Autumn diary + โอไดบะ +
เที่ยวกันต่อนะคะ เราไปโอไดบะกันช่วงบ่ายของวันที่สองของทริปค่ะ จากสถานีโตเกียว เรานั่งเมโทรย้อนมาที่ Ginza เพื่อเปลี่ยนสายไปที่ Shimbashi ค่ะ+ เราซื้อตั๋ว pass ของ Yurikamone รถไฟสายพิเศษที่ไม่มีคนขับเพื่อข้ามไปโอไดบะกัน ++ นี่เป็นครั้งแรกที่เราเดินทางอยู่เหนือพื้นดินในโตเกียว หลังจากลงเครื่องบินมา ++ ... ++ เห็นสะพานสายรุ้งอยู่ลิบๆแระ เสียดายฟ้าไม่ใสเอาซะเล้ยย ++ อีกมุมใกล้ๆของสะพานสายรุ้งช่วงที่สะพานม้วนเกลียวหนึ่งรอบก่อนจะข้ามออกไป ++ มองย้อนกลับมาจากฝั่งโอไดบะ ++ เราลงที่สถานีแรก มองตรงไปเห็นเจ้าชิงช้าสวรรค์ยักษ์ตั้งอยู่ ++ บังเอิญมีตลาดขายของมือสองอยู่แถวๆสถานีรถไฟ น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่แฟลตแถวนั้น เราเลยถือโอกาสเดินตลาดนัดญี่ปุ่นซะเลย ที่ตลาดมีเด็กๆมานั่งขายของเล่น หนังสือนิทานมือสอง ส่งเสียงเรียกคนซื้อ น่ารักดี ++ ซ้อปพอหอมปากเราก้อเดินข้ามสะพานไป Pallet Town - Venus Forth ++ Venus Forth ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ใน โรม อิตาลีเลย ++ Venus Outlet ++ Snow Wish theme plaza ++ Starbuck ใน Venus Forth ชิลดีจังค่ะ ชอบมาก +เดินเล่นอยู่จนเมื่อย ออกมานั่งพักขาที่ลาน Venus Family กัน+ มีของเล่นให้พ่อแม่พาเด็กๆมาเล่นสนุกกัน + + อากาศเริ่มเย็นลงมาก นั่งนานๆชักหนาว หลบเข้าไปเดินเล่นใน Venus Family ดีกว่า ++ กรี๊ดๆๆๆ ถ้าไม่ได้เดินเข้าไปคงเสียใจแย่แน่เลย รถเมล์แมวของเมย์จอดอยู่ เบ้อเริ้มเล้ยยยยย ++ อยากเป็นเด็กน้อยบ้าง อยากขึ้นไปขี่รถเมล์แมวบ้างอ่ะ ++ Totoro ที่ร้ากกก ... ++ อยากได้เจ้านี่มาใส่น้อง iphone แต่ลองแล้วไม่พอดี เลยไม่ได้สอยมา ++ ฮาดี ไม่น่ากลัวเอาซะเลย ++ จุกจิกน่ารักๆ ไปหมด ใครหลงเข้าไปมีหวังกระเป๋าเบาหวิวววว ++ เด็กน้อยกำลังสนุกกับการเลือกตุ๊กตา ++ คนโตๆอย่างเรายังทำใจยากส์เลย เด็กๆไม่ยอมออกไปง่ายๆ ถ้าไม่ได้อะไรติดมือสักอย่าง ++ เจ้าหนูนี่ได้ตัวที่ถูกใจยิ้มแป้นเลย +ออกจาก ห้าง Venus แล้วเราข้ามกลับมา ที่ The Deck แต่มันก้อมืดมากแล้วเลยไม่มีรูปสวยๆมาฝาก เสียดายเหมือนกันที่ไปได้ถ่ายรูปกับเทพีที่คล้ายเทพีเสรีภาพของอเมริกา คนบางคนถ่ายฉากหลังมาดูคล้ายๆไป USA มา เสียดายๆ วันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ เด่วพรุ่งนี้มาต่อภาคกลางคืนที่โตเกียวทาวเวอร์กัน bye for now ..
