...WelComE To My WorlD...
![]() |
|||
Black Smokers...อะไรเหรอ???
เนื่องจาก ต้องทำรายงานส่งอาจารย์
ก็เลยเอามาลงเป็นความรู้ในนี้ซะด้วยดีกว่า หลังจากที่ไม่ได้อัพบล็อคมานาน ฮ่าๆๆ Black smokers คือ ปล่องบนพื้นทะเลที่เกิดจากของไหลร้อน (hydrothermal fluids) ที่ได้รับความร้อนจากกระเปาะแมกมา (magma chamber) ไหลออกมาจากรอยแตกบริเวณพื้นทะเล เข้าปะทะกับน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า ส่งผลให้เกิดการตกตะกอนที่เป็นกลุ่มแร่ซัลไฟด์ขนาดเล็ก มีสีดำ คล้ายควัน (Black smoke) พบครั้งแรกในปีค.ศ. 1979 โดยยานสำรวจใต้ทะเลลึกชื่อ Alvin ของสหรัฐอเมริกา บริเวณ 21องศาเหนือของ East Pacific Rise โดยทั่วไปแล้วจะเกิดบริเวณสันกลางมหาสมุทร (mid-ocean ridges) และบริเวณ back-arc basin ในส่วนที่เป็นแนวภูเขาไฟใต้ทะเล โดยทั่วไปแล้ว ปล่องเหล่านี้แบ่งออกเป็นสองชนิดคือ Black Smokers และ White Smokers ซึ่ง Black smokers จะมีอุณหภูมิที่สูงกว่า ให้สารประกอบซัลไฟด์และเหล็กออกมาปริมาณมาก และเกิดเป็นตะกอนคล้ายควันสีดำขึ้น ส่วน White smokers นั้นนอกจากจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าแล้ว ปล่องยังมีขนาดเล็กกว่าอีกด้วย แร่ที่สะสมตัวส่วนใหญ่มีสีขาว จึงไม่เกิดควันสึดำขึ้น ซึ่งปล่องทั้งสองชนิดนี้จะก่อตัวสูงขึ้นได้ระยะหนึ่ง และจะพังทลายลงมาเมื่อสูงเกินไป ![]() รูปแสดงบริเวณที่พบ Black smoke Source : //www.gly.uga.edu/railsback/1121MOR&Smoker.jpeg Black smoker ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการสะสมตัวของแร่ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ (ส่วนใหญ่เป็นแร่ที่มีซัลเฟอร์เป็นองค์ประกอบ) และพบสิ่งมีชีวิต รวมไปถึงแบคทีเรียบางชนิดที่ไม่เคยพบที่ใดมาก่อน ซึ่งสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยของเหลวที่มีองค์ประกอบทางเคมีที่เข้มข้นที่ไหลออกมาจากปล่องได้ ![]() รูปแสดงสิ่งมีชีวิต(ปูเยติและหนอนท่อ)ที่พบบริเวณ Black smokers Source : //www.ufoarea.com/main_uniquelife.html ![]() รูปแสดงการพัฒนาของ Black Smokers Source : //www.whoi.edu/oceanus/viewArticle.do?id=2400 การพัฒนาของ Black smokers แบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลัก ดังรูป Stage 1 ของไหลร้อนที่มีแคลเซียมสูง อุณหภูมิสูง (~350oC) ไหลออกมาจากปล่องเข้าทำปฏิกิริยากับน้ำทะเลอุณหภูมิต่ำ (~2 oC) ที่มีส่วนประกอบของสารประกอบซัลเฟตและแคลเซียมสูง ส่งผลให้เกิดการตกตะกอนของแคลเซียมซัลเฟต (anhydrite) นอกจากนี้ยังมีสารประกอบของโลหะกลุ่มซัลไฟด์และออกไซด์เกิดขึ้นอีกด้วย การตกตะกอนอย่างรวดเร็วนี้ส่งผลให้เกิดควันสีดำขึ้นบริเวณปากปล่อง Stage 2 เมื่อปล่องมีการสะสมพอกตัวขึ้น ผนังของปล่องจะถูกพอกด้วย anhydrite และเกิดแร่chalcopyrite (copper-iron sulfide) ตกสะสมโดยฉาบอยู่ภายในปล่อง หลังจากนั้นเมื่อของผสมระหว่างน้ำทะเลกับของไหลร้อนไหลผ่านรูพรุนหรือช่องว่างของปล่อง เกิดการไหลวนและแพร่กระจาย (advection and diffusion) ส่งผลให้เกิดการสะสมตัวของ Zinc sulfides, copper-iron sulfide และ iron sulfide ในรูพรุนนั้น ทำให้ปล่องมีรูพรุนลดลงและมีโลหะสะสมมากขึ้น References Woods Hole Oceanographic Institution, How to Build a Black Smoker Chimney[Online], available at //www.whoi.edu/oce anus/viewArticle.do?id=2400 [December 1,1998] Lamont-Doherty Earth Observatry and the Healy team, Glossary[online], available at //www.earthscape.org/rl/hea01/ hea01r.html#a [2001] Von Damm, K.L., C.M. Parker, R.A. Zierenberg, M.D. Lilley, E.J. Olson, D.A. Clague and J.S. McClain, 2005. The Escanaba Trough, Gorda Ridge hydrothermal system: Temporal stability and subseafloor complexity, p.4971-4984. National Oceanography Center, Hydrothermal vents[Online], available at //www.noc.soton.ac.uk/chess/education/ edu_htv.php [May 2008] K.C. Macdonald, Department of Geological Sciences, University of California, Mid-Ocean Ridge[Online], available at //en carta.msn.com/ encyclopedia_761595522/Mid-Ocean_Ridge.html[2008] Tunnels : ผจญภัยใต้อุโมงค์
