[ Review ]กำจัดผื่นคัน กลิ่นตัวแรง ด้วย Asepso Original
 ช่วงหน้าฝนปนร้อนแบบนี้พวกแบคทีเรียน้อยใหญ่ ในร่างกายของเรามันก็เจริญเติบโตดีเหลือเกิน ส่งผลให้เรามีกลิ่นตัวแรง เพราะเมื่อผิวหนังของเรามีเหงื่อ มันก็จะมีแบคทีเรียตามมาด้วย และถ้าใครที่แพ้เหงื่อ ก็อาจเกิดผดผื่นคันด้วยเช่นกัน  อย่างกรณีของนัท พออากาศมันร้อน กลิ่นตัวและอาการคันยิบๆตามร่างกาย ก็สร้างความรำคาญใจให้ไม่น้อย บางครั้งเราต้องออกไป พบปะผู้คนก็อาจทำให้เราเสียความมั่นใจไปได้ เพราะฉะนั้นการดูแลตัวเองควรเริ่มตั้งแต่ขั้นตอน ในการอาบน้ำกันเลยค่ะ  หลายๆคนคงคุ้นเคยกับสบู่อาเซปโซกันมาบ้างแล้วนะคะ และที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้คือ Asepso Original เป็นสบู่กำจัดเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ลดอาการกลิ่นตัวแรง สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง เป็นสิว เป็นผื่น ก็สามารถใช้ได้จนไปถึงอาการน้ำกัดเท้าก็สามารถใช้สบู่อาเซปโซลดอาการได้ด้วยเช่นกัน สบู่อาเซปโซนี่เรียกได้ว่าเป็นสบู่ในตำนานเลยนะ สามารถเข้าไปดูรีวิวปากต่อปากกันได้ในเพจ Asepsothailand มาดูของจริงกันเลยดีกว่าว่าสบู่ระดับตำนาน หน้าตาเป็นอย่างไร  ตัวกล่องเป็นกล่องกระดาษสีแดงเหลือง ชื่อแบรนด์เป็นสีขาวบนพื้นสีดำ กลิ่นสบู่ค่อนข้างชัด ยังไม่ต้องแกะกล่องก็สามารถได้กลิ่น ตัวสบู่จากนอกกล่องได้เลย กลิ่นแนวๆกลิ่นยา ให้ความรู้สึกสะอาด  ตัวก้อนสบู่มีสีเขียว เมื่อถูผสมกับน้ำแล้วมีฟองแต่ไม่มาก ลักษณะของฟองเป็นสีเขียว ล้างออกง่าย หลังล้างรู้สึกว่าผิวตึงกระชับ ไม่ลื่น  อาการที่เคยคันก็ลดลง กลิ่นตัวหายไปเลย ถึงแม้ว่าจะออกไปเจอแดดร้อนๆ และมีเหงื่อออก แต่ไม่มีกลิ่นตัวทำให้เรามั่นใจขึ้นเยอะ  ส่วนตัวนอกจากชื่นชอบในเรื่องความสะอาด ลดผื่นคันได้แล้ว ยังชอบกลิ่นของสบู่อาเซปโซมากๆ รู้สึกว่ากลิ่นสะอาดชื่นใจ มีความคลาสสิก ให้ความรู้สึกแบบดั้งเดิมมีสเน่ห์ดี สบู่อาเซปโซหาซื้อได้ที่ซุปเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วไป และร้านสะดวกซื้อต่างๆ ช่องทาง online Shopee : https://goo.gl/fFEfa3 Facebook : AsepsoThailand Instagram : asepso_thailand  [ Review ]อยากตื่นมาแล้วสวยก็ต้องมีตัวช่วยอย่าง Klaire Anti-Pollution Overnight mask
