Group Blog
 
All Blogs
 

Prince Hours

Prince Hours




อ๊ะๆๆ อย่าพึ่งมาท้วงว่าพิมพ์ชื่อ Blog ผิดนะจ๊ะ บังเอิญว่าหลังจากได้ดูและอ่านเรื่องย่อ Princess Hours จนจบแล้วก็ได้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับภาคต่อของซี่รี่ย์ชุดนี้ที่จะใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Prince Hours แทนเนื่องจากเนื้อหาของภาคต่อนี้จะเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ทำงานในร้านอาหารจีนซึ่งเติบโตขึ้นมาโดยไม่ทราบว่าตนเองมีสายเลือดแห่งราชวงศ์อยู่เต็มกาย

เรื่องราวจะยังคงเกี่ยวกับราชวงศ์เกาหลีและการผสมผสานระหว่างธรรมเนียมชาววังในอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งในตอนจบของ Goong ภาคแรกที่เผยให้เห็นว่า (Spoiler Warning!!!) ทั้งชิน (ชื่อมีตั้งเยอะแยะทำไมต้องเอาชินด้วย พาลทำให้นึกถึงสิ่งมีชีวิตหน้าเหลี่ยมๆ) และยุลต่างก็ไม่ได้สืบสันตติวงศ์บัลลังก์เกาหลีอันยังผลให้พี่สาวคนโตของชินต้องออกว่าราชการเป็นการชั่วคราว




เนื้อเรื่องของภาคสองจะเริ่มหลังจากที่ทางสำนักราชวังสืบพบว่าพระราชาในรัชกาลก่อนมีพระปนัดดา(หลาน) อยู่องค์หนึ่งซึ่งใช้ชีวิตปะปนอยู่กับสามัญชนโดยไม่ทราบถึงฐานันดรศักดิ์อันสูงส่งของตนมาก่อน

หลังจากที่เจ้าชายสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมปลายแล้วจึงได้สมัครทำงานเป็นพนักงานเสริฟ์ในเหลาจีนแห่งหนึ่ง กระทั่งวันที่พลิกผันชีวิตของเขามาถึงเมื่อทางวังหลวงส่งสารเชื้อเชิญให้เข้าไปในวัง และในคืนนั้นเองที่ชีวิตของเด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับกลายมาเป็นองค์ชายรัชทายาทเพียงชั่วข้ามคืน

นับแต่ก้าวแรกในวังหลวงทำให้เขาต้องเข้ารับการฝึกฝนราชประเพณีและธรรมเนียมชาววังตลอดจนเรื่องราวจิปาถะที่จะทำให้เขาเป็นว่าที่พระราชาที่สมบูรณ์แบบ

ปล1 จะเอาข้อมูลไปแปะที่ไหน ขอเป็น link มาที่นี่ดีกว่านะฮะ
ปล2 อยากเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรมามะๆสักอย่างที่แก่สุดในวังอ่ะ อิอิ
ปล3 มีคนแปลเรื่องย่อ Princess Hours ยังอ่ะ พอดีได้เรื่องย่อๆมา ถ้ายังไม่มีคนแปลไว้จะแปลให้อ่านกันนะ




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2549    
Last Update : 22 ตุลาคม 2549 20:46:07 น.
Counter : 2392 Pageviews.  

แดจังกึม Ep 29-30



Episode 29-30


จังกึมจำต้องอยู่ในเกาะแจจูต่อไป โดยมีมินจุงโฮเข้ามาพบเป็นระยะ จังกึมถามมินว่าเขายอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อเดินทางมาหานางเชียวหรือ แต่มินจุงโฮรีบบ่ายเบี่ยงและชวนคุยเรื่องอื่นแทน

วันหนึ่ง จังกึมตำหนิที่จังตึ๊ก(นางเป็นแพทย์หญิงที่รักษาคนบนเกาะ) ว่านางโกงลูกค้า จังตึ๊กถึงกับงง แต่ก็ตีหน้าซื่อถามว่าจังกึมรู้ได้อย่างไรว่านางโกงจริง จังกึมตอบว่านางลองชิมยาที่ขายและสามารถแยกแยะส่วนประกอบของยาได้ทุกชนิด จังกึมพบว่ายาที่ขายนั้นมีการสับเปลี่ยนก่อนที่จะถึงมือให้ลูกค้า จังตึ๊กทึ่งกับความสามารถของจังกึมอยู่ลึกๆแต่จำต้องรักษาหน้าไว้จึงสั่งให้จังกึมไปทำงานต่อ ด้านมินจุงโฮยังคงมาเยี่ยมจังกึมสม่ำเสมอโดยครั้งนี้เขานำเมล็ด "หยูฮวาง" (พืชชนิดหนึ่ง) มาให้จังกึมลองปลูกดูด้วย

ฝ่ายคังตึ๊กคูถูกภรรยาตะคอกใส่ เรื่องที่เขาทำไก่ต้มโสมเป็นอาหารติดต่อกันกว่าสามเดือนแล้ว คังตึ๊กคูให้เหตุผลที่เขาต้องทำเช่นนั้นเพราะต้องการทดลองว่าพระเจ้าจุงจงประชวรด้วยสาเหตุจากไก่ต้อมโสมจริงหรือ เพราะพวกเขาต่างก็กินไก่ต้มโสมมาตลอดทุกมื้อแต่ยังแข็งแรงอยู่เป็นปกติ ภรรยาคังตึ๊กคูตัดใจกินไก่ต้มโสมอีกมื้อแต่ถึงกับสำรอกออกมา แต่จากนั้นไม่นาน นางก็รู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์นั่นเอง

คังตึ๊กคูนำเรื่องที่เขากินไก่ต้มโสมนานถึงสามเดือนแต่ยังปกติ มิหนำซ้ำตอนนี้ภรรยาตนเองยังกำลังท้องอีกด้วยไปบอกเยินเซง เยินเซงเมื่อทราบดังนั้นก็ไปถามฮอนยอว่าวันนั้นนางได้กินอะไรไปก่อนหน้ามาชิมอาหารของฮันซังกุงหรือเปล่า พลันฮอนยอก็นึกได้ว่านางได้กินอะไรบางอย่างที่ยุนนอให้มา

ฝ่ายแชซังกุงในฐานะซังกุงสูงสุดในห้องเครื่องได้จัดแจงเตรียมอาหารไปถวายพระเจ้าจุงจงและเสนาอำมาตย์ หนึ่งในกลุ่มเสนากล่าวว่าเขาเคยได้ยินว่ามีนางกำนัลผู้เปี่ยมไปด้วยทักษะ(จังกึม)และอยากทราบว่านางกำนัลคนนั้นเก่งสมคำร่ำลือจริงหรือไม่ ทั้งแชซังกุงและกึมยองเมื่อได้ยินคนเอ่ยถึงชื่อของจังกึมอีกจึงได้แต่เงียบไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น

กึมยองทราบข่าวว่ามินเดินทางไปเกาะแจจู จากคำบอกเล่าของลูกน้องตระกูลแชในภายหลัง อย่างไรก็ดี วันหนึ่ง กึมยองไปบอกให้เยินเซงเปลี่ยนรายการอาหารบ้างแต่เยินเซงปฎิเสธโดยให้เหตุผลว่ารายการอาหารนี้เป็นสูตรที่ฮันซังกุงและจังกึมสอนให้นางทำ แชซังกุงที่เผอิญผ่านมาได้ยินเข้าจึงโกรธที่ได้ยินชื่อของฮันซังกุงและจังกึมอีกจึงต้องการให้เยินเซงกล่าวคำขอโทษ จังหวะนั้นมินซังกุงและชานอีอ้อนวอนขอให้แชซังกุงอภัยให้เยินเซง

ด้านเยินเซงไม่ยอมกล่าวขอโทษ แชซังกุงจึงย้ายมินซังกุง ชานอี และเยินเซงไปยังแผนก อิซังกัน (แผนกโม่แป้ง สีข้าวประมาณนั้น) ชานอีและมินซังกุงพากันโทษที่เยินเซงเป็นต้นเหตุให้พวกนางโดนย้ายกันหมด ที่ภายนอกเยินเซงแอบมาร้องไห้คนเดียว ขณะนั้นนางเห็นลูกหมาน้อยเดินผ่านมาจึงเข้าไปอุ้มและห่วงว่าหมาน้อยตัวนั้นป่วยหรือหิวหรือเปล่า (แก้ข่าวแทนเยินเซงนิดนึง เห็นมีคนนินทาในบอร์ดว่าเยินเซงเป็นเลสเบี้ยน ความจริงเยินเซงอออกจะโก๊ะๆด้วยซ้ำไป ตอนเด็กก็แอบเลี้ยงเต่าจำได้ป่ะ)



ที่เกาะแจจู จังกึมสอนให้บรรดาเพื่อนใหม่ของนางรู้ถึงคุณสมบัติของอาหารแต่ละชนิด ทุกคนต่างฉงนว่าเหตุใดจังกึมจึงรู้เรื่องอาหารดีมาก จังกึมจึงเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังว่านางเคยเป็นนางกำนัลในวังหลวงมาก่อน ระหว่างนั้นเอง ชายคนหนึ่งอุ้มบุตรที่ป่วยมาขอรับการรักษาแต่จังตึ๊ก เพียงแค่ฝังเข็มเด็กคนนั้นแล้วไม่ช่วยอะไรต่อ พ่อของเด็กคิดว่าความที่ตนยากจนจึงไม่มีใครสนใจ แต่จังกึมกล่าวว่านางจะจัดการช่วยเด็กน้อยเอง

จังกึมวิ่งไปหามินเพื่อขอเงินจะไปซื้อยา มินห่วงนึกว่าจังกึมป่วยแต่นางบอกว่ายาที่จะซื้อไม่ใช่เพื่อตนเอง และที่สุดมินก็ให้เงินนางไป อย่างไรก็ตาม จังกึมเล่าเรื่องไม่ชอบมาพากลที่ทหารถูกพาไปยังสถานที่ลับแห่งหนึ่งหลังจากฝึกเสร็จ ดังนั้นมินจึงรับปากที่จะสอบสวนเรื่องนี้เองอีกด้วย

จังกึมนำเงินที่ได้ไปซื้อยารักษาเด็ก แต่ก็พบความจริงว่าต้นเหตุของโรคนั้นมาจากน้ำที่คนในเกาะใช้ดื่มเป็นน้ำเค็มและสกปรก พ่อของเด็กเล่าให้จังกึมฟังว่าน้ำสะอาดนั้นเป็นของมีค่าในเกาะแจจู และมีแต่ขุนนางหรือผู้มีฐานะเท่านั้นจึงจะหามาใช้ได้ จังกึมลองไปขอน้ำสะอาดจากทหารแต่กลับถูกปฎิเสธ ที่สุดนางจึงเดินทางไปจนเจอแหล่งน้ำสะอาดอีกแหล่งหนึ่งในเกาะ

ระหว่างเดินทางกลับ จังกึมพบว่ามินกำลังเฝ้าดูกลุ่มทหารที่มารวมกันขนย้ายก้อนหินหลังจากฝึกเสร็จ จังกึมมารู้ในภายหลังว่าทหารเหล่านั้นพากันมาขนย้ายหิน เพื่อเปิดทางให้น้ำสะอาดไหลไปตามร่อง ด้านเหล่าทหารถามว่ามินแอบชอบพอจังกึมใช่หรือไม่ แต่มินได้แต่เบี่ยงหน้าหนีด้วยความเขอะเขิน นายทหารคนนั้นจึงว่า เขาจะคอยดูแลจังกึมให้เป็นพิเศษ

อันที่จริงแล้ว ความคิดในการย้ายก้อนหินในครั้งนี้มาจากจังตึ๊ก และสาเหตุที่นางจำต้องสับปลี่ยนยาให้คนไข้บางคนก็เพราะจะเอาเงินมาจ้างให้ทหารกรุยทางธารน้ำเพื่อคนในเกาะทุกคนจะได้มีน้ำดื่มที่สะอาด จังกึมตัดพ้อว่าถึงอย่างไรก็ไม่ควรไปหลอกขายยาที่ไม่ได้คุณภาพให้ผู้ป่วย แต่นายหญิงของจังกึมตอบมาว่า คนเหล่านั้นไม่ได้ป่วยทางกาย แต่ป่วยทางใจ ซึ่งให้ยามากไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไรขึ้นมา

ระหว่างนั้น ทหารมาแจ้งว่าทางวังหลวงต้องการรับจังตึ๊กไปเป็นหมอหลวงเพราะนางมีทักษะทางการแพทย์ที่ดี แต่นางก็ปฎิเสธที่จะไปเพราะต้องการอยู่รักษาคนในเกาะแจจูมากกว่า

จังกึมวิ่งไปหามินเพื่อจะบอกว่านางรู้หนทางที่จะกลับคืนสู่วังหลวงแล้วโดยการเป็น "แพทย์" นั่นเอง มินให้กำลังใจและว่าเขาเชื่อในความสามารถของจังกึม

จังกึมขอให้จังตึ๊กสอนวิชาแพทย์ให้นาง ในขั้นต้นจังตึ๊กบอกให้จังกึมเริ่มจากการดูและจดจำส่วนผสมของยาและวิธีรักษาโรค ขณะเดียวกันบรรดาคนอื่นๆพากันพูดเรื่องที่จังกึมทั้งๆที่เป็นเด็กใหม่แต่ได้เรียนรู้วิชารักษาโรคแล้ว เผอิญมินเดินผ่านมาและได้ยินเข้าจึงได้แต่อมยิ้มที่รู้ว่าจังกึมเริ่มล่าฝันของตัวเองอีกแล้ว

มินพบว่าจังกึมต้องยุ่งทั้งวันที่จะจดจำตำรายาและรักษาคนไข้ ดังนั้นมินจึงอ้อนว่า เหตุใดจังกึมมีเวลารักษาคนทั่วไปแต่ไม่ยอมหาเวลามาดูแลเขาบ้างเลย จังกึมเขินที่ได้ยินมินพูดอ้อนตนเองเช่นนั้นจึงได้แต่นิ่งไป ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่มินกุมมือจังกึมมาไว้ในอ้อมอกของตน



กลับมาในวังหลวง พระเจ้าจุงจงเสด็จมาพบว่าเยินเซงกำลังเล่นกับลูกหมา แจโจซังกุงตะคอกว่าเหตุใดเยินเซงบังอาจแตะต้องสุนัขทรงเลี้ยงของพระเจ้าจุงจง ฝ่ายเยินเซงกำลังตกใจจนตอบอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ร้องไห้ พระเจ้าจุงจงทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้นจึงรับสั่งไม่ให้แจโจซังกุงหาเรื่องหาราวอะไรและให้ปล่อยๆนางไปซะ เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งมินซังกุงและชานอี ได้ทราบวีรกรรมของเยินเซงเข้าจึงตำหนินางอีกหน

ฝ่ายแชซังกุงเห็นกึมยองสอนนางกำนัลฝึกหัด จึงถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้น กึมยองตอบว่าทั้งนี้เป็นเพราะนางรู้สึกผิดอยู่ลึกๆเพราะคนที่มีทักษะตัวจริงไม่ใช่นางแต่เป็นจังกึม ดังนั้นนางจึงอยากไถ่บาปโดยกลับนื้อกลับตัวเสียใหม่

ด้านเยินเซงถูกเรียกให้เข้าเฝ้าพระเจ้าจุงจง พระองค์รับสั่งถามว่าเหตุใดนางจึงร้องไห้เมื่อวันก่อนแต่เยินเซงไม่ได้ทูลตอบอะไร(เป็นธรรมเนียมที่ให้สงบปากสงบคำเวลาอยู่ต่อหน้าพระพักตร์) พระเจ้าจุงจงตรัสว่าพระองค์เข้าใจดีว่าเยินเซงรู้สึกอย่างไรเพราะแม้แต่พระองค์เองก้รู้สึกเหงาเช่นกัน

วันรุ่งขึ้น แจโจซังกุงพาเยินเซงไปยังแผนกเครื่องต้นเพื่อที่จะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าบัดนี้มีพระมหากรุณาธิคุณแต่งตั้งเยินเซงขึ้นเป็นซังกุง และจากนี้ไปนางกำนัลทุกคนจะต้องคำนับให้เยินเซง

มินซังกุงและชานอีเมื่อนึกถึงเรื่องที่เยินเซงกลัวพระเจ้าจุงจงในคืนนั้นจึงนึกขำ เยินเซงกล่าวกับมินซังกุงและชานอีว่านางอยากจะทูลเล่าเรื่องของฮันซังกุงและจังกึม แต่มินซังกุงห้ามไว้เพราะเกรงว่าเรื่องนี้อาจทำให้จังกึมได้รับอันตราย

จังกึมถูกลงโทษเล็กน้อยที่นางจำอาการของโรคผิด ระหว่างนั้นจังกึมยังคงเรียนวิชาแพทย์ต่อไปโดยเริ่มเรียนรู้การตรวจโรคผ่านการจับชีพจร รุ่งขึ้น มีนายทหารที่ป่วยเพราะมีไข้สูงมาพบจังตึ๊ก แต่นางกลับตำหนิที่ทหารคนนั้นไปกินยาของหมอนักสมุนไพรอีกคนหนึ่งในเกาะซึ่งทำให้มีอาการไข้สูงขึ้นเหมือนเดิม

จังกึมพบในภายหลังว่าที่แท้นักสมุนไพรคนนั้นคือใต้เท้าชุงที่เคยอยู่แผนกทาเจในวังหลวง จังกึมเล่าให้ใต้เท้าฟังว่านางมาเรียนรู้วิชาแพทย์เพื่อหวังว่าวันหนึ่งจะได้กลับไปวังหลวง สิ้นคำพูดของนาง จังกึมกลับถูกใต้เท้าตำหนิเพราะเขาเห็นว่าการรักษานั้นควรเกิดจากจิตใจที่ต้องการรักษาคนไม่ใช่จิตใจที่หวังแสวงหาระโยชน์ บังเอิญจังตึ๊กได้ยินคำพูดนั้นเข้าจึงบอกให้จังกึมอย่าไปสนใจและตั้งหน้าตั้งตาทำความฝันของตนเองให้สำเร็จดีกว่า




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 0:43:36 น.
Counter : 2371 Pageviews.  

