เวลา ขึ้น อย่าหลง เวลา ลง อย่าท้อ

you will never walk alone

รับ ถ่ายทอดสด* รับผลิตรายการ โทรทัศน์ *ตัดต่อ ...
Group Blog
 
All blogs
 
อยาก ... ตาย....

 ถ้าอยากตาย...อ่านเรื่องนี้ให้จบก่อน       แล้วค่อยไปตาย.

วิเคราะห์
ในบางครั้งความผิดหวังในชีวิตกับเหตุการณ์ต่างที่ประดังเข้ามา
มันกดดันจิตใจเราเกินกว่าที่จะรู้สึกอดทนได้ ความเร่าร้อนกระวนกระวาย
ความคิดที่แตกซ่านฟุ้งกระจายและเจ็บปวดมันมากมายจนเราเกินจะทนไหว
วันแล้ววันเล่าที่มีแต่ความผิดหวังและว่างเปล่า มองไม่เห็นที่พึ่งหรือทางออก
ดูชีวิตช่างมืดมนจนไม่เห็นทางที่จะฟื้นตัวกลับมาได้อีก ทางออกสุดท้ายในใจ...ตายซะให้มันพ้นๆไป
ถ้าคุณมีความคิดเช่นนี้อยู่ อย่าเพิ่งรีบตาย
รออีกนิดมันก็ไม่ทำให้ความตายของคุณเสียรสชาติไปเท่าไร

ในความทุกข์ระทมทางจิตใจแบบนั้น
มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่คำพูดไม่กี่คำ
หรือเนื้อหาไม่กี่ประโยคจะทำให้ความทุกข์ที่เผาใจคุณอยู่จางหายไปได้
แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่คุณคนเดียวสักหน่อยที่รู้จักกับความเจ็บปวด
และพวกเขาอาจจะเจอมามากกว่าหรือบ่อยกว่าที่คุณเจอมาก็ได้ แต่ก็ช่างเถิด
เอาเป็นว่ามิใช่มีแต่คุณคนเดียวหรอกที่รู้จักความเจ็บปวดในจิตใจแบบนี้ และถ้าทำได้
มันจะดีกว่านี้มากถ้าเราได้นั่งคุยกัน
คุณอาจจะได้รู้อะไรดีๆก่อนที่จะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองไปอย่างโดดเดี่ยว
คนที่จะตัดสินใจทิ้งชีวิตตัวเองไปอย่างจงใจคงต้องเจอเรื่องที่แย่มากจริงๆ...คุณว่าไหม
แต่อ่านให้จบหน้านี้แล้วค่อยไปตายมันก็คงไม่สาย

อารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาจนทำให้เจ็บร้าวไปทั้งใจ หัวสมองตื้อตัน
มันก็เหมือนเวลาเราโกรธอย่างฉับพลันทันที
จึงแสดงความรุนแรงโต้ตอบออกไปโดยที่มิทันได้คิด
เป็นอาการตอบสนองซึ่งคนที่มิได้ฝึกควบคุมมาไม่สามารถควบคุมได้เลย
ความรุนแรงและเกรี้ยวกราดจะไหลทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตก
ความรู้สึกนี้มันได้บดบังจิตสำนึกต่างๆรวมทั้งเหตุผลโดยสิ้นเชิง
คุณเชื่อไหมว่าคนที่จะฆ่าตัวตายมีความรู้สึกลึกๆที่ไม่แน่ใจว่าอยากจะตายจริงๆ
มันจะเกิดความขัดแย้งสับสนในห้วงความคิดระหว่างการทนอยู่กับการตายหนีไปให้พ้นๆ
และมันจะยิ่งเพิ่มน้ำหนักความสับสนให้เพิ่มขึ้นจากปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นให้รู้สึกแย่ลงไปอีก
สมองก็จะยิ่งทึบหนักคิดอะไรไม่ออก จนในที่สุดก็ไม่คิดอะไรอีกต่อไป
และเดินหน้าเข้าสู่ความตายแบบต่างๆโดยปราศจากความคิดโดยสิ้นเชิง
หรือที่เรียกกันอีกอย่างแบบสุภาพว่า “คิดสั้น” ซึ่งไม่ต่างอะไรจากคำว่า
“สิ้นคิด” แต่อย่างใด


จากการวิเคราะห์เป็นทางการ   จะสรุปได้ว่า

การฆ่าตัวตายมันมิได้เป็นการเลือกที่จะทำอย่างตั้งใจ แต่มันเกิดขึ้นจากความเจ็บปวดในใจในความคิด
ที่มากเกินกว่าจะอดทนต่อสู้กับความรู้สึกเหล่านั้นได้

