www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws        
Group Blog
 
All blogs
 

วิธีใช้ไหมขัดฟัน

1. ดึงเส้นไหมขัดฟันออกมายาว
ประมาณ 15-18 นิ้วแล้วพันนิ้วกลาง
ทั้งสองข้าง



2.ดึงไหมขัดฟันให้ตึงด้วยนิ้วชี้ และ นิ้วหัวแม่มือ ให้อยู่ห่างกันประมาณ 1.5 นิ้ว



3 ผ่านไหมขัดฟันเข้าที่ซอกฟันด้วยการ ขยับ ไปมา แบบใบเลื่อยระวังอย่าให ้เส้นไหม กระแทกเหงือก



4. โอบเส้นไหมขัดฟันกับฟันซี่หนึ่งให้แนบ บริเวณคอฟัน สอดเข้า ใต้เหงือกประมาณ 0.5 มม.โดยใช้หัวแม่มือและนิ้วจับ



5.ขยับไหมขัดฟันลง เพื่อขจัดคราบเชื้อโรค
และขี้ฟัน ในฟันบน และ ขยับขึ้นในฟันล่าง



6.ทำแบบเดิมในฟันซี่ที่ติดกัน เมื่อเสร็จจาก ซอกฟันแต่ละซอก เลื่อนไหมขัดฟันจาก นิ้วกลางข้างหนึ่ง ไปยังอีกข้างหนึ่งเพื่อ ใช้ไหมขัดฟันที่สะอาด กับซอกฟันอื่น ๆ

ใช้ไหมขัดฟันก่อนหรือหลังแปลงฟัน
อย่าง น้อยวันละ ครั้ง จะช่วยให้การทำความสะอาดฟัน
ได้หมดจดยิ่งขึ้น




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2549    
Last Update : 23 ตุลาคม 2549 14:19:22 น.
Counter : 1721 Pageviews.  

สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งลงบทสัมภาษณ์ของดาราสาวสวยระดับนางเอกท่านหนึ่ง เกี่ยวกับร่างกายของเธอที่มีการผิดปกติ เธอมีอาการอุจจาระไม่ออก เมนส์ไม่มา แถมเธอยังเข้าใจว่าการที่เมนส์มาบ้างไม่มาบ้างแล้วแต่อารมณ์นั้นเป็นเรื่องปกติขอผู้หญิงซะอีก เธอบอกว่าไม่ชอบดื่มน้ำเพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อยส่วนใหญ่ พวกดาราก็มักเป็นอย่างนี้ เพราะต้องอยู่แต่ในกองถ่ายจะหาห้องน้ำสะอาดๆยาก เลยต้องอั้นอุจจาระปัสสาวะเอาไว้ หรือแก้โดยการไม่ดื่มน้ำจะได้ไม่ ต้องปัสสาวะ พฤติกรรมดังกล่าวนี้ ไม่ใช่แค่เฉพาะดาราหรอกครับ มีอีกหลายอาชีพที่เป็นกันอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะภาวะสังคมที่รีบเร่งแข่งขันกันท่านที่ทำงานนั่งอยู่กับคอมพิวเตอร์ หรือพนักงานทำบัญชีด้วยแล้วไม่ค่อยอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำกันกลัวจะเสียเวลาทำงานหรือลืมเข้าห้องน้ำก็มี พอทำอย่างนี้ไปนานๆเข้าร่างกายเราก็สร้างความคุ้นเคยว่าไม่ต้องอุจจาระไม่ต้องปัสสาวะกันเลยโดยร่างกายเข้าใจว่าวิธีการนี้ถูกต้องร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำ 70 กว่าเปอร์เซนต์เลือดเราประกอบด้วยน้ำ 90 กว่าเปอร์เซนต์กระดูกเราก็ประกอบด้วยน้ำ 22 เปอร์เซนต์ ร่างกายเราเสียน้ำวันละ 2 ลิตรเศษแล้วรับน้ำเข้าไป เพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอเราก็ถือว่าขาดน้ำร่างกายและอวัยวะภายในจะรวนผิดปกติไปหมดเลือดเราจะข้นหนืดยากที่หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายส่วนต่างๆของร่างกายหัวใจเองนั่นแหละจะตีบตันเสียก่อน ต้องทำบายพาสกันวุ่นวายความจำก็จะเสื่อมหรือเป็นอัลไซเมอร์ เพราะเลือดเลี้ยงสมองไม่พอ เส้นเลือดก็จะตีบตันหมดหรือไม่มีเลือดจะขึ้นไปเลี้ยงจากประสบการณ์ที่พบคนไข้ที่เป็นโรคความจำเสื่อมเป็นถึงระดับผู้บริหารใหญ่ๆก็หลายท่าน ดื่มน้ำวันละ2-3 แก้ว ไม่เกิน 500 ซี.ซี.เลือดก็ข้นหนืด เต็มไปด้วยไขมันสังเกตุได้หัวตาเหมือนกับเอาพู่กันป้ายสีขาวไว้และก็ฟันธงได้เลยว่าทุกรายถ้าดื่มน้ำอย่างนี้คลอเรสเทอรอลสูงทุกคนรอให้เส้นเลือดอุดตันได้เลยเมื่อไปหาหมอ หมอก็จะจ่ายยาละลายลิ่มเลือดให้กินมันก็เหมือนเราเอาสารส้มแกว่งในตุ่มน้ำเพื่อให้น้ำใสตะกอนเมื่อมันนอนก้นน้ำก็จะใส แต่ถ้าเอาอะไรไปแกว่งทำให้น้ำกระเทือนตะกอนก็ยังจะลอยขึ้นมาทำให้ น้ำขุ่นอีกอยู่ดี เช่นเดียวกัน เมื่อเรากินยาเลือดก็จะใสแค่ตะกอนในร่างกายมันยังไม่ออก ยังนอนก้นอยู่ในร่างกายเรา ดังนั้นเราต้องใช้น้ำพาตะกอนเหล่านั้นออกมาให้ได้ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลับไปอุดตันเส้นเลือดเราอีกเมื่อร่างกายขาดน้ำลำไส้ก็แห้ง ไม่มีน้ำที่จะพอเอาอุจจาระออกมาได้ของเสียก็จะสะสมอยู่ในลำไส้ และลำไส้ก็ดูดซึมของเสียนั้นกล ับเข้าร่างกายอีกเลือดเราก็ยังสกปรกและข้นหนืดมากขึ้นไปอีก และลองพิจารณาดูครับว่าเลือดที่เสียเมื่อเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายแล้วนั้นจะให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมายเพียงใดที่ถูกแล้วเราควรจะอุจจาระ 1-3 ครั้งทุกๆวัน ออกมาเป็นเส้นไม่เล็กนักปริมาณพอสมควรกับอาหารที่เราทานเข้าไป ไม่ใช่ทานเข้าไป 1 กิโลกรัมถ่ายออกมา 1 ขีดที่เหลือหายไปไหนหมดมันเข้าไปบำรุงร่างกายเราทั้งหมดหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราคงตัวโตเท่าช้างแน่การที่รอบเดือนหายไป 5-6 เดือนหรือมาๆหยุดๆ แล้วแต่อารมณ์นั้นไม่ใช่เรื่องปกติของผู้หญิงทั่วไป ที่ถูกแล้วรอบเดือนจะช้าเร็วไม่ควรเกิน 7 วันถ้าผิดไปจากนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ยกเว้นแต่ตั้งครรภ์สำหรับดาราสาวท่านนี้ ดื่มน้ำน้อยมาก เลือดคงจะข้นหนืดผนังมดลูกคงจะแห้งไม่ลอกหลุดออกมาเมื่อมีไข่ตกและไม่ได้รับการผสมพันธุ์เลือดนั้นก็ยังสะสมเป็นของเสียอยู่ที่ผนังมดลูกเดือนแล้วเดือนเล่าเมื่อช่องทางการขับของเสียดำเนินไม่ได้ตามธรรมชาติร่างกายก็จะสร้างรั้วขอบเขตเป็นถุง เป็นเนื้องอก มาหุ้มห่อของเสียนั้นไว้ของเสียก็จะค่อยๆกลายเป็นเนื้องอกและกลายเป็นมะเร็งในที่สุดช่องทางในการขับของเสียออกจะมีอยู่ 5 ช่องทางด้วยกันคือ
1. ไต ขับออกมาทางปัสสาวะ
2. ลำไส้ใหญ่ ขับออกมาทางอุจจาระ
3. ปอด ขับออกมาทางลมหายใจ
4. ผิวหนัง ขับออกมาทางเหงื่อ
5. รอบเดือน ขับออกมาทางประจำเดือน
เมื่อช่องทางการขับของเสียไม่สมบูรณ์ หรือถูกปิดกั้นมันก็จะต้องพยายามหาทางออกให้ได้ เช่น ออกมาเป็น สิว ฝ้า กระ ฝี ริดสีดวงสิ่งเหล่านี้เป็นของเสียที่ร่างกายพยายามขับออกมาทั้งนั้น ดังนั้นถ้าเรามีอาการดังที่กล่าวมาก็ขอให้เราจงเข้าใจด้วยว่าร่างกายเรามี ของเน่าเสียอยู่ภายในแล้วมันเป็นสัญญาณเตือนภัย ที่เราไม่ควรมองข้าม หรือกินแต่ยา ฉีดยากดอาการเหล่านี้ไว้ไม่ให ้แสดงออก เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการรักษา หรือบำบัดโรคต่างๆให้หายไป แต่กลับเป็นการทำให้โรคหรืออาการนั้นรุกคืบไปเรื่อยๆ เหมือนรุกใต้ดินโดย ที่เราไม่รู้สึกอะไร จะรู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อสายเสียแล้ว...
ที่มา : นิตยสารตั้งตัว ฉบับเดือน เมษายน




