Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
[5 วัน 4 คืน]: เการักที่เกาหลีครั้งแรกช่วงตุลา 2015 (Part1)

[ดูบนมือถือ กดดูเนื้อหาแบบ Desktop Version ก่อนน้า~]

เมื่อช่วงปลายตุลาที่ผ่านมา อิเชอได้บินลัดฟ้าไปแดนกิมจิ
ที่ๆนางเฝ้ารอมาตลอดช่วงเวลาการทำงาน.. :D

เรียกได้ว่าเป็นแรงจูงใจในการทำงานมาก 55555

เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังคร่าวๆ

เอาจริงเห็นคนโพสท์กระทู้มากมายเกี่ยวกับเที่ยวเกาหลี

งานนี้ อิเชอจะหยิบแต่ประเด็นที่น่าสนใจมาแชร์ให้ฟังละกัน

อ้อ ทริปนี้ อิเชอมี แฮชแทกด้วยนะคระ #CCKAORAKTEEKOREA2015 ซีซีคือเชอรี่กับชุตี้นั่นเองค่ะ

นังนี่เป็นเพื่อนร่วมทริปของอิชั้นเอง 

หน้าสดก่อนขึ้นเครื่อง นี่เตรียมมาส์คหน้านอนเรียบร้อย

 photo 20151028_013718_resized.jpg

สำหรับข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆเชอกับชุก็ได้ช่วยกันรวบรวมกันมาหลายที่มาก แต่ส่วนใหญ่มาจาก//seoulcafe2013.blogspot.com ต้องขอบคุณแหล่งข้อมูลที่ดีมากๆสำหรับการเดินทางสู่แดนกิมจิในครั้งนี้.. ^^

เชอเลือกเดินทางกับ Air asia-X ค่ะ Flight ตี1.55 น.ของคืนวันที่ 28 ตุลา

คือนางดีเลย์ 20 นาที ==.. อืมก็นะ เห็นว่าเป็นเรื่องปกติของสายการบินนี้

เชอซื้อตั๋วช่วงโปรมาได้ 12,000+ กว่าๆ มันจะถูกก็ไม่ถูก แพงก็ไม่แพงอะนะ เห็นว่าบางคนกดได้ถูกกว่านี้ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้เที่ยวก็พอละ 555

อ่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า

LANDED.

 photo 20151028_094405_resized.jpg

แปลงโฉมแต่งหน้าบนเครื่องเรียบร้อย.

สาบานว่ามาด้วยกัน 55555555 

คือนางเป็นเพื่อนในแก๊งที่แบบ ไม่มีความสาวเลยเว้ยยย 555555

 นางเป็น Sport girl MAN-U girl มากค่ะ ถ้าอยากจีบนางให้เอาเรื่องบอลมาคุย :D

ประหนึ่งเป็นมาม่าซังพาเด็กมาเปิดหูเปิดตาต่างแดน

 มาถึงสนามบินปุ้ปก็ต่อ Wifi ซึ่งนังชุเป็นผู้จัดการหาเช่ามา โดนเสียคนละ 100บาท/วัน

และติดต่อกับเจ้าของที่พัก ซึ่งอิเชอได้จองที่พักผ่าน Airbnb ย่านฮงแด ย่านวัยรุ่นสุดฮิตที่ใครหลายคนคุ้นเคยกันดี

ที่บ้านอิเชอคือ Ultari Guesthouse

จากสนามบินเราก็ไปโดยรถไฟใต้ดิน Airport Railroad (AREX) (อยู่บริเวณชั้น B1) ลงสถานี Hongik University4050 วอน ใช้บัตร T-Money ใช้เวลาประมาณ 40 นาที 

ทั้งหมดทั้งปวง ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนบัตร T-Money ของเราสองด้วยค่ะ

Korea Tourism Organization Thailand: https://www.facebook.com/KTOThailand/ 

ที่แจกบัตรพร้อม Top up 10,000 W ให้เราด้วยยยย ><

*กราบงามๆ* 

คือตอนนั้นเค้ามีการให้ไปรับบัตร T money ถ้าเรามีหลักฐานการเดินทางในช่วงที่กำหนด ซึ่งก็ได้ไปรับที่สำนักงานเลยค่ะ แล้วก็ได้สมัครบัตร Korea Privilege Card ด้วย


บัตรก็มีสิทธิพิเศษมากมาย เช่นลดราคาเครื่องสำอาง คลินิค ส่วนลดสวนสนุกที่นู่น หรือร้านอาหารเกาหลีบางร้านในไทยด้วยค่ะสมัครฟรีและยังสมัครได้เรื่อยๆสำหรับบัตรนี้

.

พอมาถึงสถานี Hongik

 แกร ..

ที่นี่เค้าไม่มีบันไดเลื่อนเว้ย!!~ OO

นึกภาพชั้นลากกระเป๋าสองใบขึ้นบันไดสถานีทางออก

“ถ้าไม่ถึก ทำไม่ได้!!” 

พูดจริง!! นี่แบกแบบกระหืดกระหอบมากค่ะ

เดินออกจากสถานีไปยังที่พัก ตอนได้สัมผัสลมด้านนอก.. หือออ อากาศช่วงเดือนตุลานั้นดี๊ดีอ่ะเทอ

ลมเย็นหนาวปะทะหน้า หายใจคล่อง สดชื่นมวากกก 

เราก็เดินตามแผนที่ มุ่งหน้าไปที่พัก 

ที่พักนี่บันไดอีกเช่นเคย แบกขึ้นไปแทบตาย 

นี่คือรูปบ้านพักค่ะ Airbnb : Ultari House 1

 photo Screen Shot 2016-01-09 at 8.48.31 PM.png

https://www.airbnb.com/rooms/618021?checkin=10%2F28%2F2015&checkout=11%2F01%2F2015&guests=2&s=lmk0

Host ชื่อ Allen หรือชื่อเกาหลีคือ Dongryul

Host เค้าตอบรับให้เรามาพัก และก็ text มาหาเราตอนที่เราลงเครื่องพอดี พร้อมบอกให้แจ้งเค้าถ้าเราไปถึงที่พัก

สำหรับราคาที่พัก: ค่าเสียหาย 5,315 บาท แต่นี่ได้โค้ดเพื่อนมาแล้วโหลดแอพสมัครเลย จะได้ discount ไป 700+บาท

จากการอ่าน condition ..

The Space

Accommodates: 2

Bathrooms: 1

Bed type: Real Bed

Bedrooms: 1

Beds: 1

ชั้นสองเข้าใจว่า ที่นี่จะเป็น private bathroom คืออิชุก็คิดเหมือนกัน

แต่ทว่า..มาถึงปุ้ป มันเป็นห้องน้ำรวม ละสภาพที่ชั้นเห็นใน airbnb กับความจริงนั้น.. 

“แตกต่างเหมือนกั๊นน~” ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่มันดูเก่าแก่กว่าที่เห็นพอสมควร

ละห้องสองคนคือแบบ เล็กอะ แคบมาก

มันมีห้องพักอื่นอีกสองห้องด้วย รวมห้องเราเป็น 3 ซึ่งมันก็ผิดกับ condition ที่เค้าเขียน

คือโชคดีที่สามวันแรกเราพักกันแค่ห้องเดียวบวกกับคนดูแลที่พักอีกหนึ่งคน 

คืนที่สามนี่มีสาวมาเลมาพักอีกห้อง และอีกห้องเป็นสาวไหนไม่รู้

นี่ต้องต่อคิวรอห้องน้ำอะ เซ็งมาก ==” เสียเวลาเดินทาง

สรุปข้อดี:

1.     ใกล้สถานที่เที่ยวและเดินทางสะดวก

 Shop เครื่องสำอางนั้นเต็มเลยค่ะ อาหงอาหารรายล้อม ติด Subway

แต่ถ้าให้มาพักอีก คงบายค่ะ ขอหาที่ๆแบบ ห้องน้ำส่วนตัวเถิด

2.     ของใช้ในห้องน้ำมีให้

เค้าก็มีของใช้ในห้องน้ำให้หมดนะ ยกเว้นแปรงสีฟันส่วนตัว มันก็ดีที่เราไม่ต้องซื้อ

น้ำยงน้ำยาคอนแทค แชมพู ครีมอาบน้ำ มีกระทั่งยี่ห้อของไทยให้ แต่มันแบบ ระเนระนาด แอบสกปรกนิดนึงอ่ะ คือบ้านคนจริงๆถ้าใครไม่ซีเรียสก็โอเค

3.     มีเครื่องซักผ้าให้

ถ้าใครที่เอาเสื้อผ้ามาน้อยก้ซักได้ มีผงซักฟอกให้อยู่

4.     ห้องครัว ตู้เย็น

คือเรากินได้ทุกอย่างในห้องครัวเค้า แต่เราก็ไม่ค่อยกินอะ มีน้ำอุ่นให้ก็พอละ

ข้อเสีย:

1.     ห้องน้ำรวม ไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่ ไม่สะอาด

2.     สภาพบ้านเก่าไปหน่อย มีห้องจริงๆ 3 ห้อง ขัดกับ condition เค้าควรจะระบุว่าเป็น share bathroom

ต่อ

พอเก็บขงเก็บของเสร็จก็ออกมาหาไรกิน แพลนวันแรกคือแบบชิวๆ ช้อปปิ้งและกิน!

