[5 วัน 4 คืน]: เการักที่เกาหลีครั้งแรกช่วงตุลา 2015 (Part1) [ดูบนมือถือ กดดูเนื้อหาแบบ Desktop Version ก่อนน้า~] เมื่อช่วงปลายตุลาที่ผ่านมา อิเชอได้บินลัดฟ้าไปแดนกิมจิ ที่ๆนางเฝ้ารอมาตลอดช่วงเวลาการทำงาน.. :D เรียกได้ว่าเป็นแรงจูงใจในการทำงานมาก 55555 เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังคร่าวๆ เอาจริงเห็นคนโพสท์กระทู้มากมายเกี่ยวกับเที่ยวเกาหลี งานนี้ อิเชอจะหยิบแต่ประเด็นที่น่าสนใจมาแชร์ให้ฟังละกัน อ้อ ทริปนี้ อิเชอมี แฮชแทกด้วยนะคระ #CCKAORAKTEEKOREA2015 ซีซีคือเชอรี่กับชุตี้นั่นเองค่ะ นังนี่เป็นเพื่อนร่วมทริปของอิชั้นเอง หน้าสดก่อนขึ้นเครื่อง นี่เตรียมมาส์คหน้านอนเรียบร้อย สำหรับข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆเชอกับชุก็ได้ช่วยกันรวบรวมกันมาหลายที่มาก แต่ส่วนใหญ่มาจาก//seoulcafe2013.blogspot.com ต้องขอบคุณแหล่งข้อมูลที่ดีมากๆสำหรับการเดินทางสู่แดนกิมจิในครั้งนี้.. ^^ เชอเลือกเดินทางกับ Air asia-X ค่ะ Flight ตี1.55 น.ของคืนวันที่ 28 ตุลา คือนางดีเลย์ 20 นาที ==.. อืมก็นะ เห็นว่าเป็นเรื่องปกติของสายการบินนี้ เชอซื้อตั๋วช่วงโปรมาได้ 12,000+ กว่าๆ มันจะถูกก็ไม่ถูก แพงก็ไม่แพงอะนะ เห็นว่าบางคนกดได้ถูกกว่านี้ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้เที่ยวก็พอละ 555 อ่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า LANDED. แปลงโฉมแต่งหน้าบนเครื่องเรียบร้อย. สาบานว่ามาด้วยกัน 55555555 คือนางเป็นเพื่อนในแก๊งที่แบบ ไม่มีความสาวเลยเว้ยยย 555555 นางเป็น Sport girl MAN-U girl มากค่ะ ถ้าอยากจีบนางให้เอาเรื่องบอลมาคุย :D ประหนึ่งเป็นมาม่าซังพาเด็กมาเปิดหูเปิดตาต่างแดน มาถึงสนามบินปุ้ปก็ต่อ Wifi ซึ่งนังชุเป็นผู้จัดการหาเช่ามา โดนเสียคนละ 100บาท/วัน และติดต่อกับเจ้าของที่พัก ซึ่งอิเชอได้จองที่พักผ่าน Airbnb ย่านฮงแด ย่านวัยรุ่นสุดฮิตที่ใครหลายคนคุ้นเคยกันดี ที่บ้านอิเชอคือ Ultari Guesthouse จากสนามบินเราก็ไปโดยรถไฟใต้ดิน Airport Railroad (AREX) (อยู่บริเวณชั้น B1) ลงสถานี Hongik University4050 วอน ใช้บัตร T-Money ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ทั้งหมดทั้งปวง ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนบัตร T-Money ของเราสองด้วยค่ะ Korea Tourism Organization Thailand: https://www.facebook.com/KTOThailand/ ที่แจกบัตรพร้อม Top up 10,000 W ให้เราด้วยยยย >< *กราบงามๆ* คือตอนนั้นเค้ามีการให้ไปรับบัตร T money ถ้าเรามีหลักฐานการเดินทางในช่วงที่กำหนด ซึ่งก็ได้ไปรับที่สำนักงานเลยค่ะ แล้วก็ได้สมัครบัตร Korea Privilege Card ด้วย บัตรก็มีสิทธิพิเศษมากมาย เช่นลดราคาเครื่องสำอาง คลินิค ส่วนลดสวนสนุกที่นู่น หรือร้านอาหารเกาหลีบางร้านในไทยด้วยค่ะสมัครฟรีและยังสมัครได้เรื่อยๆสำหรับบัตรนี้ . . พอมาถึงสถานี Hongik แกร .. ที่นี่เค้าไม่มีบันไดเลื่อนเว้ย!!~ OO นึกภาพชั้นลากกระเป๋าสองใบขึ้นบันไดสถานีทางออก ถ้าไม่ถึก ทำไม่ได้!! พูดจริง!! นี่แบกแบบกระหืดกระหอบมากค่ะ เดินออกจากสถานีไปยังที่พัก ตอนได้สัมผัสลมด้านนอก.. หือออ อากาศช่วงเดือนตุลานั้นดี๊ดีอ่ะเทอ ลมเย็นหนาวปะทะหน้า หายใจคล่อง สดชื่นมวากกก เราก็เดินตามแผนที่ มุ่งหน้าไปที่พัก ที่พักนี่บันไดอีกเช่นเคย แบกขึ้นไปแทบตาย นี่คือรูปบ้านพักค่ะ Airbnb : Ultari House 1 https://www.airbnb.com/rooms/618021?checkin=10%2F28%2F2015&checkout=11%2F01%2F2015&guests=2&s=lmk0 Host ชื่อ Allen หรือชื่อเกาหลีคือ Dongryul Host เค้าตอบรับให้เรามาพัก และก็ text มาหาเราตอนที่เราลงเครื่องพอดี พร้อมบอกให้แจ้งเค้าถ้าเราไปถึงที่พัก สำหรับราคาที่พัก: ค่าเสียหาย 5,315 บาท แต่นี่ได้โค้ดเพื่อนมาแล้วโหลดแอพสมัครเลย จะได้ discount ไป 700+บาท จากการอ่าน condition .. The Space Accommodates: 2 Bathrooms: 1 Bed type: Real Bed Bedrooms: 1 Beds: 1 ชั้นสองเข้าใจว่า ที่นี่จะเป็น private bathroom คืออิชุก็คิดเหมือนกัน แต่ทว่า..มาถึงปุ้ป มันเป็นห้องน้ำรวม ละสภาพที่ชั้นเห็นใน airbnb กับความจริงนั้น.. แตกต่างเหมือนกั๊นน~ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แต่มันดูเก่าแก่กว่าที่เห็นพอสมควร ละห้องสองคนคือแบบ เล็กอะ แคบมาก มันมีห้องพักอื่นอีกสองห้องด้วย รวมห้องเราเป็น 3 ซึ่งมันก็ผิดกับ condition ที่เค้าเขียน คือโชคดีที่สามวันแรกเราพักกันแค่ห้องเดียวบวกกับคนดูแลที่พักอีกหนึ่งคน คืนที่สามนี่มีสาวมาเลมาพักอีกห้อง และอีกห้องเป็นสาวไหนไม่รู้ นี่ต้องต่อคิวรอห้องน้ำอะ เซ็งมาก == เสียเวลาเดินทาง สรุปข้อดี: 1. ใกล้สถานที่เที่ยวและเดินทางสะดวก Shop เครื่องสำอางนั้นเต็มเลยค่ะ อาหงอาหารรายล้อม ติด Subway แต่ถ้าให้มาพักอีก คงบายค่ะ ขอหาที่ๆแบบ ห้องน้ำส่วนตัวเถิด 2. ของใช้ในห้องน้ำมีให้ เค้าก็มีของใช้ในห้องน้ำให้หมดนะ ยกเว้นแปรงสีฟันส่วนตัว มันก็ดีที่เราไม่ต้องซื้อ น้ำยงน้ำยาคอนแทค แชมพู ครีมอาบน้ำ มีกระทั่งยี่ห้อของไทยให้ แต่มันแบบ ระเนระนาด แอบสกปรกนิดนึงอ่ะ คือบ้านคนจริงๆถ้าใครไม่ซีเรียสก็โอเค 3. มีเครื่องซักผ้าให้ ถ้าใครที่เอาเสื้อผ้ามาน้อยก้ซักได้ มีผงซักฟอกให้อยู่ 4. ห้องครัว ตู้เย็น คือเรากินได้ทุกอย่างในห้องครัวเค้า แต่เราก็ไม่ค่อยกินอะ มีน้ำอุ่นให้ก็พอละ ข้อเสีย: 1. ห้องน้ำรวม ไม่เป็นระเบียบเท่าไหร่ ไม่สะอาด 2. สภาพบ้านเก่าไปหน่อย มีห้องจริงๆ 3 ห้อง ขัดกับ condition เค้าควรจะระบุว่าเป็น share bathroom ต่อ พอเก็บขงเก็บของเสร็จก็ออกมาหาไรกิน แพลนวันแรกคือแบบชิวๆ ช้อปปิ้งและกิน! . . ระหว่าเดินหาร้าน ก็เจอร้าน mandoo หรือเกี๊ยวซ่านั่นเอง ซึ่งก็ไม่รู้อันไหนอร่อย จิ้มมั่วๆมาในราคา 3000 W .. มันคือเกี๊ยวไส้พิซซ่า == ความโคเรียนี้ อาหารมื้อแรก 5555 รสเฉยๆ แบบซอสพิซซ่าอะ อาจุมม่าก็พุดอังกฤษไม่ได้ เลยไม่รุ้ว่ามันไส้อะไร ฮืมม.. สุดท้าย เราก็มาลงเอยด้วย ไก่ทอดเกาหลี มื้อแรกอย่างเป็นทางการ ร้านอยู่แถวๆซอยที่พักนี่แหละ ถ้าลงจาก subway hongik univ. no.9 เดินตรงเข้าซอยผ่านพวก kfc มาจะเจอเลย อร่อยดีนะ เป็นไก่มีกระดูกฉ่ำซอส แต่เรารู้สึกว่ามันยังอร่อยได้อีก เอาไป 7/10 จากนั้นเราสองก็พร้อมลุยช๊อปกับ 1st day : SHOPPING DAY! ณ Myeongdong!! (Line 4 สายสีฟ้า ลงสถานี Myeongdong ออก Exit 5, 6, 7, 8 หรือ Line 2 สายสีเขียว ลงสถานี Euljiro1(il)-gaออก Exit 5 ) ซึ่งก่อนจะขึ้นสู่พื้นถนน เราก็แวะ ก่อน Myeongdong Underground Shopping Center ซึ่งเราชอบมากก คือเสื้อผ้าสวยนะ ถูกด้วย ชั้นได้เสื้อตัวนึงในราคา 200 บาทไทย มีรูป เดี๋ยวลงละจะบอก ละข้างล่างนี่คือมีร้านขายของติ่งเกาเว้ย เพื่อนชั้นก็ฝากนังชุแบกโฟโต้บุคน้อง Got7 กลับมาด้วย ของที่นี่ถือว่าถูกกว่าร้านอื่นๆเลยค่ะ แนะนำเพื่อนติ่งต้องมาที่นี่ . . พอเดินจนครบละก็ขึ้นสู่พื้นดิน.. แกร คือมันเป็นดินแดนสำหรับนักช็อปม๊าก!!!! เครื่องสำอางที่นี่แบบสุดมาก อัด แน่น ครบเครื่องทุกซอกทุกมุม นี่คือเครื่องสำอางที่เราสอยมา คือแฮปปี้มากอะ นอกจากเครื่องสำอางก็จะมีเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ Street food ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะแน่นไปด้วยเครื่องสำอางซะมากกว่า และมาถึงไอติมสู๊งงสูงที่เลื่องชื่อ คือเดินไปเรื่อยๆละก็เจอเฉย กับ 32 Parfait https://www.facebook.com/32parfait/timeline ที่ตั้ง : 22-9 Chungmuro 1-ga, Jung-gu, Seoul จริงๆมันจะกดใส่โคนยาวสูงเลย แต่ด้วยการอยากชิมหลายรสและเรามากันสองคน เลยสั่งแบบถ้วยแทน