ดังนั้นคนที่เคยมีความคิดจะฆ่าตัวตายก็มิใช่ว่ามันเกิดจากความผิดปรกติ
ความโง่ ความอ่อนแอ หรือความไม่สมประกอบแต่อย่างใด และข้อสำคัญ
มันมิได้หมายความว่าคุณต้องการจะตายจริงๆแต่อย่างใด
มันแค่เกิดขึ้นจากสาเหตุที่คุณได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจมากเกินกว่าความสามารถที่จะรับได้ในเวลานั้น
คุณยืนแบกรับน้ำหนักที่ทยอยใส่บนบ่าให้คุณแบกเอาไว้
พอถึงจุดหนี่งน้ำหนักที่เพิ่มเข้าไปจะทำให้คุณทรุดลงกับพื้น
ไม่ว่าคุณจะพยายามฝืนตัวยืนอยู่อย่างไรก็ตาม
เพราะเราทุกคนมีขีดจำกัดของตัวเองทั้งสิ้น
แต่นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณมิได้ตั้งใจจะทรุดลงไปกองกับพื้น
หรืออีกนัยหนึ่งคุณมิได้ตั้งใจอยากจะตายจริงๆ และถ้าทำได้
คุณก็อยากจะให้กำลังใจตัวเองมากกว่าที่จะเพิ่มความหดหู่สิ้นหวัง
แต่เป็นเพราะช่วงนั้นมันหนักเกินกว่าที่คุณจะทนไหว
ความเจ็บปวดในใจเป็นสิ่งที่วัดและเปรียบเทียบกันระหว่างบุคคลไม่ได้เลย
เรื่องปวดหัวใจที่คนอื่นทนได้ไม่จำเป็นที่เราจะต้องทนได้เสมอไป ดังนั้นจงอย่าไปฟัง
ถ้าคนอื่นที่รู้เรื่องของคุณอาจจะพูดว่า เรื่องของคุณไม่หนักหนาพอที่จะคิดฆ่าตัวตาย
เพราะการคิดฆ่าตัวตายมันเกิดขึ้นจากระดับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นสูงเกินกว่าความสามารถที่จะอดทนรับได้ของแต่ละคนเท่านั้น
ซึ่งแต่ละคนมีมากน้อยต่างกันอย่างมาก

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ระดับความสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดลดลงต่ำ
ความรู้สึกอยากตายก็จะเกิดขึ้นเมื่อนั้น ความรู้สึกอยากตายมิใช่เรื่องผิดหรือถูก
หรือเป็นความผิดปรกติจากธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น
มันเป็นแค่ผลพวงจากความไม่สมดุลอย่างมากระหว่างความสามารถในการอดทน
กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในจิตใจ

เมื่อเป็นดังนั้นการแก้ปัญหานี้จะมีอยู่แค่สองวิธี
    ๑) หาหนทางลดความเจ็บปวดลง หรือไม่ก็
    ๒)หาทางเพิ่มความสามารถที่จะอดทนต่อความเจ็บปวดนั้นให้มากขึ้นในภาวะแบบนี้

คุณควรจะได้รับรู้เรื่องเหล่านี้ไว้เป็นแนวคิด

    ๑) ถ้าคุณยังไม่เคยรู้มากก่อน
    คุณควรจะรู้ไว้ว่า มีคนอื่นๆเคยผ่านภาวะแบบนี้ และอยู่รอดได้มาแล้ว
    เขาเคยทุกข์แบบเดียวกับคุณในขณะนี้  ดังนั้นจึงมีโอกาสมากที่คุณจะอยู่รอดได้เช่นกัน

    ๒) ให้เวลากับตัวเองอีกสักนิด
    ถ้าคิดจะตายจริงแล้ว เลื่อนเวลาออกไปอีกสักวัน หรือสักอาทิตย์ก็ไม่ทำให้การตายเสียรสชาติไปแต่อย่างใด
    เพียงเพราะคุณคิดอยากจะฆ่าตัวตายมิได้หมายความว่าคุณต้องตายทันทีในเวลานี้ คุณสามารถแยกความรู้สึก กับการกระทำออกจากกันได้
    มันก็เหมือนที่คุณได้อ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นโดยที่คุณยังไม่ลงมือฆ่าตัวตาย รออีกสักวันไม่ทำให้คุณแย่ลงไปกว่าเดิมหรอก

    ๓) คนที่พึ่งพาการฆ่าตัวตาย
    คือการหาหนทางหยุดความทุกข์อย่างรวดเร็ว เหมือนในช่วงที่เราทานอาหารเผ็ดจัดหรือกระหายน้ำอย่างรุนแรง เราจะดื่มน้ำอย่างเอา    เป็นเอาตายเมื่อมีโอกาส  เพื่อลดความกระหาย หรือ การที่เราต้องวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายทุกข์เวลาท้องเสียหรือต้องอั้นเป็นเวลานาน
    ดังนั้นจำไว้ว่าการบรรเทาทุกข์เป็นความรู้สึกที่รับรู้ว่าความทุกข์ได้ลดลงแล้ว

    ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่เพื่อรับรู้ความรู้สึกนั้น แต่คุณจะไม่สามารถรับรู้ได้ถ้าได้ตายไปแล้ว มันน่าเสียดายอย่างยิ่ง

    ๔)ผู้คนจะแสดงอาการไม่ดีต่างๆ
    เมื่อรู้ว่าคุณกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกเขารู้สึกกลัว หรือรู้สึกโกรธจากความผิดหวังในตัวคุณ
    มันทำให้คุณรู้สึกแย่ลงทั้งสิ้น ถ้าคุณเผลอไปให้ใครรับรู้ว่าคุณจะฆ่าตัวตาย
    แล้วพวกเขาเหล่านั้นแสดงอาการหรือพูดจาให้คุณรู้สึกแย่ลงไปอีก
    ขอให้เข้าใจว่ามันเป็นอาการตอบสนองตามธรรมชาติที่เกิดจากความกลัวของพวกเขา
    ไม่เกี่ยวกับตัวคุณเลย และจงอย่าพยายามจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว
    คุณรู้หรือไม่ว่ายังมีคนที่อยากจะคุยกับคุณในช่วงเวลาแย่ๆเช่นนี้  โดยจะไม่พยายามตัดสินคุณ โต้เถียงกับคุณ
    หรือพยายามที่จะชักจูงให้คุณคิดว่าปัญหาของคุณมิใช่เรื่องใหญ่  ลองใช้เวลาจากนี้อีกสักวัน หรือสักอาทิตย์เพื่อค้นหาคนๆนั้น
    แล้วเล่าให้เค้าฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของคุณ แต่ถ้าคุณหาไม่ได้ ก็ลองติดต่อมาที่

    ๕) ความคิดอยากจะฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่ต้องทำการรักษา
    เมื่อความรู้สึกได้บรรเทาลงแล้ว คุณต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง การได้พูดคุยและจับกลุ่มกันเป็นสังคม
    และยิ่งไปกว่านั้นหากได้มีโอกาสช่วยคนอื่นๆที่ตกอยู่ในสภาพนี้จะยิ่งเป็นการแก้ไขอย่างถาวรซึ่งได้ผลที่สุด


    มาถึงตรงนี้ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุด
    คุณอ่านมาได้ถึงตรงนี้แล้ว
    คุณควรจะให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยการให้กำลังใจ

    ในการเพิ่มความอดทนต่อ ความรู้สึก เจ็บปวดในจิตใจ
    อันเป็นการเพิ่มแรงต้านความเจ็บปวดที่ทำให้คุณคิดอยากจะฆ่าตัวตาย

    ดังนั้นจงให้รางวัลกับตัวเองด้วยพลังความเข้มแข็งนั้น ทีละเล็กทีละน้อย
    จนคุณสามารถสร้างความสมดุลให้พ้นจากความคิดอยากตายไปได้โดยสิ้นเชิง



เมื่อถึงตรงนี้
    คุณควรจะโทรหาใครสักคนที่คิดว่าน่าจะคุยกับคุณได้
    โดยไม่เพิ่มความเจ็บปวดให้จิตใจคุณอีก
    บางทีอาจจะคุยกันไปหัวเราะกันไปก็ได้

บทความนี้เป็นบริการสาธารณโดยเรียบเรียงข้อมูลศึกษาจากเว็บไซด์ต่างประเทศหลายแห่ง

โดยนายพัฒนดิฐ กุลไพจิตร
hs1wfk@msn.com

ถ้าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ต่อไป
ท่านสามารถเชื่อมโยงเข้าหาหรืออ้างอิงได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบ



 : Users Online




Create Date : 11 สิงหาคม 2552
Last Update : 28 ธันวาคม 2558 0:35:46 น. 2 comments
Counter : 171 Pageviews.

 
เคยคิดอยากตาย บ่นอยากตาย แต่สุดท้ายก็ยังหายใจมาถึงวันนี้ หุหุ เรียกว่าคิดได้ หรือเรียกว่าปอดแ-กคะ


โดย: Tukta21 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:23:36:51 น.  

 
สงสัยจะไม่อยากตายคับ ก็เลยอ่านไม่จบ ฮา

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกคับ


โดย: นะโม (ทานะ ) วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:21:37:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MEE MUSIC
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-
:: ฝากข้อความ ทักทาย แสดงความเห็น :: : Online รวมทั้งหมด0คน
New Comments
Friends' blogs
[Add MEE MUSIC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.