• My ordinary Diary
• On my journey
• My cabinet

• White Amulet
• MollyJinx
• katiekat
• กาแฟดำไม่เผ็ด
• ~ Cerulean Blue ~
• Bloody Distance
• popang
• KOok_k
• Webmaster - BlogGang

• Color code
• Code for blog
• Rilakkuma Bear
• cute mini
• Totoro icon
• 8tokyo
• Adorably Clueless Me
• Tokyo โตเกี๊ยว โตเกียว
• Salaryman
• koreabuddy
• Shibuya246
• Sirotan
• eatdrinkchic
• Bclassic
• มะโมนั้นโก้จริงๆ
• Make up Chic
• Lunaroom- Italy trip
• Hokkaido
• แม่ปูขาเกเซมารู
• BlogGang.com

Autumn Tokyo(東京) -- ♥♥ mini รีวิว Mitsui Garden Hotel @ Ueno♥♥ -- กลับมาแล้วจร้า ก่อนไปเขียนรีวิวไว้ไม่ทันจบก้อทิ้งบลอคไว้ ยุ่งๆ จนวันเดินทางเรยไม่เขียนอะไรต่อ นี่ก้อปาเข้าไปสองอาทิตย์แระ เปิดประเด็นไว้ ตั้งใจจะมาแนะนำ รร ที่เราไปพัก ก้อเกิดไข้หวัดรับประทานซะก่อน วันนี้ได้ฤกษ์พอดี มาเข้าเรื่องเรยดีกว่า โรงแรมที่เราไปพัก ชื่อ Mitsui Garden Hotel อยู่ Ueno ค่ะ เราจองห้องพักแบบ Moderate Double (non-smoke) ค่ะ จองผ่าน Agoda ล่วงหน้าแต่ไก่โห่ ได้ discount 40% ถูกมากเมื่อเทียบกับราคาหน้าเว็ป สนใจกดที่นี่ค่ะ + Mitsui Garden Hotel Ueno + Address3-19-7, Higashi-ueno, Taito-ku, Tokyo, 110-0015 เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว มีทั้งหมด 14 ชั้นค่ะ รวมทั้งหมด 245 ห้อง เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมานี่เองค่ะ ทำเลที่ตั้งของ โรงแรมสะดวกมากค่ะ ทั้งจากสนามบินนาริตะและการเดินทางในโตเกียวเอง หรือ เพราะโรงแรมตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ JR Ueno ซึ่งสะดวกทั้ง JR และ Metro เลยทีเดียว และจากโรงแรมเดินเพียง 10 นาที (พร้อมกระเป๋าลากเดินทาง) ก้อถึง Keisei Ueno แล้ว ชิวมากเรย เอาแผนที่มาให้ดูตำแหน่งกันชัดๆ เพื่อนที่จะพักที่นี่แนะนำให้เดินทางจากนาริตะแอร์พอร์ท ด้วย Keisei Ltd Exp ถ้าไม่เร่งรีบอะไร ใช้เวลา 1 ชม กับ 15 นาทีและประหยัดด้วย ราคาค่าเสียหายอยู่ที่ 1,000 เยน รถไฟออกจาก Terminal 1 และแวะรับที่ Terminal 2 ด้วย นั่งกันจนสุดสายไม่ต้องกลัวหลง ดูวิวสองข้างทางชิววว ชิววว หลับสักตี่นก้อถึงแล้วค่ะ จากสถานี Keisei Ueno ไปโรงแรมได้ 2 วิธีค่ะ คือเดินถนนแล้วขึ้นสะพานหน้าสถานี JR หรือจะมุดดินใช้ Underpass ก้อได้ค่ะ แต่ขอแนะนำว่าให้ลากกระเป๋าข้ามถนนดีกว่า มาดูเส้นทางคร่าวๆกันค่ะ ออกจากสถานี Keisei แล้วเลี้ยวซ้ายเดินผ่านทางเข้า Ueno Park นิดนึงจะถึงทางข้าม มีทางม้าลายนะคะ หยุดรอสัญญาณไฟ(เสียงน่ารักมาก)แป๊บนึงนะคะ เพราะตรงนั้นเหมือนประมาณสามแยกหรือสี่แยกที่มีรถผ่านด้วยค่ะ ข้ามถนนมาแล้วจะเจอสถานีรถไฟ JR Ueno เดินอ้อมมาทางด้านหน้าสถานีเลยค่ะ กระเป๋าล้อลากคงไม่สะดวกเข้าไปฝ่าฝูงชนในสถานีอย่างแน่แท้ ไม่เชื่อลองดูสนุกๆก้อเอานะคะ จากหน้าสถานีเดินเลยบันไดไปก่อนนะคะ จะมีบันไดเลื่อน หรือจะออกกำลังแขนยกกระเป๋าก้อไม่ว่ากันค่ะ ขึ้นสะพานแล้วเดินตรงไปจนสุดสะพานเลยนะค่ะ โรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีและมองเห็นได้จากบนสะพาน เห็นชัดเจนแบบนี้เรยค่ะ ส่วนถ้าเพื่อนๆอยากทดลองมุดดินใช้ underpass ตามนี้ค่ะ ออกจาก ticket gate เลี้ยวซ้ายค่ะ เงยหน้าเล็กน้อยจะเห็นป้ายบอกทางเชื่อม ไป subway สาย Ginza/Hibiya เดินตามเรยค่ะ เดินไปเรื่อยๆเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปมีป้ายตลอดทาง เดินไปจนเจอทางออก exit 1 ค่ะ ตรงทางออกนี่ยกกระเป๋าเหนื่อยหน่อยนะค่ะ เป็นบันไดสองช่วงค่ะ กระเป๋าสิบกว่ากิโลยกมาแล้วค่ะ ขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาเดินมา100 เมตร ก้อเห็นป้ายโรงแรมเลยค่ะ มาถึงโรงแรมกันแล้วนะคะ จากด้านหน้าโรงแรมจะเห็นห้องอาหารอิตาเลียน ชื่อ ITALIANRESTAURANT BOSCO-iL-CHIANTI เข้าไปด้านในกันต่อค่ะ ล๊อปบี้ของโรงแรมเป็นแบบมินิมอลค่ะ แต่ละจุดแฝงความน่ารักกุ๊กกิ๊กตามสไตล์ โตเกียวไว้ด้วยเจ้าตุ๊กตาตาเล็กตัวน้อยตามฝาผนัง หลังจาก Check in แล้วเดินผ่านห้องอาหารอิตาลีเข้าไปจะเจอลิฟท์ค่ะ ทางเดินค่อนข้างแคบ แต่ก้อถือว่าโรงแรมออกแบบ ให้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่จำกัดได้อย่างลงตัว ใช้ลิฟท์ทุกครั้งต้องถือคีย์การ์ดห้องพักของโรงแรมด้วยนะคะ ห้องพักแบ่งออกเป็นสองปีกซ้ายขวา มีป้ายบอกน่ารักๆอยู่หน้าลิฟท์ชัดเจนแบบนี้ค่ะ แต่ละปีกแบ่งเป็นสองซีก ทางเดินปูด้วยพรมลายRetro เข้าไปดูด้านในกันต่อค่ะ จากประตูทางเข้าด้านซ้ายหรือขวาจะเป็นมินิบาร์และห้องน้ำ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่แขวนเสื้อผ้าแบบบิวอินไม่มีฝา ห้องขนาด 18 ตรม ถูกใช้ทุกตารางนิ้วอย่างคุ้มค่า เตียงนอนด้านหนึ่งชิดผนังซึ่งมีหน้าต่างแบบเปิดได้ หัวเตียงมีตู้แขวนลอยวางกระจก และโคมไฟ เปิดลิ้นชักจะเจอตู้เซฟสำหรับเก็บของมีค่าซ่อนอยู่ ด้านปลายเตียงมีโต๊ะวางทีวีจอแบนขนาดใหญ่ แบ่งส่วนหนึ่งไว้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้ด้วย ที่นี่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ทให้ใช้ฟรีค่ะ และมีโน๊ตบุคให้เช่า ราคา 1000 เยนต่อวัน ในห้องยังมีเครื่องฟอกอากาศให้ด้วยนะ หวังว่าคงช่วยให้ใครหลายๆคนใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้บ้างนะคะ ง่วงแระ ไปนอนหละคะ ฝันดีนะ   Create Date : 22 พฤศจิกายน 2553     Last Update : 19 ธันวาคม 2553 8:22:13 น. Counter : 15759 Pageviews.   6 comment Share Tweet