ทำไมต้องทาครีมตอนกลางคืน? หลายคนอาจจะสงสัยว่า ครีมที่ใช้บำรุงผิวหน้ายามค่ำคืนมันจำเป็นต่อการดูแลผิวของเราตรงไหน? ในเมื่อการนอนหลับก็ไม่ได้ส่งผลให้ผิวหน้าของเราต้องไปเจอกับมลภาวะ และแสงแดดเหมือนในเวลากลางวัน  แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่า ในขณะที่เรานอนหลับ ครีมจะซึมเข้าสู่ผิวได้ดีค่ะเพราะเวลาที่ร่างกายของเรานอนหลับสนิท ระบบการหายใจของเราจะสม่ำเสมอทำให้การไหลเวียนของเลือดดี และเมื่อเลือดมีการไหลเวียนจะนำพาออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป็นการกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ แข็งแรงและถ้าเราทาครีมบำรุงก่อน จะนอนผิวของเราก็จะถูกบำรุงไปด้วยในขณะที่เราหลับ ถ้าอยากให้ผิวสุขภาพดี ก็ควรทาครีมตอนกลางคืนด้วย แต่ก็ควรเลือกครีมให้เหมาะสมกับสภาพผิวค่ะ  อย่างนัทเองถ้าเป็นในช่วงกลางคืนจะเน้นไปที่สกินแคร์กลุ่มมาส์กหน้า ไม่ว่าจะเปน Sleeping Mask หรือ Overnight mask เพราะให้การบำรุง ได้ล้ำลึกกว่าในเวลาที่เรานอนหลับ เหมือนได้บูธผิวให้พร้อมรับกับสิ่งที่จะต้องเจอในเช้าวันใหม่ แล้วตัวที่นัทจะมารีวิวในวันนี้คือ Klaire Anti-Pollution Overnight mask เป็นมาส์กบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ในเวลากลางคืน ใช้ทาบำรุงผิวก่อนนอน  ตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิวไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการ ฟื้นบำรุงและช่วยเสริมให้ผิวรับมือกับความเสียหายในระหว่างวันที่เราต้องพบเจอ อย่างแสงแดด มลภาวะ ความร้อนต่างๆ ที่ทำให้เซลล์ผิวหน้าของเราเสียหาย และเจลบำรุงผิวตัวนี้ยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายจากผิวที่เหนื่อยล้าตลอดวันให้ พร้อมสำหรับวันใหม่ ด้วยเทคโนโลยี 3D “breathable” ทำให้ชั้นปกป้องผิวทางชีวภาพเพิ่มความสามารถในการปกป้องผิว ทำให้ผิวมีการระบายความร้อนที่สะสมใต้ชั้นผิวหนัง ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม สีผิวดูสม่ำเสมอ ลดเลือนความหมองคล้ำ และรอยแดงที่เกิดจากการอักเสบทำให้ผิวของเรากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ  นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจาก ผลเบอร์รี่จาก 5 สายพันธ์ ที่ช่วยลดความหมองคล้ำ สารสกัดจากถั่วหมัก ช่วยให้ผิวเรากักเก็บน้ำได้ยาวนาน และสารสกัดอีกกว่า 12 ชนิด ที่เน้นในเรื่องของการฟื้นฟู และบำรุงผิวของเราให้เปล่งปลั่งดูมีชีวิตชีวามากกว่าที่เคย  ตัวแพ็คเกจของเราสวยงามมาก ตัวกล่องใส่เป็นกระดาษแข็งสีขาว คาดสีฟ้าอ่อน เมื่อเราดึงฝาครอบออก ภายในจะเป็นกระปุกแก้วแบบแมท ให้สัมผัสที่ละมุนตั้งแต่ตอนถือกระปุกเอาไว้เลย  และมีคู่มือการใช้ กับรายละเอียดส่วนผสมต่างๆ แนบมาในกล่องด้วย ตัวกระดาษแข็งที่บุกล่องชั้นในแข็งแรงมาก ล็อคแน่นไม่ต้อกลัวว่าระกว่างการขนส่งจะกระเด็นหลุดจากบล็อกนะคะ ออกแบบมาได้ดี  เมื่อเราหมุนฝากระปุกออกมาจะมีฝาพลาสติกป้องกันอีกชั้นนึงค่ะ  เนื้อมาส์กด้านในมีลักษณะเป็นเจลสีเหลืองอ่อน ใสๆ  มีความข้นหนืด