' ขอบคุณทุกท่านที่คอมเม้นท์ ^^ '
 

Almost Famous : ชีวิตนี้เป็นของเรา !



เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของคาเมรอน โครว์ หลังจากได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากเรื่อง Jerry Maguire ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวในยุคของร็อค แอนด์ โรล โดยในหนังนั้นจะเป็นปี 1973 ซึ่งเด็กผู้ชายอายุ 15 ปี ชื่อวิลเลี่ยม รับบทโดย แพ็ทริก ฟูกิท เพราะความรักในเสียงดนตรีอันแรงกล้าของ วิลเลี่ยม จึงทำให้เขาได้รับงานจากแม็กกาซีนชื่อดัง Rolling Stone ให้ทำการสัมภาษณ์วง Stillwater ซึ่งประกอบไปด้วย มือกีตาร์ รัสเซล แฮมมอนด์ รับบทโดย บิลลี่ ครูดับบ์ นักร้องนำ เจฟฟ์ เบ็บบ์ รับบทโดย เจสัน ลี หนุ่มน้อยวิลเลี่ยมได้มีโอกาสติดตามวง Stillwater อย่างใกล้ชิดไปตามทัวร์คอนเสิร์ตต่าง ๆ

ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะคัดค้านอย่างหัวชนฝาก็ตาม แต่เขาก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากแฟนเพลงของวง Stillwater ชื่อเพนนี เลน ไม่นานนัก วิลเลี่ยมก็ค้นพบว่าชีวิตเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกวง Stillwater เข้าเสียแล้วโดยไม่รู้ตัว ซึ่งมันก็มีผลทำให้เขาไม่สามารถทำหน้าที่นักข่าวที่ Rolling Stone มอบหมายให้ได้อย่างเต็มที่

ในขณะเดียวกันก็เข้าไปพัวพันมีส่วนร่วมกับคนในวงมากขึ้นทุกวันๆ นักข่าวดาวรุ่งสมัครเล่นอย่างวิลเลี่ยม จึงสูญเสียเนื้อข่าวชิ้นเอกของเขาไป แต่เขาก็ได้เรียนรู้ถึงบทเรียนแห่งชีวิต และความสำคัญของครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งอันล้ำค่าที่คนเราได้รับเป็นมรดก และเป็นสิ่งที่เราได้สร้างขึ้น




ภาพยนตร์เรื่องนี้ผลักดันให้สาวยิ้มสวย เคท ฮัดสัน ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาดาราประกอบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม ถ้าถามว่าเธอสมควรได้ไหม ต้องตอบเลยว่า สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฉากที่เธอชักดิ้นชักงอจะตาย มันเป็นการแสดงที่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเหมาะสมกับสุดยอดรางวัลแห่งวงการภาพยนตร์อย่างแท้แน่นอน ในตอนแรกก่อนที่จะเริ่มชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เห็นว่าเอาเคทขึ้นหน้าโปสเตอร์เลย ก็นึกว่าจะเอาเคทมาเป็นนักร้องอะไรแบบนี้เนื่องจากไม่ได้อ่านเรื่องย่ออะไรมาก่อนเลย

ไม่ชอบการแบ่งบทของหนังนั่นก็คือเปิดเรื่องมาด้วยครอบครัว มิลเลอร์ และตัวหนังได้โฟกัสไปที่ ซูอี้ เดสชาแนลต์ สาวตาสรฟ้าโตกลมสวยงามน่ารักแอ๊บแบ๊ว แต่หลังจากตอนแรกเป็นต้นไป เราก็จะไม่ได้เห็นเธอเลย จะออกมาแค่ตอนกลางและตอนหลังอีกที ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดใจผู้ชมเอามาก ๆ ก็ตอนแรกเล่นโฟกัสไปที่เธอแล้ว กลับทำให้เธอหายไปกลับกลีบเมฆ และโฟกัสมาที่น้องของเธอแทนผู้ที่ไล่ตามความฝันของตัวเอง ไม่ใช่ความฝันของแม่ ที่ต้องการให้เป็น 'ทนาย' เฉนกเช่นเดียวกับพี่สาวของเธอที่แม่ฝันให้เป็น แอร์ฮอสเตดจ์ แต่เธอไม่อยากเป็น เธออยากเป็นกรู๊ปปี้ ( อยากรู้ว่าคืออะไรต้องติดตามชมในภาพยนตร์! ) แต่ในตอนหลัง เธอก็เป็นแอร์สมใจแม่อยู่ดี ทั้ง ๆ ที่บอกน้องว่า อย่าทำตามแม่สั่ง แต่จงทำตามความฝันของตัวเอง ในตอนจบที่น้องมารอเธอที่แอร์พอร์ต เธอบอกกับน้องว่า '' เธอเก่งมาก ที่เป็นอิสระจากแม่ได้ '' ให้ความหมายนัย ๆ ว่าเธอนั้นทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนเริ่มเอง เป็นคนสอนน้องให้หัวดื้อ หัวแข็ง หัวรั้นเอง

