การยื่นขอ Immigrant Visa แบบเร่งรัดพิเศษ (ภาคต่อ)

การยื่นขอ Immigrant Visa แบบเร่งรัดพิเศษ (ภาคต่อ)

(More Immigrant Visas in One Month)



บทความโดยทนายโรเบิร์ต แอล รีฟ และทนายโจเซฟ ไอ อีเลียส

แปลและเรียบเรียงโดยผู้ช่วยทนาย เชอร์รี่ พัฒนเกียรติ





เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2006 หน่วยงาน U.S. Citizenship & Immigration ประกาศขยายขอบเขตของการดำเนินการยื่น Immigrant Visa Petition ให้แก่ลูกจ้างต่างชาติแบบเร่งรัดพิเศษ (Premium Processing) ให้แก่ลูกจ้างประเภท Outstanding Professors and Researchers (นักวิชาการหรือนักวิจัยที่มีชื่อเสียงชั้นนำ หรือจะเรียกสั้นๆ ได้ว่าประเภท EB-1) และลูกจ้างประเภท Professions with Advanced Degree or Exceptional Ability who are seeking a National Interest Waiver (นักวิชาชีพที่มีการศึกษาขั้นปริญญาโทหรือสูงกว่า หรือนักวิชาชีพที่มีความสามารถพิเศษที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ หรือ EB-2) นอกเหนือไปจากลูกจ้างประเภท EB-3 Professional (ผู้ประกอบวิชาชีพ) หรือประเภท EB-3 Skilled Worker (ลูกจ้างมีฝีมือ) ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในบทความฉบับที่ผ่านมา



ลูกจ้างประเภท EB-2 คือลูกจ้างที่อยู่ในสายงานซึ่งจะต้องใช้ความรู้การศึกษาในระดับปริญญาโทเป็นขั้นต่ำ หรืออย่างน้อยก็จะต้องมีการศึกษาในระดับปริญญาตรีและประสบการณ์การทำงานตรงไม่ต่ำกว่า 5 ปี ลูกจ้างประเภท EB-3 Professional จะหมายถึงลูกจ้างที่มีอาชีพซึ่งถือได้ว่าเป็นวิชาชีพและมีการศึกษาในระดับปริญญาตรี ส่วนลูกจ้างประเภท EB-3 Skilled Worker คือลูกจ้างหรือแรงงานมีฝีมือ ซึ่งจะต้องได้รับการศึกษาโดยตรงหรือได้รับการฝึกฝนโดยตรงหรือมีประสบการณ์ตรงอย่างน้อย 2 ปี



กระบวนการดำเนินการแบบเร่งรัดพิเศษ หรือ Premium Processing นี้ จะใช้กับการยื่นคำร้อง Immigrant Visa Petition จากการทำงานเท่านั้น ไม่รวมถึงการยื่นคำร้องจากครอบครัวแต่อย่างใด



นายจ้างจะต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการดำเนินการแบบเร่ดรัดพิเศษนี้เป็นจำนวน 1,000 ดอลลาร์โดยทางหน่วยงานอิมมิเกรชั่นจะได้ทำการพิจารณาคำร้องให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน หากว่าไม่สามารถทำได้แล้วเสร็จแล้ว ทางอิมมิเกรชั่นจะคืนค่าธรรมเนียมให้



ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากกระบวนการ Premium Processing นี้ คือ ผู้ที่อยู่ในกลุ่ม EB-1 หรือ EB-2 ในข้างต้น เพราะจะหมายความว่า ระยะเวลาในการรอกรีนการ์ดจะสั้นลงอย่างมาก กล่าวคือ ลูกจ้างจะสามารถยื่นขอกรีนการ์ดได้ในทันทีที่คำร้องขอ Immigrant Visa ได้รับการอนุมัติ ตัวอย่างเช่น นักเศรษฐศาสตร์หรือผู้จัดการแผนกการเงินชาวฟิลิปปินส์ซึ่งถือเป็นลูกจ้างประเภท EB-2 จะสามารถยื่นขอกรีนการ์ด (หากอยู่ในสหรัฐฯ) หรือยื่นขอ Immigrant Visa (หากอยู่นอกสหรัฐฯ) ได้ในทันทีที่คำร้องขอ Immigrant Visa Petition ได้รับการอนุมัติ เป็นต้น ซึ่งหากไม่ใช้กระบวนการ Premium Processing แล้ว ลูกจ้างจะต้องรอประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี กว่าที่ทางหน่วยงานอิมมิเกรชั่นจะมีคำสั่งอนุมัติหรือไม่อนุมัติคำร้อง ซึ่งจะเป็นการชะลอโอกาสของการยื่นขอกรีนการ์ดของลูกจ้าง



ข่าวลือบางประการที่ไม่ถูกต้องในเรื่องกระบวนการ Premium Processing ก็คือ กระบวนการเร่งรัดพิเศษนี้ จะรวมไปถึงขั้นตอนของการขอ Labor Certification และการขอกรีนการ์ดด้วย ซึ่งไม่จริง ภายหลังจากที่คำร้องขอ Immigrant Visa Petition ได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้วนั้น ลูกจ้างจะทำการยื่นขอกรีนการ์ดต่อไปด้วยวิธีธรรมดาซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 1.5 ปี หน่วยงานอิมมิเกรชั่นได้เคยประกาศว่า อาจจะมีการพิจารณาให้กระบวนการขอกรีนการ์ดสามารถดำเนินการแบบเร่งรัดพิเศษได้ แต่ก็จะเป็นเรื่องที่จะต้องรอให้มีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไปเสียก่อน



ในส่วนของกระบวนการขอ Labor Certification จากกระทรวงแรงงานนั้น นายจ้างจะไม่สามาถยื่นขอให้มีการพิจารณาแบบเร่งรัดพิเศษ Premium Processing ได้ เนื่องจากเป็นคำขอที่นายจ้างยื่นต่อกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ไม่ใช่หน่วยงานอิมมิเกรชั่น ดังนั้น ประกาศของอิมมิเกรชั่นจึงไม่ใช้บังคับในกรณีนี้ นายจ้างจะต้องยื่นขอ Labor Certification ด้วยวิธี PERM หรือหากว่านายจ้างได้ยื่นไปแล้ว ก็จะต้องรอการพิจารณาของหน่วยงาน Backlog Reduction Center เท่านั้น



ลูกจ้างประเภท EB-3 ที่ยื่นคำร้องขอ Immigrant Visa Petition เป็นครั้งที่สอง จะไม่สามารถเลือกใช้วิธีเร่งรัดพิเศษได้ หากว่าคำร้องฉบับแรกยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอิมมิเกรชั่น นอกจากนี้แล้ว ลูกจ้างที่เป็นตัวชดเชยลูกจ้างคนอื่น ซึ่งมีชื่ออยู่ในเอกสาร Labor Certification ก็จะไม่สามารถเลือกใช้วิธีเร่งรัดพิเศษนี้ได้ ส่วนกรณีสุดท้ายที่จะไม่สามารถเลือกใช้วิธีเร่งรัดพิเศษได้ก็คือ กรณีที่ Labor Certification ฉบับจริงสูญหาย และทางหน่วยงานอิมมิเกรชั่นผู้พิจารณาคำร้องขอ Immigrant Visa Petition จะต้องติดต่อขอสำเนาจากทางกระทรวงแรงงาน



ข่าวลืออีกข้อหนึ่งซึ่งไม่เป็นความจริงก็คือ ระยะเวลา 15 วัน ตามที่อิมมิเกรชั่นกำหนดไว้ หากว่านายจ้างเลือกใช้วิธี Premium Processing นั้น เป็นระยะเวลาที่ไม่ตายตัว เพราะหากว่าทางอิมมิเกรชั่นจัดขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องแล้ว ระยะเวลา 15 วัน จะต้องเริ่มนับใหม่ นับจากวันที่นายจ้างจัดส่งเอกสารกลับไปยังหน่วยงานอิมมิเกรชั่นเสมอ



กระบวนการ Premium Processing สามารถให้คุณประโยชน์อย่างมาก แก่ลูกจ้างผู้รอคอยกรีนการ์ด การที่หน่วยงานอิมมิเกรชั่นประกาศขยายประเภทของลูกจ้างที่สามารถได้รับประโยชน์จากกระบวนการนี้ออกไป ถือเป็นการขยายขอบเขตของกลุ่มคนที่มีโอกาสจะได้รับประโยชน์ให้มากขึ้นไปอีก หากว่าท่านเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากกระบวนการนี้แล้ว ควรที่จะปรึกษากับทนายความอิมมิเกรชั่นของท่านทันที





*บทความฉบับนี้เขียนขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจทางด้านอิมมิเกรชั่นเท่านั้น บทวิเคราะห์หรือความเห็นที่ระบุในบทความฉบับนี้อาจจะไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมายที่เหมาะสมกับตัวท่าน และจะไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ในฐานะทนายความ-ลูกความ ระหว่างตัวผู้เขียนและผู้อ่านแต่อย่างใด



**ทนายโรเบิร์ต รีฟ เป็นทนายความด้านอิมมิเกรชั่นโดยเฉพาะมานานกว่า 26 ปี และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวงการกฎหมายอิมมิเกรชั่น โดยเป็นผู้เขียนบทความลงในอนุสารประจำเดือนของสมาคมทนายความด้านอิมมิเกรชั่นของสหรัฐฯ (American Immigration Law Association) รวมถึงอนุสารในแวดวงนักกฎหมายฉบับอื่นๆ เช่น Interpreter Releases และ Immigration Briefing เพื่อให้ทนายความอิมมิเกรชั่นคนอื่นๆ ได้ศึกษาและใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ


บริการรับทำเอกสารยื่นขอวีซ่า จองสัมภาษณ์ หมดปัญหาวีซ่าไม่ผ่าน !
โทร.02-652 9933 สายด่วน. 087-178 6565
//www.bsc-ed.com

Create Date : 30 ตุลาคม 2550 Last Update : 30 ตุลาคม 2550 16:03:34 น. Counter : 3118 Pageviews.		1 comments
Share Tweet