แดจังกึม Ep 27-28



Episode 27-28


นายทหารสั่งให้จังกึมและฮันซังกุงออกมาด้านนอกเพื่อนำตัวไปยังแผนกเครื่องต้นอีกครั้ง ที่ห้องเครื่อง ฮันซังกุงต้องปรุงอาหารที่ทำถวายพระเจ้าจุงจงอีกหน เพื่อให้คนนอกลองกินดูว่าจะมีอาการเป็นเช่นไรบ้าง ระหว่างนั้น ยุนนอใช้เล่ห์ล่อหลอกใช้ฮอนยอ(ตัวประกอบอีกตัว)กินลูกมะเดื่อ อีกด้านหนึ่งพระเจ้าจุงจงยังไม่ทรงฟื้นคืนสติ แชพันซุงจึงนำความนี้ไปบอกแชซังกุงเพื่อปรึกษากันเรื่องสถานการณ์ล่าสุดเพราะไม่มีใครเชื่อว่าพระโรคครั้งนี้จะมีส่วนเกี่ยวกับฮันซังกุง

เมื่อปรุงอาหารเสร็จแล้ว ใต้เท้าโอสั่งให้ลูกน้องลองชิมอาหารดังกล่าว เยินเซงจำได้ว่าลูกน้องของใต้เท้าโอคนนั้นแท้จริงคือคนร้ายที่ใต้เท้าแชเคยส่งเข้ามา นางจึงรีบกล่าวว่า ชายคนนั้นไม่สามารถทำหน้าที่เป็นคนกลางที่จะชิมอาหารได้ บังเอิญจังหวะนั้นฮอนยอ อยู่พอดีจึงถูกเรียกให้เข้ามาชิมอาหารแทน

กลับไปยังที่คุมขัง จังกึมพบว่าฮันซังกุงกำลังป่วยและมีไข้ จังกึมขอให้ทหารที่อยู่บริเวณนั้นช่วยจัดหาหยูบยามารักษา แต่คำขอของนางกลับได้รับการเพิกเฉย เช้าวันรุ่งขึ้น ฮอนยอมีอาการไข้สูงเหมือนกับที่พระเจ้าจุงจงเป็นทุกประการ แจโจซังกุงเล่าความทั้งหมดให้แชซังกุงและกึมยองฟัง แท้จริงเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะกึมยองแอบใส่ยาเร่งไข้ ลงในลูกมะเดื่อป่าก่อนที่ยุนนอจะล่อหลอกให้ฮอนยอกินต่ออีกทีหนึ่ง

ในที่ประชุม หนึ่งในบรรดาใต้เท้ากล่าวหาว่ามินจุงโฮอาจมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการลอบวางยาพิษพระเจ้าจุงจงในครั้งนี้ หากแต่หัวหน้าของมินตอบกว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเหลวไหลเพราะตอนนี้มินไม่ได้อยู่เมืองฮานยางด้วยซ้ำ หัวหน้าของมินพาเขาไปซ่อนตัวยังที่แห่งหนึ่งและกำชับไม่ให้มินเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของฮันซังกุงอีกต่อไป มินกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่ฮันซังกุงจะพัวพันกับการวางยาพระเจ้าจุงจงในครั้งนี้ แต่ใต้เท้ากรมอาญาปฎิเสธที่จะฟัง

ฝ่ายใต้เท้าโอสั่งให้ทรมานฮันซังกุงและจังกึมไปเรื่อยๆจนกว่าพวกนางจะยอมรับสารภาพ แชซังกุงนำเรื่องการลงโทษไปเล่าให้กึมยองฟัง และว่าบัดนี้ทั้งฮันซังกุงและจังกึมคงใกล้ตายเต็มทีแล้ว ที่สุดฮันซังกุงจำใจยอมรับว่านางเป็นผู้วางแผนเองทั้งหมด โดยที่จังกึมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้จังกึมถึงกับร่ำไห้เมื่อได้ยินฮันซังกุงกล่าวเช่นนั้น ความจริงทั้งสองมีโอกาสไม่ต้องรับโทษถึงประหารแต่กลับเลือกที่จะตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ต่อ แชซังกุงเข้ามาพบฮันซังกุงให้นางลาโลกอย่างสงบๆ และอย่าพล่ามเรื่องในอดีตขึ้นมาอีก ฮันซังกุงขอให้แชซังกุงสัญญาว่าจะดูแลจังกึม แล้วนางจึงจะยอมตายอย่างเงียบๆ



จังกึมขอเลือกที่จะตายตามฮันซังกุง แต่ฮันซังกุงกลับบอกให้จังกึมอยู่ต่อไปเพราะหากจังกึมตายตามนางไปแล้ว นางคงไม่มีหน้าไปพบวิญญาณของเมียงยอ อีกทั้งยังว่า ถ้าจังกึมยังอยู่ต่อ สักวันหนึ่งจังกึมจะได้แสดงความจริงให้คนทั้งหลายประจักษ์ว่านางและเมียงยอเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อฮันซังกุงเรียกจังกึมว่า"ลูก" ทั้งสองต่างก็พากันร่ำไห้ในโชคชะตาที่อาภัพ

แชพันซุงบอกให้ใต้เท้าโอลงโทษประหารชีวิตแก่ฮันซังกุงและจังกึม อย่างไรก็ตามเมื่อนำเรื่องขึ้นกราบทูลพระเจ้าจุงจง พระองค์โปรดให้ลดโทษจากตาย เป็นถอดบรรดาศักดิ์ลงเป็นไพร่แล้วจึงขับไล่ออกจากวังหลวงและเนรเทศให้ไปอยู่ยังเกาะแจจู

มินซังกุง เยินเซง และชานอีขอร้องให้แจโจซังกุงอนุญาตให้พวกนางไปส่งฮันซังกุงและจังกึมที่ท่าเรือ ด้านแชซังกุงเฝ้ามองความสำเร็จที่นางกำจัดฝ่ายอริออกไปจากเมืองฮานยางได้ในที่สุด ระหว่างการเดินทาง จังกึมขอให้หยุดพักบ้างแต่ทหารที่คุมตัวพวกนางไปนั้นไม่ยอม ดังนั้นจังกึมจึงขอแบกฮันซังกุงขึ้นหลัง

ฮันซังกุงรำลึกถึงอดีตและชมว่าจังกึมเป็นเด็กที่มีความอดทนเป็นเลิศมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จังกึมขอให้ฮันซังกุงอดทนเพราะอีกประเดี๋ยวคงได้พักแล้ว ขณะนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ฮันซังกุงกล่าวให้จังกึมหาโอกาสกลับไปยังวังหลวงเพื่อพิสูจน์ว่านางไร้มลทิน ซึ่งเป็นคำกล่าวที่คล้ายคลึงกับที่มารดาของจังกึมเคยสั่งเสียกับนางก่อนตาย จังกึมขอให้ฮันซังกุงหยุดพูดเช่นนั้น แต่มาพบทีหลังว่าฮันซังกุงสิ้นใจเสียแล้ว (ม่ายยยยยยยยยยยยย T_T)

ผู้คุมสั่งให้จังกึมเดินทางต่อแต่นางไม่ยอม ในที่สุด เหล่าทหารจึงต้องขุดหลุมศพเพื่อฝังฮันซังกุงไว้ข้างทาง (ม่ายยยยยยยยยย T_T) ด้านมินจุงโฮได้เดินทางติดตามจังกึมมา แต่ต้องพบว่าเรือได้ออกจากท่าไปเสียแล้วจึงได้แต่ยืนร่ำไห้เหม่อมองผืนน้ำที่อ้างว้าง

ภายในวังหลวง ข่าวการตายของฮันซังกุงมาถึง เมื่อเยินเซงได้ทราบเรื่องเข้าจึงร่ำไห้ขอให้แจโจซังกุงย้ายนางไปอยู่เกาะแจจู แต่โชคดีที่มินซังกุงลากนางออกมาทันและกล่าวขออภัยต่อแจโจซังกุงที่เยินเซงเข้ามาพล่ามต่อหน้านาง