อีกเรื่องที่ชอบก็คือการถ่ายทอด บรรยากาศของภาพยนตร์ ผู้กำกับสามารถทำให้ผู้ชมได้ลิ้มรสชาติของภาพยนตร์ดนตรีปี 2000 ออกมาได้อย่างดี(มาก) ได้อารมณ์ภาพยตร์ดราม่ามิวสิค แต่ถ้าคุณไม่เคยได้ลิ้มรสชาติภาพยนตร์แบบนี้สามารถหาชมได้จาก Once ซึ่งหาชมได้ง่ายกว่า Almost Famous เยอะหลายร้อยเท่า ถ้าคุณเป็นแฟนเคทฮัดสันห้ามพลาดเรื่องนี้เพราะว่าเรื่องนี้เป็นผลงานแจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ของเธอ ถ้าคุณชอบภาพยนตร์บรรยากาศสงบ ๆ ดนตรี เรื่องนี้แหละ มันจะทำให้คุณ ได้รู้ซึ้งถึง เสียงเพลง

คะแนน
ความสนุก : 8 / 10
การแสดง : 10 / 10
บทของภาพยนตร์ : 8 / 10
การดำเนินเรื่อง : 7.5 / 10
การถ่ายทำ : 10 / 10
โดยรวม : 43.5 / 50




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 22:30:29 น.
Counter : 1235 Pageviews.  

+++ Transformers: Revenge of the Fallen : แค่เห็นวิทยาลัยก็รู้สึกเป็นปัญญาชนแล้ว +++



สองปีผ่านไป นับแต่หนุ่มน้อย แซม วิทวิคกี้ (ไชอา ลาบัฟ) ได้ช่วยจักรวาลให้รอดพ้นจากศึกขั้นเด็กขาดระหว่างหุ่นยนต์จากต่างดาวที่กำลังสู้รบกันอยู่ แม้จะสร้างวีรกรรมอันกล้าหาญสุดขั้วมาแล้ว แต่แซมยังคงเป็นวัยรุ่นธรรมด๊าธรรมดาที่มีปัญหาว้าวุ่นใจไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย การต้องทิ้ง มิเกล่า (เมแกน ฟ็อกซ์) แฟนสาวของเขาเอาไว้ที่บ้านเกิด และต้องแยกห่างจากพ่อแม่ของเขา (เควิน ดันน์ และ จูลี่ ไวท์) เป็นครั้งแรก แน่นอน ยังมีเรื่องหนักใจอื่นๆ อีกเมื่อแซมต้องพยายามอธิบายให้เพื่อนใหม่ของเขาฟังว่าทำไมเขาถึงต้องจากมา เพื่อนคนใหม่ที่ว่าก็คือหุ่นยนต์ที่คอยคุ้มครองดูแลเขาอย่างบัมเบิลบี สำหรับแซมแล้ว เป้าหมายของเขาก็คือการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างเด็กนักศึกษาธรรมดาๆ แต่การจะทำตัวให้ธรรมดาได้ เขาต้องทำเป็นไม่สนโชคชะตาของตัวเขาเองเสียก่อน

ขณะที่แซมพยายามทำดีที่สุดเพื่อทิ้งปัญหาต่างๆ เอาไว้ที่มิสชั่นซิตี้ และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อย่างไรก็ดี สงครามระหว่างพวกออโต้บ็อทส์ กับดีเซ็ปติคอนส์ ซึ่งดำเนินไปอย่างลับๆ ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย เซ็คเตอร์ 7 ถูกยุบไป และ เจ้าหน้าที่ซิมม่อนส์ (จอห์น เทอร์เทอร์โร่) นายทหารผู้ภักดีกับเซ็คเตอร์ 7 ถูกไล่ออก และที่ถูกตั้งขึ้นมาแทนที่ก็คือเนสท์ (NEST) องค์กรใหม่ ซึ่งเลือกใช้งานนายทหารผู้มีประสบการณ์ภาคสนามอย่าง เลนน็อกซ์ (จอช ดูฮาเมล) และ เอ็ปป์ส (ไทรีส กิ๊บสัน) พยายามหาวิธีทำงานเคียงข้างไปกับกลุ่มออโต้บ็อทส์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกดีเซ็ปติคอนส์

โชคร้ายที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ธีโอดอร์ กัลโลเวย์ (จอห์น เบ็นจามิน ฮิคกี้) เหมือนจะเล็งเห็นถึงอันตราย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยึดครองอำนาจควบคุมขององค์กรทุกหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม รวมไปถึงอำนาจของแต่ละองค์กรเหล่านั้น ขณะเดียวกันก็จะได้กำจัดหน่วยงานรัฐบาลที่เขาเห็นว่าไม่มีความสำคัญทิ้งไป กัลโลเวย์จึงพยายามปิดเนสท์ทิ้ง โดยเขาเชื่อว่าภัยคุกคามจากสงครามที่สร้างความวอดวายของกลุ่มหุ่นยนต์ต่างดาวสองกลุ่มนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขาเชื่อว่ามนุษย์ไม่สนใจในความขัดแย้งที่ออโต้บ็อทส์มีต่อพวกดีเซ็ปติคอนส์

เมื่อชีวิตของแซมในที่เรียนใหม่เริ่มเข้าที่เข้าทาง โดยเขาสามารถปรับตัวเข้ากับ ลีโอ (ราม่อน ร็อดริเกซ) เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่เป็นจอมจุ้นจ้าน และ อลิซ (อิซาเบล ลูคัส) เพื่อนสาวคนใหม่ที่จุ้นพอกัน แต่พอดีเป็นผู้หญิงเลยน่าสนใจกว่า จู่ๆ แซมก็เกิดความว้าวุ่นขึ้นอีกจนได้เมื่อเขาเห็นภาพที่แว่บขึ้นมาในหัวของเขาราวกับสายฟ้าแล่บ ด้วยความหวาดกลัวว่าเขาอาจกำลังวิกลจริตเหมือนปู่ของเขา แซมจึงเก็บภาพที่เขาเห็นในหัวเอาไว้เป็นความลับ จนกระทั่งเขาไม่อาจทนเมินเฉยต่อข้อความและสัญลักษณ์ที่แทรกซึมเข้าไปในความคิดของเขาได้

ถึงจะวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่แซมพบว่าเขาต้องไปติดอยู่กลางศึกระหว่างออโต้บ็อทส์และดีเซ็ปติคอนส์โดยมีชะตากรรมของจักรวาลเป็นเดิมพันอีกเช่นเคย แต่ที่แซมยังไม่รู้ก็คือเขาคือผู้กุมกุญแจที่จะไขไปสู่ผลลัพธ์ของการทำศึกระหว่างความชั่วและพลังแห่งความดี ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ รวมไปถึงเพื่อนที่เนสท์ และแม้กระทั่งพ่อกับแม่ของเขาเอง ในที่สุด แซมก็ได้เรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นวิทวิคกี้ที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด เขาไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนตัวเองจากคำขวัญประจำตระกูลที่ว่า "ไม่เสียสละ ชัยชนะไม่เกิด!" อีกต่อไป



*** สปอยส์ ***

เมื่อไปถึงโรงภาพยนตร์ต้องร้องว่า โอ้ ทำไมคนเยอะเช่นนี้ คับคั่งมาก ๆ เหมือนตอนที่ X-Men : The Last Stand หรือ Spiderman 3 เป็นต้น แต่เมื่อเริ่มชมหนัง สามารถเปิดตัวมาได้ด้วยดี ด้วยฉากหุ่นยนตร์กำลังถล่ม เซี่ยงไฮ้ อย่างที่ไมเคิล เบย์ ได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า Transformers ภาค 2 นี้จะมีทุกอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ตลก เศร้า หรือ แอ๊คชั่น อย่างบ้าระห่ำ ด้านอารมรณ์ตลก ไมเคิลสามารถทำออกมาได้ดีโดยเฉพาะตลกกับครอบครัวของแซม หรือเจ้าหนูโมโจ เป็นต้น ส่วนพ่อของแซมก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ จะมีอะไร เป็นตายหมอบไว้ก่อน หรือฮากับเจ้าสองฝาแฝด เขียวชมพู สุดป่วน!

ส่วนด้านอารมณ์ความเศร้าตัวหนังยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ยังไม่ถึงจุดที่จะทำให้ผู้ชมเศร้าตามได้ อย่างเช่นฉากตอนจบที่ แซม ตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ ดูเหมือนว่าอารมณ์ความเศร้ามันรวบรัดเกินไปนิดนึง แต่ทางด้านแอ็คชั่นเมามันส์ในภาคนี้ทำออกมาไม่มาก ไม่น้อย แต่ในภาคแรก ใส่เข้ามาจนผู้ชมเลี่ยนแหวะกับฉากแอ็คชั่น จนมาขาหักในตอนจบภาค 1 ที่พยายามจะทำให้ผู้ชมมันส์ไปด้วย แต่กลับรู้สึกว่ามันมากเกินไป ส่วนตัวแล้วชอบภาคสองมากกว่าภาคแรก ทั้งด้านการแสดง หรือการดำเนินเรื่อง ลืมกล่าวถึงการดำเนินเรื่องไปเลย การดำเนินเรื่องออกมาคล้าย ๆ กับภาคหนึ่ง ดีเสมอต้น และเสมอปลาย

และอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือด้านหุ่นยนตร์การออกแบบ การสร้าง คอมพิวเตอร์กราฟฟิคต์ ทั้งหลายออกมาเนียนสมจริงมาก ๆ และหุ่นยนตร์ก็ออกมาฮา ๆ ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้ารถไอติม หรือรถต่าง ๆ นานาและฉากที่ฮาอีกฉากก็คือ 2 ฝาแฝดแย่งรถกัน ที่ต่อยกัน มันทำเหมือนเป็นคนเหมือนกัน และได้ใจด้านความรู้สึกของหุ่นยนตร์เข้าไปอีก

คะแนน
ความสนุก : 10 / 10
การแสดง : 8.5 / 10
บทของภาพยนตร์ : 8 / 10
การดำเนินเรื่อง : 10 / 10
การถ่ายทำ : 10 / 10
โดยรวม : 46.5 / 50




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2552    
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 19:53:02 น.
Counter : 556 Pageviews.  

+++ Role Models : ถ้าเราทำมันแล้วมีความสุข แล้วจะหยุดทำไม ? +++



แดน นี่ กับวีลเลอร์ คือเพื่อนซี้ที่เมาแล้วทำผิดกฎหมายจนศาลต้องทำโทษเขาด้วยการให้ทั้งคู่จำคุก แต่แฟนสาวของแดนนี่ เบธ ทนายสาวไฟแรง เป็นผู้ขอให้ศาลลดโทษให้เป็นการ บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นเวลา 150 ชั่วโมง นั่นก็คือการเป็นพี่เลี้ยงและครูที่ปรึกษาของเด็กๆ



ภาพยนตร์คอมเมดี้ ติดเรท R ที่ดูเรื่องนี้ด้วยเหตุผลสองประการณ์ก็คือ Paul Rudd และสาวสวยบลอนด์น่ารัก Elizabeth Banks นั่นเอง และหนึ่งหนุ่ม หนึ่งสาวสองคน คู่หูนี้ ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี ทำให้ผู้ชมเอาใจช่วย คอยสงสาร คอยติดตามหนุ่ม Paul ไปเรื่อย ๆ เพราะว่าการแสดงและบทของเขา ออกมาเพื่อทำให้ผู้ชมรักชัด ๆ ส่วนการดำเนินเรื่องจะบอกว่า ลื่นไหล ปลาไหลไฟฟ้ามากมาย ไม่มีจุดเบื่อเลยซักนิด พาเพลินชวนชน ไปได้ตลอด