 .

.

ระหว่าเดินหาร้าน ก็เจอร้าน mandoo หรือเกี๊ยวซ่านั่นเอง 

 photo DSC00532.jpeg

 photo DSC00536.jpeg

ซึ่งก็ไม่รู้อันไหนอร่อย จิ้มมั่วๆมาในราคา 3000 W .. มันคือเกี๊ยวไส้พิซซ่า == ความโคเรียนี้ อาหารมื้อแรก 5555

 photo DSC00535.jpeg

 photo DSC00531.jpeg

รสเฉยๆ แบบซอสพิซซ่าอะ อาจุมม่าก็พุดอังกฤษไม่ได้ เลยไม่รุ้ว่ามันไส้อะไร ฮืมม..

สุดท้าย เราก็มาลงเอยด้วย “ไก่ทอดเกาหลี” มื้อแรกอย่างเป็นทางการ

 photo DSC00538.jpeg

ร้านอยู่แถวๆซอยที่พักนี่แหละ ถ้าลงจาก subway hongik univ. no.9 เดินตรงเข้าซอยผ่านพวก kfc มาจะเจอเลย

อร่อยดีนะ เป็นไก่มีกระดูกฉ่ำซอส แต่เรารู้สึกว่ามันยังอร่อยได้อีก

เอาไป 7/10

 จากนั้นเราสองก็พร้อมลุยช๊อปกับ

1st day : SHOPPING DAY! Myeongdong!!

(Line 4 สายสีฟ้า ลงสถานี Myeongdong ออก Exit 5, 6, 7, 8 หรือ Line 2 สายสีเขียว ลงสถานี Euljiro1(il)-gaออก Exit 5 )

ซึ่งก่อนจะขึ้นสู่พื้นถนน เราก็แวะ ก่อน Myeongdong Underground Shopping Center ซึ่งเราชอบมากก คือเสื้อผ้าสวยนะ ถูกด้วย ชั้นได้เสื้อตัวนึงในราคา 200 บาทไทย มีรูป เดี๋ยวลงละจะบอก ละข้างล่างนี่คือมีร้านขายของติ่งเกาเว้ย เพื่อนชั้นก็ฝากนังชุแบกโฟโต้บุคน้อง Got7 กลับมาด้วย ของที่นี่ถือว่าถูกกว่าร้านอื่นๆเลยค่ะ แนะนำเพื่อนติ่งต้องมาที่นี่

.

พอเดินจนครบละก็ขึ้นสู่พื้นดิน.. แกร คือมันเป็นดินแดนสำหรับนักช็อปม๊าก!!!! เครื่องสำอางที่นี่แบบสุดมาก อัด แน่น ครบเครื่องทุกซอกทุกมุม นี่คือเครื่องสำอางที่เราสอยมา คือแฮปปี้มากอะ นอกจากเครื่องสำอางก็จะมีเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ Street food ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะแน่นไปด้วยเครื่องสำอางซะมากกว่า

และมาถึงไอติมสู๊งงสูงที่เลื่องชื่อ คือเดินไปเรื่อยๆละก็เจอเฉย กับ 32 Parfait 

https://www.facebook.com/32parfait/timeline

ที่ตั้ง : 22-9 Chungmuro 1-ga, Jung-gu, Seoul  

 photo DSC00546.jpeg

จริงๆมันจะกดใส่โคนยาวสูงเลย แต่ด้วยการอยากชิมหลายรสและเรามากันสองคน

เลยสั่งแบบถ้วยแทน

 photo DSC00543.jpeg

รสชาติเอาจริงเฉยๆนะ คือมันก็ดีที่ไม่หวานมาก แต่แบบ มันไม่ค่อยมีความหอมของตัวไอติมเลย

