Series_Moonlight 108 [12:04 AM]…นักโทษประหาร โดโนเเวน เชพเพิร์ด,ออร์เดร และ Beth's guardian angel..


Series_Moonlight 108 [12:04 AM]


Smiley คำคม
Mick:you humans have your own coping mechanisms…
         When something goes wrong.
         Some of you obsess.
         Some become vengeful.


  มิค:มนุษย์อย่างพวกคุณ มีกลไกปกป้องตนเอง
       เมื่อเกิดอะไรที่ผิดพลาด
       บางคนกลายเป็นความหลงไหล
       บางคนกลายเป็นความอาฆาตแค้น...


------------------------------------------------------------




Smiley คำเตือน-สปอยเนื้อเรื่องในตอนระดับรุนแรง


โดโนแวน เชพเพิร์ด นักโทษประหาร ในคดีฆ่าคนตายได้กล่าวเอาไว้
ก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษว่า...


“อำนาจทำให้คนหลงผิดได้ (power)
ทำให้มัวเมาจนลืมเหตุผล ความเมตตาปราณี (kindness/mercy)
ผมใช้เวลาหลายปี คิดถึงการกระทำของผม (my actions)
สิ่งที่ผมเลือกทำ (my choices)
ผมไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย (regret)
ผมไม่ต้องการการให้อภัย (forgiveness)
แต่ต้องการ “เลือด” ของผู้ที่หักหลังผม (blood)
คุณรู้แก่ใจดีว่าใคร
ผมจะยังอยู่ต่อไป (live up)
และคุณจะต้องตาย โดยกรีดร้องเรียกชื่อผม (scream my name)”


เชพเพิร์ดตายเมื่อ เวลา 12.04 am (ชื่อเดียวกับตอน)
โดยปราศจาก”ความสำนึกบาป” จากการกระทำของตนอย่างสิ้นเชิง
เขาเชื่อว่า แม้ร่างกายของเขาจะดับสูญ
แต่วิญญาณ (soul) ของเขายังคงอยู่
และรอวันแก้แค้น “คนที่หักหลัง”


ในคุก-ขณะที่นักโทษเชพเพิร์ดรอเวลาถูกประหารชีวิต
นอกคุก-คนที่เรียกตัวเองว่า “ครอบครัวเชพเพิร์ด” รวมตัวประท้วงการประหารชีวิต


เบธมาทำข่าวนี้ให้กับ Buzz Wire และเป็นพยานในห้องประหารนักโทษด้วย
หลังการประหารผ่านพ้นไป
เบธชวนให้สาวน้อย “ออร์เดร เพลล์” เหยื่อที่ยังมีชีวิตอยู่
ในขณะที่เชพเพิร์ดฆ่าพ่อ-แม่ของเธอ เมื่อเธออายุเพียง 10 ขวบ
และออร์เดรเป็นเพียงผู้รอดชีวิตคนเดียวที่ได้เห็นหน้าฆาตกร


เมื่อกลับมาถึงบ้านของเบธ
ออร์เดรได้รับโทรศัพท์เสียงที่เธอจำฝังใจ
“สวัสดีสาวน้อย (hello sweetheart)
ฉันเห็นเธอนะ” (I see you.)
นั่นเป็นคำพูดที่ฆาตกรเชพเพิร์ดพูดกับเธอเอาไว้เมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา
และออร์เดร ไม่มีวันลืมคำพูดน่าหวาดกลัวประโยคนี้


เมื่อเธอมองลอดหน้าต่างบ้านเบธลงไปด้านล่าง
เธอเห็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาเหมือนเชพเพิร์ดยืนมองเธออยู่



นั่นเป็นสาเหตุที่เบธเป็นคนพาออร์เดรไปหามิค
เพื่อสืบเรื่องสาวกที่บูชาเชพเพิร์ด
เนื่องจากเชพเพิร์ดมีสาวกที่คลั่งไคล้เขามากมาย
และออร์เดรอาจจะไม่ปลอดภัย หากมีสาวกของเชพเพิร์ดตามรังควาญ


สาเหตุสำคัญที่เบธเห็นอกเห็นใจออร์เดร
อาจจะเป็นเพราะเธอเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน
ซึ่งเบธเคยถูกโคราลีนลักพาตัวไปเมื่อเธอยังเป็นเด็ก


มิคหาข้อมูลของ โดโนแวน เชพเพิร์ด จากเว็บไซต์ของเหล่าสาวก


และนั่นทำให้เขารู้ว่า คนเหล่านี้ รู้ที่อยู่บ้านเบธ


ออร์เดรเห็นข้อความที่เขียนไว้ในห้องน้ำ
Scream My Name.
ขณะอยู่บ้านเบธตามลำพัง (เบธออกไปทำงาน)
มิคตามไปจับหนึ่งในสาวกของเชพเพิร์ดไว้ได้
เขาคาดคั้นหาความจริง



จนตามไปถึงเบาะแส ของโปรดิวเซอร์สร้างภาพยนตร์ที่ชื่อ เจอรี่ เดรก
เจอร์รี่เป็นเพื่อนของเชพเพิร์ด


