...เงินทองเป็นของมายา....ข้าวปลาเป็นของจริง
Group Blog
 
All Blogs
 

ก้าวใหม่..ของพี่น้องม้ง..บ้านป่าไผ่

....2-3ปีมานี้ บุญยิ่ง เลาว้าง อดีตเจ้าหน้าที่อนามัยที่ลาออกจากราชการมาปลูกผัก
ปลอดภัยจากสารพิษขาย โดยการเลิกใช้สารเคมี แล้วหันมาทำปุ๋ยหมักเพื่อใช้ในสวนของตนเอง....เพื่อนบ้านก็ปรามาสเขาคิดว่าเขาบ้า...สาเหตุที่เขาละทิ้งวิถีเดิมๆ
เป็นเพราะว่าขณะที่เขาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่อนามัยอยู่นั้นเขาพบเห็นผู้ที่เจ็บป่วย
ด้วยสารเคมีอยู่บ่อยๆ และก็บ่อยครั้งเป็นพี่น้องม้งที่มาจากหมู่บ้านเขาเอง.....
....บ้านป่าไผ่เป็นบ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง อพยพมาจากบ้านม่อนยะใต้ที่อยู่ห่างออกไปอีก4ก.ม. อาชีพปลูกผัก,ผลไม้เมืองหนาวและดอกไม้ส่งให้โครงการหลวงแม่แฮ,โครงการหลวงทุ่งหลวง และยังมีพ่อค้าคนกลางเข้ารับซื้อถึงสวน
เพื่อให้เกิดผลกำไร สารเคมีชนิดต่างๆถูกนำมาใช้แบบไร้ขีดจำกัด หาเงิน หาเงิน ลูกเดียว คำกล่าวที่ว่า "ม้งปลูกผักขายหาเงินมาซื้อข้าวปกาเกอญอ" นั้นไม่ไกลเกินจริงเลย...หลายปีผ่านไป"ดินเริ่มเสื่อม คนเริ่มโทรม" ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องมีการย้ายหมู่บ้านเพื่อหาที่ทำกินใหม่ที่ดินดีกว่านี้แล้ว..แต่เดี๋ยวนี้ทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว



บุญยิ่งปรึกษาผู้ใหญ่ ยี่ เลาว้าง พี่ชายเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดและจะรุนแรงมากขึ้น มีการพูดคุยกันในกลุ่มของชาวบ้าน ทุกคนตกลงที่บำรุงดินและตกลงที่จะเลิกใช้สารเคมีโดยเด็ดขาด โดยติดต่อ องค์กรมาตราฐานเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือนำวิทยากรจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านแม่ฮักมาช่วยสอนการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อนำไปใช้ในสวนผักและผลไม้ และเริ่มที่จะปลูกข้าวกินเอง โดยการขอเช่าที่คนเมืองพื้นล่างเพื่อทำนา ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอีกครั้งหนึ่งเป็นก้าวย่างที่สำคัญของพี่น้องม้งบ้านป่าไผ่เลยทีเดียว

ช่วยกันทำหมูหลุม



ทำกองปุ๋ยหมักจากเชื้อราขาว



หัดจับเชี้อราขาวจากขุยไผ่



ผุ้ที่ร่วมเปลี่ยนแปลง




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2550    
Last Update : 27 ตุลาคม 2550 22:58:53 น.
Counter : 677 Pageviews.  

การพื่งตนเอง...แบบ50-50

....เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้ร่วมเดินทางไปกับองค์กรพัฒนาอาชีพผู้ด้อยโอกาสลุ่มน้ำวางมานั่งฟังชาวบ้านที่บ้านแม่แอบสนามกีฬาที่ดอยอินทนนท์ประชุมถกปัญหาของชุมชนและหาแนวทางการแก้ไขร่วมกัน
ชาวบ้านที่นี่เป็นชาว"ปกาเกอญอ"เชือสาย "จวอ"หรือ"สกอร์"์คนพื้นล่างเรียกเขาว่า"ยาง"คนภาคกลางเรียกว่า"กะเหรี่ยง" ที่หมู่บ้านนี้แปลกกว่าที่อื่นผู้หญิงเป็นคนพูดและนำเสนอเป็นส่วนใหญ่ผู้ชายนั่งฟังแล้วคอยเสริม
ปกติแล้วพี่น้องปกาเกอญอจะไม่ค่อยแสดงออกโดยเฉพาะผู้หญิง ประชุมที่ไรจะนั่งฟังเฉยๆแล้วถามอะไรก็จะยิ้มลูกเดียว อาจจะฟังภาษาไทยไม่เข้าใจก็ได้ แต่ถ้าเขาประชุมกันเองจะเกิดการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นกันอย่างออกรสออกชาด เผอิญผู้จัดการองค์กรเป็นลูกครึ่งปกาเกอญอจึงสื่อสารและเข้าใจในการพูดคุยกัน.