รสชาติเอาจริงเฉยๆนะ คือมันก็ดีที่ไม่หวานมาก แต่แบบ มันไม่ค่อยมีความหอมของตัวไอติมเลย จำราคาไม่ได้ แต่ประมาณ 60 บาท ระหว่างทางก็ลองชม Street food ที่นี่ไปเรื่อยๆ คือลองกินเป็นบางอย่าง อย่างปลาเส้นร้านนี้ เค้าบอกว่า มันคือ fish cake เค้าจะให้ตักน้ำซุปละหยิบไม้กินในลักษณะโอเด้ง คือรสมันจืดแบบ.. จืดมากกกกกกกก ไม่อร่อยอะ 5555 ส่วนอันนี้ เป็นลูกๆคล้ายทาโกะยากิ มันเป็นเนื้อบดๆรวมกันละมีปลาหมึกด้วย เค็มๆเผ็ดๆมันๆ ส่วนตัวก็เฉยๆอีก.. คือรสมันไม่มีอะไรโดดเด่น และนี่ หน้าตาน่ากินมากจ่ะ ต๊อกชีส รสก็คือความจืดของต๊อกเลย คือ ตอนกลับมาไทยเพิ่งจะรู้ว่ามันมีนมข้นให้ราดด้วย == อินี่ไม่ได้สัมผัสรสชาติของความหวานเลยค่ะ ซึ่งนังชุมันบอกว่า เค้าใส่มาให้แต่นิดเดียว แสดงว่าอิส่วนที่เค้าใส่มา นังนี่คงกินไปหมดแล้ว ถถถถถถ อด ตัวชีสจะหอมมันๆหน่อย ครั้งหน้าไปต้องไปฟาดอีกรอบ ขอนมข้นหนักๆ หึหึ โดยรวมคือไม่ได้ลอง street food ครบทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่ที่เจอคือรสไม่ค่อยอร่อย5555 . . สำหรับห้างละแวกนี้ เราก็ได้แวะ หลายห้างอยู่ อย่าง Migliore ก็ได้แวะ แต่ชั้นว่ามันไม่มีไรเลยอ่ะ เฉยๆมาก ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าสวย สำหรับเวลาเปิดปิดของร้านค้าต่างๆ ย่านมยองดงจะเปิดประมาณ 10.30 และปิดตั้งแต่ 20.30 น.เป็นต้น บางที่ก็ปิดดึก บางที่ก็ตี 5 เลย . . จากนั้นก็ไป Seoul tower ค่ะ ด้วยความที่มาครั้งแรก ดู Map ละก็คิดว่าคงไม่ไกลมาก ไหนๆก็อยู่มยองดงละ ไม่ต้องรถบัสหรอก ก็เดินจากมยองดง ไป cable car คือเดินหาโรงแรม Pacific hotel ก่อน แล้วเข้าซอยขวามือ ตรงยาวไปเรื่อยๆ มันจะชันขึ้นๆ ก็จะถึง cable car ซึ่ง cable car จะเปิด 10.00 23.00 น.ผู้ใหญ่ตกคนละ 6,000 W (เที่ยวเดียว) / 8,500 W (ไปกลับ) ซึ่งกว่าจะถึงบอกเลยว่า.. โคตรเหนื่อย! คือทางมันชันมากกกกกกกและไกลอยู่ ประมาณ 15 นาทีอะแกร๊ อิชุคือหนักสุด อินี่แบกโฟโต้บุค Got7 ขึ้นหลังเดินขึ้นไปด้วยจร้า 5555555 ละดึกๆนี่แอบเปลี่ยวๆ มืดๆ ถ้าใครที่ขี้เกียจเดิน แนะนำให้ขึ้นรถบัสค่ะ โดยนั่งรถ Namsan Sunhwan Shuttle bus สาย 02,03,05 จากมยองดงไปได้ อันนี้เป็นวิวจาก cable car พอมาถึง.. นี่บอกเลยว่า ข้างบนหนาวมาก! อุณหภูมิประมาณ 8 องศาแต่โคตรหนาว คือดูเสื้อผ้าอิชั้น มีแค่เสื้อเชิตแขนยาวบางข้างในและผ้าพันคอคลุม นี่ยังหาเสื้อโคทไม่ได้ไง ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันไป บอกเลยว่าคู่รักข้างบนนั้นเยอะมากกกก