' ขอบคุณทุกท่านที่คอมเม้นท์ ^^ '
 
+++ Cellular & Push & Sunshine : สามเรื่องกับ Chris Evans +++

ขอแบบทีเดียวสามเรื่องเลยก็ได้แล้วกัน บอกก่อนเลยว่าที่มาดู 3 เรื่องนี้ก็เพราะว่า Chris Evans หนุ่มเผือกสุดหล่อล่ำ กินใจนั่นเอง และบอกก่อนเลยว่า 3 เรื่องนี้ชอบ Cellular มากกว่าใครเพื่อน เพราะว่าอีกสองเรื่องเข้าขั้น ' ไม่ต้องดูก็ได้นะ ' เพราะว่าไม่ได้น่าจดจำอะไร


' แปลก และน่าติดตาม ชวนฉะหงน '

ถ้าคุณได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า พร้อมกับเสียงปลายสายที่ร้องขอให้คุณช่วยชีวิตเธอ คุณจะวางสายทันที โดยคิดว่าเป็นพวกเล่นตลกหรือเปล่า? ถ้าคนที่โทรมาพูดจริง และคุณเป็นความหวังเดียวของเขา คุณจะทำอย่างไร? ... เจสซิก้า มาร์ติน ครูสอนวิทยาศาสตร์ และเป็นแม่ที่มีชีวิตสงบสุข แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน เมื่อเธอถูกลักพาตัวไปยังที่ที่เธอไม่รู้จัก เจสซิก้าพยายามประกอบโทรศัพท์ที่แยกส่วน และแอบสุ่มโทรเพื่อขอความช่วยเหลือ ไรอัน ชายหนุ่มที่รับโทรศัพท์ และพบว่าตัวเขาเองคือความหวังเดียวที่เธอมี การสุ่มโทรมายังโทรศัพท์ของเขา ทำให้เขาตกอยู่ท่ามกลางการเดิมพันแข่งกับเวลา เพื่อช่วยชีวิตหญิงคนหนึ่ง ไรอันตกอยู่ในโลกของการหลอกลวงและฆาตกรรม ในการตามหาและช่วยชีวิตเธอ ชีวิตของเจสซิก้าและครอบครัวของเธอ ตกอยู่ในมือของเขา แต่อะไรหละที่กำลังรอเขาอยู่? เขาต้องทำเพื่อให้รู้ให้ได้!

การเปิดตัวของเรื่องถือว่าเปิดตัวมาได้ดีไม่ได้เปิดตัวมาได้น่าเบื่อ บอริ่งค์แบบ Sunshine เอาไว้จะสับในหัวข้อนั้นดีกว่า และเนื้อเรื่องตั้งแต่ฉากที่พระเอกได้รับโทรศัพท์ เพิ่มความเข้มข้นทำให้มีรสชาติมากขึ้นและน่าติดตาม แต่ไม่รู้ว่าน่าเอาใจช่วยยังไงไม่รู้ เหมือนกับว่าผุ้กำกับยังขาด ชูรสด้านเอาใจช่วย ไปจากตัวภาพยนตร์ และถ้าคิดจะดู Chris Evans เรื่องนี้เหมาะมาก กำลังหนุ่ม ๆ แถมบทตัวละครที่เค้าได้รับนั้นยังชวนให้ผู้ชมรักอีกด้วย และอีกอย่างที่ไม่ชอบเกี่ยวกับ Cellular ก็คือ ' เวอร์ไปไหม ' เหมือนกับ แค่เรื่อง มีคนถ่ายวีดีโอตำรวจกระทืบ ประชาชนก็แค่นั้น ไล่ล่ากันยังก่ะ มีเรื่องใหญ่ บินลาเดน จะถล่ม แมนฮัดตัน ซะอย่างนั้น เหมือนกับผู้กำกับสร้างอารมณ์กับผู้ชมด้านนี้เกินไป แต่สุดท้ายก็ออกมาสนุกดี

คะแนน
ความสนุก : 9 / 10
การแสดง : 8 / 10
บทของภาพยนตร์ : 7.5 / 10
การดำเนินเรื่อง : 7 / 10
การถ่ายทำ : 7.5 / 10
โดยรวม : 39 / 50


' ทำให้เกิดอารมณ์ แต่ไม่มีอะไรตามมา '

เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่รัฐบาลทั่วโลกต่างค้นคว้าวิธีการใช้พลังจิตให้ได้ผลสุงสุด เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธต่อสู้กับศัตรู หรือแม้แต่มิตร ในปี 1945 พรรคนาซีเริ่มพัฒนานักรบพลังจิต จากนั้นไม่นาน โซเวียตและอเมริกาก็เริ่มทำการวิจัยอย่างลับๆ รวมไปถึงโครงการฉาวอย่าง MK-Ultra ที่ทดลองด้านควบคุมจิตใจคน เพื่อสร้างสายลับพลังจิต ที่จะสอดแนมได้โดยที่ไม่มีใครรู้ .. เมื่อโลกมาถึงยุคของสายลับพลังจิตที่ใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ การล่วงรู้อนาคต การสร้างความเป็นจริงขึ้นใหม่ หรือแม้แต่การฆ่าคนโดยที่ไม่ได้แตะต้องเหยื่อ หรือเปลี่ยนคนให้เป็นอาวุธหรือเป้าหมายได้
พุช โคตรคนเหนือมนุษย์ เมื่อหนึ่งหนุ่มและหนึ่งสาวที่มีพลังพิเศษต้องต่อสู้กับองค์กรลับโดยมีอนาคตของโลกเป
็นเดิมพัน

ภาพยนตร์ฮีโร่ที่ถูกจับตามองอย่างมากในประเทศไทย ( คนไทยชอบหนังแบบนี้นิหน่า ) ขอบอกเลยว่าในเรื่องนั้น Action ทีไรมันส์ทุกที และอย่างที่กล่าวไปตรงหัวข้อ ' ทำให้เกิดอารมณ์ แต่ไม่มีอะไรตามมา ' มันใช่เลย มันเหมือนกับ ตัวหนัง ทำให้คนกระหายจะดูฉาก Action แต่ดันเอาฉาก Drma เสวนา เพลินปาก มาใส่ ( เล่นเอาเจ้าของบล็อกต้องแอบ กอ นิดนึง เวลาคุยกัน น่าเบื่อและไม่มีสาระ เหมือนกับว่าไม่ดูฉากนี้ก็รู้เรื่องวะ ) สิ่งที่ชอบที่สุดในเรื่องก็คงเป็น นักแสดงนำ Chris Evans และ Dakota Fanning และก็อีกอย่างก็คือ พลังวิเศษ ชอบมาก หลาย ๆ คนที่ดูเรื่องนี้คงพากันหมั่นไส้นางเอกแน่ ๆ เลย
และที่ขัดกันอย่างร้ายแรงแบบรับไม่ได้ในเรื่องก็คือ การถ่ายทำในประเทศจีน รับไม่ได้สุด ๆ มุมสวยไม่มีหรือไร ต้องไปถ่ายแต่สลัม ถ้าบู๊กันกลางเมืองก็จะพอทำเนาแต่นี่ สลัมด๊อก มากมาย และตัวละครที่ไม่น่ามาก็คือ 'ตระกูลพลังเสียง มารายห์ แคร์รี ยังอาย' แบบว่าน่ารำคาญมันจริง ๆ เอามาทำไมให้เกะกะ ไม่มีมันเรื่องก็ไม่ขาด ๆ หาย ๆ อะไร

คะแนน
ความสนุก : 6 / 10
การแสดง : 7.5 / 10
บทของภาพยนตร์ : 6.5 / 10
การดำเนินเรื่อง : 5.5 / 10
การถ่ายทำ : 5 / 10
โดยรวม : 30.5 / 50


' อลังการแต่ไม่น่าติดตาม '

ดวงดาวไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน ทุกวินาทีจะมีดาวหนึ่งดวงในจักรวาลแตกดับ พระอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานนิวเคลียร์ที่มีการแตกตัวตลอดเวลาและมีขนาดใหญ่กว่าโลกล้านเท่า พระอาทิตย์เผาผลาญก๊าซไฮโดรเจน 600 ล้านตันต่อวินาที นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าพระอาทิตย์จะมีเชื้อเพลิงให้เผาไหม้ต่อไปอีกเพียง 5,000 ล้านปีเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นโลกจะเป็นอย่างไร แล้วมนุษยชาติจะอยู่กันอย่างไร ... เรื่องราวเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2057 เมื่อพระอาทิตย์กำลังจะดับ และมนุษยชาติกำลังจะสูญพันธุ์ ความหวังในการอยู่รอดของโลกทั้งใบขึ้นอยู่กับ Icarus II ยานอวกาศที่มีลูกเรือชาย-หญิง 8 ชีวิต นำโดยกัปตันคาเนดะภาระกิจสำคัญของพวกเขาก็คือ การนำส่งอุปกรณ์นิวเคลียร์ที่ออกแบบเพื่อช่วยกระตุ้นพลังให้กับพระอาทิตย์ที่กำลังจะดับแสง .. พวกเขาเดินทางกันไกลเกินกว่าจะติดต่อกับพื้นโลกได้ตลอดเวลา ลูกเรือต่างก็รับรู้ถึงความล้มเหลวในภาระกิจเดียวกันนี้ที่เกิดขึ้นกับยาน Icarus I เมื่อเจ็ดปีก่อน อุบัติเหตุร้ายแรงเพียงครั้งเดียวที่เกิดขึ้นส่งผลให้ภาระกิจของพวกเขาถึงกับเข้าขั้นวิกฤต แล้วไม่นานเกินรอ ลูกเรือก็พบว่า พวกเขากำลังต่อสู้ดิ้นรนไม่เพียงเพื่อเอาชีวิตให้รอดและมีสติสัมปะชัญญะครบสมบูรณ์เท่านั้น หากแต่อนาคตของมนุษยชาติว่าจะอยู่รอดหรือไม่?

อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ตั้งความหวังไว้ว่าจะออกมาดีเหมือน Armageddon แต่หลังจากได้ชมแล้วต้องบอกว่าผิดหวังอย่างมากมายมหาศาล ทั้งการดำเนินเรื่อง บท และอะไรต่าง ๆ อีกมากมาย เปิดเรื่องมาก็ไม่น่าสนใจแล้ว แบบนี้จะขายได้ยังไง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ทำเงินทั่วโลกก็ได้น้อยอย่างน่าตกใจนั่นก็คือแค่ $32,017,803 เท่านั้น กลับกันด้าน Armageddon ทำมากถึง $553,709,788 เชียวนะเออ

และเรื่องนี้ตัวเอกไม่น่าเอาใจช่วย นั่นก็คือ พระเอกหน้ามาร นามว่า Cillian Murphy คืออยากจะใช้คำว่า หนังหน้าแบบนี้เอามาเป็นตัวเอกได้ไงฟร๊ะ แบบนี้มันตัวโกงชัด ๆ บทแบบใน Red Eye เหมาะกับหมอนี่มากที่สุดในโลกแล้ว แต่เรื่องนี้ดันเอามาเป็นผู้เสียสละ ให้ดวงอาทิตย์ฉายแสงต่อโลก ความจริงน่าจะหาคนที่หน้าตาจะทำให้ผู้ชมเกิดอาการอินกับตัวหนังมากกว่านี้หน่อย แต่พอเห็นหน้า Cillian Murphy แล้วบอกว่า 'เออ อยากตายก็ตายไป เรื่องของคุณ'

คะแนน
ความสนุก : 5 / 10
การแสดง : 7 / 10
บทของภาพยนตร์ : 6 / 10
การดำเนินเรื่อง : 5 / 10
การถ่ายทำ : 7 / 10
โดยรวม : 30 / 50



Create Date : 05 มิถุนายน 2552
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 20:36:09 น. 2 comments
Counter : 569 Pageviews.

 
อยากจะบอกว่าในนี้มีเรื่องแรกเวิร์คสุดล่ะ Push ยังไม่ได้ดู

แต่คงจะไม่ work!


โดย: แมงกุ้ดจี่ IP: 124.122.61.62 วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:16:16:34 น.  

 
ส่วนตัวชอบ Sunshine มากที่สุดครับ หนังสนุกมาในเรื่องการเล่นกับจิตวิทยาของคน และเรื่องการแบกความหวังของคนทั้งโลกเอาไว้ได้อย่างสนุก กดดัน อ้อ และด้านทุนสร้างเรื่องนี้ไม่สูงเลยนะครับ เขาเทคนิคที่ช่วยให้ประหยัดงบไปเยอะเลย อีกอย่างเรื่องนี้กำกับโดย Danny Bolye ครับที่เพิ่งคว้า OSCAR ไปนอนกอดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หนังของเขาแต่ละเรื่องไม่เคยธรรมดาครับแม้แต่หนังที่โดนรุมสับอย่าง The beach ก็ยังมีประเด็นและสไตล์การนำเสนอที่โดดเด่น ยังไงลองไปดูใหม่นะครับ แต่ก็อย่างว่า นานาจิตตัง
ส่วนอีกสองเรื่องนั้นค่อนข้างผิดหวังโดยเฉพาะ PUSH ที่คิดว่าฟอร์มน่าจะดีกว่าที่เป้นอยู่ส่วน Cellular ไม่ได้หวังอะไรมากหนังดูสนุกเพลินแต่เหตุการณ์มันดูสร้างมากไปหน่อยครับ


โดย: Teeraratsakul วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:11:02:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

uptownearth
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add uptownearth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com