ฝ่ายคังตึ๊กคูพบเงินที่ภรรยาซ่อนไว้ จึงจัดแจงที่จะเดินทางไปเกาะแจจู ก่อนที่จะออกพ้นประตูบ้าน ภรรยาของเขาเข้ามาห้ามโดยกล่าวว่าบัดนี้จังกึมเป็นนักโทษไปแล้ว คงไม่มีทางใดที่จะช่วยนางได้ ขณะนั้นเอง มินจุงโฮมาที่บ้านคังตึ๊กคู แต่ภรรยาของคังต่อว่าที่มินไม่กล้าช่วยจังกึมแต่แรกเพราะเกรงตัวเองจะถูกลดตำแหน่ง

บนเกาะแจจู จังกึมถูกจับตัวอีกรอบในข้อหาพยายามหลบหนี ดังนั้นนางจึงถูกจับไปขังรวมกับหญิงอีกคน(จังตึ๊ก) จังกึมกล่าวว่านางมีความจำเป็นต้องกลับไปเมืองฮานยาง และปรึกษาจังตึ๊กเรื่องหลบหนีออกจากเกาะในกลางดึก แผนหลบหนีก็คือจังตึ๊กจะหลอกทหารว่าจังกึมเป็นโรคโปลิโอและต้องแยกไปขังเดี่ยว เมื่อถูกจับไปขังเดี่ยวแล้ว จังกึมสบโอกาสที่ทหารยามหลับจึงหลบหนีไปที่ชายฝั่งเพื่อรอเรือให้มารับ แต่โชคร้ายที่จังกึมถูกจังตึ๊กหลอกเรื่องว่าจะมีเรือมารอรับนาง จนท้ายที่สุดจังกึมก็ถูกจับกลับมาอีกครา



มินเห็นทหารไล่จับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ลิบๆแต่จำไม่ได้ว่าสตรีคนนั้นคือจังกึม เมื่อจังกึมถูกจับกลับมาอีกครั้งและได้พบจังตึ๊ก จังกึมจึงถามว่าเหตุใดต้องหลอกนางด้วย แต่จังตึ๊กกลับตอบว่า ตนหลอกจังกึมเพื่อช่วยนางให้ล้มเลิกความหวังที่จะหลบหนีต่างหาก ฝ่ายมินตามหาจังกึมต่อไปและพบว่าตนคงไม่มีโอกาสเข้าพบจังกึมอีกแล้ว เพราะบัดนี้จังกึมเป็นนักโทษพิเศษที่มีประวัติการหลบหนีมากกว่าหนึ่งครั้ง

แชซังกุงกลายมาเป็นซังกุงสูงสุดในแผนกเครื่องต้นต่อจากฮันซังกุง ส่วนเยินเซงฝากจดหมายไปให้คังตึ๊กคูและขอร้องให้เขาเดินทางไปเกาะแจจูอีกด้วย ฝ่ายกึมยองค้นพบว่าบัดนี้มินจุงโฮไม่ได้อยู่ในเมืองฮานยางอีกแล้ว จึงสงสัยว่าเขาอาจจะเดินทางไปเกาะแจจูก็เป็นได้

บนเกาะแจจู มินติดสินบนให้หญิงคนหนึ่งส่งจดหมายไปให้จังกึมแต่พบว่านางถูกย้ายไปยังสวนผักเสียแล้ว เมื่อมินเดินทางต่อไปก็ได้ยินเสียงบรรดาเหล่าทาสพูดกันว่า "นาง" หลบหนีไปอีกแล้วหรอ

มินพบกับจังกึมที่กำลังหลบหนีอยู่จึงเข้าช่วยจนทำให้ตนเองบาดเจ็บ ระหว่างที่จังกึมทำแผลให้มินนั้น เขากล่าวกับจังกึมว่าความห่วงใยและสัมผัสของจังกึม อย่างไรก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

มินกล่าวขอโทษที่ไม่อาจช่วยเหลือจังกึมได้ และกล่าวว่าถึงแม้เวลาจะผ่านเนิ่นนานไปนับปี เขาจะไม่มีวันทิ้งจังกึมไปไหน จังกึมแจ้งเรื่องที่ฮันซังกุงได้ลาโลกไปแล้วให้มินทราบ และว่านางจำเป็นต้องกลับไปวังหลวงเพื่อขจัดมลทินทั้งหลายให้แม่และฮันซังกุง

วันรุ่งขึ้น มินขอร้องให้เจ้าหน้าที่ยอมออมชอมให้จังกึมอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธเพราะจังกึมได้คิดหลบหนีจากเกาะหลายครั้งมากแล้ว

บังเอิญจังหวะนั้นจังตึ๊กผ่านมาพบเข้าและว่านางจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดแทนจังกึมเอง




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 0:45:24 น.
Counter : 2547 Pageviews.  

แดจังกึม Ep 25-26



Episode 25-26


เพื่อความแน่ใจ จังกึมถามฮันซังกุงว่าใช่นางหรือไม่ที่เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในวังหลวง และเป็นเพื่อนผู้มีทักษะการทำอาหารชั้นเลิศที่มารดาจังกึมรู้จัก ฮันซังกุงหลังจากตอบว่าใช่ ก็ถามจังกึมอีกครั้งว่าคือจังกึมใช่มั้ยที่ป้อนมารดาซึ่งกำลังจะสิ้นลมด้วยผลไม้ป่า และคือจังกึมอีกใช่หรือไม่ที่เมียงยอสอนการทำอาหารและการตักน้ำ แน่นอนจังกึมตอบกลับว่า "ใช่"

ฮันซังกุงตะโกนขึ้นฟ้าเพื่อขอบคุณเมียงยอ และพาจังกึมไปสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งแม่ของนางเคยใช้ฝึกทำอาหารและใช้หลบภัยยามมีเรื่องเกิดขึ้น จังกึมถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อทราบว่าแม่ของนางก็เป็นพวกชอบสร้างปัญหาไม่ต่างกับตนเอง ที่สุดทั้งสองก็คุยกันถึงเรื่องสาเหตุที่ทำให้เมียงยอต้องจบชีวิต จังกึมเล่าให้ฮันซังกุงฟังว่า มารดาของนางเลือกที่จะให้ทหารจับตัวไปดีกว่าต้องตกไปอยู่ในมือของผู้ประสงค์ร้าย ระหว่างที่เดินทางเผอิญโชคไม่ดีมีกลุ่มผู้ร้ายยิงธนูเข้าใส่โดนมารดา และที่สุดมารดาของนางก็ตายด้วยพิษบาดแผลแห่งลูกธนูนั้น

ทั้งฮันซังกุงและจังกึมทราบในที่สุดว่าแชซังกุงคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด ความที่จังกึมอยู่ในอารามดีใจจึงพาฮันซังกุงไปดูหนังสือสูตรอาหารที่มารดาของนางเขียนไว้ แต่พึ่งจำได้ว่าหนังสือเล่มนั้นสูญไปเสียแล้ว ฮันซังกุงจำเรื่องหนังสือที่ยุนนออ่านได้จึงซักยุนนอถึงความจริงว่านางได้หนังสือสูตรอาหารมาจากไหนกันแน่ ยุนนออ้างว่านางเก็บได้จริงๆ ดังนั้นฮันซังกุงจึงสั่งให้ขังยุนนอไว้จนกว่านางจะสารภาพความจริงออกมา ฮันซังกุงเกรงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับจังกึมจึงสั่งย้ายแชซังกุง กึมยอง และยุนนอไปอยู่แผนกรับรองทูต ขั้นแรกแชซังกุงปฎิเสธที่จะไปโดยอ้างว่านางจะต้องบอกแจโจซังกุงซึ่งเป็นซังกุงปกครองก่อน แต่ฮันซังกุงบอกว่านางได้ไปบอกเรื่องนี้แก่แจโจซังกุงแล้วและนางก็อนุญาตด้วยดี ดังนั้นทั้งสามจึงต้องเก็บข้าวของเพื่อย้ายไปอยู่แผนกใหม่โดยทันที

ฮันซังกุงยังไม่ไว้วางใจเนื่องจากแชซังกุงยังอยู่ในวังหลวง นางจึงแนะนำให้จังกึมไปปรึกษามินดูว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง จังกึมตอบว่าขณะนี้มินออกไปทำภารกิจใหม่ชั่วคราวแต่จังกึมสัญญาว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอกมินแน่นอนเมื่อเขากลับมา ฮันซังกุงนำความที่ทราบไปขอให้เพื่อนเก่าแก่ในวังช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้(เพราะตระกูลแชมีอิทธิพลในวังหลวง)

