การใช้งาน Multi-Meter เบื้องต้น เครื่องมือคู่กาย คนชอบ DIY
จั่วหัวมาแบบนี้ หลายคนคงจะสงกะสัย ว่าไอ้เจ้า Multi-meter มันคืออะหยังหว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
สรุปง่าย ๆ ที่สุด มันก็คือ มิเตอร์ที่สามารถวัดค่ากระแสไฟฟ้าได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง AC (ไฟฟ้ากระแสสลับ ตามบ้าน)และ DC หรือ ไฟฟ้ากระแสตรงในรถยนต์ฺ
แรกเริ่มนี้ จะขอพูดถึงการใช้งานที่เกี่ยวกับรถยนต์ก่อน(อันที่จริง ไฟบ้านมะค่อยจะถนัดเท่าไหร่ )
มาดูรูปร่างหน้าตากันก่อน
![](//www.bloggang.com/data/nortel/picture/1216982827.jpg)
ปัญหาหลัก ๆ ที่คนใช้รถมักจะเจอกัน ก็คือ ไฟไม่ติด ฟิวส์ขาด ซึ่งโดยปัญหาแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะแก้ไขด้วยตนเอง แต่ถ้าไม่มีความรู้ ตรวจสอบเองไม่เป็น ก็หวานหมูอู่ซ่อมรถไปเท่านั้นเอง บางที แค่หลอดขาด เปลี่ยนหลอด 1 หลอด 50 บาท ช่างคิดพร้อมค่าแรง 300 บาท ใช้เวลาทำแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง ![](//www.bloggang.com/emo/emo10.gif)
แต่ถ้าเราทำเองได้ แก้ไขปัญหาเองได้ อย่างน้อยที่สุด เวลาฉุกเฉิน ไปต่างจังหวัด วิ่งรถกลางคืน เกิดปัญหาขึ้นมา ก็พอจะประคองตัวเองรอดจากเหตุการณ์คับขันออกมาได้
มาเริ่มกันจากการเช็คว่า ฟิวส์ขาดหรือไม่ แล้วฟิวส์ มันคืออะไรหว่า ฟิวส์ มีหน้าที่ในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอุปกรณ์อันเกิดจากการช๊อต ไหม้ กล่าวคือ ถ้าอุปกรณ์นั้น ๆ ประสบปัญหา แทนที่ตัวอุปกรณ์จะเสียหาย ฟิวส์ก็จะขาดแทน ซึ่งฟิวส์เราสามารถเปลี่ยนเองได้ง่าย ราคาไม่แพงด้วย
การใช้งาน Multi-Meter ไม่ยาก จากในรูปด้านบน จะมีหน้าจอทีเ่ป็นเข็ม มีตัวเลขเยอะแยะไปหมด ด้านล่างมีปุ่มบิด ๆ แล้วก็มีสายไฟสองเส้น ใช้งานไม่ยาก อย่าเพิ่งฝ่อไปซะก่อนล่ะ
การเช็คว่าฟิวส์ / หลอดไฟ ขาดหรือไม่
Free TextEditor 1. บิดลูกบิดกลมตรงกลาง ไปที่ x1
![](//www.bloggang.com/data/nortel/picture/1216983308.jpg) ![](//www.bloggang.com/emo/emo22.gif)
2. นำปลายสายสองด้านที่เป็นเหมือนปากกา ไปจิ้มที่ฟิวส์ / ขั้วหลอด ฟิวส์จะมี 2 ขา (ไฟเข้า / ไฟออก) จากนั้นดูเข็มที่หน้าปัทม์ ถ้าเข็มดีดไปทางขวา แล้วมีไฟสีแดงขึ้น (มือชี้) แสดงว่าหลอดไฟ / ฟิวส์นั้น ๆ ปกติ แต่ถ้า เข็มไม่กระดิก ไฟไม่ติด แสดงว่า มันเสียชีวิตไปแล้ว
![](//www.bloggang.com/data/nortel/picture/1216984254.jpg)
![](//www.bloggang.com/data/nortel/picture/1216984344.jpg)
การตรวจสอบ หลอดไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ ไฟถอย
Free TextEditor แยกคร่าว ๆ เป็น 2 กลุ่มคือ 1. หลอดไส้เดียว เช่น ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง 2. หลอด 2 ไส้ เช่น ไฟ หรี่+เบรค ไฟหน้า (H4)
จากในรูป เป็นหลอด 2 ไส้ ขั้ว - จะอยู่ที่ฐานของหลอด ส่วนขั้ว + จะอยู่ที่ก้นหลอด (ไอ้ตุ่ม ๆ สองตุ่มนั่นแหละ) แต่ถ้าเป็นหลอดไส้เดียว ตุ่ม ๆ จะมีแค่ 1 ตุ่ม
![](//www.bloggang.com/data/nortel/picture/1216984579.jpg)
คราวนี้ มาดูวิธีการตรวจสอบกระแสไฟบ้าง บางครั้ง หลอดไม่ขาด แต่ทำไมไฟมันไม่ติก (วะ)
เราก็มาไล่ดูกัน ว่าไฟมันมาที่ขั้วหลอดหรือเปล่า
เริ่มจาก 1. บิดลูกบิดไปที่ DCV 50 2. นำปลายแดง (ที่ต่อจากมิเตอร์) แตะเข้ากับขั้วหลอดไฟด้านหนึ่ง (สายไฟที่วิ่งเข้าหาขั้วนี้ มักจะเป็นสีแดง) 3. นำปลายสีดำ (ที่ต่อจากมิเตอร์) ไปแตะอีกขั้วนึงที่เหลือ (มักจะเป็นสีดำ) 4. ดูเข็มที่มิเตอร์ ถ้าเข็มขึ้นไปที่ 12 แสดงว่าสายเส้นนั้นมีไฟวิ่งมา ![](//www.bloggang.com/data/nortel/picture/1216984976.jpg)
สองวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยในการตรวจสอบอุปกรณ์ในรถเบื้องต้น ว่าง ๆ ก็ลองไปรื้อ ๆ จิ้ม ๆ รถตัวเองดูล่ะกันนะ วันนี้เอาคร่าว ๆ แค่นี้ก่อน วันหลังจะมาเล่าให้ฟังต่อ ![](//www.bloggang.com/emo/emo6.gif)
ปล. เกือบลืม เคยมีคนถามผมมา ว่าฟิวส์กับหลอด ขาดหรือไม่ขาด ส่องกับแสงสว่าง ๆ มันก็ดูออกไม่ใช่เหรอ (ฟะ) ผมขอตอบว่า ใช่ครับ ส่องแบบนั้นมันก็ใช้ได้ แต่ไม่ทุกกรณี เนื่่องจากบางที มันขาดที่ฐาน ขาดที่ขั้ว ไม่ได้ขาดที่ไส้ของหลอด ดูกันให้ตาบอด มันก็ยังเห็นว่าปกติอยู่ดี จนเอามิเตอร์มาจิ้มดูแหละ ถึงจะรู้ว่ามันเสีย
![](//www.bloggang.com/emo/emo22.gif)
Create Date : 25 กรกฎาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 18:31:55 น. |
Counter : 19235 Pageviews. |
|
![](../images/bg-follower.png) |
|
อ้าว..มะจั่ยเหรอ..
.............
ขับเป็นอย่างเดียว เวลาเสียทีก็ถึงมือช่างที ถ้าเช็คเองทำเองได้บ้างก็ดีอ่ะเนอะ