Autumn Tokyo(東京) -- ♥To Do List before trip ♥ ต้องทำก่อนเดินทาง ♥ -- วางแผนเที่ยวเองครั้งแรกเลยต้องเตรียมตัวมากหน่อยค่ะ ตารางเที่ยวเริ่มชัดเจนแล้วแบ่งเวลามาหยิบจับข้าวของที่จำเป็นไว้ก่อน เด่วใกล้วันเดินทางจะได้ไม่ต้องวุ่นวายมาก 1. พาสปอร์ตพร้อมวีซ่า - ยังไม่ได้ก๊อปปี้พาสปอร์ต - 2. ตั๋วเครื่องบินและhotel voucher 3. แผนที่เที่ยว แผนที่JR&Metro ตารางรถไฟ 4. เงินเยน (เป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่ารถไฟ ค่าภาษีโรงแรม และช๊อปปิ้ง) 5. เลือกกระเป๋าคู่ใจ (เอาไว้ใส่เงินกับพาสปอร์ตติดตัว) 6. รองเท้าใส่สบาย (ต้องเอารองเท้าแตะไปด้วยมั้ยนะ) 7. เสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาว (เอาไปสองตัวเรยแบบบางกับแบบหนา) 8. เสื้อ 5 ตัว และ กางเกง 2 ตัว สำหรับใส่เที่ยวกลางวัน 9. ชุดใส่นอน (โรงแรมมี heater ไม่ต้องหนาก้อได้) 10. เครื่องสำอางค์จำเป็น โลชั่นและกันแดด (เด่วรูปไม่สวย) 11. แว่นกันแดด แว่นสายตา 12. คอนเทคเลนส์และน้ำยา ยาหยอดตา (แบ่งขวดเล็กใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องด้วย) 13. กล้องถ่ายรูป แบตเตอรี่ สายชาร์ต 14. ปากกาและสมุดเล็กๆ (ไว้จดเผื่อจำเป็น) 15. ปลั๊กแปลงไฟและเต้าเสียบแบบหลายรู(จะได้ไม่ต้องแย่งกัน) 16. ยาแก้ปวด ลดไข้ พาสเตอร์ยา ยาดม ยาหม่อง ช่างจะเยอะแฮะ นึกไม่ออกไว้แล้วมาต่อ   Create Date : 24 ตุลาคม 2553     Last Update : 19 ธันวาคม 2553 8:22:34 น. Counter : 1190 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Autumn Tokyo(東京) ทบทวนแผนเที่ยววันที่สอง Ghibli Mesuem Mikata/Kichijoji/Shibuya (continue) พอเล่าถึง Totoro เลยหยุดไม่อยู่ blog ที่แล้วยาวไปหน่อย จนกลัวว่าจะโหลดนาน ขอขึ้นมาหน้าใหม่นะคะสำหรับแผน Kichijo-ji จากมิวเซียมเราจะเดินมาที่ Kichijo-ji ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระยะทาง 1.4 กม คะ * ดาวน์โหลด pdf map กดตรงนี้ > Ghibli mesuem to Kichijoji Station map < * ถ้าใครตรงจาก Shibuya/Shinjuku ไป Kichijoji เลยลองดูแผนที่แนะนำจาก Tokyo Walking Guide ก้อได้นะคะ กดตรงนี้ค่ะ > Kichijoji walking guide < Kichijoji (吉祥寺)อยู่ในเขตเมือง Musashino (武蔵野市) ทางตะวันตกของกรุงโตเกียวค่ะ มีอะไรน่าสนใจที่นี่ " Kichijoji " จากจิบลิ เราจะเดินลัดสวนสาธารณะ Inokashirakoen( 井の頭公園駅（東京） มาอีกฝั่งของ Kichijoji station