สำหรับเนื้อเรื่องของหนังก็ไม่มีอะไรมาก อย่างที่อ่านเนื้อเรื่องย่อไปแล้ว หลายคนอาจจะบอกว่า อุ๊ย หนังแบบนี้ ไม่ดูดีกว่า เดาเรื่องได้ง่าย ๆ มันก็ง่ายจริง ๆ แหละ แต่ตอนที่คุณกำลังรับชมภายพนตร์เรื่องนี้ จะไม่มีช่วงไหนเลย ที่คุณจะนึกว่า ตอนจบเป็นไง ? เพราะว่ามันจะพาคุณไปสู่ตอนจบ โดยคุณไม่ต้องพยายาม แต่ยังจบได้น่ารัก รับรอยยิ้มอีกด้วยส่วน Rate : R ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มา มันก็แค่สองฉากเท่านั้นเอง แค่เห็นเต้า เต็ม ๆ ตาก็แค่นั้น สองฉากไม่มีอะไรมากกว่านี้แน่นอน

ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดีสำหรับเรื่องนี้อยากจะบอกสั้น ๆ ว่า ห้ามพลาด!



คะแนน
ความสนุก : 10 / 10
การแสดง : 9 / 10
บทของภาพยนตร์ : 8 / 10
การดำเนินเรื่อง : 10 / 10
การถ่ายทำ : 9 / 10
โดยรวม : 46 / 50




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2552    
Last Update : 21 มิถุนายน 2552 21:02:24 น.
Counter : 372 Pageviews.  

+++ Terminator Salvation : พวกเราทุกคนต้องตาย .. +++



ใน Terminator Salvation : The Future Begins คอนเนอร์ได้พบกับ มาร์คัส ไรท์ ( แซม เวิร์ทธิงตัน) ชายหนุ่มลึกลับผู้ที่ความทรงจำครั้งสุดท้ายของเขาก็คือการอยู่ในแดนประหารนักโทษ แล้วความเชื่อของ คอนเนอร์ ก็ต้องถูกท้าทาย เมื่อพบว่า แซม คือผู้ที่ถูกส่งตัวข้ามกาลเวลามาช่วยเขา แต่จากเวลาช่วงไหนล่ะ อดีตหรืออนาคตกันแน่ และเมื่อสกายเน็ตเตรียมการที่จะกวาดล้างมนุษย์ครั้งสุดท้าย คอนเนอร์กับมาร์คัสต้องผนึกกำลังกันเดินทางฝ่าอันตรายสู่ใจกลางของ สกายเน็ต ที่ซึ่งพวกเขาได้ค้นพบความลับอันน่ากลัวที่อยู่ เบื้องหลังการทำลายล้างมนุษยชาติ



ที่เค้าไปเรื่องนี้ด้วยเหตุผล 2 ประการก็คือ ประการแรกก็คือดูมาแล้วทุกภาค แล้วจะพลาดภาคนี้ได้อย่างไร และเหตุผลประการที่สองก็คือ Christian Bale และ Bryce Dallas Howard มาร่วมแสดงด้วย แบบนี้ยิ่งพลาดไม่ได้เข้าไปใหญ่ แต่ที่พลาดก็คือ ดูช้าไปนิส ตอนแรกได้รับคำวิจารณ์ว่าน่าผิดหวังบ้าง ห่วยบ้าง ไม่สนุกบ้าง ไม่อินบ้าง และหลังจากดูจบก็มายืนยันคำวิจารณ์เหล่านั้นว่า 'ไม่อิน' อย่างร้ายแรง ไม่อินตั้งแต่ต้นเรื่อง ตัวหนังไม่มีอารมณ์ ไม่สเน่ห์ บู๊ ๆ อย่างเดียว ไม่สนคนดู