ที่แผนกรับรองทูต กึมยองนำข่าวที่แชพันซุง(ใต้เท้าแช)ฝากให้มาบอกแชซังกุงว่า ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องมินจุงโฮอีกต่อไปเพราะมินไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงแล้ว ด้านจังกึมออกไปพบคังตึ๊กคูและทราบว่าแท้จริงมินไม่ได้ไปไหน หากแต่ยังอยู่ในเมืองฮันยางนั้นเอง จังกึมขอให้คังตึ๊กคูพานางไปพบมินยังที่ซ่อน เมื่อพบกับมินแล้วจังกึมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังและดีใจเมื่อทราบว่าราชการลับที่มินกำลังทำอยู่ คือการสอบสวนเรื่องที่พัวพันกับคนตระกูลแชนั่นเอง



เมื่อจังกึมกลับไปพบคังตึ๊กคู ภรรยาของเขากล่าวเตือนจังกึมว่า อย่างไรเสียจังกึมก็เป็นนางใน ดังนั้นจึงห้ามทรยศต่อเหนือหัวโดยมีใจให้ชายอื่น อย่างไรก็ตามมินก็ยังคงหาร่องรอยของพ่อจังกึมไม่พบ แต่กล่าวกับจังกึมว่า หากบิดาของนางยังมีชีวิตอยู่ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาบิดาของจังกึมจนพบให้จงได้

เยินเซงและชานอี(ชานยอในช่องสาม) ไปพบกึมยองเพื่อแจ้งให้นางทราบว่าพระเจ้าจุงจงจะแปรพระราชฐานไปยังที่อื่นซึ่งมีอากาศอบอุ่นเพื่อรักษาพระโรค แชซังกุงเมื่อทราบความก็มั่นใจว่าทั้งฮันซังกุงและจังกึมจะต้องโดยเสด็จพระเจ้าจุงจงไปในคราวนี้เป็นแน่ ฝ่ายมินซังกุงถามฮันซังกุงว่าพระเจ้าจุงจงจะเสด็จแปรพระราชฐานไปยังที่ใด แต่ฮันซังกุงยังไม่ตอบเพราะนางเป็นผู้เสนอสถานที่ในครั้งนี้ด้วยตัวเองและต้องการเก็บไว้เป็นความลับ(จะเก็บไว้เซอร์ไพร้จังกึมว่างั้นเหอะ) ฮันซังกุง มินซังกุง จังกึม เยินเซง และนางกำนัลอีกสี่คนโดยเสด็จพระเจ้าจุงจง ในขณะที่แชพันซุง(ใต้เท้าแช)จ้างให้คนสะกดรอยทุกความเคลื่อนไหวของจังกึม

พระเจ้าจุงจงเสด็จลงสรงในบ่อน้ำร้อนที่เมืองวอนกุง พระองค์เสวยอาหารที่ฮันซังกุงทำถวายและชื่นชมในรสชาติของอาหารและสถานที่ที่ฮันซังกุงแนะนำพระองค์ให้มาในครานี้ ฮันซังกุงสั่งให้จังกึมตามนางมาสถานที่แห่งหนึ่ง ด้านมินซังกุงและเยินเซงนึกว่าทั้งสองคงไปแช่เท้าในบ่อน้ำอุ่นจึงคิดที่จะตามไปด้วย ที่จริงฮันซังกุงพาจังกึมไปดูสถานที่ในอดีตที่นางและปาร์คเมียงยอเติบโตขึ้นมา และรู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ฮันซังกุงเมื่อนึกถึงเมียงยอจึงว่านางจะไม่ให้อภัยผู้ที่ทำร้ายเมียงยอเด็ดขาด ระหว่างนั้นเองสายลับที่แชพันซุงส่งไป เข้าล้อมฮันซังกุงและจังกึมไว้ โชคดีที่มีนายทหารภายใต้การนำของมินมาช่วยไว้ทัน

มินซังกุงและเยินเซงไปที่บ่อน้ำร้อนแต่เผอิญได้ยินเสียงคนพูดคุยกันหลังพุ่มไม้ แท้จริงกลุ่มลูกน้องของแชพันซุงกลับมารายงานเรื่องที่การสังหารฮันซังกุงและจังกึมล้มเหลว อีกทั้งยังเล่าว่าฝ่ายกรมอาญารู้เรื่องนี้แล้ว แชซังกุงเกรงว่าความทั้งหมดจะถูกเปิดเผยและนางอาจจะต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิต ด้านฮันซังกุงได้รับคำสั่งมาว่าพระเจ้าจุงจงโปรดจะเสวยอาหารที่ฮันซังกุงปรุงถวายเมื่อวันก่อนอีกสักครั้งก่อนกลับเข้าวัง แต่ไม่ช้าฮันซังกุงต้องตกใจเมื่อทราบข่าวว่าพระเจ้าจุงจงสิ้นพระสติหลังจากเสวยอาหารดังกล่าว

บรรดาหมอหลวงต่างพากันคิดว่าเป็นเพราะพิษไข้ที่รุมเร้าทำให้อุณหภูมิพระวรกายร้อนจัดจนสิ้นพระสติ ด้านแชซังกุงเมื่อทราบความเรื่องพระเจ้าจุงจง นางจึงจัดการให้แชพันซุง รีบคว้าโอกาสทองที่สวรรค์ประทานครั้งนี้ไว้เพื่อกำจัดฮันซังกุงออกไปให้พ้นทาง แชพันซุงติดสินบนหมอหลวงเพื่อให้ใส่ความว่าพระอาการทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของฮันซังกุง

ที่แผนกไต่สวน ทุกคนต่างพากันโยนความผิดให้ฮันซังกุง(ไม่ยอมๆๆๆ ฮือๆๆๆ) จังกึมเขียนจดหมายขอให้คังตึ๊กคูช่วยเหลือในครั้งนี้ คังตึ๊กคูนำอาหารที่ฮันซังกุงทำถวายพระเจ้าจุงจง มาลองทำอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ มินจุงโฮกลับมาจากราชการและได้ทราบความทั้งหมดจากปากคำของคังตึ๊กคูนั่นเอง



จังกึมและใต้เท้าอีกคนเดินทางกลับไปเมืองวอนกุงเพื่อตรวจสอบอีกครั้งและพบว่าน้ำที่ใช้ปรุงอาหารมียาพิษผสมอยู่ ฮันซังกุงปฎิเสธว่านางไม่ได้ลอบวางยาพิษในพระกระยาหาร แต่ไม่มีผู้ใดเชื่อ สุดท้ายฮันซังกุงจึงถูกจับไปขัง จังกึมเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าผู้ดูแลเขตแทโจ(คนที่ดูแลแผนกสมุนไพร)แต่พบว่าเขาถูกย้ายไปทำงานที่อื่นแล้ว จังกึมจึงขอให้คังตึ๊กคูไปคุยกับมินเพื่อให้ช่วยตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในครั้งนี้ต่อไป เนื่องจากอาหารในวันนั้นทุกคนกินเหมือนกันหมดแต่ไม่มีใครได้รับอันตรายเลย ยกเว้นแต่เพียงพระเจ้าจุงจงเท่านั้น

มินไปสอบถามเรื่องอาหารที่ใช้กับพ่อค้าที่ฮันซังกุงซื้อวัตถุดิบมาทำเป็นพระกระยาหาร และพบว่าเครื่องปรุงที่ใช้นั้นมีแต่คุณประโยชน์และไม่ให้โทษอย่างใดทั้งสิ้น จากนั้นไม่นานมีทหารที่ใต้เท้าโอส่งมาเพื่อพบกับพ่อค้าคนดังกล่าวและอ้างว่าจะพาเขาไปอยู่ภายใต้อารักขาในที่ที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง มินนำเรื่องประโยชน์ของอาหารไปบอกหัวหน้าของตนในวังหลวง แต่ต้องกลับออกมาต่อ เพื่องานสืบสวนเรื่องทุจริตของใต้เท้าโอจะได้ไม่ขาดตอน อีกด้านหนึ่งฮันซังกุงถูกซักว่าใครคือผู้บงการนางอยู่เบื้องหลังแต่ฮันซังกุงไม่ตอบ ใต้เท้าโอจึงสั่งให้ลงโทษประหารชีวิตทั้งฮันซังกุงและจังกึม จังหวะนั้นหัวหน้าแผนกไต่สวนเดินทางมาถึงและสั่งให้ยั้งคำสั่งประหารไว้ก่อนจนกว่าการสืบสวนจะสิ้นสุดลง

แชพันซุงเริ่มระแวงในข่าวที่ว่ามินกำลังทำราชการลับจึงสั่งให้ลูกน้องไปสืบดูว่า เหตุใดมินจึงมีส่วนเข้าไปช่วยฮันซังกุงและจังกึมในครั้งนี้ได้ ภรรยาของคังตึ๊กคูเดินทางมาเยี่ยมฮันซังกุงและจังกึมเพราะมินไม่สามารถมาเองได้ แต่เขาได้ฝากจดหมายมาให้ฉบับหนึ่งซึ่งมีใจความว่า เขาพบสาเหตุของเรื่องครั้งนี้แล้ว และทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวกับฮันซังกุงเลย จึงขอให้มั่นใจได้ว่าทั้งสองจะถูกปล่อยตัวในเร็ววัน ภรรยาของคังตึ๊กคูนำเอาพู่กันที่พ่อของจังกึมทำให้นางมาคืนแก่จังกึม จังกึมสงสัยว่านางไปเอามาจากไหน แต่ภรรยาของคังตึ๊กคูบอกว่าที่จริงมันอยู่กับมินมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ครั้งที่จังกึมสะเพร่าทำพู่กันตกไว้ตอนที่ช่วยเหลือมินเมื่อครั้งก่อน

