สามเดือนก่อนหน้า...
ปกเกศเปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือราคาถูกของตัวเองขึ้นดูเวลาเกือบตีสองแล้ว ตอนนี้รถลูกค้าที่ลานจอดรถบางตาไปมากอากาศยามค่ำคืนค่อนข้างเย็นสบาย มีลมโชยเอื่อยพัดมาเป็นระลอกยิ่งชวนผ่อนคลายแต่เธอกำลังกังวลใจ เพราะนี่ก็เลยเวลาที่นัดหมายกับพี่ชายเอาไว้มาเป็นสิบนาทีแล้ว
หากธีรไนยไม่มารับเธอคงต้องเดินกลับบ้านแต่เพียงลำพัง แม้ว่าบ้านพักของเธอกับผับที่ทำงานแห่งนี้จะอยู่ห่างกันไม่ถึงสองกิโลเมตรแต่ในเวลาค่ำคืนกลางดึกดื่นแบบนี้ มันไม่ใช่วิสัยที่เธอจะสามารถทำอะไรได้ดั่งใจนักรู้ทั้งรู้ว่ามันอันตราย แต่เพราะเห็นแก่เงินเดือนที่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายพันบาทปกเกศจึงจำต้องอดทน
เธอถึงขนาดต้องโกหกอาวสินว่าได้งานที่ร้านอาหารแห่งใหม่ ไม่กล้าบอกท่านตามตรงว่า เป็นงานที่ผับเปิดใหม่แห่งนี้เพราะถ้ารู้เข้า อาไม่ยอมให้เธอมาทำงาน ในสถานที่ที่ดูอันตรายสำหรับเด็กสาวอย่างที่นี่เช่นกันขนาดพี่ไนยตอนที่รู้ว่าเธอทำงานที่นี่ เขายังว้ากใส่ จะไม่ยอมให้เธอทำงานปกเกศต้องอ้อนวอนขออยู่นาน กว่าที่พี่ชายจะยอมใจอ่อน
หากพี่ไนยไม่ช่วยเธอก็คงหมดทางจริงๆ ตั้งแต่ที่วสุ พ่อของเธอ ซึ่งเป็นพี่ชายบุญธรรมของอาวสินหายตัวไปจากบ้านเมื่อห้าปีก่อนปกเกศก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียว ถ้าเพียงจะไม่ได้รับความเมตตาจากอาวสินและพี่ธีรไนยเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรทั้งสองคนจึงเป็นคนที่เธอเคารพและให้ความสำคัญมาก
ที่ต้องขยันทำงานนี่ก็เพราะเกรงใจที่ต้องรบกวนพวกเขาทั้งสองคน...เธอไม่อยากเป็นกาฝากของที่บ้านแม้ว่าทั้งอาวสิน ธีรไนยและนวินดาน้องสาวของธีรไนยจะไม่เคยรังแครังคัดเห็นว่าเธอเป็นคนนอกเลยก็ตาม
เธอทำงานที่ผับของเจ๊มะนาวมาได้เกือบสองเดือนแล้วธีรไนยแวะมารับเธอเวลาเลิกงานตรงเป๊ะทุกครั้ง ทุกอย่างราบรื่นปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรปกเกศไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ไม่สนใจใคร ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ตึกๆ!
เสียงฝีเท้าหนักๆดังใกล้เข้ามายังจุดที่เธอยืนหลบมุมอยู่ ใต้ต้นยางนาสูงใหญ่หนาแผ่กิ่งก้านสาขาและรากห้อยย้อยให้ร่มเงาดูดำทะมึนท่ามกลางความมืดปกติแล้วปกเกศชอบบริเวณนี้เพราะมันไม่เป็นจุดสนใจของผู้คนนักแต่เวลานี้เธอกลับพบว่า พื้นที่ไม่เป็นที่สนใจกลับกำลังสร้างปัญหาให้ เมื่อเธอหันไปเห็นชายหนุ่มในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตโปโลแขนสั้นกับกางเกงสแล็คเรียบง่ายแต่ร่างสูงใหญ่ของเขาดูน่าเกรงขามสะดุดตาแม้อยู่ท่ามกลางเงามืดสลัว
คงเป็นลูกค้าของผับอย่างไม่ต้องสงสัย...ปกเกศกระเถิบหนีเข้าไปยืนใต้เงามืดลึกเข้าไปแผ่นหลังบอบบางแทบจะชนกับลำต้นหนาขรุขระของต้นยางนาที่มีรากห้อยระโยงระยางราวกับม่านมู่ลี่ เธอแค่ต้องการจะหลบไม่ให้เป็นที่สนใจของคนที่กำลังเดินโอนเอนผ่านมาหารู้ไม่ว่าการขยับตัวของตนเองทำให้เขาชะงัก หยุดฝีเท้าแล้วหันขวับมามองในทันที
ดวงตาสองคู่สบกันโดยไม่ตั้งใจแม้จะค่อนข้างมืดแต่สายตาของปกเกศก็ชินกับความมืดดีแล้วเธอเห็นทุกอย่างบนเครื่องหน้าคมเข้มดูมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่นของเขา ผิวขาวจัดของเขาดูเด่นเด้งขึ้นมาท่ามกลางความมืดยิ่งเสริมคิ้วเข้มตาคมจมูกโด่งสวยให้โดดเด่น หญิงสาวกะพริบตา ไม่อยากเชื่อว่าจะได้พบคนหล่อดูดีขนาดนี้
แต่ทำไมเขาไม่เดินเลยไปสักที?