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2549    
Last Update : 20 ตุลาคม 2549 21:27:11 น.
Counter : 854 Pageviews.  

อุปนิสัยในการขับถ่ายที่ดี

ทำไมเราจึงจำเป็นที่จะต้องมีอุปนิสัยที่ดีในการขับถ่ายปัสสาวะ
เพราะเหตุว่าอุปนิสัย หรือความเคยชินในการขับถ่ายปัสสาวะที่ผิดปกติ จะนำไปสู่การสูญเสียสมรรถภาพในการควบคุมระบบประสาทกระเพาะปัสสาวะ ทำให้การเก็บ และขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติไปด้วย

การขับถ่ายปัสสาวะที่ปกติเป็นอย่างไร
ในภาวะปกติ การที่เราจะเก็บหรือกลั้นปัสสาวะไว้ได้นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับสรีระการทำงานของกระเพาะปัสสาวะกล้ามเนื้อหูรูดท่อปัสสาวะ และกล้ามเนื้อช่องเชิงกราน ซึ่งมีระบบประสาทจากแกนประสาทไขสันหลัง ซึ่งได้รับการควบคุมจากศูนย์ขับถ่ายปัสสาวะในสมอง กระเพาะปัสสาวะโดยทั่วไปในผู้ใหญ่จะเก็บปัสสาวะไว้ได้เต็มที่ประมาณ 300-400 ซีซี โดยที่เราจะเริ่มมีความรู้สึกปวดปัสสาวะเล็กน้อย เมื่อมีปัสสาวะ 150-200 ซีซี ซึ่งจะยังเก็บกลั้นปัสสาวะไว้ได้จนกระทั่งมีความรู้สึกปวดเต็มที่จึงไปปัสสาวะออก ในระหว่างนี้จะไม่มีอาการปัสสาวะเล็ดราด โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะศูนย์ควบคุมปัสสาวะในระดับสมองจะช่วยทำให้เราสามารถเก็บกลั้นปัสสาวะไว้ได้ตามที่เราต้องการ จนกว่าเราจะเลือกถ่ายปัสสาวะออกในเวลา และในสถานที่ หรือห้องน้ำที่เหมาะสม เราจะถ่ายปัสสาวะโดยความรู้สึกหย่อนไม่เกร็งบริเวณกล้ามเนื้อหูรูด หรือกล้าม เนื้อช่องเชิงกราน ไม่ถึงกับต้องออกแรงเบ่งช่องท้อง กระเพาะปัสสาวะจะบีบตัว และขับถ่ายปัสสาวะออกได้เป็นสายปัสสาวะที่ไม่ขัด ไม่มีความรู้สึกว่าปัสสาวะเหลือตกค้าง เมื่อถ่ายปัสสาวะเสร็จการสร้างอุปนิสัยที่ดีในการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะดังเช่นที่กล่าวมานี้จะช่วยให้เราสามารถเก็บปัสสาวะไว้ได้นาน 2-3 ชั่วโมง และถ่ายปัสสาวะออกได้คล่อง ซึ่งจะสามารถใช้เวลาทำกิจกรรม และภารกิจต่าง ๆ ได้ตามปกติวิสัย และเป็นอุปนิสัยที่ดีแม้ว่าเราจะมีอายุมากขึ้นก็ตาม

อุปนิสัยที่ดีในการขับถ่ายปัสสาวะจะสร้างได้อย่างไร โดยใช้หลักง่าย ๆ 5 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1
ควบคุมปริมาณน้ำดื่มให้พอควร
ดื่มน้ำสะอาดวันละประมาณ 6-8 แก้ว (1,500-2,000 ซีซี)
ลดปริมาณสารคาเฟอีน โดยไม่ดื่มกาแฟ น้ำอัดลม น้ำชา มากเกินไป
ลดการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากทำให้ปัสสาวะมากขึ้น และสมองควบคุมกระเพาะปัสสาวะได้ลำบาก

ขั้นตอนที่ 2
ฝึกหัดเข้าห้องน้ำอย่างถูกต้อง
ใช้เวลาเต็มที่เมื่อถ่ายปัสสาวะ ไม่ต้องรีบร้อน
ให้แน่ใจว่าคุณถ่ายปัสสาวะออกจนเกลี้ยงทุกครั้ง
ในเพศชายยืน เพศหญิงนั่ง นั่งลึก ๆ แยกขากออกให้ปัสสาวะออกได้สะดวกดีกว่านั่งหนีบขาไว้ หลีกเลี่ยงการเข้าห้องน้ำโดยบังเอิญบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ปวดปัสสาวะ เพราะทำให้กระเพาะปัสสาวะเล็ก เข้าห้องน้ำเมื่อกระเพาะปัสสาวะเต็มเท่านั้น
(หมายเหตุ : ยกเว้นก่อนนอน หรือเมื่อจะออกเดินทางไปธุระ เพราะอาจจะพบปัญหาการจราจรติดขัด จะหาห้องน้ำไม่ได้สะดวก ควรถ่ายปัสสาวะทิ้งก่อนเป็นการเตรียมตัวที่ดี)

ขั้นตอนที่ 3
ฝึกหัดการขับถ่ายอุจจาระ โดยให้เป็นเวลาที่สม่ำเสมอ และระวังอย่างให้ท้องผูก

ขั้นตอนที่ 4
หมั่นดูแลกล้ามเนื้อหูรูดช่องเชิงกราน
ฝึกหัดกล้ามเนื้อหูรูด และกล้ามเนื้อช่องเชิงกรานตามสมควร
ลดความอ้วน เพราะน้ำหนักส่วนเกินเป็นการเพิ่มภาระแรงหนักให้กับกล้ามเนื้อช่องเชิงกราน

ขั้นตอนที่ 5
ปรึกษาแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ เมื่อท่านมีปัญหาหรือไม่เข้าใจ

อะไรคือสัญญาณเตือนว่าจะเริ่มมีปัญหาในการขับถ่ายปัสสาวะ
อาการเหล่านี้คือสิ่งผิดปกติ ปัสสาวะราด ปัสสาวะเล็ดเมื่อไอ จามหรือออกแรงเบ่ง ปวดกลั้นไปห้องน้ำแทบไม่ทัน ปัสสาวะรดที่นอนในเด็ก 4 ขวบขึ้นไป ปัสสาวะบ่อยเก็บได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง แต่ละครั้งออกไม่ถึง 200 ซีซี ปัสสาวะมีสีแดงเป็นเลือด เริ่มปัสสาวะต้องรออยู่นานกว่าจะออก ออกไม่สะดวกต้องเบ่ง สายปัสสาวะเล็ก ขาดตอนเป็นช่วง ๆ และมีความรู้สึกว่าปัสสาวะเหลือค้าง




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2549    
Last Update : 6 สิงหาคม 2549 14:49:15 น.
Counter : 225 Pageviews.  

มองให้นานขึ้น

ขณะที่เราเดินหรือขับรถปกติแล้วเราจะมองสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่เราพบพานเพียงแค่เศษเสี้ยววินาที แล้ววันนั้นก็บินผ่านพวกเราไปโดยที่เราไม่ได้รู้สึกถึงมันเลย นักวิชาการค้นพบว่าเวลาที่เราใช้สังเกตสิ่งต่างๆ นั้นสั้นลงไปมากในช่วง 50 ปี มานี้ เราชอบพูดว่าโลกมันหมุนเร็วขึ้น แต่บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเราสัมผัสมันอย่างลวกๆ มากขึ้นต่างหาก ลองมองวัตถุต่างๆ ให้นานขึ้นอย่างน้อย 5 วินาทีสิครับ จะดีเป็นพิเศษหากคุณจะฝึกตอนไปเดินเล่น ตอนมองออกจากรถหรือหน้าต่างรถไฟ แล้วคุณจะรู้สึกเลยว่าห้าวินาทีเป็นเวลาที่นานไม่ใช่เล่น นักวิชาการกลุ่มเดิมเขาทำการวิจัยออกมาแล้วว่าช่วงเวลาการมองสิ่งรอบข้างที่ยาวขึ้นอีกนิดนี่แหละจะเพิ่มความสุขและคุณภาพชีวิต จนคุณรู้สึกได้




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 23 กรกฎาคม 2549 15:05:07 น.
Counter : 194 Pageviews.  

ยิ่งนอนดึกยิ่งเร่งวันตาย

การนอนดึกเป็นเหตุให้อายุสั้น เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง การทำงานดึกทำให้ร่างกายล้า เหมือนกับ เครื่องยนต์ overload ไม่ช้าเครื่องก็พัง วิธีแก้ไขในกรณีต้องทำงานดึก (เพื่อไม่ให้ร่างกายโทรมเร็ว) ผู้ที่มีหน้าที่บริหารงาน มักจะพบปัญหานี้กันมาก เพราะต้องเร่งงาน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนนอนดึก คือ ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการล้า และระบบร่างกายจะรวน ดังนี้

ระบบการย่อยอาหาร

ท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย อาหารย่อยไม่ดี ทำให้อุจจาระหยาบ คืออาหารที่ทานเข้าไป ถ้าไม่นอนดึก อุจจาระจะสวย ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ เหมือนกับแท่งทอง แต่ถ้าอดนอนแล้วอุจจาระจะหยาบ จะมีเศษ อะไรต่าง ๆ ติดอยู่ เหมือนกับรถที่มีเขม่าติด เกิดจากการที่ร่างกายย่อยไม่หมด เพราะล้า

แนวทางแก้ไข ให้ลดอาหารประเภทเนื้อ! อาหารเหนียว ๆ มิฉะนั้นลำไส้ทำงานหนัก ยิ่งนอนดึกแม้ เราหลับไปแล้ว แต่ลำไส้ไม่หลับ ยังคงย่อยอยู่ต่อไป พอตื่นขึ้นมาก็เพลีย ให้ทานไข่ นม แทนพวกเนื้อ ! ก็จะพอถูไถไปได้ มิฉะนั้นท้องจะผูกเป็นประจำ ริดสีดวงทวารจะถามหา (ถ้าหากอ้วนก็ให้ทานนม แทนไข่)

ท้องผูก มี 2 ลักษณะ

1. ผูกแข็ง คือ อุจจาระแข็ง

2. ผูกเหลว คือ อาการถ่ายอุจจาระไม่หมด ยังค้างอยู่ แต่ลำไส้ล้า

กระเพาะอาหารล้า ทำให้ไม่มี แรงบีบให้ออกจนหมด ดังนั้นในวันหนึ่ง ๆ จึงต้องถ่ายหลายครั้ง โรคที่จะตามมาก็คือ ผื่นคันบริเวณขาหนีบ (ไม่ใช่เพราะความ สกปรกหมักหมม) จะคันทั้งวัน ปกติอุจจาระจะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ถ้าแข็งแสดงว่าส่วนที่เป็นน้ำได้ซึมกลับเข้ามาในลำไส้ ซึ่ง มันเป็นของเสีย ที่ต้องขับออก ผลก็คือทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะมาประทุบริเวณเนื้ออ่อน ๆ เช่นที่ขาหนีบ สาเหตุก็มาจาก ท้องผูกนั่นเอง

เพราะฉะนั้น อย่านอนดึก ถ้าต้องดึกก็ให้ออกกำลังหน้าท้อง ให้ท้องเกิดกำลัง จะได้รีดอุจจาระออกมา ได้เร็ว ทานเสร็จแล้วอย่านอน ให้เดินสักครึ่งชั่วโมง เพราะพอขาได้เดิน ลำไส้มันก็ต้องไปกับขาด้วย จะช่วย ทำให้ย่อยได้ดีขึ้น ท้องจะผูกน้อยลง ผื่นคันก็จะหาย ถ้ายังไม่หาย (เนื่องจากอายุมาก) ให้ทานน้ำขิงสด (ไม่ใช่ขิงผง เป็นซอง ๆ) พวกที่นอนดึกต้องให้ท้องอุ่นมาก ๆ ให้หาผ้ามาห่ม เดี๋ยวท้องจะอืด เฟ้อ บางทีต้องให้เท้าอุ่นด้วย ให้หาถุงเท้ามาใส่ มิฉะนั้นเท้าจะชา



ระบบปัสสาวะ

ถ้านอนไม่ดึก ประมาณ 3-4 ทุ่ม พอตื่นเช้าขึ้นมาจะปัสสาวะครั้งเดียวจบ แต่ถ้านอนดึก ยิ่งนอนตีหนึ่ง กลางดึกจะต้อง ลุกเข้าห้องน้ำถี่ เพราะร่างกาย overload ต้องการน้ำมาก กล้ามเนื้อข้างในจะบีบคั้นเอาพลังงานออกมาใช้ จึงต้องใช้น้ำมาก ผลก็คือปัสสาวะบ่อย ทำให้พวกเกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย ยิ่งอายุ 35 ขึ้นไปจะยิ่งแย่

แนวทางแก้ไข ให้ทานแคลเซียมเม็ดได้ แต่อย่ามาก แค่ 1 เม็ดก็พอ ถ้าทานมากจะทำให้แคลเซียมพอก คืออาการที่กระดูกงอกทับเส้นประสาท (ถ้าเป็นแล้วต้องให้คนนวด และทานยาละลายแคลเซียมช่วย) ถ้าไม่ทานแคลเซียมชดเชย จะทำให้เลือดจาง เม็ดโลหิตจาง

สรุปแล้วการอดนอน เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง

การนอนดึกต้องดื่มน้ำให้มาก และเติมเกลือในน้ำด้วย คือพอเราดื่มแล้วมันออกมาหมดทั้งทางปัสสาวะแล ะเหงื่อ เราทานเกลือมาก ๆ ยังออกทางเหงื่อได้ แต่ถ้าทานแคลเซียมมากทำให้กระดูกงอก

