สวัสดีครับ เพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่น่ารักทุกท่าน

    ยังจำไตเติ้ลได้อยู่ไหมครับ  นานๆ ทีจะมีสาระดีดีเกี่ยวกับเครื่องสำอางมาบอกเพื่อนๆที  ซึ่งอาจจะไม่ค่อยต่อเนื่อง ขาดช่วงไปบ้าง ตาม Lifestyle ของผมที่การทำงานมีแต่การเดินทาง  เดินทาง  และเดินทาง อยู่เสมอ  เรียกว่าจะตะลุยครบ 77 จังหวัดกันอยู่แล้ว  ถ้าครบเมื่อไหร่ คงได้จุดพลุฉลองกันเมื่อนั้นแหละ อิอิ

และวันนี้เช่นเคย ผมก็จะมาอัพเดท เครื่องสำอางดีดี ราคาประหยัด และประสิทธิภาพไว้ใจได้  โดยวัดเกณฑ์จาก 

ส่วนผสม ราคา  ปริมาณ  และแพกเกจ เป็นหลัก

ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ เพราะผมยังมือสมัครเล่นอยู่เลยครับ

ยังไงตอนนี้เราไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ ^0^

เรามาเริ่มกันที่ Cleanser สำหรับผิวหน้ากันก่อนเลยครับ

Pond’s Age Miracle Daliy Regenerating Facial Foam

สูตร Advance CLA4 Complex

    โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ Glycerin ในปริมาณมากเป็นอันดับ1 ของส่วนผสมทั้งหมดนี้ มีข้อดีอย่างยิ่ง ตรงที่ทำให้ผิวไม่แห้งฝืด(เอี๊ยดๆ) ภายหลังจากการล้างหน้า ตามมาด้วยส่วนผสมของน้ำ, สารทำความสะอาดแบบอ่อนโยน และยังมีส่วนผสมของ Microbeads จำนวนมาก ช่วยสครับและขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพออกได้อย่างหมดจด

   ทาง Pond’s บอกว่า โฟมนี้เป็นสูตร Advance CLA4 Complex ซึ่งเป็นสูตรที่ช่วยต่อต้านริ้วรอย โดยจากการหาข้อมูลของไตเติ้ล ก็พบว่า

ได้กล่าวถึงส่วนผสมของ Advance CLA4 Complex ได้อย่างน่าสนใจว่า เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของ

1. CLA (Conjugated Linoleic Acid) ซึ่งระบุในส่วนผสมเป็น Isomerized Linoleic Acidมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของผิว ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวชั้นนอก

2. AHA หรือ Alpha Hydroxy Acid จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หยาบกร้าน

3. Retinol เป็นวิตามินเอ ช่วยให้เซลล์กลับมาแบ่งตัวเป็นปกติ

4. Retinol Booster ซึ่งระบุในส่วนผสมเป็น Acetamide MEA ทาง Pond’s บอกว่าส่วนผสมตัวนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพและความเสถียรของ Retinol

แต่ในความจริงแล้ว ส่วนผสมดังกล่าวอยู่บนหน้าของเราไม่นานก็ต้องถูกชะล้างออกด้วยน้ำอยู่ดี ดังนั้นเราจึงคาดหวังประสิทธิภาพของ Pond’s Age Miracle Daliy Regenerating Facial Foam  ที่ความสะอาดหมดจด และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงก็เพียงพอแล้วครับ

สรุป Pond’s Age Miracle Daliy Regenerating Facial Foam ราคา 149 บาท*  ต่อปริมาณ100 กรัม ถือเป็น Cleanser คุณภาพดี ราคาถูก ที่สามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไปแบบนี้ จึงผ่านเกณฑ์ของผมไปอย่างง่ายดายครับ

ปล. มีส่วนผสมของสี และน้ำหอม

* ราคาจำหน่ายในแต่ละที่อาจไม่เท่ากัน

Cleanser ตัวต่อมานั่นก็คือ

Boots Amazon Forest brazil nut & vanilla Bath Cream

Cleanser สำหรับอาบน้ำตัวนี้ มีกลิ่นที่หอมเย้ายวนใจมาก มีส่วนผสมของน้ำหอมมาในปริมาณมาก

ถามว่าดีไหม?  ก็ดีคือ มันหอม  

แล้วข้อเสียล่ะ? ก็คือ ถ้าหากผิวของคุณแพ้ส่วนผสมของน้ำหอมที่เขาผสมมา(ในปริมาณมาก)นี้ มันก็คงแย่สักหน่อยครับ

แต่อย่างไรก็ดี Cleanser ตัวนี้ก็มีส่วนผสมของสารทำความสะอาดที่อ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงครับ ^_^

ข้อเสียอีกข้อหนึ่งคือ ก่อฟองได้ในปริมาณที่น้อยมาก เพราะผมเป็นคนติดฟองนั่นเองครับ อิอิ

สรุป Boots Amazon Forest brazil nut & vanilla Bath Cream เป็น Cleanser ที่ทำความสะอาดผิวได้ดี ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง  และด้วยกลิ่นที่ห๊อมหอม แถมยังซื้อมาตอนที่มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 แบบนี้ จึงผ่านเกณฑ์ของผมไปได้ครับ ^_^

ตอนนี้มาเข้าสู่โหมดการบำรุงผิวกันบ้างครับ

แต่ก่อนจะเข้าสู่หมวดเครื่องสำอางที่ผมใช้อยู่ วันนี้ผมมีเรื่องดีดีมาบอกกัน เกี่ยวกับการใช้ตัวบำรุงสำหรับคนที่เป็นสิวง่าย

อย่างที่เราทราบกันดีนะครับว่า คนที่เป็นสิวง่าย โดยเฉพาะสิวอุดตันนั้น  สาเหตุใหญ่ๆ นั้นเกิดมาจากการที่ผิวของเรา ผลิตน้ำมันออกมาเกินความจำเป็น เมื่อน้ำมันรวมตัวกันกับขี้ไคล + สภาพการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สมบูรณ์แล้ว  สิวอุดตันก็จะตามมานั้นเอง

คนที่มีปัญหาสิวขึ้นง่ายๆ อย่างผม จึงต้องหาตัวบำรุงที่มีส่วนผสมที่ไม่ไปขัดขวาง หรือปิดผิว เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวครับ โดยผมจะหลีกเลี่ยงตัวบำรุงที่อยู่ในรูปแบบของเนื้อครีม และส่วนผสมพวก Oil และซิลิโคน ต่างๆ ไว้เสมอ

หากใครกังวลว่า ส่วนผสมในเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ อาจจะก่อให้เกิดการอุดตัน สามารถลองเข้าไปเช็คส่วนผสมคร่าวๆ ได้ที่ โดย

ซึ่งการเช็คส่วนผสมนี้ เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกใช้เครื่องสำอางเท่านั้น  การที่ผิวเราเกิดสิวอุดตันนั้นเกิดมาจากหลายปัจจัย  บางทีแม้เราไม่ทาครีมบำรุงอะไรเลย สิวก็ยังขึ้นได้ ดังนั้นเว็ปที่ผมให้มานี้ จึงเป็นการเช็คข้อมูลเบื้องต้นว่าส่วนผสมในครื่องสำอางบางตัว “อาจจะ” อุดตันกับผิวเราครับ

เอาละครับ เข้ามาที่โหมดบำรุงผิวกันจริงจังซะทีตัวแรกที่ผมใช้อยู่ นั่นก็คือ

JUJU Aquamoise Pure Hyaluron 100%

ดูจากชื่อแล้วหลายคนคงต้องตะลึง! แน่นอน เพราะเราจะได้ใช้ Hyaluron 100% กันเลยทีเดียว แต่จะจริงหรือไม่นั้น ต้องติดตาม!!

Ingredients

Water, Hyaluronic Acid, Phenoxyethanol, Methylparaben

ข้อมูลส่วนผสม เครดิตเว็ปของคุณ phoebe นะครับ

พอดูส่วนผสมของ JUJU Aquamoise แล้ว คุณยังคิดว่า Hyaluron 100% ที่เขาเคลมไปนั้น มันยังจะเป็นความจริงอยู่หรือไม่ครับ?  สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผมขอมองประเด็นนี้ออกเป็น 2 มุมคือ

มุมแรก   เป็นไปไม่ได้ที่เครื่องสำอางจะมีส่วนผสมของ Hyaluron 100% เพราะขนาดเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Hyaluron หรือ Hyaluronic Acid ในปริมาณ 2% มันยังมีเนื้อที่หนืด และข้นมากมายอยู่แล้ว  ถ้าหากมันมี 100% มันคงข้นเป็นวุ้นเลยครับพี่น้อง!!

มุมที่สอง  Hyaluron 100% อาจจะหมายความว่า JUJU Aquamoise ขวดนี้ ไม่มีส่วนผสมในการให้การบำรุงอะไรเลย นอกจาก Hyaluronic Acid  เพียงอย่างเดียว  นั่นหมายความว่า เราจะได้รับประโยชน์จากส่วนผสมตัวนี้ 100% แน่นอน

ยังไงก็แล้วแต่คนจะตีความล่ะครับ ว่าเราจะเลือกเหตุผลในการใช้จากมุมแรก หรือ มุมที่สอง อย่างที่ผมยกตัวอย่างมา

สำหรับประโยชน์ของ Hyaluronic Acid หรือ Hyaluron นั้น ก็คือ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวดูเอิบอิ่ม แน่นเปรี๊ยะ ลองจินตนาการถึงต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา เมื่อได้รับน้ำแล้ว ใบไม้ ลำต้นก็จะสดชื่น ดูเต่งตึง  ผิวของคนเราก็เหมือนกัน หากได้รับความชุ่มชื่นที่เพียงพอแล้ว ก็จะดูมีสุขภาพดี มีออร่าเองแหละครับ  อิอิ

JUJU Aquamoise เป็นเนื้อเจลขาวใส ไม่มีกลิ่น เมื่อทาไปบนผิวแล้ว ให้ความรู้สึกไม่เหนอะหนะเลย บางเบา(มาก) ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวไว้  เหมาะกับคนที่เป็นสิวและมีผิวมันเป็นอย่างยิ่ง

สรุป JUJU Aquamoise Pure Hyaluron 100% ราคา 890 บาท ซื้อ 1 แถม 1 ปริมาณ 30 ml. X 2 ขวดนี้  ถือเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา(มาก) สำหรับคนที่มีปัญหาสิวและผิวมัน แต่ราคา 890 บาทนี้ เราสามารถหามอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluron และส่วนผสมที่มีประโยชน์อื่นๆ รวมอยู่ด้วยกันได้อย่างสบาย  แต่ที่ผมซื้อเพราะโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 นี่แหละครับ

ปล. เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดียิ่งขึ้น แนะนำให้หามอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ทาเพิ่มเข้าไปด้วยนะครับ  แล้วก็เอาแช่ตู้เย็นก่อนใช้ รับรองสดชื่นซาบซ่ายิ่งกว่าเดิมแน่น๊อน!

ตัวต่อไป อันนี้ภูมิใจนำเสนอที่ซู้ด!!!!!

Lab Series Power Brightening Serum Advanced

Lab Series Power Brightening Serum Advanced ขวดนี้ เป็นเซรั่มเนื้อเบา อุดมไปด้วยสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ และสารบำรุงอื่นๆ อย่างอัดแน่นมากถึงมากที่ซู้ด! โดยเฉพาะส่วนผสมของ Ascorbyl Glucoside หรือ วิตามินซี ที่ถึงแม้จะยังไม่มีผลการวิจัยออกมาอย่างเป็นทางการว่าสามารถเป็นสารไวท์เทนนิ่งได้จริง  แต่ทาง Lab ก็ยังใส่สารไวท์เทนนิ่งอย่าง Morus Nigra (Mulberry) Root Extract มาช่วยเสริมประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและความหมองคล้ำและทำให้สีผิวสม่ำเสมออีกด้วย

ก่อนหน้านี้ผมเคยรีวิว วิตซีของคีลส์ไว้ ซึ่งใช้ส่วนผสมของวิตามินซีในรูป Ascorbic Acid ที่ต้องอาศัยค่า PH ที่เหมาะสม ถึงจะออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มันไม่เหมาะสำหรับคนที่กำลังเป็นสิว เพราะ Ascorbic Acid จะกระตุ้นทำให้สิวเห่อ และอักเสบขึ้นได้อีก แถมด้วยความที่มีส่วนผสม Cyclopentasiloxane มาเป็นอันดับต้นๆ  มันเลยกลบ และปิดบังผิว และเมื่อมาเจอกับเหงื่อและความมันขั้นเทพของหน้าผม มันเลยเป็นอาหารชั้นดีของแบคทรีเรีย  ทำให้สิวผมกลับมาเห่ออีกครั้ง T_T แต่พอจากหยุดใช้ สิวก็ไม่ขึ้น  ตอนนี้เลยเอามาทาใต้ตาแทนไปก่อนครับ อิอิ

เนื้อเซรั่มสีใส แอบขุ่นๆ และเหนียวเล็กน้อย บางเบา(มาก)  ใช้เพียง 3 หยด(เท่าในภาพ) ก็ทั่วหน้าแล้วครับ

สรุป Lab Series : Power Brightening Serum Advanced ราคา 1,780 บาท* ปริมาณ 50 ML. ขวดนี้ น่าจะใช้ได้อย่างต่ำ 6 เดือน แม้จะมีส่วนผสมของน้ำหอม แต่ผมก็ให้อภัย เพราะมันมีน้อยมาก  หากใช้เป็นประจำก็จะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ขาวขึ้น  ใสขึ้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และโอกาสการอุดตันต่ำอีกด้วยครับ

* หมายเหตุ ราคาตามเว็ปหิ้วทั่วไป ขอสงวนสิทธิ์ไม่บอกชื่อเว็ปครับ

อ่านต่อ Part II

"อ่านคลิก คลิก คลิก คลิก คลิก คลิก คลิก คลิก คลิก"