อ่านแล้วต้องฉลาดขึ้น
อ่านแล้วต้องแข็งแกร่งขึ้น
อ่านแล้วต้องเป็นที่รักมากขึ้น
|
||||
ทฤษฎีสัมพันธภาพวันวาเลนไทน์.... จั่วเรื่องแค่นี้ผู้อ่านที่รักทุกท่านก็รู้ว่าคงเป็นเรื่อง คลื่นแรงโน้มถ่วง... แต่เอาจริงๆนะครับผมฉลาดไม่พอที่จะตรัสรู้สิ่งที่คุณลุงไอน์สไตน์พูดไว้เมื่อร้อยปีที่แล้ว... ขออภัยจริงๆ ทฤษฎีสัมพันธภาพมันลึกซึ้งสุดติ่งกระดิ่งแมวจริงๆใครบอกว่าใจนารีซับซ้อนยิ่งนัก ผมขอท้าให้มาเข้าใจทฤษฎีสัมพันธภาพ แล้วท่านจะเชื่อว่าไม่มีทางที่หัวใจหญิงใดจะซับซ้อนกว่าทฤษฎีหลุมดำการบิดเบี้ยวของ time space หรือคลื่นแรงโน้มถ่วงแน่นอน!! ตอนผมเรียนอยู่ปีหนึ่งที่มหาวิทยาลัยมีคอร์สเรียนทฤษฎีสัมพันธภาพด้วยนะ ทฤษฎีสัมพันธภาพเนี่ยจริงๆแล้วมันถูกแบ่งเป็นสองศาสตร์ใหญ่ๆคือ ทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป (GeneralRelativity) กับทฤษฎีสัมพันธภาพแบบพิเศษ(Special relativity) สิ่งที่ผมพอจะฟังเรื่องนี้แล้วเข้ามาในสมองอันน้อยนิดก็คือทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปกับพิเศษ คนส่วนใหญ่น่าจะคิดว่าแบบพิเศษคงยากกว่า... แต่ความจริงคือทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปยาก ซับซ้อนโหดร้ายและทำร้ายเกรดเฉลี่ยของนักเรียนกว่าฝั่งทฤษฎีสัมพันธภาพแบบพิเศษมากกกกก ทฤษฎีสัมพันธภาพแบบทั่วไปมีใจความสำคัญคือจะพูดถึงมวลของวัตถุที่จะทำให้ระนาบแห่งช่องว่างและกาลเวลาบิดงอ (เป็นไงล่ะ.. เจอแค่ประโยคนี้ก็เครียดแล้ว) ซึ่งมันเป็นโชคดีของมวลมนุษยชาติในปี2016จริงๆ ที่เหตุการณ์การ ฟิกเจอร์ริ่งของหลุมดำ เมื่อกว่าพันสามร้อยล้านปีที่แล้ว ที่เป็นรูปคลื่นสวยงามมาโผล่ให้พวกเราเห็นวันนี้พอดี!! เข้าใจว่าผู้อ่านทุกท่านคงอ่านข่าวและเข้าใจเรื่องคลื่นแรงโน้มถ่วงไปแล้ว...ใครไม่เข้าใจ ไม่เป็นไร คนเกินครึ่งสุริยจักรวาลก็คงไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับ เพราะไอ้เรื่องคลื่นแรงดึงดูดที่เป็นข่าวอึกทึกครึกโครมสะเทือนจักรวาลอยู่เนี่ยจะอยู่ในฝั่งที่พิสูจน์ว่าทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปของคุณไอน์สไตน์เป็นจริง... กล่าวคือมวลของวัตถุ→ทำให้เกิดแรงโน้มถ่วง→ สามารถทำให้ระนาบแห่งช่องว่างและกาลเวลาบิดเบือน→ แต่ถ้าวัตถุมีการสั่นไหว(โปรดอย่าถามผู้เขียนว่าสั่นยังไง... ขึ้นๆลงๆ หรือซ้ายขวาๆหรือวัตถุต้องใหญ่แค่ไหน) →รู้แค่ว่าถ้ามันสั่นไหวการบิดงอ บิดเบือนของspace-time (ระนาบแห่งช่องว่างและกาลเวลา) จะกระจายเป็นรอนคลื่น และวันนี้ นักวิทศาสตร์อเมริกาก็มีหลักฐานว่ามันเป็นรอนคลื่นจริงๆ!! จบข่าว เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันนะครับ... เอาล่ะส่วนทฤษฎีสัมพันธภาพแบบพิเศษล่ะ? มันจะเป็นเรื่องที่มนุษย์ที่ยังพอเป็นปุถุชนพอเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อย่างสมการที่ทำให้พวกเรารู้จักคุณไอน์สไตน์และเป็นสมการสุดสุโค่ยของโลกใบนี้ก็คือe=mc2 แต่อย่าไปเข้าใจว่าคุณไอน์สไตน์คิดมาแค่e=mc2 แล้วเป็นอัจฉริยะนะครับจริงอยู่ว่าถึงแม้ผมจะบอกว่าทฤษฎีสัมพันธภาพแบบพิเศษจะง่ายอยู่ แต่จริงๆแล้วมันก็ (โคตร) ยากกว่านี้ไอ้สมการแค่บรรทัดเดียวนี้มาก นี่คือตัวอย่างบางส่วนจากหนังสือเรียนที่ผมอุตส่าห์ไปขุดมาให้ละลึกชาติความโหดร้ายตอนเราเรียนมหาลัย สุดท้ายนี้... ไหนๆ ก็วาเลนไทน์เนอะ... ผู้เขียนฉลาดไม่พอจริงๆ ที่จะเอา ทฤษฎีสัมพันธภาพ มาอธิบายหรือผูกกับทฤษฎีความรักอะไรทั้งนั้น... แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือ... หากเราพอเข้าใจทฤษฎีสัมพันธภาพภาคพิเศษอยู่บ้าง เราจะทราบว่าเมื่อ เราเดินทางในจรวดอย่างเร็วมาก เร็วมากก มากกๆๆๆ เวลาจะไหลช้าลง จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพคือ หากเราอยู่ในจรวดที่วิ่งเร็วมหาศาล... เวลาลูกโป่งแตก การเดินของเข็มนาฬิกาบนจรวด การเต้นของหัวใจ หรือทุกเหตุการณ์จะเหมือนเป็นภาพสโลว์โมชั่น นั่นคือทำให้เวลาของเราช้ากว่าคนที่อยู่บนโลกจริงๆ !! เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงเคยได้ยินหรือรู้กันแหล่ะ นั่นหมายความว่าเราสามารถเดินทางไปสู่อนาคตได้เพราะเมื่อเราเดินทางเร็วมากๆ เวลาของเราจะไหลช้าลง ทำให้เราเดินทางไปยังโลกอีกร้อยปีทั้งๆ ที่เวลาของเราเพิ่งผ่านไปแค่ปีเดียวก็เป็นได้... !!
นี่คือสิ่งที่อัจฉริยะที่สุริยจักรวาลของเรายอมรับ ... กล่าวไว้เป็นนัย.. แต่พวกเราอาจจะนึกไม่ถึง ! ดังนั้น... วาเลนไทน์นี้.. ไอน์สไตน์บอกพวกเราแล้วนะครับ... ว่าเราแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงความรักในอดีตไม่ได้...ขอให้มีความสุขกับวาเลนไทน์ในระนาบแห่งช่องว่างกาลเวลาในปัจจุบันนะครับ !! |
Green Albatross
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |