Series_Moonlight 106 [B.C.]-แวมไพร์โลล่า แร่เงินและคลับวาลิส


Series_Moonlight 106 [B.C.]-แวมไพร์โลล่า แร่เงินและคลับวาลิส


ตอนนี้หาคำคมๆ ไม่ได้เลย
ผ่านๆ


*แนะนำตัวละคร*
สตรีฟ-ตากล้องร่างเล็กของ Buzz Wire ทำงานนอกสถานที่กับเบ็ธบ่อยๆ
เทอร์แรนซ์-เพื่อนร่วมงานของกิลเลอโม่ ทำงานในห้องเก็บศพ
                 และเป็นแหล่งข่าวอีกคนของมิค


*สปอยเนื้อเรื่องในตอนระดับรุนแรง*
เบ็ธมาทำข่าวแฟชั่นของดีไซเนอร์เทวาเรส
พร้อมสตรีฟ ตากล้องของ Buzz Wire


"เรเน่"นางแบบในชุดเสื้อผ้าของดีไซเนอร์เทวาเรส
ล้มพับและเสียชีวิตขณะถ่ายแบบต่อหน้าช่างภาพ
กล้องของ Buzz Wire บันทึกภาพไว้ได้


โจเซฟบุกมาปลุกมิคถึงห้องนอน (จริงๆ คือตู้แช่เย็นขนาดใหญ่)
เพื่อให้เขาช่วยตามหา “โดโรเรส” หรือ “โลล่า”
อดีตแฟนที่เชิดเงินเขาไป พร้อมกับหายไปจากชีวิตของโจเซฟ


“คลับวาลิส”
ต้นเหตุที่ทำให้นางแบบสาวเสียชีวิตกระทันหัน
เบ็ธเข้าไปสืบที่คลับ
แต่เข้าไปห้อง วีไอพี ไม่ได้


นอกจากแร่เงินบริสุทธิ์ที่พบจากเลือดของนางแบบสาว
เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพยังพบ“ไมโครชิพ” (เหมือนที่ฝังกับตัวสัตว์) จากศพของเรเน่
คือ “กุญแจ”สำคัญที่ช่วยให้เบ็ธเข้าถึง ห้องวีไอพีของคลับ


มิคสืบจนรู้ว่า โลล่า อดีตแฟน (อีกคน) ของโจเซฟ สะสมแร่เงินเป็นตันๆ


“เงิน” (Silver)
ศัตรูตัวฉกาจของเหล่าแวมไพร์


อีกครั้งที่ศพซึ่งเกิดจากการตายด้วยสาเหตุประหลาดๆ
ทำให้นักสืบแวมไพร์หนุ่มกับนักข่าวสาวจาก Buzz Wire มาพบกันที่โรงพยาบาล
(ส่วนมากมักจะลงเอยที่ห้องเก็บศพ)


เบ็ธขอให้มิคฝังชิฟที่เธอจิกมา
เพื่อทำให้เธอเข้าไปห้อง วีไอพี ของคลับวาลิส
เขาตกลง แต่ขอตามไปที่คลับด้วย


โลล่าคือแฟนเก่าของโจเซฟ
และเป็นคนเดียวกับเจ้าของคลับวาลิส


“คริสตัลดำ” (Black Crystal)
เครื่องดื่มพิเศษสุดที่เสิร์ฟเฉพาะแขก วีไอพี ของคลับเท่านั้น


ตำรวจบุกทลายคลับ
โลล่าหนีไปได้
มิคนำคริสตัลดำมาให้โจเซฟ
ที่แท้คริสตัลดำคือ
“เลือดของแวมไพร์”


เบ็ธทดลองดื่มเลือดจากคริสตัล
นั่นทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงอีกคนที่...ยั่วยวน
เธอเดินทางไปยั่วมิคถึงบ้าน
เพราะฤทธิ์จากเลือด เธอร้องขอให้เขาเปลี่ยนเธอ....เป็นแวมไพร์
แต่...
แต่...เขาดีเกินไป
เขาไม่ได้ทำตามคำขอจากเธอ


มิคบุกห้องทดลองของโลล่า
การต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างแวมไพร์หนุ่มอายุ 85 ปี
กับแวมไพร์สาวสวย(แต่ร้ายกาจ) อายุ 500 ปี
จึงเริ่มต้นขึ้น....


มิคทำลายหลักฐานของการมีตัวตนอยู่จริงของเหล่าแวมไพร์
ด้วยการเผาห้องทดลอง.....


Noted:เริ่มใกล้จะหลับ...ตาปิดไป 1 ข้าง เปิดซีรีส์ดูไปด้วย แบ่งจอคอมฯเป็น 2 ส่วน
แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายง่วง อีก 50 ปีหิมะคงตกในเมืองไทยอย่างที่นักวิชาการบางคนได้คาดเอาไว้
อากาศเย็นมาก แต่น่าแปลกที่โรคภูมิแพ้ (Allergies) ---อันเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ มันไม่มาเคาะประตูบ้านเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่าน
อาจเพราะได้ย้ายบ้านมาอยู่ในที่ที่อากาศสดชื่นมาก แทบไม่ได้สูดควันหรือเขม่ารถเลยในแต่ละวัน


*พูดคุย*
-ชื่อตอน B.C.ตอนแรกเดาว่าน่าจะหมายถึง Before Christ 
(เหมือนชื่อหนัง 10,000 B.C. อะไรทำนองนั้น พอๆ กับอายุบรรดาแวมไพร์ในเรื่อง)
แต่น่าจะหมายถึง Black Crystal มากกว่า
-โซฟาสีดำในห้องของมิค สวยมากๆ พึ่งสังเกตุเห็นในตอนนี้ (เป็นโรคบ้าโซฟาเป็นทุนเดิม)
อาจจะเป็นเพราะตอนก่อนหน้ามัวแต่มองหน้าพี่มิคซะเพลิน พี่เค้าตาหวานหยดจริงๆ