คือนางจะมุ้งมิ่งซารางเฮกันเต็มไปหมด อิชั้นกับเพื่อนก็จิ้นกันเองเส่ะ หอยหราด ถ้าใครจำฉากในหนังที่เป็นที่คล้องกุญแจคู่รักได้.. ชั้นบอกเลยว่า มันผิดคาดมาก คือมันเล็กกว่าที่คิดมากกกแกร เป็น Square area เท่านั้นจริงๆ รายล้อมไปด้วยแม่กุญแจ แต่มันก็เป็นจุด landmark ที่น่าจดจำ.. ถ้ามากับคู่รักจะฟินมาก คือบรรยากาศมันดีอ่ะ ครั้งหน้าชั้นจะต้องมีหลัวมาด้วยค่ะ 55555555 ครั้งนี้อยู่กับนังนี่ไปก่อนละกัน ถถถถถ พอมองวิวจากตรงนี้ไป Seoul Tower มันสวยจริงๆ ระหว่างรอคิวขึ้น Seoul Tower ก็ไปจิบกาแฟรอ คือชั้นค่อนข้างประทับใจกาแฟที่นี่ รู้สึกอร่อยทุกร้านเลย นี่แก้วละประมาณ 120+ บาทไทย พอขึ้น Seoul Tower ข้างบนมันแบบ เป็นที่ไม่กว้างมากอะ แต่เห็นทั้งโซลเลย สวยงาม.. ถ้าไม่มานี่ก็เหมือนมาไม่ถึง มีของฝากน่ารักๆด้วยค่ะ เก็บภาพกันไปจนพอใจ.. จากนั้นเราก็มาชอปปิ้งห้างที่ปิดดึกย่านทงแดมุนต่อ แต่พวกเรานั่งรถบัสกันมาค่ะ อันนี้แปะเผื่อคนเดินทางด้วยรถไฟ (รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว, สาย 4 สีฟ้า, สาย 5 สีม่วง ลงสถานี Dongdaemun History & Culture Park ทางออกที่ 1 หรือสาย 1 สีน้ำเงิน,สาย 4 สีฟ้า ลงสถานีทงแดมุน (Dongdaemun) ก็ได้เหมือนกัน) ระหว่างนั้นก็แวะชิม street food อีก จะรสเหมือนไก่ก็ไม่ใช่ ลูกชิ้นก็ไม่เชิง ดูท่าจะไม่ถูกโฉลกสตรีทฟู๊ดสักอย่าง 5555555 . . บอกเลยว่า ใครที่มีแพลนมาหน้าหนาวปีนี้ และจะหาซื้อเสื้อโค้ทเกร๋ๆตั้งแต่ชิคๆไปยันขั้นหรูหรา ชั้นขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ไม่ต้องหาซื้อจากไทยไป เพราะบางร้านที่นี่ถูกกว่าจริงๆ ถ้าอยากได้แบบสไตล์ High fashion หน่อยก็ต้องห้าง Lotte FITIN เลย มันดูดีมากกกก แต่ราคาก็สูงตามท้องเรื่องประมาณ 3000+ บาทไทย แต่มันสวยจริงๆ ส่วนอิเชอ ไปฟาดที่ห้าง Hello apM แทน ด้วยความที่อากาศบ้านเรามันไม่มีวันหนาว เลยคิดว่า ซื้อแพงไปคงใส่ได้น้อยครั้งอยู่ดี เลยขอแบบราคากลางๆรับไหวละกัน สำหรับห้าง Hello apM เปิด 10:30-05:00 ปิดวันอังคาร ซึ่งร้านที่อิเชอจัดไปจะอยู่ชั้นล่างเลยค่ะ จำได้ว่า อาจุมม่าเค้าลดให้เหลือ 60,000 W ก็ประมาณ 1800 บาทตอนนั้น แกรคือโค้ทเค้าดีอะ ทรงสวย สีคือแมทช์ได้ทุกชุดเลยค่ะ ซึ่งอิเชอจะใส่ในวันถัดไป รอดูรูปรัวๆ คืออิเชอพูดอังกฤษไป นางตอบมาเป็นเกา 5555555 แม้อาจุมม่าจะพูดอังกฤษไม่ได้เลยเถอะ แต่เราสื่อสารกันได้ ;D ;D น่ารักป้ะล่ะ ;D ;D ในคืนวันแรกก็ผ่านพ้นไปด้วยดี 2nd day: Fun