จำราคาไม่ได้ แต่ประมาณ 60 บาท

ระหว่างทางก็ลองชม Street food ที่นี่ไปเรื่อยๆ คือลองกินเป็นบางอย่าง

อย่างปลาเส้นร้านนี้ เค้าบอกว่า มันคือ fish cake

 photo DSC00549.jpeg

เค้าจะให้ตักน้ำซุปละหยิบไม้กินในลักษณะโอเด้ง

คือรสมันจืดแบบ.. จืดมากกกกกกกก ไม่อร่อยอะ 5555

ส่วนอันนี้ เป็นลูกๆคล้ายทาโกะยากิ มันเป็นเนื้อบดๆรวมกันละมีปลาหมึกด้วย

 photo DSC00564.jpeg

 photo DSC00553.jpeg

เค็มๆเผ็ดๆมันๆ ส่วนตัวก็เฉยๆอีก.. คือรสมันไม่มีอะไรโดดเด่น

และนี่ หน้าตาน่ากินมากจ่ะ

 photo DSC00568.jpeg

ต๊อกชีส

 photo DSC00565.jpeg

รสก็คือความจืดของต๊อกเลย

 photo DSC00566.jpeg

คือ ตอนกลับมาไทยเพิ่งจะรู้ว่ามันมีนมข้นให้ราดด้วย ==

อินี่ไม่ได้สัมผัสรสชาติของความหวานเลยค่ะ

ซึ่งนังชุมันบอกว่า เค้าใส่มาให้แต่นิดเดียว

แสดงว่าอิส่วนที่เค้าใส่มา นังนี่คงกินไปหมดแล้ว ถถถถถถ อด

ตัวชีสจะหอมมันๆหน่อย ครั้งหน้าไปต้องไปฟาดอีกรอบ ขอนมข้นหนักๆ หึหึ

โดยรวมคือไม่ได้ลอง street food ครบทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือรสไม่ค่อยอร่อย5555

 .

.

สำหรับห้างละแวกนี้ เราก็ได้แวะ หลายห้างอยู่ อย่าง Migliore ก็ได้แวะ แต่ชั้นว่ามันไม่มีไรเลยอ่ะ เฉยๆมาก ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าสวย

สำหรับเวลาเปิดปิดของร้านค้าต่างๆ ย่านมยองดงจะเปิดประมาณ 10.30 และปิดตั้งแต่ 20.30 น.เป็นต้น บางที่ก็ปิดดึก บางที่ก็ตี 5 เลย

 .

.

จากนั้นก็ไป Seoul tower ค่ะ

 photo DSC00576.jpeg

ด้วยความที่มาครั้งแรก ดู Map ละก็คิดว่าคงไม่ไกลมาก ไหนๆก็อยู่มยองดงละ ไม่ต้องรถบัสหรอก ก็เดินจากมยองดง ไป cable car คือเดินหาโรงแรม Pacific hotel ก่อน แล้วเข้าซอยขวามือ ตรงยาวไปเรื่อยๆ มันจะชันขึ้นๆ ก็จะถึง cable car

ซึ่ง cable car จะเปิด 10.00 – 23.00 น.ผู้ใหญ่ตกคนละ 6,000 W (เที่ยวเดียว) / 8,500 W (ไปกลับ) ซึ่งกว่าจะถึงบอกเลยว่า.. “โคตรเหนื่อย!” คือทางมันชันมากกกกกกกและไกลอยู่ ประมาณ 15 นาทีอะแกร๊  อิชุคือหนักสุด อินี่แบกโฟโต้บุค Got7 ขึ้นหลังเดินขึ้นไปด้วยจร้า 5555555 ละดึกๆนี่แอบเปลี่ยวๆ มืดๆ 

ถ้าใครที่ขี้เกียจเดิน แนะนำให้ขึ้นรถบัสค่ะ โดยนั่งรถ Namsan Sunhwan Shuttle bus สาย 02,03,05 จากมยองดงไปได้

อันนี้เป็นวิวจาก cable car

 photo DSC00571.jpeg

พอมาถึง.. นี่บอกเลยว่า ข้างบนหนาวมาก!

 photo DSC00578.jpeg

 photo DSC00630.jpeg

อุณหภูมิประมาณ 8 องศาแต่โคตรหนาว คือดูเสื้อผ้าอิชั้น มีแค่เสื้อเชิตแขนยาวบางข้างในและผ้าพันคอคลุม  นี่ยังหาเสื้อโคทไม่ได้ไง

 photo DSC00650.jpeg

ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันไป 

บอกเลยว่าคู่รักข้างบนนั้นเยอะมากกกก คือนางจะมุ้งมิ่งซารางเฮกันเต็มไปหมด

 photo DSC00672.jpeg

อิชั้นกับเพื่อนก็จิ้นกันเองเส่ะ หอยหราด

 photo DSC00681.jpeg

ถ้าใครจำฉากในหนังที่เป็นที่คล้องกุญแจคู่รักได้.. ชั้นบอกเลยว่า มันผิดคาดมาก

คือมันเล็กกว่าที่คิดมากกกแกร เป็น Square area เท่านั้นจริงๆ รายล้อมไปด้วยแม่กุญแจ

 photo DSC00738.jpeg

 photo DSC00754.jpeg

แต่มันก็เป็นจุด landmark ที่น่าจดจำ.. ถ้ามากับคู่รักจะฟินมาก คือบรรยากาศมันดีอ่ะ

ครั้งหน้าชั้นจะต้องมีหลัวมาด้วยค่ะ 55555555

ครั้งนี้อยู่กับนังนี่ไปก่อนละกัน ถถถถถ

 photo DSC00753.jpeg

พอมองวิวจากตรงนี้ไป Seoul Tower มันสวยจริงๆ

 photo DSC00736.jpeg

ระหว่างรอคิวขึ้น Seoul Tower ก็ไปจิบกาแฟรอ

 photo DSC00684.jpeg

คือชั้นค่อนข้างประทับใจกาแฟที่นี่ รู้สึกอร่อยทุกร้านเลย

นี่แก้วละประมาณ 120+ บาทไทย

พอขึ้น Seoul Tower ข้างบนมันแบบ เป็นที่ไม่กว้างมากอะ แต่เห็นทั้งโซลเลย สวยงาม.. ถ้าไม่มานี่ก็เหมือนมาไม่ถึง

 photo DSC00690.jpeg

 photo DSC00730.jpeg

มีของฝากน่ารักๆด้วยค่ะ

 photo DSC00732.jpeg

เก็บภาพกันไปจนพอใจ..

 photo DSC00711.jpeg

จากนั้นเราก็มาชอปปิ้งห้างที่ปิดดึกย่านทงแดมุนต่อ แต่พวกเรานั่งรถบัสกันมาค่ะ

อันนี้แปะเผื่อคนเดินทางด้วยรถไฟ (รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว, สาย 4 สีฟ้า, สาย 5 สีม่วง ลงสถานี Dongdaemun History & Culture Park ทางออกที่ 1 หรือสาย 1 สีน้ำเงิน,สาย 4 สีฟ้า ลงสถานีทงแดมุน (Dongdaemun) ก็ได้เหมือนกัน)

ระหว่างนั้นก็แวะชิม street food อีก

 photo DSC00761.jpeg

จะรสเหมือนไก่ก็ไม่ใช่ ลูกชิ้นก็ไม่เชิง

ดูท่าจะไม่ถูกโฉลกสตรีทฟู๊ดสักอย่าง 5555555

.

.

บอกเลยว่า ใครที่มีแพลนมาหน้าหนาวปีนี้ และจะหาซื้อเสื้อโค้ทเกร๋ๆตั้งแต่ชิคๆไปยันขั้นหรูหรา ชั้นขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ 

ไม่ต้องหาซื้อจากไทยไป เพราะบางร้านที่นี่ถูกกว่าจริงๆ

ถ้าอยากได้แบบสไตล์ High fashion หน่อยก็ต้องห้าง Lotte FITIN เลย มันดูดีมากกกก แต่ราคาก็สูงตามท้องเรื่องประมาณ 3000+ บาทไทย

แต่มันสวยจริงๆ

ส่วนอิเชอ ไปฟาดที่ห้าง Hello apM แทน ด้วยความที่อากาศบ้านเรามันไม่มีวันหนาว เลยคิดว่า ซื้อแพงไปคงใส่ได้น้อยครั้งอยู่ดี เลยขอแบบราคากลางๆรับไหวละกัน

สำหรับห้าง Hello apM เปิด 10:30-05:00 ปิดวันอังคาร

ซึ่งร้านที่อิเชอจัดไปจะอยู่ชั้นล่างเลยค่ะ

 photo DSC00762.jpeg

จำได้ว่า อาจุมม่าเค้าลดให้เหลือ 60,000 W ก็ประมาณ 1800 บาทตอนนั้น

แกรคือโค้ทเค้าดีอะ ทรงสวย สีคือแมทช์ได้ทุกชุดเลยค่ะ ซึ่งอิเชอจะใส่ในวันถัดไป รอดูรูปรัวๆ

คืออิเชอพูดอังกฤษไป นางตอบมาเป็นเกา 5555555

 แม้อาจุมม่าจะพูดอังกฤษไม่ได้เลยเถอะ แต่เราสื่อสารกันได้ ;D ;D

 photo DSC00764.jpeg

น่ารักป้ะล่ะ ;D ;D 

ในคืนวันแรกก็ผ่านพ้นไปด้วยดี


2nd day: “Fun Park is calling”

Plan ของเราคือไป Lotte World

Lotte world Address : 240, Olympic-ro, Songpa-gu, Seoul 

Website : www.lotteworld.com

เวลาเปิด : 9:30-23:00

วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว หรือ สาย 8 สีชมพู ลงสถานีชัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 4 ออกมาแล้วเดินเลียบถนนใหญ่ไปค่ะ

ซึ่งอิเชอกับเพื่อนก็ได้ซื้อบัตรเป็นแบบ 1 Day Pass Ticket

ตอนนั้นจำได้ว่ามีโปร ต้องคอยเช็คนะคะว่าที่ไหนมีส่วนลดบ้าง แต่เรามีบัตร Korea tourism member อ่ะ มันมีให้ลดสำหรับtourist เหมือนกัน

 .