แจโจซังกุงถามแชซังกุงว่ากรมอาญาเข้ามามีส่วนในเรื่องนี้ได้อย่างไร ระหว่างนั้นมินซังกุง เยินเซง และชานอีเข้ามาขอให้แจโจซังกุงช่วยฮันซังกุงและจังกึม แต่กลับถูกแจโจซังกุงตวาดไล่ให้กลับไป

ภายนอกวังหลวงนั้น ลูกน้องของมินมารายงานให้ฟังว่าแชพันซุงและใต้เท้าโอมีส่วนร่วมกันทุจริตในหลายเรื่อง บังเอิญขณะนั้นลูกน้องของแชพันซุงที่แอบฟังการสนทนาอยู่ได้ยินเข้าจึงกลับไปรายงานนายของตน

แชพันซุง แชซังกุงและแชกึมยอง กำลังสนทนาเรื่องที่สงสัยว่าทำไมมินจึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยฮันซังกุงและจังกึมให้ได้ กึมยองรู้ถึงเหตุผลดี แต่นางยังคงยืนเงียบไม่เอ่ยปากพูดใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กึมยองขอให้แชพันซุงอย่าทำร้ายมินจุงโฮ แชพันซุงและแชซังกุงถามว่าทำไมพวกตนจะกำจัดมินจุงโฮไม่ได้ กึมยองจึงว่าเป็นเพราะนางรักมินนั่นเอง แชซังกุงเตือนสติกึมยองว่า นางในห้ามมีความรัก แต่กึมยองไม่สนใจและขู่ว่าหากไม่ยอมทำตามที่นางขอ นางจะเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้ทุกคนรู้

ด้านจังกึมกล่าวกับฮันซังกุงว่าไม่นานพวกตนคงถูกปล่อยเป็นอิสระ และว่าหากออกไปแล้วนางหวังที่จะได้บอกกับฮันซังกุง ในความรู้สึกที่นางไม่มีโอกาสได้บอกกับมารดา สิ้นคำพูดของจังกึม ทหารยามก็มาถึงพอดี




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 0:46:40 น.
Counter : 2248 Pageviews.  

แดจังกึม Ep 23-24



Episode 23-24


พระมเหสีทรงยอมให้มีการแข่งขันทำอาหารอีกครั้ง (พระนางเป็นหนึ่งในอิสตรีผู้พลิกประวัติศาสตร์เกาหลี เนื่องจากสมัยโบราณยังมีความเลื่อมล้ำด้านเพศ พระนางเป็นผู้คุมอำนาจในราชสำนักอยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริงเนื่องจากพระเจ้าจุงจงเป็นกษัตริย์ที่อ่อนไหวในขณะที่พระมเหสีมีพระทัยเด็ดเดี่ยว พระนางถึงกับคิดลอบปลงพระชนม์เจ้าชายรัชทายาทซึ่งไม่ใช่พระโอรสที่ประสูติแต่พระนาง จากนั้นจึงกรุยทางให้พระโอรสของพระนางขึ้นครองราชย์โดยมีพระนางเองนั้นแหละคอยว่าราชการหลังบัลลังก์มังกรเป็นเวลาถึงแปดปี) พระมเหสีขึ้นเฝ้าพระพันปี(เกาหลีเรียกแดไป๊ม๊ามาฮะไม่ใช่ไทเฮา) เพื่อกราบทูลเรื่องของฮันซังกุง ทั้งนี้เพราะพระพันปีทรงไว้ซึ่งอำนาจตัดสินสูงสุดในฝ่ายใน อย่างไรก็ตาม พระพันปีทรงเห็นดีด้วย(ถึงแม้จะทรงไม่พอพระทัยเรื่องชาติกำเนิดของฮันซังกุง) จึงทรงเรียกบรรดาซังกุงรวมทั้งนางกำนัลทั้งหลายมารวมกันเพื่อประกาศว่าจะมีการแข่งขันระหว่างฮันซังกุงและแชซังกุงอีกครั้ง ฮันซังกุงรู้สึกโล่งใจที่ทุกอย่างออกมาเช่นนี้ เพราะตอนแรกนางกังวลเรื่องที่ทุกคนไม่ยอมรับอาจจะมาจากปัญหาเรื่องชาติตระกูลเพราะนางถือกำเนิดในชนชั้นล่าง

หัวข้อการแข่งขันครั้งใหม่คือการ "หุงข้าว" ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่สุดในบรรดาอาหารเกาหลี แต่เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างยุติธรรมที่สุด พระมเหสีจึงโปรดให้นำวัตถุดิบที่เหมือนกันทุกประการแก่ฮันซังกุงและแชซังกุง จากนั้นจึงทรงให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหลายตามพระนางไปยังห้องเสวย ระหว่างทางมินซังกุงกล่าวว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะให้ตัดสินฝีมือการหุงข้าวเพราะทั้งฮันซังกุงและแชซังกุงต่างร่ำเรียนวิชาการทำอาหารมากว่า 30 ปี ซึ่งย่อมจะมีฝีมือการหุงข้าวที่สูสีกัน พระมเหสีเมื่อสดับดังนั้นจึงโปรดให้การตัดสินในครั้งนี้เป็นไปโดยการลงคะแนนว่าผู้ใดสมควรจะชนะ โดยจานข้าวที่นำเข้ามาจะแบ่งออกใส่จานโลหะและจานกระเบื้อง หลังจากลงคะแนนเสร็จแล้วพระมเหสีมีรับสั่งให้ทั้งฮันซังกุงและแชซังกุงเข้าเฝ้าในที่นั้นได้ พระนางถามความเห็นบรรดาซังกุงทั้งหลายว่ารสชาติของข้าวจานใดดีกว่า เสียงส่วนใหญ่กล่าวชื่นชมว่าข้าวในจานกระเบื้องนั้นนุ่มกลมกล่อม

พระมเหสีรับสั่งว่าท่าทางผู้ชนะนั้นคงไม่พ้นข้าวจากชามกระเบื้องแน่นอน เมื่อตรัสถามว่าใครคือผู้หุงข้าวของชามกระเบื้อง แชซังกุงรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องและทูลตอบว่าคือนางเองอีกทั้งยังอธิบายวิธีวิธีหุงข้าวให้นุ่มโดยใช้เรื่องกฎของแรงดันเข้ามาประยุกต์ (โอ้ว หม้อหุงข้าวโตชิบาเอาไอเดียแชซังกุงมาขายนี่เอง) อย่างไรก็ดี พระมเหสีเรียกให้เอาผลการลงคะแนนเสียงมาดูและพบว่าข้าวจากชามกระเบื้องนั้นได้คะแนนเสียงไป 5 เสียง แต่บรรดานางกำนัล ณ ที่นั้นมีอยู่ 18 คน ผลจึงพลิกเป็นว่าฮันซังกุงเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ

ด้านพระพันปีทรงฉงนในผลการลงมติ บรรดานางกำนัลจึงทูลตอบว่า ถึงแม้ข้าวในจานกระเบื้องจะมีรสนุ่มลิ้นแต่พวกนางเลือกที่จะกินข้าวที่แข็งกว่า (หญิงเกาหลีโบราณกินได้แต่ข้าวก้นหม้อ ไม่ก็ข้าวที่ติดกรังอยู่ตามขอบๆเนื่องจากความเลื่อมล้ำทางเพศ ถึงแม้จะอ้างว่าข้าวก้นหม้อนั้นกรอบและให้สารอาหารที่มากกว่า แท้จริงแล้วเหล่านี้คือข้อแก้ตัวทั้งสิ้น) ในขณะเดียวกันบางคนก็ตอบว่าที่เลือกลงคะแนนให้ชามโลหะนั้นเป็นเพราะมีรสชาตินุ่ม

พระพันปีแปลกพระทัยที่ว่าเหตุใดหม้อใบเดียวกันจึงหุงข้าวที่ต่างกันได้ถึงสองชนิดทั้งนุ่มและแข็ง ฮันซังกุงกล่าวว่าเป็นเพราะนางหุงข้าวชนิดหนึ่งในหม้อเล็ก และเอาหม้อใบเล็กนั้นใส่ลงในหม้อใหญ่ที่หุงข้าวอีกชนิดหนึ่ง วิธีนี้ไอน้ำจะเข้าไปในแต่ละหม้อไม่เท่ากัน ซึ่งสุดท้ายจะได้ทั้งข้าวแบบนุ่มและแบบกระด้างหน่อยๆพร้อมกันจากการหุงเพียงครั้งเดียว พระมเหสีตรัสถามต่อไปว่าแล้วนางรู้ได้อย่างไรว่าใครชอบทานข้าวแบบไหน ฮันซังกุงจึงแจ้งว่านางจำความชอบของทุกคนได้ ทั้งนี้เพราะพวกนางเติบโตขึ้นมาด้วยกัน