..สรุปปัญหาของหมู่บ้านนี้คือการเป็นหนี้สินจากภาคการเกษตร แต่เดิมทำการเกษตรแบบพึ่งตนเอง"กินพออิ่ม ห่มพออุ่น"ไม่เคยมีหนี้สิน แต่เดี๋ยวนี้ทำการเกษตรแบบหวังรวยหวังผลกำไรทำให้เป็นหนี้สินกันทุกครอบครัว ซ้ำเงินกู้ก็กู้กันง่ายแสนง่าย...ทุกคนช่วยกันหาแนวทางการแก้ไข แต่ละครอบครัวจะต้องมีการหาน้ำมาใส่ตุ่มขณะเดียวกันต้องช่วยกันอุดรอยรั่วของตุ่มด้วย




ผมได้ทีพูดถึงการพึ่งตนเองตามสไตร์ถนัด..สามห่วงสองเงื่อนใขของในหลวงมาเล่าสู่กันฟัง ...อะไรทำใช้เองได้ก็ทำใช้เองไม่ต้องซื้อ..พี่นา สาวปกาเกอญอ
วัยกลางคนเล่าให้ฟังทันที....เมื่อก่อนเราก็มีการทำของใช้เองเหมือนกันพวกน้ำยาต่างๆมีกลุ่ม(...?..)มาสอนให้ทำโดยเฉพาะน้ำยาล้างจานใช้ดีมากเลยประหยัดเงินไปตั้งเยอะ.....ผมฟังแล้วก็พอได้ยิ้มบ้าง...ดีแล้ว ตอนนี้ยังทำอีกไหมผมถามชาวบ้าน....ทุกคนเงียบ......อ้ายสิงห์แก้วผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตอบ..เลิกทำแล้วครับเพราะไม่มีน้ำยา N-60ไม่รู้ว่าซื้อที่ไหน.....ก็เลยไม่ได้ใช้ต้องกลับมาซื้อเหมือนเดิม.....หน่วยงานไหนหนอมาส่งเสริมช่างไม่รู้ถึงการประยุกต์ใช้เสียเลย แต่ก็ว่าเขาไม่ได้เพราะเขาไม่รู้ นายสั่งให้ทำตามนโยบายเขาก็ทำ....นี่ก็เป็นตัวอย่างของการพัฒนาให้ยั่งยืนแบบ50/50 เหมือนกับเมื่อปี2548มีการแจกปลาดุกให้ชาวบ้านที่ลงทะเบียนความยากจนเอาไปเลี้ยงโครงการเรื่ม กรกฏาคมชาวบ้านได้ปลา,อาหาร1ถุงพลาสติกปูบ่อปลา1ผืนจัดการทำบ่อรอตอนปลายเดือนตุลาคม ไม่มีการสอนวิธีเลี้ยง...ปลาตายเสียส่วนใหญ่ที่เหลือก็ไม่โตเพราะเลี้ยงปลาดุกหน้าหนาวปลาจะไม่
โต....ปี49เอาอีกแจกปลาดุกอีกคราวนี้ปลามาปลายหน้าร้อน..ปลาตายอีกกว่าครึ่ง
ถามไปถามมา....ปลามาจากกรุงเทพ เอามาเลี้ยงที่เชียงใหม่เพราะคนประมูลได้มีบ่อปลาแถบชานเมืองกรุงเทพ.....ต้องเอาปลาบ่อนี้ส่งทั่วประเทศ....ถ้าที่เขาเล่ามาเป็นจริงละก็...เฮ้อ....จ้าวนาย




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2550    
Last Update : 27 ตุลาคม 2550 20:25:19 น.
Counter : 2039 Pageviews.  

การแก้ปัญหาโลกร้อน....ช่วยๆกันหน่อย ..(อย่าซีเรียส)

...ทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัว เกี่ยวกับสภาวะของโลกร้อนน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลสูงขึ้น
กำลังเป็นประเด็นพูดคุยกันทุกวงการ สาเหตุที่ทำให้โลกร้อนคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่
บรรยากาศมากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะกำจัดหมดนั่นเอง ก๊าซเจ้าปัญหา เช่น คาร์บอนไดออกไซด์,
มีเทน, ฟีออนซ์ ฯลฯ ประเทศไทยปล่อยก๊าซเหล่านี้ 1เปอร์เซ็นต์ ของทั้งโลก.นี้เป็นหัวข้อใน
การสนทนากันระหว่างที่เรานั่งอยู่ในรถ ขณะที่จะไปประชุมชาวบ้านที่จังหวัดน่าน..วิทยุเสนอข่าว
การเปิดงานในวัน "คาร์ฟรีเดย์"ของผู้ว่าอภิรักษ์... สมาชิกคนหนึ่งเสนอไอเดียเด็ดในการแก้ไขปัญหา
โลกร้อนทันที ..พี่ชาติถ้าผมเป็นผู้ว่าฯหรือเป็นนายกผมจะคิดวิธีการแก้ไขปัญหาโลกร้อนให้เป็นรูปธรรมให้ได้
...ผมนั่งฟังชื่นชมเขาอยู่ในใจต่อไปเขาคงเป็นนักพัฒนาที่ดีแน่ๆ...เขาคุยต่อว่า ..ผมจะจัดให้มีวัน
"cool world day" คือวันที่ทำให้โลกเย็น....เอ้อน่าเลื่อมใสวิสัยทัศน์บรรเจิดจริงๆแล้วจะทำยังไงผมถามต่อ..
..เขาตอบแบบหน้าตาขึงขังว่า..ผมจะกำหนดวันใดวันหนึ่งในเดือนเมษา เวลาเที่ยงตรงรณรงค์ให้ทุกคนออกมาที่ถนนแล้วก้มลงเป่าถนนพร้อมๆกันเป็นเวลา 5นาทีถ้าทั่วโลกทำพร้อมกันโลกน่าจะเย็นลงได้นะ....ปาด..ติ..โถ ผมฟังแล้วอยากจะดีดมันออกนอกรถ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่ามันเป็นคนขับ...เฮ้อนักพัฒนา..ผู้ว่าอภิรักษ์จะนำไปใช้ก็เชิญนะครับ....




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2550    
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 18:13:49 น.
Counter : 365 Pageviews.  


นายสมชาย
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add นายสมชาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.