เธอได้แต่เก็บความฉงนเอาไว้ภายใต้กิริยานิ่งสงบเสงี่ยม ทำตัวราวกับรูปปั้น หากอีกฝ่ายไม่สังเกตก็คงไม่รู้ว่าตรงนี้มีเธอยืนอยู่
เธอ...มาเที่ยวที่นี่เหรอ
เสียงทุ้มอ้อแอ้เล็กน้อยเอ่ยขึ้นปกเกศมองซ้ายมองขวาไม่เห็นมีใคร จึงเชื่อว่าเขาคงถามเธอแน่นอน
ฉันเหรอคะ...ฉันไม่ได้มาเที่ยวค่ะฉันทำงานที่นี่
ทำงานที่นี่แล้วทำไมไม่เคยเห็นหน้า...ไหนขอดูหน้าชัดๆ หน่อยซิ พูดเองเออเอง แล้วก็ก้าวเข้ามาแทบจะชนร่างเล็กของเธอกระเด็นกระดอนทว่าถึงไม่ชน แต่เมื่อเข้ามาหยุดอยู่ต่อหน้าเธอ คนตัวโตก็โงนเงนเต็มที
ปกเกศตะลึงมองอีกฝ่ายอย่างงุนงงไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไร หากแล้วร่างสูงกลับทรุดฮวบลงไปกะทันหัน อารามตกใจหญิงสาวไม่ทันคิดเธอยื่นสองมือออกไปช่วยประคอง รั้งร่างหนาหนักนั้นเอาไว้ จนตัวเองก็เซเสียหลักเกือบล้มตามเขาไปด้วยโชคดีว่าขืนตัวเอาไว้ได้ทัน
ระวังค่ะคุณไหวไหม ให้ฉันเรียกคนมาช่วยนะ? พอทรงตัวได้แล้วก็เงยหน้าถามเขาอดเป็นห่วงอีกฝ่ายตามประสาเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งไม่ได้ ทว่าความมีน้ำใจของเธอ กลับถูกตอบแทนกลับมาด้วยถ้อยคำที่ทำเอามึนงง
ไม่ๆไม่ต้องเรียกใครหรอก ฉันตัดสินใจแล้ว จะพาเธอไปด้วย
หะพาฉันไปด้วย...ไปไหนคะ? ปกเกศย้อนถามหน้าเหวอ แล้วก็สะดุ้งเพราะสองมือแกร่งของเขาที่เลื่อนขึ้นมากุมกระชับหัวไหล่ทั้งสองข้างของเธอเอาไว้แน่น
คุณ...ฉันเจ็บนะปล่อย... เธอนิ่วหน้าเบ้ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจเสียงประท้วง กลับชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เฉียดกันจนเธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์อุ่นอวลอยู่ในลมหายใจของเขา
หมดกันคนรูปหล่อเมาแล้วหมดสภาพ ความหล่อไม่ช่วยอะไรเลย...
ไม่ต้องบ่นน่า จะจ่ายเพิ่มให้ก็ได้...คนอย่างฉันถ้าถูกใจแล้วเท่าไหร่เท่ากัน รับรองว่าเธอไม่ผิดหวังแน่นอน ไป!รถฉันอยู่ตรงโน้น...
