|
-`๏-ลูกที่เราสร้างและตบแต่งให้สวยงามด้วยสองมือเรา-`๏-
ลูกที่เราสร้างและตบแต่งให้สวยงามด้วยสองมือเรา
ซ่อม(ลูก)ได้.........ถ้าพ่อแม่เปิดใจยอมรับ
ไม่เคยคิดว่าเลี้ยงลูกจะยากขนาดนี้ อยากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด อยากให้ลูกเป็นเด็กดี เชื่อฟังผู้ใหญ่ ตั้งใจเรียน มาโรงเรียนอย่างมีความสุข เรียนสนุก เข้ากับเพื่อนๆและคุณครูได้ดี สุขภาพกายใจแข็งแรงพร้อมรับกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างสมวัย แต่...สิ่งที่ได้ ลูกที่เอาแต่ใจตนเอง ขัดใจไม่ได้เลย ปี๊ดแตกไม่เลือกที่ หนูทำไม่ได้ทำให้หนูหน่อยซิ ทุกอย่างถูกจัดการเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติทันที ด้วยมือของใครต่อใครในบ้าน ใครกันแน่ ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ลูกคุณ ตัวคุณ หรือใครกันแน่
ฤาเพราะรักลูกมากจนความรักบังตา (ความรักทำให้คนตาบอดนะจะบอกให้) ลูกฉันดี ลูกถูกหมด ปกป้องจนมากเกิน หรือกลัว เลยมองไม่เห็นปัญหาหรือคิดว่าไม่สำคัญ เลยไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใดๆของลูก ของตนเองและของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
สัปดาห์ที่แล้วได้มีโอกาสทำกิจกรรมชุมชนเป็นสุข ที่วัดยายร่ม พันไมล์ได้รับคำชมเชยจากคุณครู รวมทั้งผู้ปกครองท่านอื่น ยืนยันว่าพันไมล์ ดีขึ้นมาก จนคุณครูถามเราว่า ทำอย่างไรกันบ้าง? ปีกว่าที่ผ่านมาตอนนี้ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะตอนนี้จากหนูน้อยพันไมล์ที่เคยเป็นขาวีนประจำห้อง มือตบความเร็วสูง ไม่พอใจใครมือฉันถึงตัวก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง จากคุณหนูที่มีพี่เลี้ยงคอยปรนนิบัติถึงที่เกือบจะตลอดเวลาของกิจวัตรประจำวัน ทำให้เคยชินที่จะไม่ค่อยหยิบจับทำอะไรด้วยตัวเอง มีประโยคติดปากว่า หนูทำไม่ได้ ไว้ก่อน ต้องคอยเรียกพี่เลี้ยงช่วยทำให้เสมอๆ จนติดเป็นนิสัย ที่ได้มาโดยมิตั้งใจ อีกทั้งยังชอบใช้คำสั่งอยู่บ่อยๆ กับทุกผู้ทุกคนไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ พร้อมทั้งกริยาท่าทางอาจดูออกจะก้าวร้าวอยู่เนืองๆ และอารมณ์ที่มีการขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เราเริ่มต้นจากเข้าห้องโอทีร่วมการฝึกบำบัดด้านกล้ามเนื้อเอ็นข้อต่อ การทรงตัว การรับรู้ด้านสัมผัสต่างๆ ตลอดจนฝึกสมาธิความมั่นคงในอารมณ์
อีกทั้งกัลยาณมิตรเพื่อนๆ ผู้ปกครองที่น่ารัก ช่วยกันแนะนำสิ่งดีๆให้แก่กัน แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เด็ก อย่าเพิ่งตกใจไปก่อนนะ คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านอาจคิดว่าจำเป็นจะต้องพบจิตแพทย์เลยหรือ ดูน่ากลัวเกินไป แต่ก็ได้ผลดีเกินคาด ขอย้ำว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในบ้าน แต่ต้องพาทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลูกไปพบคุณหมอด้วยกันทั้งหมด ไปเล่าเรื่องราว รับรู้ รับฟังแนวทางแก้ไขพร้อมๆกัน คุณหมอจะเก็บข้อมูลของทุกๆคนมาวิเคราะห์ ประเมินผล และชี้แนะแนวทางแก้ไขที่ต้องทำอย่างจริงจัง และชัดเจน บรรยากาศในห้องเงียบ......หมอพูดตรงมากๆจนเราถึงกับอึ้ง พี่เลี้ยงออกไป ทำเอาพี่เลี้ยงหน้าซีดคิดว่าตกงานแล้วเรา.......แต่คุณหมอก็บอกว่า ดีใจด้วยที่คุณมีลูกที่ฉลาดมาก แต่เรื่องการเลี้ยงดูที่เรายังตามใจและทำให้ทุกสิ่งแบบเด็กเล็กๆ จนทำให้พันไมล์ใช้ความฉลาดจัดการพ่อ/แม่เสียอยู่หมัดในทุกเรื่อง คุณหมอพูดแบบไม่ต้องการคำตอบว่า ลูกน่ะฉลาด แล้วใครกันแน่ที่ไม่ฉลาด !!!