Autumn diary .. + พระราชวังอิมพิเรียล +
+ วันที่สองของทริปแล้วค่ะ ตกลงเราไปเริ่มต้นกันที่พระราชวังอิมพีเรียล จากอูเอโนะนั่งเมโทรไปลง กินซ่า แล้วเปลี่ยนสายไปสถานีโตเกียว เดินออกจากสถานีหลงนิดหน่อย ++ โผล่ออกมาเจอตึกนี้ สวยดี ++ เช้าๆอย่างนี้ผู้คนยังบางตา ++ จริงๆเปลี่ยนสายที่สถานี GInza แล้ว สามารถนั่งไปลงที่ Otemachi ได้เลยจะได้ใกล้อีกหน่อย เล่นเดินเอาเหนื่อยเลยเพราะข้อมูลไม่แน่ แหะๆ ++ ดูกันชัดๆนะคะ เราออกจากสถานี JR โตเกียวตรงหมุดสีแดงค่ะ แต่ถ้าไปลงที่ Otemachi จะไปออกตรงหมุดสีเหลืองเลยค่ะ เขตพระราชวังคือพื้นที่สีเขียวด้านบนอ่ะค่ะ ++ เราเดินไปตามถนน Eitai Dori ค่ะ สุดถนนก้อจะเป็นทางข้ามไปพระราชวังแล้วค่ะ ประตูนี้เรียก Ote-mon Gate ++ มองย้อนกลับไปที่ถนน Eitai Dori ที่เราเดินมา ++ ด้านหน้าพระราชวังเป็นคูน้ำรอบล้อม ร่มรื่นมาก ++ น้ำใสๆ เห็นตัวปลา ++ หงส์เล่นน้ำ ++ มีการรักษาความปลอดภัยด้วย ++ มองย้อนออกไปหลังจากผ่านการตรวจอาวุธ ++ อันนี้น่าจะเป็น Ote-mon Gate ของจริง ใหญ่มากๆเลยค่ะ ++ เดินผ่านประตูนี้เข้าไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่คอยแจกเจ้านี่อ่ะค่ะ อ่านไม่ออก ไม่รู้ว่าเป็นการนับจำนวนคนหรือป่าว แต่ไม่ต้องแลกบัตรหรือแสดงเอกสารอะไรนะคะ แค่เพียงเข้าแถวเรียงเข้าไปค่ะ ++ อาคารเก่า ไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรได้แต่เดินถ่ายรูปด้านนอกเท่านั้น ++ เดินเลยเข้าไปเป็นสวนกว้างมากเลยค่ะ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้วค่ะ ++ นี่ซากุระป่าวอะค่ะ ++ วันนี้อากาศดีค่ะ คนญี่ปุ่นออกมาเดินเล่นและพักผ่อนเยอะเชียวค่ะ ++ ปอดเมืองกรุงโตเกียว สวนกว้างๆแทรกอยู่กลางใจเมืองใหญ่ ++ เดินเล่น ถ่ายรูปกันจนเมื่อยก้อหาสะพานแว่นตาไม่เจอสักที ท้องเริ่มหิวเราเลยยอมแพ้เดินย้อนกลับไปที่สถานีโตเกียว ++ เดินหลงๆอยู่ในสถานีโตเกียว ร้านอาหาร ขนมเยอะแยะน่ากิน น่านั่งทั้งนั้นเลย แต่ว่ามันใหญ่มาก หลงอ่ะ หลงๆๆ ++ ออกมาตรงนี้ได้ไงไม่รู้ดิ ++ เห็นคนญี่ปุ่นเค้านั่งทานอาหารจานเดียวที่ซื้อจากเซเว่นอีเลฟเว่นตรงนั้น ชิลดีจัง ++ เราเลยฝากท้องกลางวันวันนั้นด้วยอาหารกล่องราคาประหยัดของ เซปุง อีเลปุง ++ สาวน้อยคนนี้สนุกกับต้นคริสมาสต์ต้นใหญ่กลางปาร์คค่ะ เพิ่งจะกลางพฤจิกาเองแต่เกือบจะทุกที่ในโตเกียวก้อเริ่มเข้าบรรยากาศคริสมาสต์กันแล้ว+