เขาชวนแล้วดึงให้เธอเดินตามไปด้วยกันอย่างเอาแต่ใจปกเกศก้าวตามแรงรั้งจากมือแกร่งแค่เพียงสองสามก้าวก็ขืนตัวแรงจนเจ้าของใบหน้าคมสันหันขวับมามองตาขุ่น
หยุดเดินทำไมรีบไปสิ สั่งเสียงวางอำนาจ เอาแต่ใจ และเริ่มหงุดหงิด
รีบไปก็ไปสิฉันไม่ไปกับคุณหรอก ฉันจะกลับบ้าน ปล่อย! ร้องบอกเขาเสียงแข็งแล้วก็ผลักร่างสูงหนานั้นสุดแรงคาดไม่ถึงว่าเขาจะถึงขนาดหงายหลังล้มตึงลงไปบนพื้นดิน เด็กรับรถหันมองเป็นตาเดียวกันก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของชายหนุ่ม
คุณกานต์ชนก!เฮ้ย ไอ้เกศ เกิดอะไรขึ้น?
ไม่รู้ค่ะท่าทางเขาจะเมามาก พี่ดูแลเขาด้วยนะคะ เกศกลับบ้านก่อนละค่ะ ปกเกศกังวลที่มีเรื่องกับลูกค้าเธอรีบผละวิ่งหนีออกจากจุดนั้น โดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกจากคนงานรับรถที่ไล่ตามมาข้างหลังเท้าเรียววิ่งไปที่หน้าประตูใหญ่ทางเข้าผับแทบชนเข้ากับร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มที่เดินสวนเข้ามา
เกศ จะรีบไปไหนพี่อยู่นี่!
พี่ไนย!!เธอหยุดวิ่งเหมือนรถที่เหยียบเบรกกะทันหัน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใบหน้าหวานสดใสแต้มรอยยิ้มกว้างขึ้นทันทีที่เห็นคนคุ้นเคยพี่ไนยจริงๆ ด้วย ทำไมวันนี้มาช้าจังเลยคะ เกศนึกว่าพี่ไนยจะไม่มารับเกศแล้วซะอีก!
พุ่งเข้าไปหาเขาหน้าจ๋อยเมื่อครู่ดีขึ้นมาทันทีทันใด
บ้าเหรอยังไงพี่ก็ต้องมา ใครจะปล่อยให้น้องสาวกลับบ้านคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ อย่างนี้ได้ลงคอว่าแต่เราเถอะ...วิ่งหนีใครมา มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?
โอ๊ะๆ ไม่ค่ะไม่มีอะไรเลย เรารีบกลับบ้านกันเถอะค่ะพี่ไนย เกศง่วงนอน ตาแทบจะปิดแล้ว ไม่ชวนเปล่าแต่เธอยังจับมือพาธีรไนยเดินออกจากผับไปด้วยกันอย่างรีบเร่งด้วย
ชายหนุ่มเดินตามมางงๆแต่ก็ไม่ได้ขัดใจ เขาตั้งใจมารับเธอกลับบ้านอยู่แล้ว
ปกเกศโล่งอกขึ้นมากเมื่อพ้นจากผับอินดี้มาได้แต่เรื่องหนักใจยังไม่หมดเพราะชื่อของผู้ชายคนนั้นที่คนรับรถเรียกให้เธอได้ยินเมื่อครู่
เขาคือ กานต์ชนก ที่พวกพนักงานชอบพูดถึงกันบ่อยๆแน่เลย
ปกเกศได้ยินมา ว่าเขาเป็นทายาทบริษัทรับผลิตโฆษณารายใหญ่เป็นลูกค้าระดับวีไอพีของทางผับ ไม่มีพนักงานต้อนรับสาวสวยคนไหนไม่สนใจเขาต่างแย่งกันเรียกร้องความสนใจ ต้องการให้เขาพาไปต่อข้างนอกหลังจากที่ผับปิดว่ากันว่าคุณกานต์ชนกถูกใจใครแล้วเปย์ไม่อั้น ไม่นับรวมความหล่อเหลาราวกับเทวาสลักเสลาของเขาสาวๆ ในผับอินดี้ฯถึงกับเก็บเอาไปฝันหวาน พูดถึงไม่เว้นแต่ละวัน
ปกเกศได้แต่รับฟังเงียบๆถือเป็นเรื่องเม้าธ์เพลินๆ ในระหว่างจัดผัก ทำหน้าที่ของเธออยู่ภายในห้องครัวที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นอาหารไม่เคยคิดฝันเลยว่าลูกค้าวีไอพีคนนั้นจะกลายมาเป็นคู่กรณีของเธอในวันนี้ไปได้
เธอปิดโทรศัพท์มือถือกันไม่ให้เจ๊มะนาวเจ้าของผับโทรติดต่อมา ไม่อยากรับรู้เรื่องของผู้ชายชื่อกานต์ชนกคนนั้นอีกแล้วในวันนี้
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน
---------------------------------------------------------------------