และหลังจากดูจบก็เกิดอาการชอบ Sam Worthington ขึ้นมาทันใด ด้วยบทบาทที่น่าเอาใจช่วย น่าตื่นตา น่าสนใจ น่าสงสารกว่า Christian Bale และที่ชอบอีกอย่างก็คือ CG (Computer Gragphic) ตอนฉากเอา T-800 ออกมาหรือ ลุงอาโนลด์ นั่นเอง ทำออกมาเหมือนจริงมาก ต้องตบมือ แปะๆ



คะแนน
ความสนุก : 6 / 10
การแสดง : 8 / 10
บทของภาพยนตร์ : 7 / 10
การดำเนินเรื่อง : 7 / 10
การถ่ายทำ : 9 / 10
โดยรวม : 37 / 50




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2552    
Last Update : 16 มิถุนายน 2552 17:26:57 น.
Counter : 443 Pageviews.  

+++ The Girl Next Door : ฉันชอบสายตาที่คุณมองมา +++



หนุ่มน้อยไฮสคูลปีสุดท้ายไม่เคยพบความสนุกในชีวิต ได้รู้จักกับ แดเนี่ยลส์ สาวน้อยวัย 19 ปีผู้สดใส ที่ทำให้แมทธิวรู้จักความรัก แต่เมื่อแมทธิวพบว่าแดเนี่ยลส์เคยเป็นนางเอกภาพยนตร์โป๊มาก่อน เขาจะรับเธอได้หรือไม่ หรือว่าเขาจะทิ้งความสุขที่สุดในชีวิตไป?



ตอนแรกเลย นึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะมีอะไรที่มากกว่านี้ คือมันเหมือน เนื้อเรื่อง นางเอก ไม่น่าเอาใจช่วยเลยซักนิด แบบว่า จะยังไงก็เรื่องของเธอสิยะ จะเป็นตายร้ายดี ยังไงก็ช่าง ทั้ง ๆ ที่ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบ Elisha นะ ไม่ได้เกลียดอะไรเธอ ชอบออกด้วยซ้ำ แต่เนื้อเรื่องแบบว่าค่อนข้างรับไม่ได้ พล็อตเรื่องเดิม ๆ การดำเนินเรื่องน่าเบื่อ ๆ ความคาดหวังในตอนแรกคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่แปลกออกไป แต่นี่ ไม่น่าเอามาฉายเป็นภาพยนตร์เลยด้วยซ้ำ น่าจะฉายในทีวีแบบ HSM 1 - 2 เป็นต้น

ส่วนการแสดง การคัดเลือกนักแสดงมารับบทก็ถือว่าเลือกมาดั ทุก ๆ คนเหมาะกับบทหมด แต่ที่ไม่ชอบเกี่ยวกับตัวละครก็คือ เหล่าเพื่อนก๊วน ๆ พระเอก อยากบอกว่า น่ารำคาญ จัง เอามาทำไม ก็รู้นะว่าต้องการสื่อให้ถึง ชีวิตเด็กไฮสคูล ต้องมีเพื่อนมาวุ่นวายเป็นธรรมดา แต่บทของเพื่อนพระเอกนี่สิ ย่ำแย่ ที่สุดน่าเบื่อ แบบว่าหน้าตาคนเล่นก็ ... ? ไม่อยากจะพูด

ทิ้งท้าย .. ถ้าชอบ Elisha ก็อย่าพลาด แต่ถ้าเฉย ๆ กับดาราทุกคน พลาด ๆ ไปก็ไม่เสียหาย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาดูหนังแบบนี้ ผิดหวังขั้นรุนแรงที่สุด ดูจบแล้วไม่ประทับใจ ไม่ปิติ ปราบปลื้มอะไรทั้งสิ้น



คะแนน
ความสนุก : 4.5 / 10
การแสดง : 7.5 / 10
บทของภาพยนตร์ : 5 / 10
การดำเนินเรื่อง : 5 / 10
การถ่ายทำ : 6 / 10
โดยรวม : 28.5 / 50




 

Create Date : 13 มิถุนายน 2552    
Last Update : 13 มิถุนายน 2552 20:59:19 น.
Counter : 788 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  
 
 

uptownearth
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add uptownearth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com