ส่วนโค้ก เป๊ปซี่ กระทิงแดง อย่าทาน พอเราอยู่ดึกและกลั้นปัสสาวะ มันจะซึมกลับเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะไปประทุที่ขาหนีบ หรือท้องแขนเป็นเม็ดแดง ๆ เป็นจ้ำขึ้นทั่วเลย บางคนไม่กลั้น แต่ดื่มน้ำน้อย อาการก็จะเหมือนกับการโม่ แป้งฝืด ๆ ลำไส้บีบตัวไม่ไหว ต้องเค้น ก็จะเพลีย

แต่ถ้าดื่มน้ำมาก ทำให้ถ่ายสบาย ถ้าดื่มน้ำน้อยจะทำให้กรดยูเรียเข้มข้น พอเรากลั้นปัสสาวะมันก็จะซึมเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ถ้ากลั้นบ่อย ๆ จะทำให้ปัสสาวะไม่หมด

ระบบเหงื่อ

คนที่ไม่มีเหงื่อออก จะแย่ ถ้าขับเหงื่อให้ออกได้ร่างกายสบาย ถ้าเหงื่อไม่ออกความร้อนภายในร่างกายจะระบายไม่ได้ ทำให้อึดอัด ของเสียในร่างกายก็ออกไม่ได้ โรคผิวหนังจะถามหา สิวฝ้าจะขึ้น

เพราะฉะนั้น ดื่มน้ำให้มากพอและออกกำลังกาย เท่านั้นพอ เอาจนเหงื่อออกให้ได้ คนนอนดึกเหงื่อจะไม่ค่อยออก ของเสียตกใน สิวฝ้าขึ้น มันก็จะไปออกทางปัสสาวะแทน ไตเลยทำงานหนัก

ระบบหายใจ

ระบบหายใจจะเสียตามมา ร่างกายจะเอาออกซิเจนไปแลกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงได้ต้องมีความชื้น ถ้าความชื้นน้อยมันจะไม่แลก ทำให้อึดอัด เหมือนอยู่ห้องแอร์แล้วอึดอัด เพราะความชื้นไม่พอ ไม่ใช่อากาศไม่พอ อากาศมันแห้งเลยเอาความชื้นในตัวเราไป ทำให้ปอดทำงานไม่สะดวก และออกซิเจนไม่ ได้

แนวทางแก้ไข ให้เอาน้ำใส่กะละมังไว้ข้างตัว ยิ่งเป็นน้ำร้อนยิ่งดี ถ้าอึดอัดให้เอาผ้าหนุนเท้าให้สูง เลือดก็จะไหลลงมาได้ จะทำให้นอนสบาย การดื่มน้ำหวาน ๆ ตอนอยู่ดึก ๆ ก็ช่วยได้ แต่อย่าหวานมากจะทำให้อ้วน ถ้าจะให้ดีที่สุดอย่าอยู่ดึก ดึกได้ เป็นครั้งคราวถ้าจำเป็น คนนอนดึกเสียงจะแห้ง เพราะไตมันล้า

การใช้สบู่ ให้ใช้สบู่เด็ก เพราะเป็นสบู่อ่อน การกัดจะน้อย อย่าใช้สบู่แรง ๆ ให้ฟอกสบู่วันละครั้งก็พอ ถ้าฟอกวันละหลาย ๆ ครั้งไขมันจะหมด จะทำให้ผิวแตก ถ้าคันมาก ๆ อันเนื่องมาจากการนอนดึก ถ้าเราไม่ทราบเราจะยิ่งฟอกสบู่หนักเข้าซึ่งไม่ดี ให้ฟอกวันเว้นวัน การดูแลรักษาร่างกายให้ดี จะทำให้นั่งสมาธิได้ดี นั่งได้นาน ไม่คัน ไม่เข้าห้องน้ำบ่อย




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2549 16:41:26 น.
Counter : 193 Pageviews.  

1  2  

NINEKOH
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




" คนที่เก่งทุกทาง แท้จริงคือคนที่ไม่มีอะไรเก่งจริงสักอย่าง คนที่รอบรู้ไปหมดทุกเรื่อง แท้จริงคือคนที่ไม่เชี่ยวชาญอะไรเลย "

http://betterman.bloggang.com
Blog for : รวบรวมความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง
Friends' blogs
[Add NINEKOH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.