เท่าที่เราได้ใช้บริการ เราว่าดีกว่าที่เราคิดไว้ เพราะอ่านรีวิวมาเจอแต่ด้านไม่ดี หรือ อาจจะเป็นโชคดีของเราในครั้งนี้ แต่เราก็ยังอยากใช้บริการในครั้งต่อไปอีกค่ะ :) อ่อ ลืมบอก ว่า ถ้าใครที่นั่งโซนเดียวกับเรา ถ้าขึ้นเครื่องช้าอาจเจอปัญหาเดียวกันกับเราคือ ไม่มีที่เก็บกระเป๋าเนื่องจากเต็ม ( เพราะบางช่องใส่กระเป๋าของแอร์ และ ถุงผ้าห่ม ) ขอจบการรีวิว ไว้เพียงเท่านี้ ถ้านึกอะไรออกจะมา edit เพิ่มค่ะ รีวิว kuwait airways ไปฝรั่งเศส
หลังจากวีซ่าผ่านแล้ว ก็ถึงเวลาต้องซื้อตั๋วเครื่องบิน ซึ่งช่วงนั้นดูราคาถูกที่สุดจะเป็นสายการบินจีน ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าไปต่อเครื่องอาจจะต้องขอวีซ่า และดูวุ่นวายเกินไป และแล้วก็เจอราคาตั๋วของคูเวตแอร์แอร์เวย์ ซึ่งราคาน่าคบหา ขอสารภาพตรงนี้เลยว่าไม่รู้จักสายการบินนี้มาก่อนเลย เลยกลัวๆนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ทันได้อ่านรีวิว ก็กดจองไปแล้ว 55 ข้อดีของสายการบินนี้ คือให้น้ำหนักกระเป๋าเยอะ คือให้ 2 ใบ ใบละ 23 กิโลกรัม ส่วนแครี่ออนได้ น้ำหนัก 7 กิโล ค่าตั๋วไปกลับอยู่ที่ 19,690 บาท ตอนจองตั๋วสามารถเลือกที่นั่งได้เลยค่ะ ปกติแล้วเราเป็นคนชอบเข้าห้องน้ำบ่อย ก็มักจะเลือกที่นั่งที่ติดทางเดิน ถึงแม้ว่าจะอยากดูวิวจากหน้าต่างสักแค่ไหน แต่การต้องรบกวนคนข้างๆลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อยๆ คงไม่ดีแน่ flight จากไทย ไป คูเวต ( KU414 )ใช้เครื่องบิน BOEING 777-300 ER ที่นั่งในชั้นประหยัดจะจัดแบบ 3-3-3 ก่อนจะเลือกที่นั่งเราก็พยายามเข้าเว็ป seatguru เพื่อเปรียบเทียบดู แต่ก็พบว่าไม่มี seat plan ของรุ่นนี้เลย ที่บอกไปข้างต้น ที่นั่งในชั้นประหยัดจะจัดแบบ 3-3-3 แต่ !!!! สองแถวหลังสุด ด้านซ้ายและด้านขวา จะจัดเป็น 2 ที่นั่ง ส่วนตรงกลางก็เป็น 3 ที่ ด้วยความที่เค้าจัด แบบ 2-3-2 ในสองแถวหลังสุด เราจึงเลือกที่นั่งหมายเลข 46A อย่างดีก็รบกวนเพียงแค่หนึ่งคน ถ้าเราจะไปเข้าห้องน้ำ ส่วน flight จาก คูเวต ไป ปารีส จะใช้เครื่องบิน Airbus A330-200 จัดที่นั่งแบบ 2-4-2 เราเลือกที่นั่ง 25 A ในส่วนของอาหาร เราสามารถเลือกได้ ถ้าต้องการ special food หรือ ความต้องการอื่นๆ โดยเราได้รีเควส ซีฟู้ด สำหรับ flight จาก คูเวต ไป ปารีส ก่อนเดินทางมีความกังวลนิดหน่อย เพราะมาอ่านรีวิวของสายการบินนี้ ค่อนข้างเจอแต่ด้านลบ กลัวโดนเท กลัวไฟล์ทดีเลย์ แต่ก็ต้องลองดู เช็คอินออนไลน์ได้ 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เมื่อเข้าไปเชคอินออนไลน์แล้ว จะไม่มีให้ปริ้น