.

พอเข้าไปในโซน Lotte World Adventure

//global.lotteworld.com/app/attrctn/list.asp?cmsCd=CM0196

นี่ก็เป็นความโง่ของอิชั้น คือซื้อตั๋วแบบ 1-day passport มาไม่ถึง 5 นาที ตั๋วหาย!!!

T T ไปแจ้ง customer service ซึ่งที่นี่เค้ายังดีที่ออกบัตรให้ใหม่ได้ แต่จะไม่ได้เป็นแบบ magic pass

มองเผินๆนะ ตอนแรกคิดว่าเห้ย มันอยู่ในห้างหรอวะ Lotte world แต่พอเข้าไปแล้วมันเป็นอีกมิติ มันเป็นอีกโลกมาก!

ทะด้าา วันนี้ใส่โค้ทที่สอยมามะคืน นี่ปลื้มมากจีจี

 photo DSC00806.jpeg

 photo DSC00799.jpeg

ไม่คิดว่าเค้าจะทำอลังการทะลุนอกห้างขนาดนี้ น่าประทับใจมากกกก

ในตัวห้างจะมี 4 ชั้นค่ะ แบ่งโซนกันไป เค้าจะมีทำสัญลักษณ์ในโบชัวร์ เช่นแบบ Thrill คือจะตื่นเต้นเร้าใจ Children ก็คือเบาๆเหมาะกับเด็กเป็นต้น

Indoor Zone

เครื่องเล่นที่พวกเราเล่นกันข้างในก็มี

French Revolution


คือมันเป็นรถไฟเหาะอันแรกที่ได้เล่นเลย แหกปากสิคะตอนมันตีลังกา 55555 สนุกดีนะ แต่จบเร็วไปหน่อย คืออะไรพวกนี้มันจะสั้นมากๆ จับเวลาประมาณ 2 นาทีอ่ะ 555555

แต่ชอบบบ

Jungle Adventure


นี่จะอารมณ์ Grand Canyon บ้านเรา

คือมันเปียกนิดหน่อย ต้องคอยกอดสัมภาระไว้ให้ดี สนุกดีค่ะ ตอนเราไปนี่นั่งกันสองคนเลย

Pharoah’s Fury


เค้าทำได้เพลินมากอะ production ข้างในนี่เว่อวังอลังการ

ล่องเรือ fury ไปเรื่อยๆ เล่นแล้วก็อินไปกับ story เค้าเหมือนกัน

Atlantis



เป็นเครื่องที่พวกเราอยากเล่นมาก แต่คนเยอะแบบ รอเป็นชม. เลยต้องตัดใจ

วันที่เราไปคนค่อนข้างเยอะค่ะ เลยเล่นได้ไม่ครบ ต้องทำเวลาด้วย 

ระหว่างเดินเล่นข้างในก็ไปเล่นพวกตู้หนีบตุ๊กตาด้วย

แต่อย่าไปเล่นเล้ย โดยแมร่งแดรกหมด 555555

 photo 20151029_143723_resized.jpg

ครั้งละ 500 W เกลี้ยงจ่ะ

OUTDOOR ZONE

Magic Island

 photo DSC00781.jpeg

พอออกโซนนอกห้าง มันเป็นบรรยากาศที่น่ารักมากๆ ดีมากๆ แดดอุ่นลมเย็น หายใจละสดชื่นมากค่ะ

 photo DSC00790.jpeg

พูดถึงพวกกลุ่มเครื่องเล่นสายระทึกดีกว่า “GYRO”

มันจะมีสามเครื่องเล่น  ซึ่งอิเชอกับอิชุก็ฟาดสิคะ รอไร

 photo DSC00791.jpeg

พร้อมลุ๊ยยยย!!

 photo DSC00788.jpeg

 photo DSC00785.jpeg

ตัว Gyro drop นี่จะเหมือน Giant drop ที่เราคุ้นเคยชื่อกัน


คือเสียวไส้แบบเสี้ยววิ ตอนรอคิวนี่น๊านนาน 5555 แต่สนุกดีค่ะ ตอนขึ้นไปสูงสุดละรอจังหวะจะ drop นี่แบบ อร๊อยยยระทึกกก 