แต่เมื่อสัมผัสกับผิวแล้วแตกตัวได้ง่ายไม่รู้สึกว่าเหนียวเหนอะหนะ ซึมลงผิวไวแต่ยังคงเก็บความชุ่มชื้นไว้บนชั้นผิวได้ดี กลิ่นจะไม่หอมนะคะ และไม่ฉุนคะ    ก่อนใช้นัทไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสิวอักเสบเท่าไร แต่จะมีปัญหาผิวเหนื่อยล้าจากมลภาวะ ทำให้ผิวหน้าดูโทรม คล้ำเสีย รูขุมขนกว้างจากการนอนดึก ทำให้ผิวหน้าค่อนข้างแห้งกระด้าง แต่หลังจากใช้มาส์กหน้านุ่มตัวนี้แล้วผิวเรียบเนียนดูอิ่มฟูขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น รอยด่างดำคล้ำเสียก็กลับจางลง ส่วนใครที่มีปัญหาสิว ผิวอักเสบ มาส์กตัวนี้ก็สามารถทำหน้าที่เป็นมาส์กหน้าใสไร้สิวได้ด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่ามีส่วนผสมของ เบอร์รี่ 5 ชนิดกับสารบำรุงอื่นๆ ที่บำรุงและลดการอักเสบจากรอยแดง ทำให้ช่วยยับยั้งการอักเสบของผิวอันแป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ค่ะ ส่วนใครที่เป็นคนผิวแพ้ง่าย อยากทดลองใช้ดูก่อน  Klaire Anti-Pollution Overnight mask เขาก็มีขนาดพกพา 8 ml. ที่หน้าตามาเป็นกระปุกเหมือนขนาดใหญ่ แต่ไซส์มินิให้ได้พกพากันสะดวกสบายเวลาออกทริปต่างจังหวัด หรือเดินทางต่างประเทศก็ไม่ต้องตักแบ่งให้ยุ่งยากนะคะ เขาใส่ใจรายละเอียดมากๆเพราะถึงจะเป็นขนาดมินิแต่ก็มีแพ็คเกจที่สวยงาม และแนบคู่มือมาให้ด้วยเหมือนกันค่ะ สำหรับใครที่สนใจสามารถซื้อและติดตามข่าวสารได้ที่ WEB SITE : https://www.Klaireofficialthailand.com Facebook : https://www.facebook.com/KlaireOfficial  [ Review ] แผลเก่าต้องมีวันจางหาย ด้วย Clenascar C gel
 ขึ้นชื่อว่าแผลแน่นอนว่าต้องสร้างความเจ็บปวดให้กับเราอย่างแน่นอน แต่มันจะเจ็บปวดมากขึ้นถ้าแผลนั้นกลายเป้น “ แผลเป็น ” วันนี้นัทจะมารีวิว Clenascar C (คลีน่าสการ์ ซี )  ตัวนี้เป็นครีมทาแผลเป็นที่จะมาช่วยลดรอยแผลเป็น ประเภท รอยแผลผ่าตัด ผ่าคลอด แผลเป็นนูน คีลอยด์ ให้อ่อนนุ่มและจางลง เนื่องจากคนในครอบครัวของนัทมีแผลผ่าตัดจากการที่เคยเป็นฝี  แล้วทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้บนใบหน้า ทำให้ไม่มั่นใจเวลาต้องออกไปพบเจอผู้คน ไม่มั่นใจที่จะถ่ายรูป หรือโชว์ใบหน้าให้ใครได้เห็น  เสียโอกาสที่ดีในชีวิตไปมากมายเพียงแค่เพราะแผลเป็นเพียงจุดเดียว นัทมีโอกาสได้รีวิวครีม Clenascar C ที่มีสรรพคุณลดรอยแผลเป็นพอดี  ก็เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นกันชัดๆว่าหลังจากได้ทดลองใช้แล้ว จะช่วยให้แผลเป็นดูจางลงมากน้อยแค่ไหนไปชมกันเลย  ก่อนจะไปดูผลจากการใช้เรามาดูกันที่แพ็คเกจก่อนนะคะ เป็นหลอดสีขาว ส้ม อยู่ในกล่องสีเทาส้ม  มีเอกสารกำกับยาอยู่ภายใน