Park is calling Plan ของเราคือไป Lotte World Lotte world Address : 240, Olympic-ro, Songpa-gu, Seoul Website : www.lotteworld.com เวลาเปิด : 9:30-23:00 วิธีเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว หรือ สาย 8 สีชมพู ลงสถานีชัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 4 ออกมาแล้วเดินเลียบถนนใหญ่ไปค่ะ ซึ่งอิเชอกับเพื่อนก็ได้ซื้อบัตรเป็นแบบ 1 Day Pass Ticket ตอนนั้นจำได้ว่ามีโปร ต้องคอยเช็คนะคะว่าที่ไหนมีส่วนลดบ้าง แต่เรามีบัตร Korea tourism member อ่ะ มันมีให้ลดสำหรับtourist เหมือนกัน . . พอเข้าไปในโซน Lotte World Adventure //global.lotteworld.com/app/attrctn/list.asp?cmsCd=CM0196 นี่ก็เป็นความโง่ของอิชั้น คือซื้อตั๋วแบบ 1-day passport มาไม่ถึง 5 นาที ตั๋วหาย!!! T T ไปแจ้ง customer service ซึ่งที่นี่เค้ายังดีที่ออกบัตรให้ใหม่ได้ แต่จะไม่ได้เป็นแบบ magic pass มองเผินๆนะ ตอนแรกคิดว่าเห้ย มันอยู่ในห้างหรอวะ Lotte world แต่พอเข้าไปแล้วมันเป็นอีกมิติ มันเป็นอีกโลกมาก! ทะด้าา วันนี้ใส่โค้ทที่สอยมามะคืน นี่ปลื้มมากจีจี ไม่คิดว่าเค้าจะทำอลังการทะลุนอกห้างขนาดนี้ น่าประทับใจมากกกก ในตัวห้างจะมี 4 ชั้นค่ะ แบ่งโซนกันไป เค้าจะมีทำสัญลักษณ์ในโบชัวร์ เช่นแบบ Thrill คือจะตื่นเต้นเร้าใจ Children ก็คือเบาๆเหมาะกับเด็กเป็นต้น Indoor Zone เครื่องเล่นที่พวกเราเล่นกันข้างในก็มี French Revolution คือมันเป็นรถไฟเหาะอันแรกที่ได้เล่นเลย แหกปากสิคะตอนมันตีลังกา 55555 สนุกดีนะ แต่จบเร็วไปหน่อย คืออะไรพวกนี้มันจะสั้นมากๆ จับเวลาประมาณ 2 นาทีอ่ะ 555555 แต่ชอบบบ Jungle Adventure นี่จะอารมณ์ Grand Canyon บ้านเรา คือมันเปียกนิดหน่อย ต้องคอยกอดสัมภาระไว้ให้ดี สนุกดีค่ะ ตอนเราไปนี่นั่งกันสองคนเลย Pharoahs Fury เค้าทำได้เพลินมากอะ production ข้างในนี่เว่อวังอลังการ ล่องเรือ fury ไปเรื่อยๆ เล่นแล้วก็อินไปกับ story เค้าเหมือนกัน Atlantis เป็นเครื่องที่พวกเราอยากเล่นมาก แต่คนเยอะแบบ รอเป็นชม. เลยต้องตัดใจ วันที่เราไปคนค่อนข้างเยอะค่ะ เลยเล่นได้ไม่ครบ ต้องทำเวลาด้วย ระหว่างเดินเล่นข้างในก็ไปเล่นพวกตู้หนีบตุ๊กตาด้วย แต่อย่าไปเล่นเล้ย โดยแมร่งแดรกหมด 555555 ครั้งละ 500 W เกลี้ยงจ่ะ OUTDOOR ZONE Magic Island พอออกโซนนอกห้าง มันเป็นบรรยากาศที่น่ารักมากๆ ดีมากๆ แดดอุ่นลมเย็น หายใจละสดชื่นมากค่ะ พูดถึงพวกกลุ่มเครื่องเล่นสายระทึกดีกว่า GYRO มันจะมีสามเครื่องเล่น ซึ่งอิเชอกับอิชุก็ฟาดสิคะ รอไร พร้อมลุ๊ยยยย!! ตัว Gyro drop นี่จะเหมือน Giant drop ที่เราคุ้นเคยชื่อกัน คือเสียวไส้แบบเสี้ยววิ ตอนรอคิวนี่น๊านนาน 5555 แต่สนุกดีค่ะ ตอนขึ้นไปสูงสุดละรอจังหวะจะ drop นี่แบบ อร๊อยยยระทึกกก Gyro Spin เครื่องเล่นนี้ กระเป๋าใครที่ปิดซิบไม่ได้ ซวยนะคะ คือนางไม่ให้ฝากตรงโซนข้างนอกด้วย ต้องกอดไว้ในขณะที่คุณก็ต้องกอดเก้าอี้ไว้ให้แน่นจ่ะ ละมันก็จะสวิงเราท่ามกลางท้องฟ้าที่สวยงาม สนุกอีกเหมือนกัน ลงมาไม่วิ้งค่ะ เก็บภาพระหว่างรอคิว Gyro Swing ใครที่อยากวัดความสตรวอง ความเสียวไส้.. ต้องเจอตัวนี้ค่ะ อิเชอเก่งมาทุกเครื่อง เจอนี่ ลงมานี่กินอะไรไม่ลงเลยค่ะ คือมันเหวี่ยงแบบ 360 ในขณะที่ตัวเราก็ขาชี้ฟ้าไปด้วย ลงมานี่ถึงกับจอด ท้องไส้หมุนติ้ว ออกมาพัก กินจาจังเมียนใน Lotteriaได้แค่ไม่กี่คำ แทบพุ่ง 55555 ทำเอาเอื่อยไปเลย แนะนำให้ใช้ magic pass จองไว้เล่นท้ายๆโปรแกรม ไม่งั้นอาจจะไม่ไหวละหมดสนุกได้ นอกจากนั้นก็มีเล่น BUNGEE คือมันเป็น short version ของ Gyro drop อ่ะ เสียวแบบสั้นไปอี๊กกก ก็สนุกเหมือนกัน คือเสียดายที่มีเวลาน้อยจริงๆ คนมันเยอะ แล้วเมจิคพาสของเรามันก็ใช้ไม่ได้เพราะเป็นบัตรสำรองที่ทำมา . . หลังจากนั้นเราก็แวะ Lotte Mart ต้องบอกว่าของเยอะมาก คำแนะนำสำหรับการช้อปที่นี่นะคะ หาถุงหรือกระเป๋าใบใหญ่มาเองเลย จะได้ไม่ต้องเสียค่าถุง เชอซื้อเยอะเลยเอาถุงใหญ่สุด ใบละ 1000 W ก็ประมาณ 30 บาท มานี่ก็ได้ซื้อของกินหมดเลยค่ะ ที่ชอบที่สุดคือช็อคโกแลตของ lotte ไส้เมล็ดกาแฟ ต้องบอกว่าถ้าไม่ใช่คอกาแฟคงไม่ชอบ คือมันเป็น cocoa ไส้เม็ดกาแฟทั้งเม็ดเลยค่าาา กรี๊สสสส ปลื้มมวากกก อร่อยมากกกก มันหอมคั่วกาแฟในปาก เคี้ยวละกรุบกรับฟินจริง ส่วนอีกอันเป็น cocoa เข้ม มันไม่ถืงกับเข้มขม แต่รสดีงาม ชอบอีกเช่นกัน ลาก่อน Lotte World แล้วเราจะกลับมาอีก.. หลังจากหนึ่งวันที่ยาวนาน เราก็ไปหาข้าวเย็นกินกัน แกร คือชั้นตาม twitter เที่ยวเกาหลี ละเค้าบอกให้มาร้านนี้ แต่ซึ่งเมนูในรูปที่เค้าโพสต์มันน่าจะผิด เพราะไม่มีเมนูที่เห็นในร้านนี้เลยค่ะ พูดอังกฤษ ที่ร้านก็พูดไม่ได้ เราอยากขอสั่งเนื้อกับชีส เค้าก็ไม่ให้ พอจะสั่งหมู ก็ต้องเป็นรายการตามที่เค้าฟิกไว้ ไปๆมาๆได้สิ่งนี้ ด้วยความสงสัยในเนื้อที่เคี้ยวอยู่ เลย kakaoไปถามพี่พู (คืออิเชอมีเพื่อนเกาคนนึง ขอเรียกนางว่าพี่พูละกัน นางมาจากพูซาน) ว่า.. สิ่งนี้คืออะไร.. สรุปสิ่งที่สั่งมาคือ.. กระเพาะหมูชีส!!! อิ้ววววววรรรร มันไม่มีความอร่อยเลยแก