![]() เป็นหนังสือเล่มแรก ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่ทำให้เราอ่านแล้ววางไม่ลง ถ้าถามว่า สนุกเหรอ... บอกไม่ถูกแฮะ รู้แค่... เดินเข้าไปในร้านซี-เอ็ด เห็นหน้าปก...สีดำ ตรงสเปค ลองเข้าไปจับๆดู เฮ้ย เอาเล่มนี้แหละ เหมือมีอะไรดึงดูดเราให้ซื้อ ซื้อมาเมื่อวาน เริ่มอ่านเมื่อคืนตอนห้าทุ่ม แล้วก็ไม่หลับไม่นอน เพิ่งจามานอนตอนบ่ายๆ แล้วก็อ่านตอตอนสองทุ่ม จนบัดนี้...อ่านจบแล้ว 520 หน้า กับเวลาที่อ่าน มันดูรวดเร็วเหลือเกิน แต่นับว่า เป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ เพราะเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ขนาดแฮร์รี่ ลอร์ด หรือว่า the dark is rising ยังไม่เคยไม่หลับไม่นอนแบบนี้ มาเข้าเรื่องดีกว่า ชือหนังสือ : ผจญภัยใต้อุโมงค์ (TUNNELS) ผู้เขียน : ร็อดเดริก กอร์ดอน และ ไบรอัน วิลเลียมส์ ผู้แปล : งามพรรณ เวชชาชีวะ สึนามิชายฝั่งทะเลอันดามัน
และก็จาทำโครงงานเกี่ยวกะเรื่องนี้ วันนี้ เลยนำความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากกัน ข้อมูลจาก //www.ipst.ac.th/science/Tsunami.htm ขออนุญาตนำมาปรับภาษาให้ผู้คนทั่วไปเข้าใจง่ายยิ่งขึ้นนะคะ ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลเป็นแนวยาวทั้งทางด้านอ่าวไทยและอันดามัน ชายฝั่งทะเลทางอันดามันมีความสวยงามตามธรรมชาติ ประกอบด้วยหมู่เกาะ หาดทราย และทรัพยากรธรรมชาติอันหลากหลาย ความสวยงามเหล่านี้บางครั้งก็มีสิ่งโหดร้าย เศร้าสลดแอบแฝงอยู่ด้วย ซึ่งได้พิสูจน์ให้คนไทยทั้งประเทศเห็นกัน ดังเช่นเหตุการณ์ที่คลื่นสึนามิถล่มชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เวลาประมาณ 07.58 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) จากข้อมูลของกรมธรณีวิทยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (USGS, 2005) รายงานว่าได้เกิดแผ่นดินไหวมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของหัวเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย(ภาพที่ 1) มีขนาดของแผ่นดินไหว 9.0 ตามมาตราริกเตอร์ ซึ่งจัดเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรง ทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความรุนแรงของแผ่นดินไหวได้ในหลายจังหวัดของประเทศไทย จากแผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้เกิดคลื่นสึนามิ (Tsunami) ตามมาและเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.35 น. คลื่นนี้ได้สร้างความเสียหายบริเวณชายฝั่งทะเลของ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ตรัง และสตูล เป็นอย่างมาก ![]() รูปที่ 1 คลื่นสึนามิเมื่อกระทบฝั่งจะมีความรุนแรงมากทำให้น้ำทะเลโถมเข้าสู่ชายฝั่งอย่างรุนแรงและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พัดพาสิ่งของและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณชายหาดและที่อยู่ห่างออกไปพังทลายเป็นจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิตจากการที่น้ำทะเลได้ไหลทะลักเข้าสู่ชายฝั่ง ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ รวมทั้งหมดกว่า 94,200 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกหลายพันคน (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 7 มกราคม 2548) พร้อมทั้งส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามติดอันดับโลกของประเทศไทยเสียหายเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากสร้างความสูญเสียให้กับประเทศไทยแล้ว ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย มาเลเซีย และพม่า ก็เผชิญกับ เหตุการณ์คลื่นยักษ์นี้เช่นกัน และได้รับความเสียหายที่ไม่อาจประเมินค่าได้ คลื่นสึนามิเกิดขึ้นได้อย่างไร ? สึนามิเป็นภาษาญี่ปุ่น ใช้เรียกคลื่นไหวสะเทือนในทะเล (seismic sea wave) ที่ส่วนมากเกิดจากแผ่นดินไหว โดยบางครั้งอาจเกิดจากแผ่นดินถล่มใต้น้ำทะเล หรืออาจเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำทะเล และอาจเกิดจากภูเขาไฟระเบิดได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่ แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนของพืดหินตามแนวรอยเลื่อนที่สัมพันธ์กับรอยต่อของแผ่นธรณีภาคซึ่งมีหลายรูปแบบ มักจะเกิดในบริเวณที่แผ่นธรณีภาคมุดเข้าหากัน นักธรณีวิทยาได้แบ่งแผ่นธรณีภาคของโลกออกเป็น 2 ประเภท คือ - แผ่นธรณีภาค ภาคพื้นทวีป (continental plate) - แผ่นธรณีภาค ใต้มหาสมุทร (oceanic plate) ทั้ง 2 ประเภทรวมกันมีจำนวนประมาณ 13 แผ่น แผ่นธรณีภาคเหล่านี้มีการเคลื่อนที่ทั้งชนกัน มุดเข้าหากัน และเลื่อนผ่านกันตลอดเวลา ประเทศไทยตั้งอยู่บนแผ่นธรณีภาค ภาคพื้นทวีป ที่เรียกว่า แผ่นธรณีภาคยูเรเซีย ซึ่งมีแนวรอยต่อกับแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร ที่เรียกว่า แผ่นธรณีภาคอินเดีย (ภาพที่ 2) ![]() ภาพที่ 2 แนวรอยต่อของแผ่นธรณีภาคยูเรเซียและแผ่นธรณีภาคอินเดียในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเขตมุดตัวของแผ่นธรณีภาค (subduction zone) ซึ่งแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรที่เรียกว่า แผ่นธรณีภาคอินเดีย จะมุดเข้าใต้แผ่นธรณีภาคยูเรเซีย (ภาพที่ 3) โดยมีแนวอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ขึ้นไปทางทิศเหนือจนเข้าไปถึงแผ่นดินของประเทศพม่าและอินเดีย อัตราการมุดตัวเข้าใต้แผ่นธรณีภาคยูเรเซียจะมีอัตราปีละประมาณ 6 เซนติเมตร (USGS, 2004) และตรงเขตมุดตัวจะเกิดเป็นร่องลึกก้นสมุทร (trench) ซึ่งแผ่นดินไหวส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่นี่ ส่งผลให้เกิดแรงเครียดและมีการสะสมพลังงานในแผ่นที่มุดตัว จนในที่สุดก็จะเกิดคลื่นแผ่นดินไหวขึ้น จากการปลดปล่อยพลังงานเพื่อระบายความเครียดที่สะสมอยู่ภายในโลกจึงทำให้เกิดรอยเลื่อนมากมาย และเกิดรอยแยกและการทรุดตัวของพื้นท้องทะเลอันดามัน ![]() ภาพที่ 3 รอยเลื่อนที่เกิดอยู่ในพื้นท้องทะเลส่วนใหญ่จะเป็นรอยเลื่อนปกติ (normal fault) ซึ่งเป็นการเลื่อนขึ้นลงของพื้นที่ในแนวดิ่ง การเลื่อนนี้จะทำให้พื้นที่ทรุดลง การเคลื่อนที่ของคลื่นสึนามิ ![]() ก. ก่อนที่แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้น ระดับน้ำทะเลและพื้นท้องทะเลจะอยู่ในสภาพปกติ ![]() ข. หลังเกิดแผ่นดินไหว พื้นท้องทะเลเกิดรอยเลื่อนขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นเหตุให้ระดับน้ำทะเลลดต่ำลงชั่วขณะ ![]() ค. น้ำทะเลที่ไหลทะลักเข้ามาในแอ่งเกินกว่าจะรับไว้ได้ ทำให้ระดับน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวสูงขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย ![]() ง. การกระเพื่อมขึ้นลงของระดับน้ำทะเลก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้เกิดคลื่นที่มีแอมพลิจูดต่ำหรือคลื่นมีระดับความสูงต่ำ แต่มีความยาวคลื่นที่ยาวมาก และคลื่นได้แผ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทุกทางเข้าหาชายฝั่งทะเล ข้อแนะนำ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เกิดคลื่นสึนามิเสมอไป แผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดคลื่นสึนามิจะต้องมีขนาดมากกว่า 7.0 ริกเตอร์และเกิดอยู่ใต้ท้องทะเลหรือเกิดอยู่ใกล้ท้องทะเลซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของพื้นท้องทะเลในแนวดิ่งหรือรอยเลื่อนปกติเป็นร่องลึกและเป็นพื้นที่กว้าง |
กบน้อยในกะลาใหญ่
![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |