เป็นวิชาสถิติศาสตร์

พราห์ม เคยกลัว คนวรรณะอื่นจะมีมาก เลยออกอุบาย จัดชั้นวรรณะ และอุบายเพิ่มว่า หากมีการรักกันและอยู่ด้วยกันข้ามวรรณะ ทั้งสองจะต้องตกไปเป็นจัณทาล ตอกย้ำจนสังคมยอมรับ

พราห์มทราบดีว่า คนจะรักกัน ห้ามไม่ได้ นี่คือกลอุบายที่จะให้วรรณะพราห์ม คงอยู่และมีมากกว่าวรรณะอื่นๆ จึงเกิดจัณทาลไร้วรรณะต่ำต้อยขึ้นในอินเดียยุคนั้น มากมายเกลื่อนถนน เพราะจะคนรักกันวรรณะไม่เกี่ยวคือเรื่องจริงแน่นอน

จัณทาลคือกลุ่มคนที่ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในสังคมอินเดียสมัยนั้น แม้แต่ไฟ ยังไม่สามารถจุดได้ ไม่มีสิทธิ์(เรื่องจัณทาลจุดไฟนี้ เกี่ยวข้องกับการบิณฑบาต อย่างไร ติดตามดู)

เมื่อเจ้าชายสิถถะ พบผลของการเกิดสิ่งนี้ ท่านได้ก่อการอย่างมีแบบแผน ทำงานอย่างโด่งดัง ทั้งประเทศทุกแคว้น จับตาท่านอยู่ และเมื่อท่านประกาศว่า "รู้แล้ว"นั้น ท่านได้เริ่มช่วยคน(ในจัณทาล เป็นวรรณะสูงๆ มีความรู้ วรรณะกษัตริย์เก่า ก็มีนะ) ในอันดับแรก โดยจัดตั้งองค์การสื่อสารมวลชนของท่าน ที่ชื่อองค์การสงฆ์ เพื่อนำคนเหล่านั้น กลับขึ้นสู่ชนชั้นที่สูงกว่าขั้นบนสุดของวรรณะในอินเดีย(เมื่อจัณทาลมาเป็นสงฆ์แล้ว กษัตริย์ จะต้องไหว้ พาร์ทชั้นมาเยอะเลย)

เรื่องนี้ เตือนใจผู้มีอาชีพนักบวชว่า อย่าหลงตัวเองว่าจะวิเศษต่างจากพี่น้องมนุษย์ทั่วไป และเตือน ผู้ที่อาจจะหลงว่า นักบวช คือสภาวะนายของท่าน เป็นผู้วิเศษไปเหนือกว่าความเป็นมนุษย์(ที่เท่าเทียมกัน)ของท่าน

การประกาศความจริง ที่ทำให้พราห์ม เสียประโยชน์ มีมากมายเช่นไม่ให้กราบไหว้รูปปั้น รูปเคารพที่เป็นดินหิน อย่างงมงาย แม้แต่รูปของท่านเอง ยกเลิกพิธีกรรมงมงายทั้งหมด นักบวชเหล่านี้ ก็จะเป็นกองกำลังพิทักษ์ท่านไปในตัว ปลอดภัยจากการคุกคามในรูปแบบอัณทพาล จากเหล่าพราห์มที่เสียประโยชน์

และการที่จัณทาลจุดไฟไม่ได้ ทำให้การมาเป็นสงฆ์ยุคแรกๆ ไม่สามารถจุดไฟหุงหาอาหารได้ จึงมีการบิณฑบาต เพราะเจ้าชายสิถถะฉลาด ที่ไม่ให้กองกำลังพิทักษ์ตน มีข้อแย้งจากพราห์ม เปิดประเด็นโจมตี จากความเชื่อว่า จัณทาลห้ามจุดไฟ ไงล่ะ

ลองติดตามดู ความจริง

ปัจจุบันคนเหล่านี้ ก็จะหลง สร้างกองกำลังต่อ (ที่เรียกว่าลูกศิษย์)จนต้องรออาหารตอนเช้า ให้มากที่สุด เผื่อกองกำลังของเขา(ที่มาของการบิณฑบาต พอเพียงแล้ว ไม่กลับ)

และมีกิจกรรมเพิ่มจากวัตรปฎิบัติ คือ 1.บริหารกองกำลัง
2.ค้นวิธีทำลายกองกำลังอื่น ที่ตนอับปัญญาหวาดกลัวไปเองว่า จะขึ้นมาเหนือ กว่าอิทธิพลของตน

ฝากไว้เพื่อเตือนๆพี่น้องไทย ที่รักทุกท่าน (และไว้เตือนต่อกัน)ว่า อย่าหลง ศึกษาประวัติศาตร์ให้เข้าใจ ด้วยการใช้สติปัญญา เข้าถึงเจตนารมณ์ที่ดีงามของบรรพบุรุษที่ดีงาม คัดกรองอภินิหาร-ผลประโยชน์ ไว้เบื้องหลังก่อน