พระพันปีทรงทึ่งกับความคิดที่รอบคอบอีกทั้งความใส่ใจที่จะจดจำความชอบทานอาหารของแต่ละคน จึงรับสั่งว่าฮันซุงสมควรอย่างแท้จริงแล้วที่เป็นซังกุงสูงสุดของแผนกเครื่องต้น พระเมหสีรับสั่งเสริมว่า บัดนี้ขอให้ทุกคนเชื่อฟังในคำสั่งของฮันซังกุง ขณะนั้นเองแจโจซังกุงผู้เป็นซังกุงปกครอง(ซึ่งสามารถตรวจตราดูแลทุกฝ่ายในวังหลวง)เข้ามาพอดี พระมเหสีจึงมีรับสั่งให้นางไม่ต้องเข้าไปดูแลแผนกเครื่องต้นอีกต่อไปเพราะพระนางรับปากกับฮันซังกุงที่จะให้อำนาจเด็ดขาดแก่ฮันซังกุงในแผนกเครื่องต้นแต่เพียงผู้เดียว แจโจซังกุงนำความไปบอกยังใต้เท้าโอเรื่องที่นางโดนลิดรอนอำนาจอีกด้วย ในที่สุดฮันซังกุงได้เข้าพิธีแต่งตั้งเป็นซังกุงสูงสุดโดยสมบูรณ์ จากนั้นฮันซังกุงและจังกึมจึงเดินทางไปยังบริเวณที่เถ้ากระดูกของจุงซังกุง(ย้ำรอบสุดท้าย จุงซังกุงคือชองซังกุงในช่องสามนะครับ) ฮันซังกุงเคารพสุสานของจุงซังกุงและกล่าวว่าบัดนี้นางได้ทำความฝันของจุงซังกุงที่อยากให้นางเป็นซังกุงสูงสุดสำเร็จแล้ว ด้านจังกึมเองก็มีความสุขเพราะอย่างน้อยสิ่งที่นางรับปากจุงซังกุงไว้ว่าจะไม่หมดความหวังและช่วยเหลือฮันซังกุงไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งจังกึมก็รักษาคำมั่นสัญญานั้นไว้ได้ ก่อนที่จะกลับเข้าวังฮันซังกุงและจังกึมยังได้แวะที่ตลาดเพื่อซื้อเห็ดป่าหายากชนิดหนึ่งกลับไปอีกด้วย

กลับมาในวังหลวง ฮันซังกุงปรุงอาหารถวายพระเจ้าจุงจงเป็นครังแรกในฐานะซังกุงสูงสุด นางคิดที่จะทำซุปผลไม้แปดอย่าง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้ทำเสียที

ระหว่างปรุงอาหารจังกึมลองชิมและบอกฮันซังกุงว่ารสชาติของเห็ดป่าคล้ายกับเมียงยี(มันคือไรหว่า -_-'' ) จังกึมเอาหนังสือสูตรอาหารของมารดานางมาดูเพื่อจะหารายละเอียดของเห็ดป่าชนิดนั้น ฮันซังกุงนำอาหารไปถวายพระเจ้าจุงจง หลังจากทรงชิมอาหารแล้วจึงมีรับสั่งว่าพระองค์สามารถรู้ได้ว่าน้ำส้มหมัก(จิ๊กโช่ว)ที่ใช้นั้นเป็นของที่หมักมานาน อีกทั้งยังตรัสถามว่าฮันซังกุงจะคอยเล่าเรื่องต่างๆให้พระองค์ฟังระหว่างเสวยเหมือนครั้งที่จุงซังกุงเคยทำจะได้มั้ย ฮันซังกุงถ่อมตัวโดยว่านางอาจไม่เป็นนักเล่าที่เก่งนักแต่นางจะพยายาม

ฝ่ายจังกึมนั้นเขียนจดหมายว่านางปรารถนาที่จะพบกับเพื่อนของมารดานางที่ฝังน้ำส้มหมักหรือจิ๊กโช่ว์นี้ไว้ด้วยกันแต่ครั้งอดีต จังกึมเขียนในจดหมายว่านางคือนางกำนัลในแผนกเครื่องต้นชื่อว่า ซอจังกึม (คำว่า "แด" ในแดจังกึมนั้นที่จริงเป็นชื่อคำนำหน้านามยศขุนนางขั้นสามของราชสำนักเกาหลีครับ) มินจุงโฮเข้ามาพบจังกึมและว่าเพราะหน้าที่ใหม่ ต่อจากนี้เขาคงได้มาที่แผนกเครื่องต้นบ่อยๆ จังกึมแสดงความดีใจและสัญญาว่านางจะช่วยมินอย่างสุดความสามารถ มินกลับไปยังแผนกไต่สวนเพื่อขอดูรายงานความไม่ชอบมาพากลในวังหลวง และพบว่าแผนกโซจูปัง(แผนกย่อยของฝ่ายเครื่องต้น)เป็นแผนกที่มีของสูญหายมากที่สุดในวังหลวง

มินซังกุงนำรายชื่อผู้ที่เคยประท้วงฮันซังกุงไม่ให้เป็นซังกุงสูงสุด(เอามาฟ้องว่างั้นเหอะ) แต่ฮันซังกุงกล่าวว่านางไม่สนใจ ระหว่างนั้นจังกึมเข้าไปหาฮันซังกุงเพื่อแจ้งว่ามีคนมาขอพบเป็นการส่วนตัว ผู้ที่มาไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็นมินจุงโฮนั้นเอง ทั้งสองพูดคุยอะไรกันบางอย่างโดยจังกึมที่แอบฟังอยู่รู้แต่เพียงว่าเรื่องนั้นต้องเป็นเรื่องขอขาดบาดตายเนื่องจากทั้งสองมีสีหน้าเขร่งขรึมตลอดระหว่างการเจรจา ต่อมา แชซังกุงขอพบฮันซังกุงเพื่อขอย้ายตัวเองไปอยู่แผนกห้องเสบียง(เป็นธรรมเนียมที่ผู้แพ้จะต้องย้ายตัวเองไปฮะ) แต่ขอให้กึมยองได้ย้ายตามนางไปด้วย ฮันซังกุงเตือนแชซังกุงให้พูดกับนางอย่างมีสัมมาคารวะเนื่องจากบัดนี้ทั้งสองอยู่ในฐานันดรศักดิ์ต่างกัน (โอ้ย สะใจ)

ฮันซังกุงเรียกประชุมคนในแผนกเครื่องต้นเพื่อประกาศเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นรวมทั้งเรื่องแชซังกุงและกึมยองจะย้ายไปอีกฝ่าย อีกทั้งเรื่องที่จะมีซังกุงคนใหม่มาประจำแผนกต้นเครื่องซึ่งจะทำให้มินซังกุงที่เคยเป็นซังกุงชั้นล่างไม่ต้องเป็นซังกุงที่ครองตำแหน่งบ๊วยของแผนกอีกต่อไป เมื่อทุกคนฟังคำประกาศและไม่พบว่าฮันซังกุงจะลงโทษพวกที่เคยประท้วงนาง ต่างคนต่างก็พากันโล่งอก ด้านกึมยองนั้นปลอบใจแชซังกุงโดยว่า ใต้เท้าแชฝากมาบอกให้หยุดเสียใจและรอโอกาสที่จะเป็นใหญ่ใหม่ต่อไป

หัวหน้าทหารเรียกพบฮันซังกุง จังกึมและมินจุงโฮ เพื่อบอกให้ทราบว่าของที่หายไปจากในวังนั้นไม่แน่อาจเกิดจากการทุจริตภายในแผนกกันเอง ฝ่ายบรรดาซังกุงที่ทุจริตของในวังหลวงพากันวิตกและเข้าพบแจโจซังกุง ในชั้นแรกแจโจซังกุงดูเหมือนจะไม่สนใจแต่เหล่าซังกุงขี้ฉ้อขู่ว่าความผิดครั้งนี้หากถูกจับได้ แจโจซังกุงก็ถือว่าร่วมทุจริตด้วยเพราะนางยอมรับของกำนัลต่างๆเพื่อแลกกับการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ปล่อยให้พวกนางทุจริตได้อย่างเปิดเผย



