4 เทคนิค* การเลือกซื้อดินสอเขียนตาสำหรับมือใหม่

เชอเคยเห็นสาวๆตั้งกระทู้ถามกันมากมายว่า “ดินสอเขียนตายี่ห้อไหนดี?” “ยี่ห้อนี้แพนด้ามั้ย?”

จากประสบการณ์ที่เชอได้ทดลองมาด้วยตัวเอง ทำให้ค้นพบว่า.. 

สิ่งที่สาวๆมือใหม่ควรจะคำนึงเวลาเลือกซื้อดินสอเขียนตา มีอยู่หลักๆ4 ข้อ ค่ะ

1. Texture

ขึ้นชื่อว่า “ดินสอ” ใช่ว่าจะเหมือนกันซะหมดจุดต่างของมันจริงๆแล้วอยู่ที่ “texture!”

บางแท่งนั้น ใช้เป็นปีๆก็ยังไม่หมด (มันมีอายุของมันนะจ๊ะถ้านานมากแต่ยังไม่หมดก็ทิ้งเถิด เพื่อสุขภาพหนังตาของสาวๆ) แต่บางแท่งนี่ไม่ถึงเดือนเหลาจะหมดแท่งแล้ว

จากประสบการณ์ใช้ส่วนตัว เชอขอจำแนก texture ออกมาให้เข้าใจง่ายๆดังนี้ละกันค่ะ

• เนื้อCream     

เนื้อนุ่มเวลากดหัวลงบนมือจะยุบลงทันที เขียนลื่นปรื๊ดด ใช้เวลาแปปเดียว แต่ในความลื่นอาจทำให้เวลาเขียนนั้นcontrol ยากนิดนึง และเลอะง่ายค่ะ ลายเส้นที่ได้จะมีความเงาเล็กน้อย ดินสอชนิดนี้จะตัดขอบได้ไม่คมค่ะ

แล้วพวกCream shadow ที่เป็นแท่งล่ะ?

อันนี้เอาเข้าจริงๆแล้วมันก็อยู่ประเภทเดียวกันล่ะค่ะแค่ทางการตลาดเค้าตั้งชื่อให้มันเป็นeye shadow บาง brand ก็ทำเนื้อให้มัน creamy กว่าเดิมหน่อยก็ขายแยก category ได้ละ

• เนื้อmatte

เนื้อจะแข็งหน่อย เวลากดหัวลงบนมือจะยังคงรูปเดิม แต่อาจฝืดเวลาเขียนหน่อยบางทีเขียนแรง ตาเหี่ยวอีก อาจต้องใช้เวลาเขียนนิดนึงค่ะ ลายเส้นที่ได้จะเป็นลุคด้านๆไม่เงาเท่าเนื้อ cream ค่ะแต่โดยรวมจะดูใกล้เคียงมาก

สำหรับดินสอชนิดนี้ หากเหลาแหลมๆจะตัดขอบคมได้ดีค่ะ แต่จะไม่ให้ความsharp เท่า Pen/ liquid eyeliner

• ผสม Glitter

บางชนิดก็จะมี glitterวิ้งๆผสมด้วย มีทั้งแบบ cream+glitter,matte+glitter เป็นต้น อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบแต่ละคน

เพราะงั้นแนะนำให้ไปลองtest ที่ counter เลยค่ะ จะได้รู้ว่าชอบแบบไหน

ลองถูผ่านๆ ดูจากรูปอาจเห็นว่า cream ไม่ค่อยเงา แต่ถ้าลอง swatch เองจริงๆจะเห็นชัดกว่าค่ะ

2. ปริมาณ

ถ้าคุณเป็นคน valueเรื่องความคุ้มค่า พลิกอ่านปริมาณของแต่ละแท่งเลยว่ากี่กรัม แล้วเทียบBrandต่อBrandเลยค่ะ แต่ถ้าไม่ซีเรียสก็ข้ามไปโลดด~

เนื้อ cream= หมดเร็ว ใช้ปุ๊ป ยุบปั๊ป ต้องเหลาครั้งต่อครั้งเลย

เนื้อ matte = หมดช้า ไม่ต้องเหลาบ่อย

3. สภาพผิว

ทำใจเถิด ขึ้นชื่อว่าเป็นดินสอเขียนตายังไงก็เป็นแพนด้า แต่ๆๆ!! ไม่ได้แปลว่า อย่าไปใช้นะ.. ไม่ใช่! การที่มันจะแพนด้ามากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวด้วย

ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน อันนี้อาจไม่เหมาะกับดินสอชนิดครีมเพราะมันจะยิ่งเยิ้มง่าย 

“แต่ถามว่าใช้ได้มั้ย?” 

ใช้ได้ค่ะ (อิเชอก็ใช้~) แต่ต้องอาศัยใช้เมคอัพอื่นๆเข้าช่วยเช่น การลงเบส/concealer ที่ตาบางๆโบกด้วยแป้งคุมมัน แล้วค่อยเขียนตา เป็นต้น อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคบุคคลนะคะ

“อย่างนี้ต้องหน้ามันควรใช้ matte ใช่มั้ย?”

เนื้อmatte/waterproof ก็จะช่วยให้เยิ้มน้อยกว่าตัว cream ระดับนึงค่ะ

แต่ยังไงก็ต้องวนกลับมาเช็คสภาพผิวตัวเองอีกครั้งค่ะถ้าคุณผิวมันมากกกจริงๆ แล้วอยากใช้ ก็ต้องอาศัยเมคอัพช่วย

ทั้งนี้ทั้งนั้น เทคนิคการเขียนก็มีผลด้วยนะคะบางคนกรีดหนา, บาง, innerเป็นต้น

4. กิจกรรมประจำวัน

ถ้าคุณวันๆไม่ค่อยได้ทำอะไร อยู่ในที่อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนก็จะไม่ค่อยแพนด้าค่ะ บางรายถ้าหน้าไม่มันนี่สบายเลย แต่ถ้าคุณเป็นพวกลุยกลางแจ้ง เล่นกีฬาอันนี้แน่นอน เยิ้มเป็นเรื่องธรรมดา แต่เยิ้มมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับข้อที่พูดมาข้างต้นและBrandอีกค่ะ

แล้วBrandไหนใช้ดีล่ะ???

แต่ละคนมีรสนิยม Brand ที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้ง แต่ละ Brand นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ชนิด Matte ของ Brand A (นามสมมุติ) VS ชนิด Matte ของ Brand B(นามสมมุติ) ก็ต่างกัน

Range ราคาก็ต่างกันไป“แพง” ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป “ถูก”ก็ไม่ได้แปลว่าแย่

ราคาอาจเป็นสิ่งที่ทางการตลาดใช้ชี้วัดคุณภาพ แต่คุณภาพจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับ "Brandperception และความพอใจในการควักสตางค์" ของคุณค่ะ

บางคนบอกใช้Brand A (นามสมมุติ)แล้วบอกว่าดีๆๆ แต่บางคนใช้แล้วแพ้ก็มี

บางคนบอกBrand B(นามสมมุติ) แล้วบอกว่าใช้ดีๆๆ ซื้อมาราคา 30 บาท (ราคาสมมุติ) แล้วบางคนไม่กล้าใช้เพราะถูกไปก็มีถมเถไป

ทั้งหมดทั้งปวงมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ เพราะงั้น Check requirement ของตัวเองก่อนอยากได้ดินสอเขียนตาแบบไหน แล้วไป “ลอง” แต่ละ Brand เทียบกันให้รู้ไปเลย ชอบอันไหนก็ซื้ออันนั้นเถอะค่ะ

เอาที่ตัวเอง “สบายใจ” WORK สุด!!

หวังว่าบทสรุปที่เรียบเรียงจากประสบการณ์ตรงอิเชอจะช่วยสาวๆให้เลือกeyeliner แท่งโปรดถูกใจได้นะคะ :)

xoxo

Create Date : 12 มีนาคม 2558 Last Update : 3 เมษายน 2558 13:35:59 น. Counter : 1064 Pageviews.		0 comments
Share Tweet