Gyro Spin


เครื่องเล่นนี้ กระเป๋าใครที่ปิดซิบไม่ได้ ซวยนะคะ คือนางไม่ให้ฝากตรงโซนข้างนอกด้วย

ต้องกอดไว้ในขณะที่คุณก็ต้องกอดเก้าอี้ไว้ให้แน่นจ่ะ ละมันก็จะสวิงเราท่ามกลางท้องฟ้าที่สวยงาม

สนุกอีกเหมือนกัน ลงมาไม่วิ้งค่ะ

เก็บภาพระหว่างรอคิว

 photo DSC00792.jpeg

Gyro Swing


ใครที่อยากวัดความสตรวอง ความเสียวไส้.. ต้องเจอตัวนี้ค่ะ อิเชอเก่งมาทุกเครื่อง เจอนี่ ลงมานี่กินอะไรไม่ลงเลยค่ะ คือมันเหวี่ยงแบบ 360 ในขณะที่ตัวเราก็ขาชี้ฟ้าไปด้วย

ลงมานี่ถึงกับจอด ท้องไส้หมุนติ้ว ออกมาพัก กินจาจังเมียนใน Lotteriaได้แค่ไม่กี่คำ แทบพุ่ง 55555

ทำเอาเอื่อยไปเลย แนะนำให้ใช้ magic pass จองไว้เล่นท้ายๆโปรแกรม ไม่งั้นอาจจะไม่ไหวละหมดสนุกได้

นอกจากนั้นก็มีเล่น BUNGEE


คือมันเป็น short version ของ Gyro drop อ่ะ เสียวแบบสั้นไปอี๊กกก ก็สนุกเหมือนกัน

คือเสียดายที่มีเวลาน้อยจริงๆ คนมันเยอะ แล้วเมจิคพาสของเรามันก็ใช้ไม่ได้เพราะเป็นบัตรสำรองที่ทำมา

.

.

หลังจากนั้นเราก็แวะ Lotte Mart ต้องบอกว่าของเยอะมาก

คำแนะนำสำหรับการช้อปที่นี่นะคะ หาถุงหรือกระเป๋าใบใหญ่มาเองเลย จะได้ไม่ต้องเสียค่าถุง

เชอซื้อเยอะเลยเอาถุงใหญ่สุด ใบละ 1000 W ก็ประมาณ 30 บาท

มานี่ก็ได้ซื้อของกินหมดเลยค่ะ ที่ชอบที่สุดคือช็อคโกแลตของ lotte ไส้เมล็ดกาแฟ

 photo coffee.jpg

ต้องบอกว่าถ้าไม่ใช่คอกาแฟคงไม่ชอบ

คือมันเป็น cocoa ไส้เม็ดกาแฟทั้งเม็ดเลยค่าาา กรี๊สสสส ปลื้มมวากกก อร่อยมากกกก มันหอมคั่วกาแฟในปาก เคี้ยวละกรุบกรับฟินจริง 

ส่วนอีกอันเป็น cocoa เข้ม มันไม่ถืงกับเข้มขม แต่รสดีงาม ชอบอีกเช่นกัน

 photo DSC00807.jpeg

ลาก่อน Lotte World แล้วเราจะกลับมาอีก..

หลังจากหนึ่งวันที่ยาวนาน เราก็ไปหาข้าวเย็นกินกัน

แกร คือชั้นตาม twitter เที่ยวเกาหลี ละเค้าบอกให้มาร้านนี้ แต่ซึ่งเมนูในรูปที่เค้าโพสต์มันน่าจะผิด เพราะไม่มีเมนูที่เห็นในร้านนี้เลยค่ะ พูดอังกฤษ ที่ร้านก็พูดไม่ได้

เราอยากขอสั่งเนื้อกับชีส เค้าก็ไม่ให้ พอจะสั่งหมู ก็ต้องเป็นรายการตามที่เค้าฟิกไว้ ไปๆมาๆได้สิ่งนี้

 photo DSC00815.jpeg

ด้วยความสงสัยในเนื้อที่เคี้ยวอยู่ เลย kakaoไปถามพี่พู

(คืออิเชอมีเพื่อนเกาคนนึง ขอเรียกนางว่าพี่พูละกัน นางมาจากพูซาน)

ว่า..

 photo 20151030_122901_resized.jpg

สิ่งนี้คืออะไร..

สรุปสิ่งที่สั่งมาคือ.. กระเพาะหมูชีส!!! อิ้ววววววรรรร มันไม่มีความอร่อยเลยแก T T เศร้าแปป

 photo DSC00822.jpeg

ต่อให้หน้าตามันจะดูน่ากินก็เถอะ 555

 photo DSC00818.jpeg

 photo DSC00821.jpeg

หลังจากนั้นเราก็เก็บของในที่พัก แล้วก็ออกมาเดินเล่นตลาดวัยรุ่นย่านฮงแด ข้ามถนนจากที่พักไปก็ถึงเลย

 photo DSC00845.jpeg

ก่อนไปก็ต้องมี Fashion set นิสนึง

 photo DSC00849.jpeg

สำหรับย่านนี้.. 

 photo DSC00852.jpeg

ชั้นค่อนข้างชอบเสื้อผ้าที่นี่อะ คือมันใช่ เสื้อผ้าน่ารักมากก ส่วนใหญ่เป็นสไตล์ที่อิเชอชอบเลย  ราคาแถวนี้ก็ไม่แพงมาก อาจจะไม่ถูกเท่าพวกใต้ดิน แต่มันมีสไตล์ เกร๋ๆ  มีราคาสูงเป็นบางอย่าง นี่ก็สอยโค้ดมาอีกตัวจ่ะ แต่บางกว่า ราคาประมาณ 19,000 Wซึ่งเป็นตัวที่เชอจะใส่ในวันรุ่งขึ้นค่ะ

.

.

จากนั้นเราก็กลับที่พัก แปลงโฉม แล้วไปท่องราตรี..

 photo 20151029_231542_resized.jpg

วันนี้เราไปกันที่กังนัม

“OCTAGON” เห็นว่าเป็นเดอะเบสของหน้าตาอปป้า มีคนบอกมา..

ขอไปเชยชมหน่อย หุหุ

พอเราไปถึง ต้องบอกว่า ร้านค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว มันจะมีแบ่งชั้นแบ่งโซน ชั้นสองเหมือนจะถูกจอง ต้องมีบัตรผ่านเข้าไป ส่วนโซนสำหรับคนทั่วไปจะอยู่ด้านล่าง ล็อคเกอร์เก็บของที่นี่หะรูหะราดีมาก คือต้องใช้ wrist band ในการสแกนบาร์โค้ดแล้วฝากของจ้า เสียค่าฝาก 5,000 W ถ้าจำไม่ผิด

 photo 20151030_004220_resized.jpg

ผู้คนที่นี่แต่งตัวดีค่ะ ดูโต เป็นผู้ใหญ่ ส่วนหน้าตาก็ธรรมดา-ดี

เอาจริงไม่ค่อยได้เห็นหน้าหรอก มืดๆ ส่วนใหญ่แต่งตัวดีซะมากกว่า

วันที่เชอไป เป็นวันที่มีงาน event ดีเจอะไรสะอย่าง เลยเข้าฟรี คนไม่เยอะมาก

 photo 20151029_234417_resized.jpg

 photo 20151030_011555_resized.jpg

เอาจริง จากแนวเพลงนะ เราว่ามันไม่สนุกเลยเว้ย เพลงแบบ electro อย่างเดียว อยู่ละง่วง

ดีที่ไม่มีอปป้ามือปลาหมึกนะ หรืออาจเพราะวันที่ไป คนน้อยด้วย

ต่างคนต่างเต้น แต่ยอมรับว่าที่นี่แต่งตัวดูดีจริง

มีแค่ฝรั่งหน้าหม้อที่คั่วสาวไปทั่วมายุ่งๆ คือมันคงว๊อนท์มาก เห็นเจอญไหนเข้าหาหมด

ที่นี่ดริ้งแพงค่ะ เบียร์ขวดเล็กก็จำได้ว่าแพงแล้ว 

อยู่ได้ไม่นานก็กลับ นั่งแท็กซี่กลับเลยจ่ะเพราะมันดึก ตอนนั้นตี 1+ โดนค่ารถไปเกือบ 500 บาทไทยได้ เค้าถึงว่า แท็กซี่เกาหลีแพง บอกเลยว่าคุณลุง อาซาชี นี่ขับแบบ FAST & FURIOUS มากค่ะ ขับขนาดนี้อยู่เมืองไทยโดนแน่ๆ 5555555 นี่ต้องเกาะบาร์โหนเลย ไม่งั้นตัวเซหัวโขกกระจกแน่นอน


อ่านต่อ Part 2 ได้ที่นี่เลยจ้าา!: //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cherriiecherry&month=09-01-2016&group=17&gblog=2




Create Date : 09 มกราคม 2559
Last Update : 9 มกราคม 2559 23:06:56 น.
Counter : 1305 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 808387
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]



cherriiecherry's blog
Beauty, Fashion & Lifestyle
"ทุกอย่าง เกิดขึ้นได้จากแรงบันดาลใจและความเชื่อ"

รายละเอียดเพิ่มเติมใน About me เลยค่า <3




New Comments