แจโจซังกุงไปยังแผนกเสบียงและพบกับแชซังกุงที่ถูกเด้งมาอยู่แผนกนี้ แจโจซังกุงขอให้แชซังกุงช่วยนางในครั้งนี้อีกแรง แชซังกุงสั่งให้ยุนนอไปตามสืบดูว่าตอนนี้จังกึมทำอะไรอยู่ขณะที่ให้กึมยองไปตามสืบฮันซังกุงในเวลาเดียวกัน ยุนนอเข้าไปค้นหนังสือที่จังกึมมีทั้งหมดมาให้แชซังกุงดู ซึ่งหนึ่งในหนังสือที่ติดไปด้วยก็คือหนังสือสูตรทำอาหารที่มารดาของจังกึมเขียนไว้นั่นเอง

แชซังกุงไม่เห็นว่าสูตรอาหารโบราณที่ติดมาด้วยจะสำคัญตรงไหนจึงสั่งให้ยุนนอนำหนังสือทั้งหมดไปคืนแต่ยุนนอเลือกที่จะเก็บหนังสือสูตรอาหารไว้เพื่อดูเอง เยินเซงพบว่ายุนนอกำลังอ่านหนังสือนั้นอยู่จึงซักว่านางได้มาจากไหน ยุนนอโกหกว่านางเก็บได้ระหว่างทางโดยบังเอิญ จังหวะนั้นฮันซังกุงเดินผ่านมาพบเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าและจำได้ว่าหนังสือนั้นเป็นลายมือการเขียนของปาร์คเมียงยอเพื่อนรักของนางนั่นเอง อีกด้านหนึ่งจังกึมกำลังโศกสลดที่หนังสือของมารดานางหายไป ฝั่งยุนนอนำความที่เกิดขึ้นไปบอกให้กึมยองทราบแล้วจึงไปพบแชซังกุงทั้งคู่ ยุนนอกล่าวกับแชซังกุงว่าหนังสือสูตรอาหารโบราณนั้นไม่ได้เป็นของฮันซังกุงเพระนางถามตนว่านี่คือหนังสืออะไรและไปได้มาจากไหน แชซังกุงเมื่อทราบดังนั้นจึงสงสัยว่าจังกึมได้สูตรหนังสืออาหารโบราณมาได้อย่างไร

แชซังกุงกลับมาตรึกตรองเรื่องทั้งหมดอีกครั้งและพบว่าจังกึมอาจเป็นลูกของปาร์คเมียงยอก็ได้ เพระในอดีตใต้เท้าแชก็เคยเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง แต่ตอนนั้นทุกคนเข้าใจว่าลูกของเมียงยอเป็นผู้ชายจึงไม่มีใครสงสัย แชซังกุงคิดไปคิดมาจนมั่นใจว่าจังกึมคือลูกของเมียงยอจึงนำเรื่องนี้เล่าให้กึมยองฟังและว่า ในอดีตนั้นเมียงยอเห็นว่าพวกนางนำเครื่องปรุงบางอย่างใส่ในอาหารถวายเหนือหัว ดังนั้นอดีตซังกุงสูงสุดแซ่แชและตัวนางเองจึงวางแผนสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อลอบสังหารนาง แชซังกุงเกรงว่าความจริงในอดีตจะถูกเปิดเผยแต่กึมยองกล่าวว่าฮันซังกุงคงยังไม่ทราบเรื่องนี้ไม่งั้นนางคงทำอะไรบางอย่างไปแล้วเมื่อตอนที่เห็นยุนนอแอบอ่านหนังสือเล่มนั้น

จังกึมกังวลเรื่องที่หนังสือของมารดานางถูกขโมยไป อย่างไรก็ตามจังกึมจำเรื่องเพื่อนสนิทของมารดานางได้จึงวิ่งไปดูจุดที่ทั้งสองแอบฝังไหจิ๊กโช่ว์ไว้ จังกึมพบว่าพื้นดินบริเวณนั้นยังไม่ได้ถูกขุดขึ้นมา และจดหมายที่นางฝังไว้ในถุงผ้าก็ยังอยู่ ซึ่งแสดงว่าเพื่อนของมารดานางยังไม่ได้มาที่นี่อีกเลย จังกึมเกิดความคิดใหม่โดยนางเปลี่ยนไปลองดมไหจิ๊กโช่ว์ของทุกแผนกแทน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้นางพบได้ว่าใครคือเพื่อนสนิทของมารดานางกันแน่ ด้านใต้เท้าโอตำหนิแจโจซังกุงถึงเรื่องการทุจริตในวังหลวง อีกด้านหนึ่งพระเจ้าจุงจงกริ้วหนักเมื่อทรงทราบว่าเกิดการทุจริตขึ้น

บรรดาผู้ทุจริตทั้งหลายรวมหัวกันเพื่อจะหาทางออกที่จะหยุดยั้งไม่ให้มินสวบสวนเรื่องนี้อีกต่อไป หนึ่งในนั้นเดินทางไปหาคังตึ๊กคูเพื่อถามถึงความสนิทสนมระหว่างจังกึมและมิน คังตึ๊กคูคุยโอ่ไปว่าทั้งสองคนสนิทกันมาก ขนาดที่ว่าเคยออกเดทนอกวังด้วยกันมาแล้วด้วยซ้ำ

เหล่าผู้ทุจริตคิดจะกำจัดมินซะจะได้ไม่เป็นหนามขวางทางพวกตนอีกต่อไป ฝ่ายแชซังกุงบอกให้ใต้เท้าแชทราบว่าจังกึมคือลูกของเมียงยอจริงๆ และเร่งให้หาทางแก้เรื่องนี้ซะเพราะเป็นปัญหาเร่งด่วน ด้านกึมยองนำความนี้ไปบอกมินให้มินยอมเลิกราเรื่องนี้ซะ แต่มินปฎิเสธ กึมยองเลยว่า เรื่องนี้จะทำให้จังกึมมีอันตรายไปด้วย เป็นเหตุให้มินกลับไปตริตรองเรื่องนี้อีกครั้ง

มินจุงโฮขอลากลับบ้านเกิดในที่สุด จังกึมเผอิญได้ยินเรื่องเข้าโดยบังเอิญจึงวิ่งตามมินและถามว่าเขาจะกลับมาอีกหรือไม่ มินขอให้จังกึมสบายใจได้เพราะเขาจะกลับมาในไม่ช้า ฮันซังกุงเรียกประชุมบรรดาซังกุงอีกครั้งเพื่อแจ้งเรื่องเหตุทุจริตภายในแผนก ฮันซังกุงแบ่งอำนาจหน้าที่เพื่อให้ทุกคนช่วยเหลือในการสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้ง บรรดาซังกุงทุกคนต่างพอใจ มินซังกุงกล่าวกับเยินเซงและชานอีว่าหากในอนาคตนางได้เป็นซังกุงสูงสุด นางอยากทำให้ได้อย่างฮันซังกุง จังกึมเมื่อทราบเรื่องเข้าก็ไปพบฮันซังกุงและกล่าวชื่นชมความสามารถของนาง จังกึมขอกลับมาทำงานใกล้ๆกับฮันซังกุง แต่ฮันซังกุงบอกว่าจังกึมต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อนสักสองเดือน จากนั้นจึงกลับมาทำงานกับนางได้

จังกึมร่ำไห้ถึงแม่เรื่องที่นางยังไม่พบเพื่อนของมารดานาง ขณะนั้นฮันซังกุงกำลังเตรียมอาหาร บังเอิญนางใช้จิ๊กโชว่จนหมดถ้วยจึงทิ้งถ้วยเปล่าอยู่อย่างนั้นก่อนที่จะออกไป จังกึมเข้ามาพบถ้วยจิ๊กโชว่ที่ว่างเปล่าจึงใช้นิ้วมือกวาดไปรอบๆถ้วยและชิม สุดท้ายนางจึงรู้ว่ามันคือจิ๊กโชว์ที่มาจากไหเดียวกับที่มารดานางซ่อนเอาไว้ จังกึมถามนางกำนัลเด็กว่าใครเป็นผู้ใช้จิ๊กโชว่ในถ้วยนี้

ฮันซังกุงหลังกลับมาจากนำอาหารไปถวายพระเจ้าจุงจงและได้รับคำชมเรื่องรสชาติของจิ๊กโชว่ชั้นดี จึงกลับมานำถ้วยเปล่าไปเติมจิ๊กโชว์เพิ่ม ณ ใต้ต้นไม้นั่นเอง ฮันซังกุงพบจดหมายที่จังกึมเขียนหาเพื่อนของมารดานางจึงจะวิ่งไปพบกับจังกึม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่จังกึมวิ่งมาหาฮันซังกุงเช่นกัน ทั้งสองวิ่งมาพบกันกลางทางพอดี ในเวลานี้ต่างฝ่ายต่างก็รู้ถึงความจริงทั้งหมดที่ถูกปิดบังมานานเสียที




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 9 มกราคม 2549 0:05:48 น.
Counter : 25720 Pageviews.  

1  2  3  

AllSTORY
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add AllSTORY's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.