สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน สองอาทิตย์ที่แล้ว หลังจากที่อยู่ กทม.มานาน อ้อก็ทนไม่ไหวแล้ววววว เลยหาทริปไปปราณบุรีค่ะ เข้าพักที่ "อลีนตา รีสอร์ท" (Aleenta Hua Hin Resort and Spa) https://www.aleenta.com/huahin/ และอยู่แต่ที่รีสอร์ท ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะอ้อพาคุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วย กลัวเจอคนเยอะๆค่า
อ้อเลยจะทำรีวิว อลีนตา รีสอร์ทนะคะ เผื่อเพื่อนๆท่านใดสนใจ ก็ตามมาพักที่นี่ได้เลยยยย อ้อเป็นคนชอบห้องพักที่เห็นหรือติดทะเลค่ะ เพราะเป็นคนใช้เวลากับทะเลค่อนข้างเยอะ นั่งชิลได้ทั้งวัน ถ้าใครชอบห้องพักประเภท beachfront อ้อแนะนำที่นี่มากๆเลยค่ะ
"อลีนตา รีสอร์ท" ตั้งอยู่ที่ อำเภอ ปราณบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ขับรถเลยจากหัวหินมาประมาณ 30 นาทีค่ะ อลีนตาจะมีที่พักสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นโซนหลัก (Main resort wing) และส่วนที่แยกออกมา มีชื่อว่า Frangipani wing โซนนี้จะเลยจากโซนหลักมาไม่ไกลค่ะ
รีสอร์ทนี้จะเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก เรียบๆ ออกแนวใกล้ชิดกับธรรมชาติ ติดทะเล ไม่ได้เน้นความหรูหราของที่พัก ถ้าใครชอบที่พักสไตล์นี้ อ้อว่าน่าจะชอบที่นี่นะคะ
รีวิวนี้ อ้อจะรีวิวเฉพาะในโซน Frangipani นะคะ ทั้งโซนนี้จะมีแค่ 5 ห้องและห้องนึงในนั้นจะเป็น two bedrooms (แยกเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง) ที่แจ่มสุดคือ ห้องส่วนใหญ่เป็น Pool access และ Sea view มีแค่ห้องเดียวที่ไม่ได้เป็น Pool access แต่ได้วิวทะเลมุมสูงแทนเพราะอยู่ชั้นสองค่ะ
อ้อเริ่มจาก นำแผนที่ของอลีนตาให้ดูก่อนค่ะ จะเห็นว่ามีสองโซน แยกกันชัดเจน ห่างกันประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้ ทางรีสอร์ทยังมีบ้านพักที่เป็นแบบ 3-4 ห้องนอนด้วยนะคะ ตามภาพนี้ ทางเข้า Frangipani จะมีป้ายบอกอยู่ริมถนน หาง่ายมาก

เดินเข้าประตูมาจะเห็นที่ check in ข้างหน้าเลยค่ะ


รีสอร์ทโซน Frangipani นี้ อาคารทั้งหมดจะเป็นสีส้มโดยมีหน้าต่างและประตูเป็นสีเขียวตัดกัน มีไม้เลื้อยบนกำเเพงด้วยนะคะ


เมื่อเดินเข้ามาภายในรีสอร์ท จะมีต้นไม้เต็มไปหมด ร่มรื่นมากเลย

ชื่อห้องพักจะตั้งเป็นชื่อดอกไม้ อย่างเช่นห้องนี้ชื่อ จำปา ซึ่งจะเป็นห้อง Two Bedrooms มีสองชั้นบนล่าง(สองห้องนอน สองห้องน้ำค่ะ)ห้องนี้เหมาะมากับครอบครัวค่ะ
 ห้องนี้คือ ห้อง 201 ชื่อ ลีลาวดี ค่ะ จะมีสองชั้นโดยชั้นล่างจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ และชั้นบนเป็นห้องนอน แต่ระเบียงห้องนี้ อ้อว่าพอมองทะเลก็จะติดมุมของ beach cafe นิดนึง แต่มีข้อดีคือ ห้องนอนและห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วนสองชั้นค่ะ
 ทางเดินไปชายหาด ระหว่างทางก็จะมีแต่ต้นไม้ค่ะ 

ทางเดินไปห้องที่อ้อพัก ดูร่มรื่นนะคะ

อ้อเข้าพักห้อง 204 ค่ะ ห้องจะอยู่ด้านขวาข้างหน้า ส่วนข้างบนจะเป็นห้องนอนอีกห้องซึ่งต้องขึ้นบันไดไป ห้องข้างบนอ้อไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่เคยขึ้นไปดู ห้องนอนและห้องน้ำกว้าง มีระเบียงชมวิวที่ค่อนข้างใหญ่ ข้างบนจะได้วิวทะเลมุมสูง สวยไปอีกแบบนะคะ
แต่ข้อเสียคือ เวลาจะเล่นน้ำสระจะต้องเดินลงมาเล่นข้างล่างค่ะ ซึ่งถ้าเป็นห้องอื่นที่อยู่ชั้นล่างก็สามารถกระโดดน้ำจากระเบียงห้องพักได้เลย