-เจ๊เบ็ธ ไม่เหมาะกับบทยั่วยวนเลยให้ตายสิ
เธอยั่วไม่ขึ้น (ในสายตาผู้หญิงด้วยกัน)
แม้ชุดที่ใส่จะเซ็กซี่ คว้านคอลึกขนาดไหน
เรายังไม่เห็นว่าเธอเซ็กซี่เลยสักนิด ได้แค่ระดับ “พยามจะเซ็กซี่”


-แวมไพร์โลล่า จริงๆ แล้วอาชีพเก่าของเจ๊คือ สาวบาร์อะโกโก้ จาก Prison Break
หลังจบ PB season 1 เธอปลอมตัวมารับจ๊อบเรื่องนี้
ขำๆ นะ จริงๆ เธอคือนักแสดงสาวจากซีรีส์ Prison Break หลายๆ คนยังจำเธอได้
และอาจจะซึ้งด้วยซ้ำไปที่เธอช่วยเหลือ ไมเคิล สโกฟิลด์ ซะขนาดนั้น
Note:บทนี้แสดงโดย Holly Valance หลายคนอาจคุ้นๆ ชื่อนี้ เธอเคยเป็นนักร้อง
เจ้าของซิงเกิ้ลฮิตอย่าง "Kiss Kiss" มาก่อนนั่นเอง


-คนช่างสงสัย(อีป้าคนเดิม)....คิดว่าเบ็ธไม่ชอบข่าวสังคมเอาซะเลย
หน้าตาเบื่อๆ เหมือนถูกบังคับให้ต้องมาทำงานในหน้าที่
ท่าทางล้อเลียน  คำพูด กระแนะกระแหน “ชุดพวกนี้มีแต่แม่มดใส่ได้เท่านั้น.”..


ตรงกันข้าม-
เบ็ธกระหายทำข่าวอาชญากรรมทุกชนิด
อาจเป็น “ปม” ตอนวัยเด็ก เมื่อเธอถูกลักพาตัวไปขณะอายุเพียง 4 ขวบ
นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอหมกมุ่น กระตือรือร้น เมื่อออกไปกับมิค
เขาให้ในสิ่งที่จอชไม่มีวันให้เธอได้
“ความตื่นเต้นในชีวิต”เหมือนนั่งอยู่บนโรลเลอร์ คลอสเตอร์ ตลอดเวลา...
(ใช่สิยะเจ๊เบ็ธ! ก็มิคน่ะแวมไพร์ตัวพ่อ ส่วนตาจอชก็แค่...ก็แค่มนุษย์อัยการธรรมดาๆ )


Noted - -23.30 น. น้ำตาไหล ปวดหัวซีกซ้ายตุ๊บๆ ไมเกรนเริ่มกัดกิน โรคเก่าเก็บ
พอเครียดจากเหตุการณ์เมื่อวาน วันนี้ความกังวลใจยังคงอยู่
นูโรเฟน...ช่วยได้ ระยะหลัง ติดยาตัวนี้...เป็นแล้วไม่กินตัวนี้มันไม่หาย...


*เพลงจากซีรีส์*
-Bounce (Kreesha Turner)…เพลงเข้ากันได้ดีกับการโพสท่าของนางแบบ
-Fallout (Chad Gendason Featuring Johanna Boberg)…ตอนเบ็ธเข้าไปคลับวาลิส ไม่ค่อยชอบเพลงนี้ 
เพราะไม่ชอบดนตรีแนวเทคโนอยู่แล้ว สำหรับเรารกหูและน่ารำคาญ
-Let It Go (Fauxliage)…เพลงนี้เพราะมากๆ ป๊อบหวานๆ เข้ากับบรรยากาศและฉากหวาบหวิวในห้องน้ำที่บ้านของมิค...
ฉากนี้ทำให้รู้ว่าเธอดีเกินไปแล้วพ่อมิค...ผู้หญิงยั่วซะขนาดนั้น
น่าจะจับไปรวมห้องกับอีตา เอ็ดเวิร์ด คัลเลน ซะจริงๆ รายหลังก็ไม่ยอมหลงกลยัยเบลล่า สวอน ง่ายๆ เหมือนกัน.....


หมายเหตุ—ซีรีส์ Moonlight อาจไม่ใช่ซีรีส์รักของคนเขียนเหมือน Prison Break,24,CSI,Criminal Minds,Bones,
Pushing Daisies,Ugly Betty,Desperate Housewives,Heroes หรือ Grey’s Anatomy
แต่พอเขียนรีวิวไปเรื่อยๆ ซีรีส์นี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ดูได้เพลินๆ เลยละ ออกจะสนุกกว่า Ghost Whisperer ด้วยซ้ำไป
 ถึงแม้อายุซีรีส์จะหดสั้นแค่ปี 2007 เท่านั้นก็ตาม เสียดายสตูดิโอน่าจะสร้างต่อ พล๊อตและตัวละครมีอะไรให้ได้เล่นรายละเอียดได้อีก!






               "Holly Valance หรือ สาวนิก้า จาก Prison Break"









Free TextEditor



Create Date : 15 มกราคม 2552
Last Update : 15 มกราคม 2552 16:43:26 น.
Counter : 536 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

aommi63
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



http://i841.photobucket.com/albums/zz338/MOVIES_TV_STUFF_5/TV%20STUFF/THE%20VAMPIRE%
Group Blog