|
In My Computer concept in 2007
| Concept of Computer Design
Model ==> แบบจำลอง มุมมองแบบ concept
Architecture ==> แผนผัง มุมมองที่บอกว่า มีอะไรบ้าง ไว้ทำอะไร อยู่ร่วมกันส่วนอื่นๆยังไง รวมไปถึงการต่อเติมด้วย แสดงถึงลักษณะรวมๆ
Framework ==> กรอบวิธีการทำงาน เช่น service พื้นฐานที่มี วิธีการใช้งานมัน หรือวิธีสร้างอะไรมาเพื่อใช้งาน framework
ความเห็นผม architecture ก็เป็น model แต่แสดงลักษณะที่เจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง ลองนึกเทียบกับ diagram ของบ้านจะประกอบด้วย แผนผังแสดงโครงสร้างคาน+เสา ระบบน้ำดี/เสีย ไฟฟ้า เหล่านี้ล้วนแสดงด้วยแผนภาพ ซึ่งก็คือ model นั่นเอง
|
| ในทาง AI หน้าที่หลักคือการแปลง concept มาเป็น program "ทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจเหมือนที่มนุษย์เข้าใจ" Programmer = ผู้ทำการเขียนโค้ด=ช่าง กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน Software Analyst = วิเคราะห์ระบบงาน= ติดต่อลูกค้า หาข้อตกลง Software Engineering = คุมการก่อสร้าง ดูคุณภาพในรายละเอียด คำนึงถึงความปลอดภัย Software Architect = ออกแบบโครงสร้าง คุมการก่อสร้างในภาพรวม ดูแลคุณภาพในภาพรวม
IDE มีสองความหมาย
1. Acronym for Integrated Device Electronics. n. (Acronym: IDE.) A type of disk-drive interface in which the controller electronics reside on the drive itself, eliminating the need for a separate adapter card. The IDE interface is compatible with the controller used by IBM in the PC/AT computer but offers advantages such as look-ahead caching.
นี่คือ Hardware เป็น Interface ของ disk-drive และ Controller ต่างๆ
2. Integrated Development Environment n. (Acronym: IDE.) A set of integrated tools for developing software. The tools are generally run from one user interface and consist of a compiler, an editor, and a debugger, among others.อันนี้เป็นชื่อของโปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ครับ ซึ่งอาจจะทำงานได้หลายแบบ อย่างเช่น เป็น compiler, editor, debugger และ ฯลฯ แล้วแต่ผู้ผลิต .........
นี่คือความหมายที่แตกต่างกันแต่ตัวย่ออันเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดไปเลยว่าเครือข่ายแบบไหน (internet, intranet, peer-to-peer) เครือข่ายขนาดไหน (small organization, enterprise, global) และทำกับอะไร (authentication, email, im, etc.) การกำหนดให้ชัดช่วยให้สอบหัวข้อง่ายขึ้น ส่วนหัวข้อโดยละเอียดว่าควรจะเลือกอะไรต้องลองไปค้น paper เกี่ยวกับสิ่งที่สนใจ แล้วลองคิดว่า ตัวเองน่าจะปรับปรุงงานวิจัยของเค้าที่จุดไหน เช่น เพิ่มระดับการเข้ารหัส เปลี่ยนวิธีการ authenticate ลดปริมาณ traffic ที่ต้องการ เป็นต้น ที่สำคัญ ควรหาอาจารย์ที่ปรึกษาเก่งๆ ในเรื่องนี้ เพราะจะได้รู้ว่า แนวโน้มไปทางไหน อะไรที่มีคนกำลังทำอยู่ ไม่งั้นเสียเวลาวิจัยเป็นปีแล้วมีคนทำตัดหน้า กลายเป็นว่าเราไม่จบ เสียเวลาเปล่าๆ
| |
|
Create Date : 08 มกราคม 2550 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 21:48:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 356 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
artchula66 |
|
|
|
|