จากหน้าประตูห้องพักก็จะเห็นสระน้ำและทะเลมาเลย

ส่วนห้องนี้เป็นห้องพักที่พ่อแม่อ้อพักค่ะ อยู่ติดกับห้องอ้อเลย คือห้อง 205 ค่ะ

อ้อจะทำรีวิวของห้อง 204 กับ 205 แยกกันนะคะ โดยอ้อจะเริ่มจากห้อง 205 ก่อนค่ะ
"ห้อง 205" นี้จะอยู่ริมสุดเลย ซึ่งจะมีขนาดห้องเล็กกว่าห้อง 204 แต่มีห้องน้ำที่สวยและกว้างกว่า และที่สำคัญคือระเบียงห้องนอนค่ะ อ้อว่าทั้งโซน Frangipani ระเบียงของห้องนี้คือสวยที่สุดแล้ว มีระเบียงที่กว้างและเห็นมุมทะเลมากกว่าทุกห้อง
ภาพนี้ถ่ายจากระเบียงห้องพัก 205 ค่ะ หน้าห้องจะมีเก้าอี้ชายหาดสองตัว รวมทั้งโต๊ะนั่งเล่นด้วยค่ะ จากหน้าห้องเราสามารถกระโดดน้ำได้สบายๆเลย

ถ้าอากาศดีๆก็จะได้วิวประมาณนี้หละค่า สวยไหมคะ ^^

หน้าระเบียงห้องพัก 205 ค่ะ จากเตียงนอน เราสามารถมองเห็นทะเลได้เลย



 รูปภายในห้องนอนค่ะ

ห้องน้ำจะแยกโซนเปียกและโซนแห้ง แต่จะไม่มีอ่างอาบน้ำนะคะ แต่โซนฝักบัวจะมีวิวต้นไม้แทน อ้อชอบห้องน้ำห้องนี้มาก ส่วนชักโครกจะมีสายชำระนะคะ สบายใจได้เบย 

ส่วนที่อาบน้ำ

ภาพระเบียงห้องพักอีกมุมค่ะ จากมุมนี้เราจะเห็นสระว่ายน้ำทั้งหมดเลย

จากห้องนอนมองมาจะได้วิวตามนี้ค่ะ

ต่อมาคือ "ห้อง 204" ค่ะ จะอยู่ติดกับห้อง 205 เลย ห้องนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับห้อง 205
ห้อง 204 จะมีพื้นที่ประมาณ 60 Sqm. วิวจะเห็นทะเลเต็มๆเหมือนกันแต่อาจจะไม่กว้างเท่า ส่วนห้องน้ำ อ้อว่า ห้อง 205 ห้องน้ำดูเก๋กว่าค่ะ
ภาพนี้วิวจากระเบียงห้อง 204 สวยไหมค่ะ จากระเบียงห้องก็ลงว่ายน้ำได้เลย



บริเวณระเบียงจะมีเก้าอี้ชายหาด โต๊ะและเก้าอี้นั่งเล่นสองตัว ตอนเช้าๆตื่นมา เห็นวิวแบบนี้แล้วรู้สึกดีมากๆเลยค่ะ หน้าระเบียงจะมีต้นลีลาวดีปลูกอยู่ บนพื้นก็จะมีดอกไม้ร่วงเต็มทุกวันเลย เก็บมาทัดหูถ่ายเซลฟี่ได้เลยนะคะ ^^

ห้องนี้จะกว้างกว่าห้อง 205 ค่อนข้างมาก สามารถนอนสามคนได้สบายๆเลย ขนาดมีเตียงเสริม พื้นที่ในห้องยังเหลืออีกเพียบเลยค่า ที่นี่ใช้ไฟออกโทนส้มๆ ทำให้ห้องดูเย็น สบายตา ดูโรแมนติกมากเลยค่ะ



มุมโต๊ะหนังสือที่ตั้งริมห้องค่ะ อ้อลืมบอกไปเลย รีสอร์ทนี้ไม่มีทีวีนะคะ ถือเป็น concept ของอลีนตาเลย ที่นี่เน้นให้คนได้พักผ่อนจริงๆ ถ้าใครติดทีวีก็อาจต้องเอาหนังสือไปอ่านเล่นแทนน้า

ห้องน้ำของห้อง 204 จะเป็นแนวเรียบๆ ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่จะมีแยกโซนเปียกและโซนแห้งค่ะ
 มุมอ่างล้างมือ
ชักโครกก็จะออกแบบง่ายๆ มีสายชำระค่ะ 
หน้าระเบียงห้อง 204 จะเป็นแบบนี้ มีต้นลีลาวดีปลูกอยู่ :) ส่วนข้างบนจะเป็นระเบียงของห้องชั้นสองที่อ้อได้กล่าวไว้ตอนต้น ถ้าใครอยากได้วิวทะเลมุมสูง ต้องลองมาพักห้องนี้นะคะ



จากภาพนี้จะเห็น ห้อง 204 และห้อง 205 ที่อยู่ติดกัน จะเห็นว่าห้อง 205 ด้านหน้าจะยื่นออกมามากกว่า ทำให้ระเบียงจะเห็นวิวทะเลได้มุมสวยว่าทุกห้องค่ะ

ภาพมุมนี้จะเห็นสระว่ายน้ำทั้งหมดค่ะ ห้าห้องของโซนนี้ก็จะอยู่ไล่กันไป
 ต่อมา เรามาดูภาพหน้าชายหาดบ้างนะคะ อ้อโชคดีมากเพราะตอนที่ไปไม่เจอฝนเลย ฟ้าก็เปิด สวยแจ่มจิงๆค่ะ ด้านหน้ารีสอร์ทจะมีเก้าอี้ชายหาดวางไว้ นอนฟังเสียงคลื่นสบายๆเลยค่ะ


 อ้อชอบชายหาดของปราณบุรีมากค่ะ เพราะอ้อเป็นคนที่ชอบหาดกว้างๆ มีทรายให้เดินได้ตลอด ซึ่งบางโรงแรมที่หัวหินจะมีหน้าหาดที่แคบ พอน้ำทะเลขึ้นมาที จะไม่มีหาดให้เดินเลย แต่ชายหาดของปราณบุรีคือ............ดีงามมมมมม 

ภาพเรือประมงที่จอดหน้ารีสอร์ทค่ะ อ้อชอบเมฆภาพนี้มากเลยค่ะ สวยจุง :)
 หาดสวยจริงๆนะคะ อ้อดูแล้วก็อยากกลับไปอีก 555 ทะเลที่นี่เหมาะกับการเล่นน้ำมากกกก และทะเลยังสะอาดอยู่ คนก็ไม่พลุกพล่าน


หน้าหาดจะมี beach cafe ถ้าใครอยากสั่งเครื่องดื่มชิลๆ สั่งได้เลย มุมนี้เป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปสวยค่ะ

โดยปกติ beach cafe จะเปิดตลอดนะคะ จะมีพนักงานประจำทำเครื่องดื่มให้ แต่เข้าใจว่า ตอนนี้ปิดชั่วคราวเนื่องจากโควิท แต่เราสามารถสั่งเครื่องดื่มและอาหารได้ตลอด โดยอลีนตาจะให้ครัวใหญ่ทำและนำมาเสริ์ฟให้ค่ะ

บรรยากาศยามเย็นค่ะ

ตอนเช้าของวันแรกที่อ้อมาพักค่ะ อ้อตื่นมาเเต่เช้าเพื่อเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น ช่วงนี้พระอาทิตย์ขึ้นค่อนข้างไว แต่วันนี้ตื่นสายไปนิดค่ะ
 ถ้าหันหน้าเข้าทะเล อ้อแนะให้ไปเดินเล่นไปด้านขวามือนะคะ เดินไปเรื่อยๆจะมีบ้านพักตากอากาศริมหาดหลายหลังเลย แต่ละหลังน่ารักๆทั้งนั้น เห็นแล้วอยากมีแบบนี้บ้างงงง เดินไปเรื่อยๆอีกหน่อยก็จะเจอโซนหลักของอลีนตาค่ะ ถ้าใครฟิตๆหน่อย ตอนเช้าก็สามารถเดินชายหาดมากินอาหารเช้าที่โซนนี้ได้เลยค่ะ

ภาพนี้ อ้อถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นวันที่สองค่ะ อ้อชอบมากกกกก แสงสวยจริงๆ


โดยปกติ อาหารเช้าของโซน Frangipani เราต้องนั่งรถกอล์ฟไปกินที่โซนหลัก หรือถ้าใครอยากได้บรรยากาศดีๆตอนเช้า ก็สามารถเดินเลาะชายหาดไปที่โซนหลักได้เลย เพราะโซนนี้จะไม่มีห้องอาหารค่ะ แต่ถ้าใครอยากกินอาหารเช้าที่ห้องพัก ทางรีสอร์ทจะคิดเพิ่มท่านละ 150 บาทค่ะ
แต่เนื่องจากช่วงนี้มีโควิท รีสอร์ทเลยให้อ้อเลือกว่าจะกินที่ห้องพักหรือไปที่โซนหลักก็ได้ ซึ่งจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อ้อเลยเลือกกินที่ระเบียงห้องค่ะ กินไปมองวิวทะเลไป อ้อว่าฟินสุดหละ 555