ซึ่งเป็นย่านอินเทรนด์ที่หนุ่มสาวโตเกียวยุคใหม่ สวนสาธารณะInokashirakoen อยู่ทางใต้ของสถานีKichijoji วันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะมาก โดยเฉพาะทุกวันอาทิตย์จะมีตลาดนัดขายของ art และการแสดงเปิดหมวก จากสถานีออกไปทาง north exit จะเป็นเต็มไปด้วยร้านรวงสองข้างถนน Sun road ร้านเล็กๆ น้อยๆ ขายของแนวกระจุกกระจิก แต่งบ้าน handmade สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เรียกกันว่า zakka ร้านค้าและร้านอาหารที่ได้ยินกันบ่อยๆ ก้อ คือ Village Vanguard, Hanjiro, cotton field, Mello Cafe, Steak House Satao ,etc. เยอะอ่ะ แต่ยังหาแผนที่ที่แสดงตำแหน่งแต่ละร้านไม่ได้ คงไปเดินๆเอา รูปจาก google มาแปะเรียกน้ำย่อยกันก่อนละกันนะ อากาศเย็นๆ เดินเล่นดูของน่ารักๆ แวะร้านนั่นออกร้านนี้ กินเค้ก จิบกาแฟหอมกรุ่น ร้านอาหารน่านั่งก้อคงมีเยอะไปหมดจนเลือกไม่ถูก อาจจะหมดเวลาไปกับ Kichijoji ทั้งวันเลยกว่าจะกลับเข้าเมือง พักขากันก่อนนะคะ เด่วเราไปเที่ยว Odaiba(แผนสำรอง) กัน   Create Date : 24 ตุลาคม 2553     Last Update : 18 ธันวาคม 2553 16:28:20 น. Counter : 2478 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Autumn Tokyo(東京) ทบทวนแผนเที่ยววันที่สอง Ghibli Mesuem Mikata/Kichijoji/Shibuya วันนี้เราจะออกไปชานเมืองโตเกียวกันค่ะ Mitaka และ Kichijoji เป็นเมืองที่คนโตเกียวยกให้เป็น Best Residental Area เลยทีเดียว แผนการช่วงเช้า คือ ไป Ghibli Museum/Mitaka (ถ้าเราสามารถหาตั๋วรอบเช้าได้) ช่วงบ่ายเดินเล่น Kichijoji ดูร้าน chick นั่งจิบกาแฟ กินเค้ก และก่อนกลับ แวะกิน Matsuzaka meet ball ที่ร้านSteak House SATOU ที่ว่ากันว่าคิวยาวเลยทีเดียว อิ่มแล้วนั่งรถไฟกลับมาเดินย่อยกันต่อที่ Shibuya ดูผู้คนขวักไขว้ตรงห้าแยกชิบุยะ ** แผนสำรอง - ถ้าไม่สามารถซื้อตั๋วเข้า Ghibli Mesuem ได้ช่วงเช้า จะมีเวลาเหลือ เราจะกลับเร็วหน่อยเพื่อไป Odaiba เมืองใหม่กันคะ ** ดังนั้น วันแรกหลังจากฝากกระเป๋า เราต้องวิ่งหา Lawson ก่อน หน้าตาแบบนี้เป็นร้านสะดวกซื้อค่ะ หามาแระ สะดวกมากมี Lawson อยู่ใกล้ๆโรงแรมเราด้วยหละ เพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้าที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ Loppi เวลาเข้าชมมีวันละ 4 รอบ คือ 10:00, 12:00, 14:00 และ 16:00 น เข้าใจว่าเครื่องมีแต่ภาษาญี่ปุ่นนะ ยังไงศึกษาขั้นตอนตามลิ้งค์นี้ก่อนนะ> How to buy ticket at Lawson < ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 1000 ¥ ค่ะ เด็กๆแบ่งราคาตามช่วงอายุ ต่ำสุด 100 ¥ ตั๋วที่ซื้อในญี่ปุ่นจะต้องระบุวันเข้าชมนะคะ เพราะเค้าต้องการจำกัด จำนวนคนเข้าชมในแต่ละรอบค่ะ ถือว่าเป็นการจัดการที่ดีทีเดียว ถ้าเราโชคดีได้รอบตรงตามต้องการ เราจะได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้มาครอบครอง เอาละค่ะขอให้เราโชคดีมีตั๋วมาอยู่ในมือ มาเริ่มออกเดินทางกันต่อนะคะ จาก Ueno เราจะใช้ JR Yamanote สีเขียว ใช้เวลา 5 นาทีมาถึง Kanda ก่อนจะเปลี่ยนเป็น JR Chuo Line ซึ่งวิ่งออกมาจากสถานีโตเกียว ใช้เวลาเพียง 26 นาทีเราก้อจะถึงสถานี Mitaka JR Chuo Line : Tokyo - Kanda - Ochanomizu -Yotsuya Shinjuku -Nakano -Mitaka รวม 25.1 km เวลาเดินทาง 35 นาที ค่าตั๋วเหมาตลอดเส้นทางจาก Ueno -380 ¥ ความจริงแล้วสถานี Kichoji-jo ถึงก่อนสถานี Mitaka แต่รถไม่จอดนะคะ มาดูแผนที่กันค่ะ ถึงสถานี Mitaka แล้ว ถ้าเดินเท้าใช้เวลา 15 นาที ตลอดทางมีป้ายบอกทางนะคะ ไม่หลงแน่ หรือจะใช้บริการรถเมล์หน้าตาแบบนี้ ซึ่งจะวิ่งให้บริการเป็นวงกลม เที่ยวเดียว 200 ¥ ไปกลับ 300 ¥ มาดู Lay out เต็มๆของ Ghibli Mesuem กันค่ะ ตรงทางเข้ามี service desk เป็นเจ้าโตโตโระเบ้อเริ่ม เอาตั๋วกระดาษที่ได้จาก Lawson มาแลกเป็นตั๋วหน้าตาแบบนี้ก่อนเข้าชมนะคะ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเสริชจาก google ได้เลยนะคะเยอะมากๆ หรือใช้เวปของ Ghibli โดยตรงก้อตามนี้ค่ะ > Glibli Mesuem < Tonari no Totoro : Wikipedia となりのトトロ ( Tonari no Totoro: โทนาริ โน โต๊ะโตะโระ ) เรื่องเริ่มต้นที่เด็กผู้หญิงสองคน ซัทซึกิ และ เม ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ในแถบชนบทกับพ่อ เพื่อที่จะให้ใกล้กับโรงพยาบาลที่แม่ของพวกเธอนอนรักษาตัวอยู่ ซัทซึเกะและเมได้ค้นพบว่า ในป่าข้างบ้านมี โต๊ะโตะโระ สัตว์วิเศษผู้พิทักษ์ป่าอาศัยอยู่ และต่อมาได้กลายเป็นเพื่อนกัน และเรื่องราวมหัศจรรย์สนุก ๆ ก็ได้เกิดขึ้นมากมาย เนื้อหาของเรื่อง โทโทโร่เพื่อนรัก สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบ ขยันขันแข็ง และรักธรรมชาติ สร้างจินตนาการ ชื่อ "โตโตโระ" ที่ เม ตั้งขึ้นนั้น เป็นความบังเอิญที่เธอออกเสียงเพี้ยนไปจากคำว่า "โทะโระรุ" ซึ่งเป็นคำเรียกทับศัพท์ของคำว่า Troll ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่ง เม เคยเห็นในหนังสือนิทาน เรื่อง "Three Billy Goats Gruff" ที่เธอคิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ก็เลยตั้งชื่อตามนั้น ซัทซึกิและเมนั้นเกิดในเดือนพฤษภาคมด้วยกันทั้งคู่ ชื่อ "ซัทซึกิ" เป็นภาษาญี่ปุ่นโบราณที่ใช้เรียกเดือนนี้ เช่นเดียวกับ "เม" ที่เป็นคำพ้องเสียงของ May ในภาษาอังกฤษ มีคนเคยถามว่ามิยาซากิจะทำภาคต่อของโทโทโร่เพื่อนรักหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ "ไม่" เพราะ Totoro เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในจินตนาการของเด็กทั้ง 2 คนเพื่อชดเชยกับการต้องอยู่ห่างแม่เท่านั้น ในช่วงเครดิตท้ายเรื่องของหนังเมื่อ แม่ของทั้งคู่สามารถกลับมารักษาตัวที่บ้านได้ก็ไม่ได้มีตัวโต๊ะโตะโระปรากฏขึ้นมาอีกเลย แต่จนแล้วจนรอดมิยาซากิก็ทำ "ภาคต่อ" ของโทโทโร่เพื่อนรักจนได้ หากแต่อยู่ในรูปของ ภาพยนตร์อะนิเมะชั่นขนาดสั้น ในชื่อ "เมกับรถบัสแมว" แต่หนังเรื่องนี้มีฉายให้ดูเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์จิบลิเท่านั้น - >แผนเที่ยว Kichijo-ji < -   Create Date : 23 ตุลาคม 2553     Last Update : 18 ธันวาคม 2553 16:28:37 น. Counter : 4075 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Autumn Tokyo(東京) เช็คอากาศ เตรียมตั๊ว เตรียมตัว... แผนเที่ยวยังไม่ทันเสร็จ แอบตื่นเต้นไปเตรียมตัว อะนะ เสื้อผ้า หน้า ผม เที่ยวทั้งทีจะน้อยได้ไง ต้องจัดเต็ม เช็คอากาศมาตะกี้ ใช้เวปนี้ค่ะ > Tokyo Japan, 9 days weather forecast < เวปนี้บอกรายละเอียดอากาศในแต่ละช่วงวัน แบ่งเป็น 3 ช่วง เช้า(morning) บ่าย(afternoon) กลางคืน(night) และมีเวลา พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะ หน้าตาแบบนี้ อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว (เย่ ๆ) เฉลี่ยไม่ถึง 20 องศา แต่ฝนก้อยังมีหลงให้เห็นอยู่นี่สิ อย่าลากยาวไปจนสิ้นเดือนเลยนะ สาธุ ตามชื่อค่ะ เค้าจะทำนายล่วงหน้าให้เรา 9 วัน มาดูกันว่าอากาศโตเกียวจากวันนี้ไปเป็นอย่างไร " วันนี้อากาศดี ค่ะ พรุ่งนี้จะมีฝนตกหนักช่วงกลางคืน ก่อนที่วันจันทร์อากาศจะกลับอุ่นขึ้น(มากกว่า 20 องศา) หลังจากวันอังคารไปอากาศจะกลับเย็นลงอีกสลับกับฝนบางๆแล้วค่ะ พระอาทิตย์ตกเร็ว ประมาณ 5 โมงเย็นก้อมืดแล้ว (ไม่ดีก้อตรงนี้แหละ) " ส่วนอันนี้อุณหภูมิปัจจุบันคร้า ดูจากอากาศแล้วเสื้อผ้าที่ต้องเตรียมก้อไม่พ้นแบบกันหนาว หน้าตาแบบนี้ แต่เราไปแอบดูหนุ่มสาวโตเกียวกันดีกว่าว่าเค้าแต่งตัวกันประมาณไหนแล้ว เวปนี้เลยค่ะ > Tokyo Japan Street Stye < เค้ามีแบ่งเป็นพื้นที่ๆให้เห็นเลยนะ ทั้ง Shibuya Harajuku Ometesando Daikan's yama Ginza ย่านช๊อปปิ๊งทั้งวัยรุ่นและhighend > เค้าจะอัพเดทแฟชั่นที่ชาวโตเกียวเค้าแต่งกันเป็นวันๆไป ดูแล้วก้อเพลินดี เพราะเมืองไทยเราคงไม่มีให้เห็นแน่   Create Date : 23 ตุลาคม 2553     Last Update : 18 ธันวาคม 2553 16:28:54 น. Counter : 1440 Pageviews.   1 comment Share Tweet