กล่องและหลอดเป็นแบบทึบแสง มีส่วนประกอบของ Cyclopentasiloxane & Silicone Crosspolymer 98% - Vitamin C 2% ClenaScar C Gel เป็นซิลิโคนเจลผสมวิตามินซี ช่วยทำให้สีผิวบริเวณแผลของเราสม่ำเสมอ เรียบเนียน และนุ่มลงด้วยการทำหน้าที่เป็นแผ่นฟิล์มบางๆ เคลือบแผลไม่ให้เสียความชุ่มชื้น อันเป็นสาเหตุของการสร้างคอลลาเจนอย่างเกินความจำเป็น ทำให้แผลเป็นของเรามันแข็ง และนูนขึ้น 1 หลอด 15g. ราคา 600฿ การใช้ต่อ 1 ครั้ง ปริมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียวกับแผลขนาด 6 นิ้ว ให้ทาทั้งเช้าและเย็น เนื้อเจลไม่เหนียว ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แห้งไว และหลังจากทาเจลลงบนแผลเป็นแล้ว สามารถทาแป้ง แต่งหน้าได้ตามปรกติ ไม่มีผลต่อการใช้เครื่องสำอางใดๆ  ก่อนทาแผลจะลึก และดำมาก บริเวณรอบๆ ยังคงมีสีคล้ำอยู่  หลังทาได้ 7 วัน ความคล้ำจากแผลลดลง และตัวแผลเป้นที่แข็งอ่อนนุ่มลงบ้างแต่ยังคงเป็นไต  หลังใช้ 14 วัน รอยแผลจางลง และปากแผลตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รอยคล้ำรอบๆ หายไปสีผิวเริ่มกลับมาสม่ำเสมอ  หลังใช้ 28 วัน แผลเป็นมีขนาดเล็กลง และสีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น รอยลึกก็ตื้นขึ้นแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับผิว แต่งหน้าปกปิดแทบจะไม่เห็นรอยแผลเป็น หลังจากที่รอยแผลเป็นจางลง ความมั่นใจก็เริ่มกลับมามากขึ้น และหลังจากนี้ถ้าใช้ต่อเนื่องเชื่อว่ารอยแผลน่าจะเล็กลงจนแทบมองไม่เห็นเลยทีเดียว ถือว่าเป็นทางออกหนึ่งของผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นได้ค่ะ  สถานที่จัดจำหน่าย : ร้านยากรุงเทพ, ร้านยากลุ่ม Health up group, และร้านขายยาชั้นนำ สั่งซื้อออนไลน์ : https://www.facebook.com/messages/t/clenascar โปรโมชั่น แจ้งcode ส่วนลด "revu10" ก่อนชำระเงิน ในการสั่งซื้อผ่าน https://www.facebook.com/messages/t/clenascar รับส่วนลดผลิตภัณฑ์ Clenascar C (ทั้งขนาด 7 และ 15 g) 10% ในการใช้ส่วนลดครั้งแรก (ใช้ได้ถึงวันที่ 31/ส.ค./62)  [ Review ] Vivid Clinic คลินิกความงาม ปรับรูปหน้าและดูแลผิวพรรณ by Dr.Jah
 ดูจากรูปก็รู้แล้วใช่ไหมคะว่านัทเป็นคนหน้าใหญ่ !!! นอกจากไขมันที่แก้มแล้ว ยังมีเหนียงอีก  ทุกๆวันก็เอาความเชื่อเข้าข่มว่า คนรวยจะมีเหนียงที่คอ เพื่อบ่งบอกว่ามีอันจะกิน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครไปบัญญัติเอาไว้ แต่ก็ปลอบใจตัวเองแบบนั้นเรื่อยมา    วันนี้โอกาสก็มาถึง นัทได้มาปรึกษา คุณหมอจ๋า ที่ Vivid Clinic บรรยากาศของคลีนิก สะอาด และห้องกว้างมากๆ    ทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะไปทำ Botox อย่างเดียว เพราะไม่เคยทำอะไรกับหน้ามาก่อน แล้วที่สำคัญคือเป็นคนกลัวเข็ม กลัวเจ็บ ก็ทำให้ไม่กล้าที่จะทำ หลังจากคุณหมอจับหน้าของเรา เพื่อเช็คดูกล้ามเนื้อกับไขมันบนหน้า คุณหมอก็แนะนำว่า Botox อย่างเดียวไม่น่าจะเอาอยู่ เพราะไขมันเยอะมาก มันอาจจะไม่ลง แนะนำให้ทำเป็น V – Set ซึ่งของนัท อยู่ใน Set M ราคา 9,900 บาท ประกอบด้วย Botox ลดกราม Botox ลิฟท์กรอบหน้า Lipo V 5 เข็ม ระหว่างที่นัทกำลังตื่นตะลึงอยู่กับจำนวนเข็ม ที่เพิ่มขึ้นมาคุณหมอก็ให้รายละเอียด แบบเป็นกันเองทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายว่า แต่ละตัวยาทำหน้าที่อะไร และรู้สึกยังไงเวลาที่ฉีดถ้าใครรู้สึกกลัวก็จะมียาชา ที่ดีต่อใจมากๆ อย่างน้อยตอนเข็มจิ้มก็ไม่รู้สึก  ทายาชาจะรู้สึกยิบๆ เหมือนเป็นเหน็บที่แก้ม2ข้างนะคะ ไม่มีกลิ่นที่แสบจมูกเลย ขั้นตอนในการเตรียมตัวจริงๆก็ไม่มีอะไรมาก เราสามารถนัดวันแล้วเข้ามาพบคุณหมอได้เลย อุ่นใจได้เพราะที่ Vivid Clinic ดูแลโดยคุณหมอทุกเคส แต่ถ้าใครอยากสบายใจ ก็งดแอลกอฮอล์ล 24 ชั่วโมงนะคะ Botulinum Toxin หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “BOTOX” เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ เมื่อฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อ จะยับยั้งไม่ให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น เมื่อฉีดเข้าที่บริเวณกรามก็จะช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้น Botox ตัวที่คุณหมอฉีดให้คือ   Neuronox ‘นิวโรน็อกซ์’ เป็นโบท็อกสัญชาติเกาหลี ตัวแรกที่อยู่มายาวนาน 9 ปีกว่า ตั้งแต่ปี 2006 และเป็นโบท็อกซ์ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในเกาหลี มาหลายปีด้วย เพราทั้งราคาถูกและคุณภาพดี แม้ว่านิวโรนอกซ์จะผลิตที่ประเทศเกาหลี แต่ใช้วัตถุดิบตัวเดียวกันกับของอเมริกาและผลิตภัณฑ์ ที่ได้ก็มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98-99 % มีมาตรฐานในการทำวิจัยว่า เมื่อใช้ไปแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีมีความปลอดภัยในระยะยาว เพราะจะสลายหมดไปในร่างกาย จึงสามารถฉีดซ้ำได้ทุกๆ 6 เดือน ฉีดแล้วให้ดูเป็นธรรมชาติ แถมยังอยู่ทนไม่สลายเร็วด้วยค่ะ การฉีดโบท็อกนี้ไม่ควรทำในคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนะคะ  ขั้นตอนการฉีดก็อยู่ในการดูแลของคุณหมออย่างดี โดยที่คุณหมอจะชวนเราคุยและถามอาการเราตลอด เจ็บไหม ทนไหวไหม ด้วยความที่คุณหมอ อารมณ์ดีชวนคุยทำให้เราหายเกร็ง และจะบอกว่าถึงแม้คุณหมอจะบอกว่า มันจะเจ็บหน่อยนะคะ แต่พอถึงเวลามันแทบจะไม่เจ็บเลย