boarding pass แต่เราก็จะได้ไฟล์ confirmation มีบอกเลขที่นั่ง และ ข้อมูลอื่นๆ เราเดินทางวันที่ 2 เมษายน 2561 ไปถึงสนามบินประมาณ ทุ่มครึ่ง จากนั้นก็ไปเช็คอินที่ ROW S เกทสำหรับขึ้นเครื่องวันนี้ คือ E1 ก่อนลงไปที่เกท ต้องมีการตรวจอีกครั้งที่หน้าเกท มีการตรวจกระเป๋า สแกนตัว ถ้าผู้หญิง เค้าจะมีม่านกั้นไว้ แล้วจะให้ไปตรวจในม่าน ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกขึ้นเครื่อง เท่าที่ดูผู้โดยสารค่อนข้างเยอะ เราเดินไปขึ้นเครื่องโดยผ่านชั้นที่เราไม่คู่ควรไปค่ะ 555 เดินไปจดสุดเลยค่ะ ที่นั่งเราอยู่ด้านใน แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ไม่มีที่เก็บกระเป๋าค่ะ เพราะมันเต็ม !! เนื่องจากที่เก็บของเหนือที่นั่งเรา เป็นที่เก็บผ้าห่มค่ะ คุณแอร์เลยหาที่วางให้ โดยต้องเอาไปด้านหน้าถัดจากที่นั่งเราไปสามสี่ที่ และนี่คือที่นั่งของเรา 46A บนที่นั่งจะมีแต่หมอนวางไว้ให้นะคะ ส่วนผ้าห่มเดี๋ยวคุณแอร์ เค้ามาเดินแจกค่ะ ชาวต่างชาติบางคนใจร้อน ฉีกถุงหยิบเองเลย ที่นั่งกว้างดีค่ะ เราเป็นคนตัวใหญ่ แต่ก็นั่งสบาย ไม่อึดอัด ตรงส่วนที่รองคอนั้น สามารถปรับระดับขึ้นลงได้ และ สามารถหักมุมเข้า เพื่อให้รองรับกับคอเราได้ด้วย ผ้าห่ม จอด้านหน้าที่นั่ง ที่นั่งของเราซึ่งถ่ายจากด้านหลัง จะสังเกตได้ว่า จะจัดแบบ 2 ที่นั่ง สำหรับสองแถวสุดท้าย ห้องน้ำ สะอาดดี ค่ะ แต่บินไปสักพัก มันก็จะเละๆหน่อย แต่เค้าก็มาทำความสะอาดอยู่เรื่อยๆค่ะ ช่องสำหรับใส่สบู่ก้อนเล็กๆ แต่ตรงนี้แอบมีคราบดำๆ หน่อย และแล้วก็ถึงเวลาอาหารค่ำ ถ้าจำไม่ผิด จะมีให้เลือกปลา กับ เนื้อ สายการบินนี้ไม่มีหมู และ ไม่มีเสริฟแอลกฮอล ค่ะ เราเลือกปลา สำหรับมื้อค่ำนี้ค่ะ อาหารมื้อนี้ เป็นผัดปลา อร่อยดีค่ะ แต่รูปจะมืดๆหน่อย มีส้มตำด้วย อร่อยดี แต่ไม่กล้ากินเยอะ กลัวงานจะเข้า ของหวาน เป็นเค้ก ทานอาหารเสร็จก็หรี่ไฟในห้องโดยสาร ให้ผู้โดยสารพักผ่อน ที่ไหนว่างๆ ก็นอนยาวไปค่ะ ก่อนเครื่อง Landing ประมาณ 1.30 ชั่วโมง จะมีเสิร์ฟ แซนวิซ บรรยากาศข้างนอก ก่อนเครื่อง landing ตอนจะลงจากเครื่องคุณผู้ชายข้างๆ บอก bye bye กลัวเค้ารำคาญมาก เพราะเราเข้าห้องน้ำ เราหลับๆตื่นๆแต่เห็นเค้านั่งดูหนังตลอด มีเวลาต่อเครื่องประมาณ 5 ชั่วโมง ก่อนที่เราต้องบินไฟล์ทต่อไปเวลาประมาณ 7 โมงครึ่ง สนามบินคูเวตภายในอาคาร ไม่ใหญ่มาก มีร้านอาหารอยู่นิดหน่อย ที่นั่งนอกเกท มีจำนวนไม่เพียงพอกับผู้โดยสาร บางคนก็นั่ง หรือ นอนกันที่พื้น เราก็คนนึงที่ไม่มีที่นั่ง เลยมาหาอะไรกิน และ นั่งอยู่แถวนี้สักพัก ก่อนมาเราแลกเงินคูเวตไว้นิดหน่อย