T T เศร้าแปป ต่อให้หน้าตามันจะดูน่ากินก็เถอะ 555 หลังจากนั้นเราก็เก็บของในที่พัก แล้วก็ออกมาเดินเล่นตลาดวัยรุ่นย่านฮงแด ข้ามถนนจากที่พักไปก็ถึงเลย ก่อนไปก็ต้องมี Fashion set นิสนึง สำหรับย่านนี้.. ชั้นค่อนข้างชอบเสื้อผ้าที่นี่อะ คือมันใช่ เสื้อผ้าน่ารักมากก ส่วนใหญ่เป็นสไตล์ที่อิเชอชอบเลย ราคาแถวนี้ก็ไม่แพงมาก อาจจะไม่ถูกเท่าพวกใต้ดิน แต่มันมีสไตล์ เกร๋ๆ มีราคาสูงเป็นบางอย่าง นี่ก็สอยโค้ดมาอีกตัวจ่ะ แต่บางกว่า ราคาประมาณ 19,000 Wซึ่งเป็นตัวที่เชอจะใส่ในวันรุ่งขึ้นค่ะ . . จากนั้นเราก็กลับที่พัก แปลงโฉม แล้วไปท่องราตรี.. วันนี้เราไปกันที่กังนัม OCTAGON เห็นว่าเป็นเดอะเบสของหน้าตาอปป้า มีคนบอกมา.. ขอไปเชยชมหน่อย หุหุ พอเราไปถึง ต้องบอกว่า ร้านค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว มันจะมีแบ่งชั้นแบ่งโซน ชั้นสองเหมือนจะถูกจอง ต้องมีบัตรผ่านเข้าไป ส่วนโซนสำหรับคนทั่วไปจะอยู่ด้านล่าง ล็อคเกอร์เก็บของที่นี่หะรูหะราดีมาก คือต้องใช้ wrist band ในการสแกนบาร์โค้ดแล้วฝากของจ้า เสียค่าฝาก 5,000 W ถ้าจำไม่ผิด ผู้คนที่นี่แต่งตัวดีค่ะ ดูโต เป็นผู้ใหญ่ ส่วนหน้าตาก็ธรรมดา-ดี เอาจริงไม่ค่อยได้เห็นหน้าหรอก มืดๆ ส่วนใหญ่แต่งตัวดีซะมากกว่า วันที่เชอไป เป็นวันที่มีงาน event ดีเจอะไรสะอย่าง เลยเข้าฟรี คนไม่เยอะมาก เอาจริง จากแนวเพลงนะ เราว่ามันไม่สนุกเลยเว้ย เพลงแบบ electro อย่างเดียว อยู่ละง่วง ดีที่ไม่มีอปป้ามือปลาหมึกนะ หรืออาจเพราะวันที่ไป คนน้อยด้วย ต่างคนต่างเต้น แต่ยอมรับว่าที่นี่แต่งตัวดูดีจริง มีแค่ฝรั่งหน้าหม้อที่คั่วสาวไปทั่วมายุ่งๆ คือมันคงว๊อนท์มาก เห็นเจอญไหนเข้าหาหมด ที่นี่ดริ้งแพงค่ะ เบียร์ขวดเล็กก็จำได้ว่าแพงแล้ว อยู่ได้ไม่นานก็กลับ นั่งแท็กซี่กลับเลยจ่ะเพราะมันดึก ตอนนั้นตี 1+ โดนค่ารถไปเกือบ 500 บาทไทยได้ เค้าถึงว่า แท็กซี่เกาหลีแพง บอกเลยว่าคุณลุง อาซาชี นี่ขับแบบ FAST & FURIOUS มากค่ะ ขับขนาดนี้อยู่เมืองไทยโดนแน่ๆ 5555555 นี่ต้องเกาะบาร์โหนเลย ไม่งั้นตัวเซหัวโขกกระจกแน่นอน
อ่านต่อ Part 2 ได้ที่นี่เลยจ้าา!: //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cherriiecherry&month=09-01-2016&group=17&gblog=2 |
สมาชิกหมายเลข 808387
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?] cherriiecherry's blog Beauty, Fashion & Lifestyle "ทุกอย่าง เกิดขึ้นได้จากแรงบันดาลใจและความเชื่อ" รายละเอียดเพิ่มเติมใน About me เลยค่า <3
Link |