Autumn Diary + อะซากุสะ.. ตลาดอะเมโยโก +
อดใจไม่เขียนไม่ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าจะปิดกรุ๊ปบล็อคนี้ไปแล้วทุกครั้งที่ได้อ่านกระทู้ห้องบลู ที่มีเพื่อนกำลังจะเดินทางเข้าไปถามข้อมูลโน่นนี่แล้วนึกถึงตัวเองตอนทำทริป อ่านเป็นบ้าเป็นหลังเลย ได้ประโยชน์มากมาย จะไม่ทิ้งรอยความทรงจำไว้เป็นแนวทางให้นักเดินทางคนต่อไปก้อคงใช่ที่ (จริงๆก้อ..เคยเขียนรีวิวห้องพักและทริปฉบับย่อไปแล้ว) ออกตัวก่อนว่ากลับสองเดือนกว่าๆแล้วอ่านจะจำสลับกันไปบ้างก้อไม่ว่ากันนะคะเราเดินทางกันด้วยสายการบิน ANA ถึงนาริตะประมาณ 7 โมงค่ะ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วก้อรับกระเป๋าแล้วก้อดิ่งไปที่สถานีรถไฟ Keisei ซึ่งอยู่ชั้นได้ดินค่ะ ไม่มีรูปละเอียดพอจะรีวิวบอกตำแหน่งได้ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าป้ายในสนามบินเค้าบอกชัดเจนและไม่หลงแน่นอน+ แบกกระเป๋าขึ้นรถไฟแล้วเลือกที่นั่งตามสบาย แต่อย่าลืมระวังกระเป๋าจะไหลไปโดนคนอื่นด้วยนะคะ ++ วิวข้างทาง เป็นท้องทุ่งสลับกับบ้านคน คล้ายๆเรานั่งรถไฟจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ ฯ อ่ะคะ ++ ถ้าต้องการลงหรือเปลี่ยนสถานีระหว่างทาง ก้อสะดวกค่ะเพราะเค้าว่าป้ายบอกสถานีให้ตลอดทาง ไม่ต้องห่วงค่ะ มีภาษาอังกฤษกำกับด้วย +จากสนามบินนาริตะเราใช้เวลาบนรถไฟ Keisei Main Line ประมาณ 1ชั่วโมงกับ 15 นาที ถึงปลายทางที่ Keisei Ueno โดยไม่ตรงเปลี่ยนสายเลย สะดวกมากเพราะเราวางแผนเลือกโรงแรมให้สะดวกกับการเดินทางทั้งขาไปและขากลับเพื่อยืดเวลาเที่ยวอันน้อยนิดของเราให้มากขึ้น(ไม่มากก้อน้อย)ถึงอุเอโนะแล้วเรานำกระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะยังเช็คอินไม่ได้ ยังมีเวลาอีกสี่ห้าชั่วโมงทีเดียว ไม่ต้องรีบจับรถไฟไปอะซะกุสะกันเราซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวๆเอาค่ะวันนี้ ซื้อจากเครื่องขายตั๋วได้เลยค่ะมีภาษาอังกฤษแค่เพียงเรารู้ว่าระยะทางที่ไปราคาเท่าไรก้อพอ ครั้งแรกก้อช้าหน่อยค่ะพอครั้งสองครั้งสามก้อแทบจะไม่ต้องอ่านตามแล้วค่ะ จากอุเอโนะไปอะซะกุสะแค่สามสถานีค่ะ ใกล้มาก (คลิกเพื่ออ่านและดูแผนที่อะซะกุสะ ที่นี่)+ ถึงแล้วเซนโซจิแคนนอน หรือวัดอะซะกุสะ ที่คนไทยรู้จักกัน เราไปถึงสายมากแล้วกว่าจะได้รูปยอดฮิตมุมงามกับโคมแดงใบโตหน้าวัดก้อยากเต็มที ++ ผ่านประตูสายฟ้ามาแล้วสองข้างถนนนามิคาเซะร้านรวงเต็มไปหมด ++ เราไม่พลาดแน่ค่ะ เสียสตางค์กินแป้งทอดชาเขียวไส้ถั่งแดงกัน เค้าทอดร้อนๆค่ะแต่ไส้หวานเกิ๊น ++ไหว้พระ เดินเล่นถ่ายรูปกันแล้วชักหิว เราเลยเดินย้อนกลับออกมาแต่คราวนี้เดินถนนข้างๆซึ่งเป็นซอยเล็กๆ เห็นเด็กๆนักเรียนมาเที่ยวออกแนวทัศนศึกษาทำนองนั้นอ่ะคะ++ เดินมาอีกหน่อยก้อเจอร้านขายของกินน่ากินทั้งนั้นเลย ++ เห็นคนญี่ปุ่นเข้าคิวซื้อเยอะเลยอ่ะแต่ตอนนั้นมันหิวของหนักๆแล้วอ่ะ ก้อบ่ายมากแล้วตั้งแต่ลงเครื่องมาก้อยังไม่ได้ทานอะไรจิงจังเลย เป็นอันว่าได้แต่ภาพถ่ายมานี่ละค่ะ ++ เดินเล่น(แต่แอบหิวๆ) ถ่ายรูปกันมาเรื่อยๆ + + เห็นเด็กๆเค้ายืนถ่ายรูปกัน ++ เงยหน้าไปเห็นป้าคนนี้แกนั่งอยู๋ ++ ฝั่งตรงข้ามก้อมี +ร้านนี้ละค่ะที่เราฝากท้องไว้ เป็นราเมงไข่แฝดของขึ้นชื่อนะคะเพิ่งมาทราบตอนกลับมาแล้ว เป็นร้านดั่งเดิมสูตรสมัยโชวะแหน่ะ ร้านมีที่นั่งรวมกันสองชั้นประมาณยี่สิบโต๊ะได้ค่ะ ตอนเราเข้าข้างล่างเต็ม รออยู่แป๊บนึงเค้าก้อเรียกเข้าไปในร้าน ได้ที่นั่งชั้นสอง ร้านเป็นตึกห้องเดียวนะคะบันไดขึ้นลงจึงแคบและชันมาก+ หน้าตาราเมงค่ะ ++ ไข่แฝดให้เห็นกันชัดๆค่ะ ++ อิ่มแล้วก้อได้เวลากลับมาเช็คอินแล้วค่ะ นั่งรถไฟสายเดิมกลับมาอุเอโนะค่ะ เดินสำรวจรอบๆก่อนเข้าโรงแรมกันเล็กน้อย ++ อ่านไม่ออกอ่ะคะแต่น่าจะแปลว่าทางด่วนไปสนามบินอยู่ใกล้แค่ 500 เมตร ++ ร้านนี้ท่าทางจะเป็นร้านเก่าแก่ เป็นร้านเดียวที่โทรมแทรกอยู่ท่ามกลางตึกใหม่ๆรอบ +หลังพักเหนื่อยกันงีบใหญ่แล้ว เราก้อออกท่องราตรีกันต่อ สังเกตได้นะคะว่าเราไม่ได้ไปตามแผนที่ตั้งไว้แป๊ะๆ เพราะเอาเข้าจริงต่างคนต่างก้อเพลินกับการถ่ายรูปอ่ะคะแผนเราก้อเลยโอนเอนไปตามลุกทัวร์ วันแรกเราเลยจบกันที่อะเมโยโก ตลาดที่อยู่หน้าสถานีรถไฟอุเอโนะ สะดวกกับพวกเรามากๆเลย เดินข้ามสะพานไปก้อถึงแล้วค่ะ+ ถ่ายจากสะพานกลับไปที่โรงแรมเรา ++ แค่ประมาณ 5 โมงเย็นเองนะคะ มืดเร็วมากๆ อากาศก้อเย็นลงกว่าตอนกลางวันมากเลย ยิ่งเวลาที่ลมพัดมานี่หนาวจนอยากจะหาคนมากอดเลยทีเดียว อิอิ ++ รถรามากมายเพราะว่าเป็นช่วงเลิกงานแล้ว ++ ร้านรวงแถวอะเมโยโกก้อเริ่มเปิดไฟกันแล้ว ตลาดอะเมโยโก อยู่หน้าสถานีรถไฟอุเอโนะ จากในภาพจะเห็นรางรถไฟ JR อยู่ด้านบนทางซ้ายมือนะคะ ตลาดก้อจะทอดยาวไปตามทางรถไฟเลยค่ะ ++ ร้านค้าในตลาดวางสลับกันทั้งของสด เสื้อผ้า รองเท้า แปลกตาดี แบบว่าเลือกซื้อเห็นสดเสร็จก้อไปซื้อรองเท้าร้านข้างได้เลย ++ ร้านเกม ร้านปาจิงโกะก้อเยอะ ที่เราชอบกันมากๆก้อคือตู้หยอดเหรียญเห็นที่ไหนเป็นไม่ได้ เหรียญมีเท่าไหร่ก้อเล่นหยอดกันหมด ก้อดูสิค่ะสีสันเจ้าตุ๊กตามันสดใสยั่วใจซะนี่จิงๆ ++ ยิ่งดึกคนก้อยิ่งเยอะ โดยเฉพาะคนทำงานเพราะวันนั้นเป็นวันศุกร์เห็นเค้าพากันมานั่งดื่มทั้งชุดสูททำงานเลยค่ะ ++ ร้านหลายๆร้านเต็มแน่นเลยค่ะ + + แบบนี้ก้อมีนะค่ะ แต่ไม่กล้าเข้าไป ++ เดินช๊อปปิ้งกันจนเมื่อย เราทานอาหารเย็นง่ายกันที่ cURRY RICE SHOP ค่ะ ++ เดินฝ่าลมหนาวกลับมาฝั่งสถานีรถไฟ หน้าสถานีรถไฟมีร้านเก๋ๆอยู่หลายร้าน ++ สตาร์บัคก้อมีนะแต่ก้อไม่ได้ใช้บริการสาขานี่เลยจิงๆ ++ ก่อนกลับโรงแรมเดินเล่นหน่อยในสถานีอุเอโนะ ตอนนั้นดึกแล้วคนเลยน้อยไม่พลุกพล่านเหมือนตอนเช้า ++ อันนี้น่าจะเป็นเครื่องรางอะไรสักอย่าง +เดินได้นิดหน่อยเท้าสองข้างก้อร้องระงม เราเลยกลับโรงแรมกันเพื่อนอนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ยังมีอีกหลายที่ให้ลุยกัน ++ ปล ++ นี่คือขนมทั้งหมดที่เราแอบออกไปซื้อกันที่ Lawson ก่อนนอนคืนนั้น กล่องเล็กๆด้านซ้ายมือที่เป็นรูปไก่นั่น เป็นไก่ทอดคล้ายๆไก่ป๊อบอะ แต่รถออกเผ็ดเล็กน้อย กินร้อนๆตอนเดินฝ่าลมหนาวประมาณเกือบห้าทุ่มอร่อยมากค่ะ
Last....with Love " Tokyo "
- จนกว่าจะเดินทางครั้งใหม่ -
A pieces of my Autumn's memories in Tokyo