อาหารเช้าที่นี่เค้าจะให้เราเลือกว่าจะเป็น American Breakfast หรือ ข้าวต้ม(ให้เลือกว่าจะใส่ไข่หรือไม่ก็ได้นะคะ)และแต่ละห้องจะจัดขนมปัง เนยและเเยมมาให้ ที่นี่จัดขนมปังมาให้แบบเต็มที่มากค่ะ
 ขนมปังมีหลายประเภทมากค่ะ น่ากินไปหมดเลย สำหรับกาแฟเราสามารถสั่งเป็นกาแฟดำปกติ ลาเต้ หรือคาปูชิโน่ได้หมด แต่อ้อเลือกสั่งเป็นลาเต้ร้อนค่ะ นอกจากนี้ยังมีน้ำผลไม้มากมายหลายอย่างให้เลือก และมีผลไม้มาด้วยนะคะ อย่างที่อ้อบอกไว้นะคะ อ้อไม่ได้ออกไปไหนเลย อ้อเลยสั่งอาหารมากินที่ระเบียงห้อง พอบ่ายแก่ๆ อ้อเริ่มหิวเลยสั่งเมนูง่ายๆ คือผัดไทกุ้งกับสปาเกตตี้คาโบนาร่า อร่อยมากเลยค่ะ ส่วนมื้อเย็น อ้อก็สั่งกินแบบเบาๆที่โซนหลักของอลีนตา จานแรกเป็นสลัดแซลมอน :)
ส่วนจานนี้พิซซ่าทะเลค่ะ สุดยอดดดดดด มาทริปนี้ อ้อแวะกินร้านอาหารทะเลในวันแรกก่อนเดินทางเข้าปราณบุรี ร้านนี้อ้อแนะนำเลย อร่อยมากกกกก กไก่ล้านตัว 555 ร้าน "ป้าพร น้องหยก" อยู่ที่เขาตะเกียบค่ะ ที่สำคัญคือ ราคาถูกสุดๆ ลูกค้าบางคนชอบซื้อแล้วนำไปกินที่โรงแรม แต่อ้อชอบกินที่ร้านเลย อ้อแนะให้นั่งชั้นสองนะคะ เพราะจะเงียบและบรรยากาศดีกว่า
เนื้อปูคือหวานมากกกกก
กุ้งเผาก็ดีงาม
ฟินที่สุดของร้านคือจานนี้เลยค่ะ เพื่อนๆห้ามพลาดเด็ดขาด.................. "กั้งทอดกระเทียมพริกไทย" เค้าจะผัดแบบเเห้งๆและใส่กระเทียมเยอะมาก อ้อว่าตั้งแต่กินกั้งทอดกระเทียมมา ร้านนี้คืออร่อยสุดเเล้วค่า
ไข่เจียวกุ้งปู
ปลาหมึกไข่นี่งมะนาวววววว
ออส่วนกรอบ จานนี้ก็เด็ดค่ะ
อีกที่นึงที่อ้อขอแนะนำนะคะ อ้อเห็นร้านกาแฟร้านนึงอยู่ตรงข้ามกับอลีนตา อ้อเลยแวะเข้ามาดู ที่นี่จริงๆแล้วเป็นที่พักโดยทำเป็นรถบ้าน ชื่อ "Airstream Campsite" ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากลองเปลี่ยนแนวพักผ่อน ก็ลองมาดูที่นี่ได้เลยนะคะ
บรรยากาศร้านกาแฟของ Airstream Campsite ตอนกลางคืนค่ะ
ส่วน Bar and Restaurant ปิดค่ะ สำหรับที่พักที่เป็นรถบ้านจะอยู่ข้างใน อ้อไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ
บรรยากาศตอนกลางวันค่ะ
หน้าร้านกาแฟค่ะ มีมุมจักรยานให้ถ่ายรูปสวยๆด้วย
กาแฟที่นี่รสชาติดีค่ะ พนักงานก็น่ารัก เป็นกันเอง ร้านนี้มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆเยอะนะคะ
จบการรีวิวของทริปนี้แล้วค่ะ ช่วงนี้อ้อว่าน่าเที่ยวสุดแล้ว ไปไหนก็เจอแต่คนไทย ปลอดภัย สบายใจได้ ^^ อ้อขอปิดท้ายด้วย Postcard เหมือนเคยค่ะ คราวนี้อ้อเขียนหาทะเลปราณบุรี :) แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ 
Create Date : 27 มิถุนายน 2563 |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2563 11:28:11 น. |
|
4 comments
|
Counter : 12097 Pageviews. |
 |
|