เพื่อหิว จะได้หาซื้ออะไรกิน เพราะรอต่อเครื่องนาน หลังจากอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเดินสำรวจสนามบิน เราสมัครแพคเกจ sim2fly ไว้ กะว่าจะเอาไว้ใช้ที่คูเวต สรุปใช้ไม่ได้จ้า ไม่มีสัญญานเลยแม่แต่นิดเดียว อ่านรีวิวมา เค้าบอกว่าห้องน้ำสกปรกมาก นี่ก็เลยอยากลองของ 55 ไปค่ะ ไปเข้าห้องน้ำกัน ห้องน้ำแถวเกท 1 - 2 ตรงนี้ไม่สกปรกมากค่ะ เท่าที่เข้าทั้งขาไปและขากลับ หลังจากนั้น เราก็เดินแถวเกทที่เราจะต้องขึ้นเครื่อง ตรงนั้นจะมีห้องที่นั่งรอของผู้โดยสารสายการบินคูเวต ตรงนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับเกท 20 ตรงนี้จะมีห้องน้ำอีก 1 ห้อง พอเราลองไปเข้า ตรงนี้จะคนเยอะมาก และ สกปรกมาก จึงตัดสินใจเดินไปเข้าฝั่งเกท 1-2 แทน พอได้เวลาสำหรับไฟล์ทต่อไป ก็ไปต่อแถวค่ะ เพื่อสแกนกระเป๋า สแกนตรงหน้าเกทนั่นและค่ะ เรากะว่าจะพกขวดน้ำขึ้นไปกินด้วย เพราะชอบหิวน้ำ แต่โดนสกัดดาวรุ่ง ต้องทิ้งตรงหน้าเกทค่ะ เข้าเกทไปแล้ว ก็ไปนั่งรออยู่พักใหญ่ และ เกทนี้ที่นั่งไม่เพียงพอค่ะ ยืนรอกันอีกเพียบ และเป็นบัสเกทค่ะ ยืนรอกันนานจนคนเริ่มบ่น ทำไมถึงไม่ได้ขึ้นเครื่องสักที จนในที่สุดก็ได้ไป ค่ะ และนี่คือบรรยากาศภายในสนามบินคูเวต เครื่องบินที่จะพาเราบินไปฝรั่งเศส ที่นั่งจัดแบบ 2-4-2 นั่งได้แปปเดียว กัปตันก็ประกาศพร้อมออกเดินทาง ไวมากเลย ไฟล์ทนี้ เรานั่งคนเดียวค่ะ สบายไป จะเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องรบกวนใคร บรรยากาศของคูเวต ยามเช้า ถ่ายจากบนเครื่องบิน สวยไปอีกแบบ แอร์เดินมาแจกเมนูอาหารค่ะ แต่เราหารูปไม่เจอ และอีกอย่าง เรารีเควส ซีฟู้ด สำหรับไฟล์ทนี้ อาหารมาก่อนคนอื่นเลยค่ะ ลุ้นว่าหน้าตาจะเป็นยังไง และนี่คืออาหารเช้าค่ะเป็นเหมือน ไข่ตุ๋นกับกุ้ง ไฟล์ทเช้า มีเสิรฟ ชา กาแฟ ค่ะ ไม่มีน้ำอัดลมค่ะ ส่วนน้ำเปล่า แอร์จะใส่ถาดมาเสิรฟ อีกมื้อนึงก่อนเครื่องลง เป็นขนมปัง และ ชา บรรยากาศระหว่างทาง ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง เราก็มาถึงปารีสค่ะ สรุป สำหรับสายการบินนี้ ทั้งไป และ กลับ ดีกว่าที่เราคิดไว้เยอะค่ะ อาหาร ตัวเครื่อง ที่นั่ง และ การบริการ ไฟล์ทไทย - คูเวต , คูเวต - ไทย แอร์ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยค่ะ อีกอย่างได้น้ำหนักกระเป๋าเยอะด้วยค่ะ ขอจบรีวิว ขาไป ไว้เพียงเท่านี้ และ วันหลังจะมาเขียนรีวิว สำหรับขากลับค่ะ เฮฮา ลั้ลลา ที่ หาดพลา จ.ระยอง
3 ปีที่แล้ว คือ ครั้งล่าสุดที่ได้ไปเที่ยวทะเล ชะอำ
สนุกมากๆ แต่น่าเบื่อนิดนึง ตรงที่คนชวนไป ไม่ยอมลงทะเล เพราะ กลัวดำ กลัว ผิวเสีย แล้วมึงจะไปทำไมมิทราบคะ กลัวไม่สวยก็นอนดูทีวีที่บ้านเหอะ โดนแดดนิดหน่อยก็ไม่ได้ ออกนอกเรื่องไปเยอะ แล้ว ช่วงเวลา 3 ปี หลังจากที่กลับจากชะอำ ก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวทะเล ที่ไหนเลย ยกเว้น ทะเลกรุงเทพ สวนสยาม ^^ และแล้ว ความฝันก็เป็นจริง เพราะว่าลูกชายของเพื่อนพ่อ จะบวช ที่ จังหวัด ระยอง พ่อก็จะพา ไปช่วยงานแล้ว ไปเที่ยวทะเลต่อ ตื่นเต้นมาก 55 ตื่นเต้นกว่าน้องตัวเล็กๆที่บ้านอีก ^^ กายพร้อม ใจพร้อม และแล้ววันที่ รอคอยก็มาถึง วันที่ 28 พฤษภาคม 2554 นัดรถมารับเวลา ตีห้า เพราะกะว่าจะไปให้ทันแห่นาค บรรยากาศยามเช้าที่แสนสดใส หลังจากนั้นไม่บรรยาย เพราะง่วง เลย แอบงีบ ตื่นมาอีกที เพราะปวดฉิ้งฉ่อง ถึงไหนแล้วก็ไม่รู แต่รู้ว่า ฝนตก แวะปั๊มเข้าห้องน้ำสักนิด มีกวางให้ดูด้วยอะ ตกลงปั๊มน้ำมัน หรือ สวนสัตว์ กำลังกินอาหารเลย หลังจากเพลิดเพลินจำเริญใจแล้วก็ออก เดินทางต่อ ขึ้นรถได้ก็หลับอีกแล้ว ไม่รู้จะทำอะไร และแล้วเราก็ถึงบ้านฉาง บรรยากาศยังคงเหมือนเดิม จะได้ว่า ไปครั้งล่าสุดประมาณ ม.3-ม.4 เกือบ 10 ปี แล้ว ^^ ประมาณ 8 โมง ก็เดินทางมาถึงวัดบ้านฉาง ปรากฏว่า นาคเข้าโบสถ์ไปแล้ว ปล่อยให้พ่อกะ แม่ ควง กันไปเที่ยวงาน ส่วนลูก เพื่อนลูก และ หลาน รออยู่ด้านนอก ทีแรกพอบอกว่าจะพาไปปล่อยที่ทะเลก่อน แล้ว พ่อจะมาช่วยงาน แต่ ต้องมาวัดก่อน ซะงั้น ไอ้เจ้าน้อง 2 คนที่มาด้วย รอเล่นทรายที่ทะเลไม่ไหว งั้นขอเล่นทรายที่วัดก่อนแล้วกัน พ่อแม่ ออกมาเห็นหลานขำกันใหญ่ พ่อบอกว่า เดี๋ยวไปส่งไว้ทะเลก่อน เดี๋ยว พ่อกลับมาช่วยงานอีกรอบ ลั้ลลา ขึ้นรถ ได้ กระหน่ำ sun block กันสุดชีวิต 555 แอบกลัวนิดนึง และแล้วเราก็มาถึงทะเล ลืมบอกไปว่าที่นี่คือ หาดพลา อำเภอ บ้านฉาง จัด พาโนรามา แบบ มินิๆ สัก 2 รูป อุปกรณ์พร้อม >>> ห่วงยาง <<< >>> ที่ตักทราย <<< เก้าอี้แดง นั่ง ฟรี แต่ต้องสั่งอาหาร ส่วนเราพาอาหารมาเอง ก็เลย นั่งแบบเสียตัง เป็นเก้าอี้สีฟ้า หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็ถึงเวลาสำรวจทะเลแล้ว นี่คือศาลาริมทะเล คนที่มาตกปลา ก็ปักเบ็ดไว้ แล้วมานั่งเฝ้าหลบแดด ตรงนี้ เจอเปลือกหอยสวยดี เดินไปเดินมาก็เจอเศษแก้วเยอะ เหมือนกัน ต้องระวัง ถ้าคนไม่มักง่ายแบบนี้ ทะเลบ้านเราคงจะสวยกว่านี้อีกเยอะ และแล้วก็คงต้องลงน้ำซักที ชื่นใจมาก สนุกจริงๆ พ่อแอบถ่ายรูปไว้ให้ดูด้วย^^ ทัวร์ลูกเป็ด ประมาณ 3 โมงก็เก็บสมบัติกลับเข้ากรุงเืทพ เป็นอันว่าจบทริป ^^ เมื่อแม่หนีไปเที่ยวหนองคาย
วัดไตรมิตร วัดหัวลำโพง อีกครั้งตามคำเรียกร้อง (ของน้อง)
หลังจากเมื่อวาน (วันที่ 6) ไปวัดไตรมิตร มา
น้องที่ ม. รู้เลยอยากไปด้วย วันต่อมาเลยต้องไปเป็นเพื่อนน้อง อีกครั้ง แต่ัวันนี้แดดดี เรานัดเจอกัน แปดโมงครึ่ง ที่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานี รัชดาภิเษก จ้า พร้อมแล้วออกเดินทางกันได้เลย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราก็มาโผล่ ที่ วัดหัวลำโพงแล้วจ้า วันนี้ฟ้าใสกว่าเมื่อวาน มาไหว้พระก่อนค่ะ ทำบุญกันสักหน่อย ตามศรัทธา และ กำลังทรัพย์ค่ะ อ่าว นี่ มัน แมว ตัว เมื่อวานนี้ นี่หน่า ชื่อ คุณ ขาว ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลย เพราะ ต้องตามถ่ายรุปให้คุณน้องกับคุณเพื่อน หลังจากนั้น พาน้องไป มุลนิธิร่วมกตัญญู จ้า หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว เดินทางต่อสู่ วัดไตรมิตรกันเลยค่ะ ขึ้นรถได้ก็ คว้ากล้อง มาถ่าย เล่น โห!! คุณพี่คนขับ แท๊กซี่ คะ พี่จะรีบไปไหน ปาดซ้ายปาดขวา คนนั่งหน้า เสียวนะคะ ยังไม่พอ พอจะถึงวัด เห็นเข้าเลน ขวา นึกว่าจะเลี้ยว เข้าวัด ดันขับเลย เลยประตูวัดไม่พอ ดั๊น จอด ตรง เลน ขวา อ่าวแล้วกุ นั่งหน้า ลง ทางซ้าย รถมันจะเอากุไป กิน มั๊ย นะ เกือบตายหน้าวัดซะแล้น ด้วยความหิวโหย เพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้า ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า กินร้านนี้เลย คะ ติดกับวัดพอดิบพอดี ราคาไม่แพงด้วย อิ่มแล้ว ลุยต่อ วันนี้คนเยอะจัง เมื่อวานทำไมไม่เห็นรถอ่ะ ไหว้พระกันก่อนค่ะ ขึ้นไปด้านบนกันดีกว่าค่ะ วันนี้ไม่ลืมที่จะหยิบถุงรองเท้าไปด้วย หลังจากที่เมื่อวานไม่ได้เอาไป รูปจำลอง ค่ะ ตามมาที่ชั้น 1 ค่ะ ข้อห้าม ต่างๆคะ ลงชื่อแล้ว เข้าไปชม วีดีทัศน์ ค่ะแต่เป็นรอบภาษาอังกฤษ ชมวีดีทัศน์ แล้ว ก็ไปชมนิทรรศการ เลยจ้า ชมภายกันเลย นะคะ ไม่เน้น บรรยาย ขายอะไรบ้างเนี่ย อ่าว มี งานแต่งงานด้วย ไปแอบดู ดีกว่า เพราะ เค้าไม่ได้เชิญ อิอิ อาหารเต็มโต๊ะเล้ย ถัดไปอีกหน่อยเป็นโรงงิ้ว ลุง คะ งิ้ว เล่น แล้ว ยังมัวแต่คุยกันอีก เตรียมตัวไป ชั้น สองต่อคะ นิทรรศการ ชั้น 3 บรรยากาศ ภายในห้องชมวิดีทัศน์ ดูกันเลยดีกว่า ว่าข้างในมีอะไรบ้าง หลังจากชมเสร็จ เชิญ ชั้นสุดท้ายเลยคะ น้ำมนต์ ค่ะ ส่องลงไปด้านลง อีกสักรูป ก่อน กลับ ลืมบอกไปว่า คนไทย ไม่เสียตังค์นะคะ ถ้าชาวต่างชาติเสียคะ กลับบ้านแล้วคะ ก่อนกลับ แวะ ถ่ายรูปข้างทาง คะ |
cochonelle
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]
Group Blog All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |