Krabi 4 Islands Tour




24 พฤศจิกายน 2559

หลังจากที่เราไปเดินสอบถาม ราคาทัวร์ 4  เกาะ ก็พบว่า แต่ละร้านก็ราคาพอๆ กัน  เราตั้งใจจะซื้อร้านใกล้ๆ ทางเข้า โรงแรม แต่เค้าติดลูกค้าคนอื่นอยู่  รอนาน เราเลยเดินไปถามอีกร้าน 
สำหรับ speed boat   นั้น  ราคา 800 บาทต่อคน
 (ยังไม่รวมค่าเข้าอุทยาน คนไทย 40  ต่างชาติ 400 ) 



 ทางร้านแนะนำ ทัวร์ ของ sea eagle   ในใบเสร็จก็จะระบุชื่อเรา 
 ชื่อทัวร์  ชื่อบริษัททัวร์ เวลาที่เค้าจะมารับ  และ ชื่อโรงแรม

สำหรับทัวร์ในราคา 800  นี้ รวมค่ารถรับส่งจากโรงแรม , ค่าเรือ , 
ค่าอาหารกลางวัน เป็นอาหารกล่อง , ผลไม้ , น้ำดื่ม , เสื้อชูชีพ ,
 หน้ากากดำน้ำ , ไกด์ ,  และประกัน 


สิ่งที่เตรียมสำหรับไปเที่ยวเกาะ ครั้งนี้  เราเตรียม ครีมกันแดด , แว่นตา , 
หมวก และ ยาดม  เพราะกลัวเมาเรือ 

สำหรับทัวร์ 4 เกาะ  เราจะไปที่  ทะเลแหวก , ถ้ำพระนาง , เกาะไก่ , เกาะปอดะ 

จริงๆ ถ้าอยากประหยัด ได้ราคาถูกกว่า นี้ อาจจะเลือกใช้บริการ เรือหางยาวก็ได้
  แต่เราอยากใช้เวลาบนเกาะเยอะๆหน่อย  เราจึงเลือกไปกับเรือสปีดโบ้ท 

ตอนเช้าเราออกไปรอที่ lobby  เพื่อรอรถมารับ ก็แอบกลัวนะ ว่าเหยยย  จะโดนหรอกปะวะ
  แต่รถมารออยู่แล้ว  มาก่อนเวลานัดด้วย  เป็นรถกระบะ สองแถว 
 หลังจากรับพวกเราแล้วก็ไปรับตามโรงแรมอื่นๆอีก

ก่อนจะขึ้นรถก็ได้ ริสแบนด์  สีส้ม เพื่อแยกกลุ่ม







จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่ หาดนพรัตน์ธารา  เพื่อลงทะเบียน โดยจะแบ่งตามกลุ่ม
  เช่นทัวร์สี่เกาะ , เกาะห้อง , เกาะพีพี 





ได้เวลาอันควร  ไกด์ ก็เดินนำพวกเราไปที่เรือ ค่ะ  ณ ตอนนั้นมีเราเป็นลูกทัวร์ คนเดียว ที่เป็นคนไทย  นอกนั้นก็ชาวต่างชาติหมดเลย   ก่อนเราจะขึ้นเรือทุกคนต้องถอดรองเท้า ใส่รวมไว้ถุงเดียวกัน  จากนั้นขึ้นเรือ ก็เลือกที่นั่งที่ชอบ เลยค่ะ  ชอบชมวิว  ก็นู้นเลยค่ะ ข้างหน้า
 แต่รับแรงกระแทกเยอะหน่อย

   ส่วนเรานั่งหลัง 






เกาะแรกที่เราจะไปได้แก่ ทะเลแหวก





แต่ทะเลยังไม่แหวก --" 
















จากนั้นก็ผ่านเกาะไก่  เกาะซี่งมีรูปร่างเหมือนไก่   ไม่ได้ลง แค่ชะโงกถ่ายรูปจากบนเรือ  
แล้วทางไกด์ก็พาเรา ไปหาที่ดำน้ำ บริเวณใกล้ๆเกาะปอดะ 



ใครที่ว่ายน้ำไม่แข็งก็ใส่ชูชีพ ลงไปได้ค่ะ 









เรือสำหรับพวกเราค่ะ ในวันนี้ค่ะ 




ดำน้ำเสร็จแล้ว  เราก็มุ่งหน้าไปสู่เกาะปอดะ  เพื่อรับประทานอาหารกลางวันค่ะ 
โดยก่อนลงจากเรือ ก็หยิบน้ำไปกันคนละขวดค่ะ    จากนั้นลงไปรับข้าวกล่องที่ไกด์ค่ะ 
เป็นข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว   ได้รับอาหารแล้ว ก็ไปหาที่นั่งได้ตามใจค่ะ  
แต่ทานเสร็จแล้ว ก็นำกล่องไปคืนที่ไกด์ค่ะ เพื่อรวบรวมไปทิ้ง เมื่อถึงฝั่ง



หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเล่นน้ำค่ะ  น้ำทะเลสวย มากกกกกกกก















สำหรับใครที่ต้องการเข้าห้องน้ำ  บนเกาะนี้มีห้องน้ำค่ะ 






ได้เวลาสมควร  เก็บของ เตรียมขึ้นเรือเพื่อไปถ้ำพระนาง กันต่อ 



นั่งเรือมาแปปเดียวก็ถึงแล้วจ้า  ตรงนี้คนเยอะมากกกกก 



สถานที่ตรงนี้สำหรับปีนผา  มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก  ซึ่งหนึ่งในนั้น  ก็มีโฮสเราด้วย 






เดินเล่นริมหาดค่ะ  ทะเลสวย  โชคดีที่ฝนไม่ตก  แต่ ร้อนมากๆๆๆๆ 



เรือขายอาหาร 


ราคาก็ตามในรูปเลย 









ที่นี่เป็นเกาะสุดท้ายสำหรับวันนี้     เมื่อกลับไปถึงฝั่งแล้วก็ไปรับรองเท้าคืน 
 จากนั้นจะมีรถไปส่งเราที่โรงแรมค่ะ 





Create Date : 04 มกราคม 2560
Last Update : 4 มกราคม 2560 15:05:06 น.
Counter : 1637 Pageviews.

2 comment
อาหารค่ำ ณ ร้าน E-SAN SEAFOOD


 หลังจากเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย ไหนจะต้องมาเจอฝนตกอีก ทีแรกก็วางแผนไปดูพระอาทิตย์ตก 
แต่ฝนตก เลยต้องเปลี่ยนแผน เป็นนอนดูทีวี ในห้องแทน  พอฝนหยุด เราจึงพากันเดินไปสำรวจข้างนอกกันอีกครั้ง  ครึกครื้นมาก  เราวางแผนว่าจะออกมาซื้อทัวร์ สำหรับไปเที่ยวเกาะ   
จากนั้นก็จะไปหาอะไรกินสำหรับมือเย็น  

       สำหรับคนที่ไม่เคยไปอ่าวนาง  เราจะเล่าก่อน ว่า มันจะมีร้านอาหารเยอะแยะ มากมาย ไม่ว่า จะเป็นอาหารไทย  อาหารอินเดีย  อาหารฝรั่ง  หรือ ว่าจะเป็นอาหารที่เป็นรถเข็น ละเป็นเหมือนตลาดย่อมๆ ตรงนั้น  จริงๆเราอยากกินตรงรถเข็นที่เราบอก 
 เพราะราคาค่อนข้างถูกกว่าตามร้านอาหาร

จริงๆแพลนว่าวันแรกจะกินแถวๆโซนรถเข็นนั่นแหละ  และวันต่อไปหลังจากไปเที่ยวเกาะ 
เราค่อยไปกินที่ร้าน   แต่ !! ผิดแผน ตลอดอ่ะ เรา  คนเยอะมาก เราเลยเดินไปเรื่อยๆ 
ก็จะเจอพวกร้านที่แบบชื่อเป็นแขก  เป็นชื่อฝรั่ง ทางสวิส ทั้ง ฝรั่งเศส 
 ทีนี้เราเดินไปเจอร้านนึง  เห้ย นี่แหละ เหมาะ  

เข้าไปนั่งดูเมนูอยู่สักพัก อยากกินพวกส้มตำ น้ำตกมาก เอาจริง เพราะมีความอดอยาก มาหลายเดือน 555   แต่ พรุ่งนี้จะไปเที่ยวเกาะ   ถ้าเกิดท้องไส้ไม่ดี มันจะหมดสนุกละสิ

ดังนั้นเราเลยสั่งอาหารมาแค่สองอย่าง  คือ ต้มยำทะล   กับ ปลาทับทิมทอด + ยำมะม่วง 




ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป เพราะว่าหิว 55  เท่าที่มองดูทั้งร้าน มีเราคนไทยคนเดียว ที่เป็นลูกค้า  
พี่ๆที่ร้านกะคอยเดินมาถามว่า ขาดเหลืออะไร มั้ย  อาหารโอเคมั้ย 
สำหรับเรา โอเคมาก  ส่วนแฟน เรานั้น ไม่ต้องพูดถึง ชอบมากๆ   
หลังจากทานอาหารอิ่มแล้ว พี่เค้าเดินมาถามว่า น้องได้ผลไม้รึยังคะ 
(เราก็คิดนะ อ่อ ไม่ได้สั่งค่ะ 555  )  สรุปเค้าให้ทุกโต๊ะแหละจ้า 

ผลไม้มีแตงโม กับ สับปะรด




อิ่มแล้วก็พากันเดินกลับไปที่ โรงแรม  ไม่ใช่ว่าจะรีบไปพักผ่อนอะไร นะ  
เราจะรีบกลับไปดูสายโลหิต  และ เตรียมของสำหรับไปเที่ยวเกาะในวันถัดไป 






Create Date : 31 ธันวาคม 2559
Last Update : 31 ธันวาคม 2559 13:18:28 น.
Counter : 1041 Pageviews.

0 comment
Review Areetara Resort ( Krabi Thailand )








      มาแล้วจ้า  มาต่อกันที่เรื่องของที่พักกันบ้าง เราจองที่พัก ผ่านทาง airasiago  ถามว่าคาดหวังอะไรมากมั้ยก็บอกเลย ว่าไม่   เพราะในรีวิว ก็มีทั้งสองด้าน  แต่ที่เลือกก็เพราะ บรรยากาศ และ จากรูปที่เราดูตาม tripadvisor ดูใหม่ สะอาด  ( ไม่ชอบห้องพักแนวมืดๆ เก่า  เพราะ กลัว Smiley  ) 
อีกอย่างคือ มีสระว่ายน้ำ   


    เข้าเรื่องดีกว่า  เราจองที่พัก ชื่อ Areetara Resort  ซึ่งอยู่ที่อ่าวนาง  ราคานั้นก็รวมไปกับค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว อย่างที่บอกไปตอนแรกๆ   วันที่เราไปถึงที่พัก ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง  
ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน  คุณพนักงานเลยบอกว่าให้กรอกเอกสาร รอก่อนก็ได้ค่ะ  
  หลังจากกรอกเอกสารเรียบร้อย  


       คุณพนักงานก็บอกว่า ห้องที่จองมานั้นปกติเป็นห้อง superior ไม่มีวิวนะคะ  
 แต่วันนี้ทางโรงแรมอัพเกรดให้เป็นห้อง pool access  ค่ะ  ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม  
  เราก็ดีใจในระดับนึงเนอะ คืออยากเล่นน้ำ ไม่ใช่อะไรหรอก 555

   จากนั้นก็พาเราไปที่ห้องพักค่ะ  เลขที่ออกคือ ห้อง 107 


                  ( รูปมืด และ เบลอ ไปนิดนึง เพราะถ่ายตอนจะกลับ  ) 



                                   เปิดประตูห้องเข้ามาปุ๊ป ก็เจอสิ่งนี้ก่อนเลย  




เรากล่าวขอบคุณ คุณพนักงานที่มาส่งที่หน้าห้อง  จากนั้นก็เริ่มสำรวจในห้องกัน ว่ามีอะไรบ้าง 


พอเข้าประตูมาด้านซ้ายจะเป็นตู้เสื้อผ้า



  ในตู้เสื้อผ้า ก็จะมีเสื้อคลุม สองชุด  แล้วก็ตู้เซฟ 








ทางด้านขวามือ จะเป็นห้องน้ำ  /  อาบน้ำ  



ส่วนสำหรับอาบน้ำ จะอยู่ทางด้านขวามือ  จะมีผ้าม่านสำหรับปิด 


มีกระดาษชำระ ให้สองม้วน   มีสายนี้ไว้ให้อุ่นใจ  Smiley



ในห้องน้ำจะสามารถมองออกไปภายนอกได้  มีความวาบหวิวนิดๆ  ( แต่เค้ามีม่านปิดให้ )




ของใช้ที่มีให้ในห้องน้ำ 



ดูภาพรวมๆ ภายในห้อง กันบ้าง มองเข้าไปจะเห็นสระว่ายน้ำ และส่วนด้านหน้าของโรงแรม




ที่นอนก็นอนสบาย อีกอย่างมีหมอนเยอะดี ไม่ต้องแย่งกัน  55 ชอบมาก  
ทางด้านขวาที่ติดกับห้องน้ำมีที่ไว้ เพื่อตีกันก็สามารถไล่อีกคนลงไปนอนตรงนั้นได้
  ( เอาไว้วางของ )




ผ้าเช็ดตัว พับไว้เป็นรูปช้าง




เดินออกไปดู ตรงสระว่ายน้ำกันสักหน่อย 

มุมจากหน้าห้องพักของเรา








ทางด้านซ้ายของห้องพัก




ทางด้านขวามือ 



มุมมองจากในสระว่ายน้ำกันบ้าง  ด้านหน้านี้คือห้องพักของเรา






มุมมอง จากตรงสระว่ายน้ำไปที่ห้องพัก 







มาดูส่วนอื่นๆ กันต่อเลยจ้า 




กาน้ำร้อน 




 กาแฟ  




Mini bar 






 อันนี้เอาไว้กันยุง หรือ ว่าอย่างไร ?
ในห้องนอนนั้นเราเจอยุง อยู่ 1-2 ตัว  แต่ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ อาจจะเพราะอยู่ติดสระว่ายน้ำ 
แล้วตรงด้านขวามือ นั้น เหมือนจะเป็นมุมอับ นิดนึง



ทีวีจอใหญ่ ไว้นอนดูพี่ขุนไกร  ( โปรดมองข้ามความรกตรงโต๊ะนั้น )




 รหัส wifi สำหรับใช้ในห้องพัก




และนี่คือรองเท้าแตะ ในห้องจะมีให้สองคู่



สระว่ายน้ำ  ตอนกลางคืน  จำไม่ได้แล้วว่าสระปิดตอน หนึ่งทุ่ม หรือ สองทุ่ม





สำหรับเราที่พักนี้ดีมาก พนักงานอัธยาศัยดี  ห้องดี ทุกอย่างดี  เสียอย่างเดียวตรงยุงกัดนี่แหละ  55
ใกล้ร้านอาหาร  ร้านสะดวกซื้อ คนเยอะ พลุกพล่าน ดี  ช่วงเช้าๆในซอยทางเข้าโรงแรม อาจจะมีรถติด เพราะทัวร์ต่างๆ เข้ามารับลูกทัวร์ 



ขอจบการรีวิวที่พักเพียงเท่านี้ค่ะ 





Create Date : 31 ธันวาคม 2559
Last Update : 31 ธันวาคม 2559 12:24:29 น.
Counter : 678 Pageviews.

1 comment
Let's go to krabi ! พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลย !!




  23  พฤศจิกายน 2559

   เราเลือกเดินทางในตอนเช้า   และไม่เพิ่มออฟชั่นเสริมใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่นั่ง , โหลดกระเป๋า  หรือ อาหาร    ด้วยการที่เราไม่เสียเงินเลือกที่นั่ง ดังนั้น ก็ถูกจับแยกกันค่ะ 55  โถ่ กะว่าจะนั่งชมวิวด้วยกัน อดเลย  แต่ ณ ตอนนั้นคือไม่อยากเสียเงินเพิ่ม ก็เลยคิดว่าช่างมันเถ๊อะ แปปเดียวเอง แล้วก็ไม่ได้นั่งไกลกัน  



เราออกเดินทางจากบ้าน ประมาณ เวลา 05.30 น .  เพราะว่าถ้าออกหลังจากนั้น อาจมีแววตกเครื่อง เพราะแถวบ้านเรานี่รถติดเหลือเกิน   เราใช้เวลาไม่เกิน 30  นาที   ก็มาถึงสนามบินดอนเมือง

เราเช็คอินมาจากที่บ้านแล้ว  เราก็เลยไปปริ้นท์ Boarding pass  ที่สนามบิน   ณ ตอนนั้น ยังเช้าอยู่ประมาณ  6 โมงกว่า  บวกกับไม่สบายต้องกินยา  ( ไปเที่ยวตอนป่วยนี่สุดแสนจะทรมาน ) เป็นหวัด ไอทั้งวัน แต่ยังจะซ่าส์ไปเที่ยว   ดังนั้นเราจึงแวะหาอาหารเช้าทานก่อน  ณ  ร้านอาหาร ร้านนึงบริเวณนั้น   ไม่เคยกินข้าวหน้าเป็ดแพงขนาดนี้มาก่อนเลย  ฮือ ...   ทานอาหารเสร็จแล้ว ทานยา  
พร้อมลุย 




เราเดินผ่านตรงจุด x-ray   ช่วงก่อน 7 โมง  ซึ่งจะเรียกขึ้นเครื่องเวลา 07.45 น
ก็พากันเดินไปเกท  ระหว่างทางก็เดินดูเครื่องบิน ไปเรื่อยๆ 




 เราต้องขึ้นเครื่องที่เกท 51 
 แต่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควรค่ะ นั่งรอต่อไป  เราเลือกที่จะไปนั่งตรงโซฟานุ่มๆ ทางนู้นค่ะ





และ แล้วก้ได้เวลาของเรา  ไปขึ้นเครื่องกันเล้ยยยยย  
นี่เลย ลำนี้แหละ จะพาเราไปกระบี่ 




ขึ้นเครื่องเรียบร้อย นั่งประจำที  จนกระทั่งเครื่อง สัญญานรัดเข็มขัดดับลงแล้ว   กำลังจะหลับตานอน
คุณแอร์เดินมาถามว่า เดินทางคนเดียวรึเปล่าคะ ?   เราก็เลยบอก เปล่าค่ะ  มากับแฟน  แล้วชี้ไปทางแฟน   คุณแอร์บอกข้างหน้าคุณที่ว่างนะคะ  ( ว่าง 6 ที่ ยาวเลย )  สามารถย้ายที่ได้  เราเลยหันไปมองหน้าแฟน แล้วบอกย้ายที่กันเถอะ จะได้ไปนั่งเกาะหน้าต่างดูวิวกัน    สรุปพอย้ายปุ๊ป คุณชายอยากนั่งริมหน้าต่าง --" เราก็อยากดูวิวเหมือนกันง่ะ    หันไปทางซ้าย โอเครว่าง เราเลยบอก เราขอไปนั่งฝั่งซ้ายละกัน  แล้วเราไปเจอกันทีกระบี่นะ 555 

พอเรานั่งฝั่งซ้าย  ไปสักพักนึง มีคุณลุงท่านนึงเดินมานั่งด้วย เพราะ คนข้างๆลุง ลุกไปเข้าห้องน้ำ  ลุงเลยมานั่ง และ นั่งไปจนถึงกระบี่เลย Smiley




ชมวิวไปค่ะ  สวยงาม 



ประมาณชั่วโมงกว่าๆ คุณกัปตัน  ก็พาเรามาถึง สนามบิน กระบี่ จ้า 




จากนั้นก็เดินตัวปลิว ไปหาซื้อตั๋ว shuttle bus  จ้า   จะเลือกไปลง ในเมือง หรือ อ่าวนาง ก็ได้
แต่เราเลือกไปลงในเมืองก่อน เพราะจะไปหาของกินในเมืองก่อน  ถ้าไปลงในเมือง ราคา  90 บาท
ตั๋วเค้าจะแบ่งเป็นสีๆ  ถ้าไปลงอ่าวนางก็จะอีกราคานึง และ อีกสีนึง 




บรรยากาศในรถก็ประมานนี้  ทั้งคันมีคนไทย ไม่ถึง 5 คน


นั่งรถมาได้สักพัก  รถจะจอดที่นึง  น่าจะเป็น ส่วน ออฟฟิศ  จะมีคนขึ้นมานับว่า ไปในเมืองกี่คน ไปอ่าวนางกี่คน    จากนั้นก็เดินทางต่อ   ทีนี้ไปถึงในเมืองรถก็จอดอีกแล้วจ้า  ให้ผู้โดยสารที่จะลงในเมือง  ลงมาจากรถ   เราก็ลงมาแบบ งง ๆ  อ่าว แล้วอิชั้นจะไปห้างโว้คยังไง คะนี่  อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้  เลยเดินไปถามคุณพี่ แถวๆนั้น  ได้ความว่า  อ่อ เดี๋ยวจะมีรถไปส่งนะครับ  น้องไปขึ้นรถตู้เบอร์สองเลย     เราก็เดินไป ไหนวะ เบอร์สอง --"  ไม่เห็นเลข อ่ะ  พี่คนนั้นเลยเดินมาตาม บอกน้อง คันนี้จ้า 
ทั้งคัน มีผู้โดยสารอยู่ 5   คน  วนส่งแถวๆ ในเมือง



รถพาเรามาส่งตรงข้ามห้างโว้ค  ระหว่างทาง ก็จะมีการชักชวน โดย แท็กซี่บ้างละ  มอไซด์ บ้างละ  สปีคอิงลิช ล้วนๆ  นี่เลยบอก ไม่ไปค่าาาาา  

พอดีเที่ยง  เราเลยหาอะไรกินในเมือง  ตอนนั้น อยากกินข้าวมันไก่  เพราะมันมีน้ำซุป 55   เดินวนหาร้านข้าวมันไก่จ่ะ วนอยู่สองรอบ  ในที่สุดก้ได้กิน  เย้ๆๆๆ
จานนี้ราคา 40   บาท



อิ่มแล้ว  เราก็ออกเดินทางต่อจ้า   ตอนนั้นบรรยากาศแบบเริ่มมืดนิดๆ  เหมือนฝนจะตก เรานี่แบบ  เห้ยยย ไม่นะ มาทะเลฝนอย่าตกนะ    

อ่ะ เดินมาเจอรถสองแถวพอดีจ้า  จอดอยู่  เรียกคนเสียงดังชัดเจน  อ่าวนาง จ่ะ อ่าวนาง     คนละ 50  บาท    รอสักแป๊ปรถก็ออก   รถออกไปได้สักพัก  คนขับก็จอดข้างทาง  เราก็แบบไรว้า  ถึงแล้วหรอ  ??  ที่ไหนได้มาปิดผ้ากันฝนจ้า ตอนปิดมันก็ยังตกเบาๆ  พอรถออกไปสักพัก นี่ตกอย่างหนัก 



     ฝนตกหนัก  ฝนสาด หนาว  คนขับ ขับอย่างซิ่ง    นี่ก็คิดนะแบบ อะไรฟะ มาทะเล ฝนก็ตกมันต้องหมดสนุกแน่ๆ    พอมาถึงใกล้ๆ อ่าวนาง  ถนน ไม่เปียก แสดงว่าฝนไม่ตกสินะ  Smiley

ก่อนขึ้นรถเราบอกคนขับว่า ลงอ่าวนางซอย 8   เราไปครั้งแรก เราก็ไม่รู้เนอะ    จนนั่งรถผ่านไป  อ่าวว เลยแล้วนี่หว่า 555   สรุป  นู่นค่ะ นั่งต่อไปลงอ่าวนาง พอลงจากรถ  ข้ามฝั่งไปตรงชายหาด 
โอ้โห สวย สวยมาก  ขนาดท้องฟ้าครึ้มๆ ยังสวย สวยอะไรขนาดนี้  ชาวต่างชาติเพียบเลย 




เราเดินเล่น  ถ่ายรูปกันอยู่สักพัก  จนประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ เลยชวนกันไปที่พัก   อยากพักแล้ว เหนื่อย  หมดแรง   วันนี้ เราจะไปพักกันที่  Aree Tara Resort  จ้า   พอถึงโรงแรม เช็คอินเสร็จ  เราก็เปลี่ยนเสื้อผ้า  พากันออกมาเดินเล่นที่หาดนพรัตน์ธารา  แฟนเราผู้ไม่ได้เล่นน้ำทะเลมานาน  ถึงกับอดใจไม่ไหว  บอกขอเล่นหน่อยนะ  เราเลยบอกว่าอย่าไปไกลมากนะ  เพราะดูแล้วบรรยากาศไม่น่าเล่น ท้องฟ้าก็มืด ครึ้ม คลื่นก็แรง  

คุณชายเธอก็เหมือนเด็ก ยิ่งบอกอย่าไปไกล ก็ไปซะไกล  เราก็ตะโกนเรียกให้กลับมาได้แล้ว  ฝนจะตกแล้ว  คุณเธอถึงขึ้นมาได้ ด้วยความมีอารมณ์เคืองนิดๆ 555   เราเลยบอกอยากเล่นน้ำ ค่อยไปเล่นในสระนู้น   เราเลยพากันกลับที่พัก พอกลับถึงที่พัก  ก็ได้ว่ายน้ำ แปปนึง  ฝนก็ตกจ้า   เรานี่แบบอารมณ์เสียหนักมาก  อาบน้ำแล้วนอนพักเลย  คิดว่าตื่นมาฝนคงหยุด   ....

ผ่านไปสองชั่วโมง  ตื่นมายังคงตกอยู่ Smiley  พอตื่นมาอีกที บอกให้แฟนไปชะเง้อดูหน่อยฝนหยุดหรือยัง  เราจะได้ออกไปทานมือเย็น  และ หาซื้อทัวร์ ด้วย  สรุปฝนหยุดตอนเกือบจะทุ่มนึง 


* เพิ่งเห็นว่าวันที่ในรูปมันผิด 
*  รีวิว โรงแรม ขอยกไป blog ถัดไป 










Create Date : 31 ธันวาคม 2559
Last Update : 31 ธันวาคม 2559 3:21:05 น.
Counter : 748 Pageviews.

0 comment
ไปเที่ยวกระบี่กันมั้ย ???


     หลังจากไม่ได้อัพเดท บล็อค เป็นเวลานานมาก เพราะขี้เกียจ ช่วงนี้ว่างๆ เลยกลับมาจัดการอีกครั้ง  สำหรับการเดินทางครั้งนี้เป็นอะไรที่แบบค่อนข้างกระทันหันนิดนึง เราไม่เคยไปเที่ยวทะเลทางใต้มาก่อนเลย  ส่วนโฮสแฟมิลี่บ้านที่เราไปอยู่ที่สวีเดนนั้น โฮสพ่อ เคยมาอยู่เมืองไทยหกเดือน   ชอบมาเที่ยวทะเลที่อ่าวนาง  ซึ่งก่อนหน้าที่เราจะกลับมาโฮสก็แนะนำว่าไปเที่ยว กระบี่สิ สวยนะ  ( เดี๋ยวนะคะ โฮส  ประเทศไทย นี่ บ้านเกิดเมืองนอนดิฉันค่ะ 555 ) 



  เราเลยบอกโฮสว่า คิดว่าช่วงพฤศจิกา  อาจจะช่วงฝนตกนะ  โฮสย้อนมา ว่าไม่ตกแล้ว ( เออ ยอมก็ได้ค่ะ )  แต่ก็เป็นอะไรที่นอกเหนือแผนของเราอยู่ดี เรากะว่าจะไปเที่ยวทางเหนือ  เพราะแฟนอยากไปเที่ยวภูเขา ไปเชียงราย  ส่วนทะเลก็จะไปแค่ใกล้ๆเช่น เกาะล้าน ก็พอ   แต่ อย่ากระนั้นเลย  วันเสาร์ที่ 19 พย  เราไปเที่ยวอยุธยากัน  ทีนี้น้องสาวอยู่ๆดีเธอก็เปิดเวป airasiago  ขึ้นมา บอกเนี่ย กระบี่ น่าไปเนอะ ราคารวมตั๋ว แล้วก็ไม่แพงนะ  ( เอาจิงๆ ก็ไม่ได้เช็คหรอก ว่ามันถูกหรือมันแพง  )


       ทีนี้เลยไปคุยกับแฟนว่า อยากไปเที่ยวทะเลมั้ย  ทะเลทางใต้ของไทยสวยนะ  ไหนๆจะไปทั้งที เราตัดสินใจไปเที่ยวกระบี่กันเห๊อะ  แฟนบอกแล้วแต่เธอ  พอแฟนอนุมัติปุ๊ป  ก็ดูโรงแรมก่อนเลือกอยู่นาน เพราะไม่ถูกใจสักที่ 55   บางอันก็ไกล หารีวิวดูไม่โอเค   สรุป ก็เลือกโรงแรมนึงซึ่งอยู่ที่อ่าวนาง ซอย 8  เพราะตรงนั้นเดินทางสะดวก เดินไปชายหาดก็แปปเดียว   ร้านอาหารเยอะ  มีเซเว่น ใกล้ ๆ   รวมค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ สองคน  กับ ค่าโรงแรมสองคืน  รวมกันก็  6199.48  บาท   ยังไม่รวมค่าทัวร์ และ ค่าอาหาร ( งบประมาณบานปลาย 555 )   สำหรับวันเดินทางก็คือวันที่  23 -25 พฤศจิกายน   ( ค่าเครื่องมันก็ควรแพงหรอก จอง 19   เดินทาง 23  ) 





จ่ายเงินเสร็จก็นับวันรอ เดินทาง Smiley



Create Date : 31 ธันวาคม 2559
Last Update : 31 ธันวาคม 2559 1:21:47 น.
Counter : 425 Pageviews.

0 comment

cochonelle
Location :
Île-de-France  France

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]



New Comments