คุณหมอมือเบามาก แป๊บเดียวก็ผ่านพ้นไปครบทุกเข็ม  แล้วจะมีแสบๆบ้างตรงที่ลิฟท์กรอบหน้า กับฉีดสลายเหนียง แต่พอฉีดเสร็จก็มีประคบเย็นทันที ทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันเจ็บจนทนไม่ได้ หลังฉีดคุณหมอให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 5 – 10 นาที และขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดช่วง 30 นาทีแรก เพื่อที่โบท็อกจะได้ดูดซึมได้ดี และออกฤทธิ์เร็วขึ้น ห้ามนอนหงายหรือก้มหน้าต่ำๆ ภายใน 3-4 ชั่วโมงแรก นอกจากนี้หลังจากที่ฉีดไปแล้ว 1 สัปดาห์ ไม่ควรโดนความร้อน เช่นไปซาวน่าหรือ นวดหน้า เพราะจะทำให้สลายไปเร็วขึ้นค่ะ  รอยนูนจากเข็มจะหายไปใน 2 – 3 ชั่วโมงแรกนะคะ ไม่ต้องตกใจส่วนในเคสของคนที่มีรอยช้ำ จะหายเองภายใน 1 สัปดาห์ และงดแอลกอฮอล์ล 24 ชั่วโมงหลังฉีดนะคะ เพื่อตัวยาจะได้ออกฤทธิ์ได้นานขึ้นค่ะ จากนั้น ก็มาฉีด Meso Fat เพื่อลดไขมันในแก้มและเหนียง คือ การฉีดสารที่จะช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เข้าไปยังบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่ โดยที่มันจะเข้าไปทำให้ไขมันแตกตัว และกระตุ้นให้ไขมันที่สะสมอยู่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งจะเห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์ค่ะ  ตัวที่คุณหมอใช้จะเป็น SRS Corporel Lipolysis ตัวนี้นอกจากจะลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้าแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวหน้าควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากมีกรดอะมิโนและกรดไฮยารูลอนิค ผสมอยู่ด้วยนั่นเอง 2 สัปดาห์หลังจากฉีดเสร็จ คุณหมอจะนัดติดตามเคสอย่างใกล้ชิด เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงและให้คำแนะนำเพิ่มเติม    นอกจากนี้ที่ Vivid Clinic ยังมีโปรแกรมยอดนิยม อาหารผิว Aura Skin / กระชับผิวด้วย HIFU เครื่องแท้ผ่านอย. / BOTOX แท้มีอย. สามารถเข้าไปขอคำแนะนำ กับคุณหมอได้โดยตรงเลยค่ะ    อันนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงหลังทำของนัท พึงพอใจมากค่ะให้คะแนนเต็ม 10 ไปเลย เพราะหน้าดูเล็กลง กรอบหน้าดูชัดขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ยังยิ้มได้ปกติไม่ตึง แล้วบอกได้เลยว่าความสวยเริ่มต้นที่นี่จริงๆ จากคนกลัวเข็มพอเห็นผลลัพธ์แล้ว เลิกกลัวไปเลย  หลังจากเข้ารับบริการแล้วที่ประทับใจที่สุดคือ คุณหมอน่ารักและใจดีมากๆ ให้ข้อมูลละเอียด ตอบทุกคำถาม เข้าใจความรู้สึกของคนที่กลัวและพึ่งมาทำครั้งแรก อย่างนัท ไม่มีการขายคอร์สเพิ่มแต่อย่างใด มีแต่นัทที่ติดใจจนอยากจะทำเพิ่มเอง