แบบว่ากลับบ้านมาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบ้านและทำกันอย่างจริงจังเคร่งครัด เอาจริง ใช้วิธีพูดน้อยไม่บ่นมาก แต่เอาจริง ไม่ก็ไม่จริงๆ กลับถึงบ้านเก็บกระเป๋า เอาของออกและเตรียมของใช้วันพรุ่งนี้ใส่ประเป๋าให้เรียบร้อยก่อนที่จะเล่นและไปอาบน้ำ กินข้าวเองถ้าอิ่มไม่อยากกินเลยเวลาก็เก็บ ไม่ต้องตามป้อนและยัดเยียด พันไมล์เค้าก็ไม่เครียด เพราะการบังคับให้กินเค้าเกิดการเรียนรู้ว่าถึงเวลาตั้งโต๊ะเค้าจะไปเตรียมจาน อยากกินแค่ไหนตักแค่นั้น ถ้าอิ่มแล้วก็เอาข้าวไปให้นกแล้วเก็บ พี่เลี้ยงก็ต้องเปลี่ยนหน้าที่ออกจากพี่เลี้ยงไปเป็นแม่บ้านแทนอยู่ให้จากห่างพันไมล์ ลดบทบาทความช่วยเหลือทั้งหมด ให้เด็กได้ช่วยเหลือตนเองอย่างเต็มที่ พ่อแม่ต้องใจแข็ง มีทิศทางเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจนและปฏิบัติเช่นเดียวกันตรงกัน นั่นเป็นผลจากหลังจากพบคุณหมอครั้งแรก กลับไปพบคุณหมออีกครั้งยังมีเรื่องอารมณ์ที่ยังตกค้างอยู่ คุณหมอแนะนำให้ทุกคนนิ่งเมื่อพันไมล์โกรธและอารมณ์ไม่ดีแยกเค้าเพื่อให้พันไมล์คูลดาวน์ลงก่อน แล้วค่อยเรียกมาคุยกันด้วยว่าสิ่งที่ทำไปมีเหตุและผลอย่างไร ตอนนี้เมื่อน้องเริ่มโวยวายและเรานิ่งเค้าเริ่มรู้ว่าสิ่งที่เค้าทำต้องมีอะไรที่ไม่ถูกเค้าจะหยุดและคิดเมื่อเค้าคิดได้เค้าจะมาขอโทษทันที และจะบอกเหตุผลหรืออะไรก็ตามที่เค้าคิดว่ามันเป็นเหตุผลของเค้าและความรู้สึกของเค้า เราต้องฟังและอธิบายให้เข้าใจ ตอนนี้พันไมล์เป็นพี่ อ. 2 ที่น่ารักแล้วนะ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ถูกปลดออกจากตำแหน่งขาวีนมือไวอารมณ์ร้อนประจำห้อง จอมโวยวายถูกถอดออกจากร่าง มีอารมณ์ความมั่นคงมากขึ้น ใจเย็นลง ไม่ค่อยมีเพื่อนๆที่โดนลูกหลงจากมือตบหรืออารมณ์ของเธอ และอื่นๆ อีกมากมาย
คุณเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ปีแล้วนะ คุณหมออธิบายว่าวิธีที่เราเลี้ยงลูกแบบที่เป็นอยู่คือแบบเด็กอ่อน ตั้งแต่วัยแรกเกิดถึงสามขวบ ส่วนสี่ขวบถึงหกขวบเป็นวัยที่เข้าเรียนต้องสร้างเสริมวินัย เรายังดูแลลูกแตกต่างกับที่โรงเรียนอย่างสิ้นเชิง จะสังเกตได้จากที่โรงเรียนสอนให้ทำกิจกรรมด้วยตัวเอง, ให้เพื่อนร่วมชั้น แต่กลับไปถึงบ้านเรายังทำทุกสิ่งให้ลูกอยู่เลย ทำให้เด็กสับสน ว่าจะเอาอย่างไร ณ วันนี้ถึงแม้พฤติกรรมของลูก กลับมาอยู่ในช่องทางที่ถูกที่ควร แต่ครอบครัวของเราก็ยังยืนยันที่จะดูแลให้เขามีพัฒนาการที่ดีต่อไป เพื่อเป็นคนดีและรู้เท่าทันสังคมบริโภคนิยมใบนี้ตลอดไป......ข้าวของเครื่องใช้เสียเรายังหาที่ซ่อม แล้วลูกล่ะลูกเป็นอะไร ซ่อมได้มั้ย.....ลูกที่เราสร้างและตบแต่งให้สวยงามด้วยสองมือเรา
Create Date : 24 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 24 ธันวาคม 2551 11:33:24 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1365 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Art999. วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:13:26:25 น. |
|
|
|
โดย: ColaGirl วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:21:05:56 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้า (pimjan.h ) วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:20:18:14 น. |
|
|
|
โดย: wheel we go วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:4:09:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
เราไปเจอกัน โดยมิได้นัดหมาย หรือรู้จักกันมาก่อน ที่โน่นแน่ะ "วังน้ำเขียว"
เธอเล่าว่า ได้ยินเสียงผมเรียกเด็กผู้หญิงคนนึงว่า "พันไมล์"
แล้วก็หันมาดู....เธอรู้เลยว่า ชื่อนี้มีไม่กี่คน..
เราเลยได้รู้จักกันในวันนั้น....ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และมิตรภาพอันดีงามครับ