เจอร์รี่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเว็ป...เขาเติมเชื้อไฟให้กับสาวกเชพเพิร์ดบ้าคลั่งขึ้น
เพื่อชีวประวัติของเชพเพิร์ดที่จะนำไปสร้างหนังจะได้ดังยิ่งกว่าเดิม
“วงการฮอลลีวู๊ด” เหมือนที่มิคพูดกับเจอร์รี่ ก่อนกลับออกมาจากบ้านของเจอร์รี่


อัยการเขตในคดีของเชพเพิร์ด หายตัวไปและอาจจะถูกฆ่าตาย
พบรอยนิ้วมือเชพเพิร์ดบนมีด



คำพูดก่อนถูกประหารของเชพเพิร์ด
“Blood is a key”
ทำให้มิคคิดได้ว่า...
เชพเพิร์ดกลายเป็น “แวมไพร์” ก่อนจะถูกนำตัวไปประหารชีวิต
มิคพิสูจน์ความคิดของเขาด้วยการไปตรวจศพของเชพเพิร์ด


สิ่งที่มิคพบที่ห้องเก็บศพ คือ...
ร่างของอัยการเขตที่หายไป
เชพเพิร์ดกลายเป็นแวมไพร์และเขากำลังเดือดพล่าน


บาทหลวงที่เข้าไปเทศน์เชพเพิร์ดในคุก
คือคนที่เปลี่ยนเชพเพิร์ดให้เป็นแวมไพร์
โดยได้รับค่าจ้าง 8 แสนจากเจอร์รี่ เดรก


เชพเพิร์ดตามไปทวงแค้นเจอร์รี่ที่บ้าน
มิคตามไปที่บ้านของเจอร์รี่
และต่อสู้กับเชพเพิร์ด มิคร่วงลงไปด้านล่าง
เชพเพิร์ดเก็บโทรศัพท์ของมิคที่หล่นอยู่กับพื้นได้


เชพเพิร์ดบุกไปที่บ้านของมิค
มิคกลับมาทันจัดการกับเชพเพิร์ด
การต่อสู้ระหว่างแวมไพร์และแวมไพร์เริ่มต้นขึ้นในบ้านของมิค


เบธรู้ว่าใครคือ “ผู้พิทักษ์” ของเธอ ( my guardian angel)
หลังจากค้นเจอแฟ้มของตัวเอง พร้อมรูปถ่ายในวัยต่างๆ


 


Smiley พูดคุย
-เจอร์รี่ เดรก ในฉาก มีถ่ายรูปกับ อดัม แซนเลอร์ซะด้วย
-บ้านของเจอร์รี่ เดรก ใหญ่ ติดกระจกทั้งหลัง และตั้งอยู่บนภูเขา มีวิวที่สวยมากๆ
-ชอบรูปสเก็ตของ เชพเพิร์ด... สเก็ตได้เห็นแววตาและอารมณ์ที่ดุดันและโหด
-เฮ่อ...ในที่สุด เบธก็ได้รู้ซะทีว่า ใครคือ guardian angel ของเธอ
หลังจากคนดูอย่างเราๆ รู้มาตั้งแต่ตอนแรกๆ ของซีรีส์
-ขำฉากที่มิครีบล้างแก้วที่ติดคราบเลือดตอนที่ออร์เดรไปถึง
-ปิดฉากตอนอย่างสวยงาม เมื่อแสงอาทิตย์สาดสะท้อน บนระเบียงบ้านมิค
-เป็นตอนที่สนุกตอนนึง เรื่องราวดำเนินไปแนวเดียวกับหนังฆาตกรรม
-ฉากออร์เดรย์เห็นแววตาฆาตกรเชพเพิร์ด ถ่ายในเฟรมที่สวยดี



Smiley ว่าด้วยเรื่องเพลง...
-Dark As Love : Luscious Redhead (Melissa Ritter) ฉากในคุก รอเวลาประหารเชพเพิร์ด เพราะดีๆ
-Drowning : The Stereophonics
-Keep My Heart : Deep Sounds
-To Hell With the Devil : Jim Bianco
-Together : The Kin ….เพลงปิดตอน ฉากระเบียงบ้านมิค เป็นเพลงบัลลาดร๊อคที่เพราะพอๆ
  กับเพลงของ The Fray ซึ่งได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ ซีรีส์นี้อุดมไปด้วยเพลงเพราะเยอะมากๆ เข้าทางเจ้าของบล๊อคเลย...เฮ่อในที่สุดก็หาวิธีเอาเพลงมาลงในบล็อคจนได้ แม้จะลองผิดลองถูกอย่างซะหลายรอบ


-



Free TextEditor
-----------------------------------------------------------------------------

The Kin - Together.mp3 - " HEIGHT="60" WIDTH="280" AUTOSTART="FALSE" VOLUME="50%" MASTERSOUND>



Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2552 19:43:35 น.
Counter : 517 Pageviews.

1 comments
  
หลงผ่านเข้ามา อย่าลืมแวะทักทายเจ้าของบล๊อคค่ะ
โดย: oradige วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:46:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

aommi63
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



http://i841.photobucket.com/albums/zz338/MOVIES_TV_STUFF_5/TV%20STUFF/THE%20VAMPIRE%
Group Blog