ถามหมอตลอดว่าจะฉีดได้อีกทีเมื่อไหร่คะ อยากหน้าเล็ก ก็ได้คำตอบมาว่าถ้าโบท็อกซ์อาจจะมาซ้ำได้ ในช่วง 4-6 เดือน แต่ตัว Meso Fat อีก 2 อาทิตย์ก็มาฉีดซ้ำได้ค่ะ   นี่เป็นรูปหลังฉีดได้ 10 วันค่ะ รู้สึกกรอบหน้าชัดขึ้นมาก และถ้าครบ 2 สัปดาห์หน้าก็จะเรียว ได้รูปขึ้นอีก ส่วนที่เป็นเหนียงก็อาจจะต้อง ไปฉีดซ้ำอีกนิดถึงจะราบคาบ ถ้าใครอยากสวยแบบเป็นธรรมชาติก็สามารถ ไปพบคุณหมอจ๋าได้ที่ Vivid Clinic ตั้งอยู่ที่อาคารอาคารวรวัฒน์ สีลม ชั้น 1 เวลา 11.00 - 19.00 น. (ปิดทุกวันพฤหัสบดี) การเดินทางก็ไม่ยากนะคะ นัทนั่ง MRT ไปที่สถานีสีลมแล้วต่อวินมอเตอร์ไซด์ หรือถ้าใครมา BTS ก็ลงที่สถานี ศาลาแดง แล้วต่อวินได้เหมือนกันค่ะ ช่องทางติดตามข้อมูลข่าวสาร Facebook page : VividClinicByDrJah Website : https://www.vividclinic.co.th Line ID : @vividclinic IG : vividclinic_bydrJah  [ Review ] อยากหล่อเหมือนพี่ก้อง ต้องใช้ครีมพี่ก้อง Kelly Rejuvenating & Lifting Serum
 ใบหน้าอ่อนเยาว์สดใสใครๆ ก็หมายปอง ยิ่งเวลามองในจอทีวี เจอเหล่าดารา นักร้อง เซเลปที่ดูเหมือนจะอยู่ยงคงกระพัน ไม่แก่ ไม่เหี่ยว ในใจก้อสงสัยน้อออ .... เขากินหรือใช้อะไรกัน ? ทำไมผิวหน้ายังดูเด็กแม้ว่าตอนที่เราเกาะหน้าจอทีวี จะเป็นเด็กตัวน้อย จนวันนี้เราก็เข้าสู่วัยริ้วรอยแล้ว ดาราคนนั้นก็ยังดูเหมือนเดิมเป๊ะ!!! หนึ่งในนั้นก็คือ พี่ก้อง สหรัฐ ที่กาลเวลาทำอะไรพี่เขาไม่ได้เลย หลังจากที่เรารีวิวครีมลดริ้วรอยมาเยอะแล้ว วันนี้เราจะมารีวิว Kelly Rejuvenating & Lifting Serum  หรือ ครีมพี่ก้อง ก่อนที่เราจะไปไขความลับ ฉบับหนุ่มหล่ออย่างพี่ก้องว่าเขาใช้อะไรทำไมถึง ได้หล่อไม่สร่างอย่างนี้ เรามารู้จักกันก่อนดีกว่าว่า Kelly Rejuvenating & Lifting Serum เป็นใครมาจากไหน  Kelly Rejuvenating & Lifting Serum หรือ ครีมพี่ก้อง เป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้า ลดฝ้ากระ ริ้วรอยร่องลึก ให้กลับมาตึงกระชับ อ่อนเยาว์ ทำหน้าที่เข้าไปเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวของเรา และช่วยฟื้นฟูระดับเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรง ด้วยส่วนผสมสารสกัดจากแมงกะพรุนรูปพระจันทร์ ช่วยในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นกับผิว เมื่อผิวมีความอิ่มน้ำ ริ้วรอยจะจางลง นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ และซ่อมแซมเซลล์ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เพียงแค่สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน แต่ยังมีสารสกัดจากสาหร่ายอีก 5 ชนิด ที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้น ควบคุมการสูญเสียน้ำของผิว โดยทำหน้าที่ดูดซับและกักเก็บน้ำไว้ให้ผิว เมื่อผิวของเราไม่แห้งผิวหน้าของเราก็จะดูแก่ช้าลง เป็นไงกันบ้างคะ สารสกัดแต่ละตัวบอกได้เลยว่า เน้นให้ความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวเสีย ให้กลับมาเต่งตึง ก่อนที่จะมารีวิวเคลลี่นัทเคยเห็นในทีวีมาก่อนนะคะ หลายคนอาจจะเคยเห็นมาบ้างเหมือนกันแต่ยังไม่เคยลองใช้ วันนี้นัทจะมาแกะกล่องให้เห็นกันไปเลยว่า ข้างในเขาเป็นอย่างไรและการทำงานของเซรั่มเป็นยังไง  เริ่มที่แพ็คเกจก่อนเลยนะคะ ตัวกล่องดูคลีนมาก โทนกล่องเป็นสีขาว ฟ้า สวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนมาจากท้องทะเล เป็นกล่องแบบสไลด์ออก ข้างในมีซองบรรจุเซรั่มสีขาวอยู่ 15 ซอง  การทำแยกป็นซองเล็กๆ ดียังไง? อย่างที่นัทเคยบอกไปหลายรีวิวแล้วว่าการเปิดปิด บรรจุภัณฑ์ของครีมบ่อยๆ มันอาจทำให้ประสิทธิภาพ ของครีมลดลงหรืออาจจะเสียเร็วกว่ากำหนด แต่การเปิดแล้วใช้ภายในครั้งเดียว จะให้คุณค่าจากสารสกัดได้ครบถ้วนกว่า เนื้อครีมเป็นเนื้อสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆจางๆนะคะ ถ้าใครที่แพ้ง่ายอาจจะต้องลองเทสดูก่อน นัทก็แพ้ง่ายแต่ตัวนี้นัทไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่คัน เนื้อครีมนุ่ม ละเอียดแต่แตกตัวง่าย ทำให้การเกลี่ยไปรอบๆไม่ยาก วิธีการทาเคลลี่จะไม่ใช้การทาวนทั่วหน้าอย่างเดียวนะคะ แต่เราจะต้องกดๆเนื้อครีมและค่อยๆตบเบาๆ เพื่อให้ตัวเซรั่มซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น จะได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ นอกจากใบหน้าแล้วก็อย่าลืมทาคอด้วยค่ะ  ปริมาณ 1 ซองนัททาทั้งหน้า และคอได้ 1 ครั้ง ใช้ทั้งตอนเช้าและเย็นค่ะเฉลี่ยแล้ว 1 วันก็ 2 ซองนะคะ อย่างที่บอกไปว่าเมื่อเปิดซองแล้วต้องใช้ให้หมด ในครั้งเดียวจะดีที่สุดค่ะ   ใครที่รอยรองลึกบนใบหน้าก้อนวดกดตรงบริเวณนั้น นานนิดนึงนะคะ  หลังจากทาทันทีจะรู้สึกว่าหน้าหนึบๆ ชุ่มชื้นแต่ไม่เหนียวค่ะ หลังใช้เคลลี่1สัปดาห์รู้สึกได้ว่าริ้วรอยดูจางลง แต่ที่เห็นชัดมากคือผิวดูนุ่มฟูขึ้นค่ะ  สำหรับใครที่อยากสวย หรืออยากหล่อ จนกาลเวลาพรากความหนุ่มไปไม่ได้อย่างพี่ก้อง ก็ลองซื้อมาใช้กันได้ตามนี้ค่ะ ช่องทางการติดตามข่าวสาร และจัดจำหน่าย Website : https://bit.ly/2WfRkqP Facebook : https://bit.ly/2YGBwiR Line : https://bit.ly/2WGQCDb Tel. 02-1263001  |
Natta พารีวิว
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] อยากแบ่งปันให้โลกได้รู้ ว่าศิลปะคือความงดงามที่ไร้ขีดจำกัด 🇹🇭 All Blog
|
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
